ไต้หวัน ใครไม่เปย์ ไทเปจ้า
ทริปนี้ ไปมาซักพัก พึ่งมีเวลามารีวิว เราเดินทาง 15-20 กุมภาพันธ์ 2562
รูปอาจจะมีไม่เยอะมาก เพราะเน้นกิน เน้นช็อป เน้นเดิน จนลืมถ่ายรูป 55555555
ทริปนี้เป็นการเดินทางออกต่างประเทศของพวกเรา (ใช้ชื่อทริปว่า ทริปหอยทาก เรือยๆหลงๆ ไม่หลงไม่ใช่เรา) ไปกัน 4 คน แกงค์ชะนี ที่มีทักษะภาษาอังกฤษ ระดับ 1 ภาษาจีน ติดลบ ภาษาไทยยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ด้วยความอยากไปเที่ยวมากกกกกกก เลยเลือกไต้หวันแล้วกัน ดูน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่สำคัญ ไต้หวันมีชานมไข่มุกกกกกกกก ไปค่ะ เมื่อเราได้ ประเทศที่เราอยากไปแล้ว ต่อไป ไปซื้อตั๋วเครื่องบินค่ะ ดูหลายเว็บ หลายเอเจ้นมาก จนสุดท้ายคุยกันว่า เราลองนั่งแบบต่อเครื่องมั๊ย เพราะเวลา ที่ไปถึง มันก็เช้าพอดี ขากลับ ก็ช่างมัน ราคามันถูกกว่า จะได้เอาเงินไปช็อป ทุกคนเห็นด้วยกันหมด(ทำมายยยยยยยยยย พวกแกไม่ค้าน ไม่ห้ามเลย มันคือหายนะของทริปเราครั้งนี้เลยนะ แงๆๆๆ)
เราเลือก บินPHILIPPINE AIRLINES Flight Number PR 733 เวลาบิน ตอนแรก 20:45 เปลี่ยนเป็น22:45 อ่ะอันนี้ไม่ได้ติดอะไร เพราะ มีเมล์แจ้งล่วงหน้าว่าเปลี่ยนเวลาบิน ถึงกรุงมะลิลา ตอน ตี3 กว่า (มีอาหารให้ทานบินเครื่องจ้า แต่จำไม่ได้ว่าตัวเองเลือกกินอะไรไป น่าจะเป็นขนมปังกับสลัด) รอเปลี่ยนเครื่องบินไปที่สนามบินเถาหยวน ตอนเวลา 07:15 ระหว่างนั้นก็นั่งเล่นโทรศัพท์ คุยกันรอเวลาที่สนามบิน กระเป๋าเดินทางเรา จะส่งไปที่สนามบินเถาหยวนเลย ไม่ต้องมารับหรือแบกให้เป็นภาระตัวเองที่สนามบินมะลิลา พอเกือบ 06:30 พอเราก็ไปทำธุระส่วนตัวจัดการล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย ไปเข้าแถวรอจะไปขึ้นเครื่อง เพราะป้ายแจ้งว่าไฟท์บินของเรา จะบิน 07:15 แกงค์ชะนีของพวกเรา ตื่นเต้นมาก จะได้ไปไต้หวันจ๋าแล้ววววววว ตื่นเต้นจุง 07:45 ก็แล้ว ทำไมแถวมันยังอยู่ที่เดิมอีก เค้าไม่ให้เราไปหรอ (แกรรรรรรรรรรรรรรรรรร) เดินไปถามพนักงาน พนักงานแจ้งเครื่องบินดีเลย์ ไม่ทราบว่าจะมากี่โมง ให้รอแถวนี้ไปก่อน ถ้ามาแล้วจะเรียก เราก็งงๆอ๋องๆ คิดแค่ว่าเออ ยังไงก็ได้ แต่ชั้นต้องได้ไปไต้หวันนะ หันมาคุยกันกับเพื่อนที่เหลือว่าเครื่องดีเลย์ ให้รอไปก่อน ไม่รู้นานแค่ไหนว่ะ นักท่องเที่ยวไม่รู้ชาติไหน(ฝรั่งผมทอง น้องดูไม่ออกว่าชาติไหน) เดินมาถาม ว่าเครื่องดีเลย์หรอ เค้าจะไปไต้หวันเหมือนกัน พวกเราก็บอกใช่ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะได้บินตอนไหน (คุยกับเค้าด้วยภาษาอังกฤษระดับ 1 ใช้ภาษามือเข้าช่วย) จากนั้นไม่รู้ใครจากไหนมาถามเรา ว่าจะบินตอนไหน ให้ไปรอที่ไหน เดี๋ยวววววววววววววววว ทุกคน ดิชั้นเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนพวกเธอ ไม่ได้รู้อะไรเลย ไปถามพนักงานซิ อย่ามารุมน้อง 55555 ตอนนั้นทุกคนถาโถมมาถาม อิ้งรัวๆ ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง มีจีน เกาหลี เราบอกได้แค่ เครื่องมันดีเลย์โว๊ยยยยยยยย นอกนั้นก็ I Don’t know หายนะแรกมาแล้ว เครื่องบินดีเลย์ ทำไงล่ะ ก็ต้องรออย่างเดียวค่ะ ประมาณ 08:30 ได้ พนักงานประกาศเรียกขึ้นเครื่อง อาการตื่นเต้นของแกงค์ชะนีมาอีกครั้ง ลืมไปเลยว่าเครื่องบินมันดีเลย์ อาการดี๊ด๊ามาก 5555555 ขำตัวเองมากตอนนั้น
จากสนามบินมะลิลา ไปสนามบินเถาหยวน ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.นิดๆ
พอไปถึง เดินออกจากเครื่องบิน เดินตามทางมาเรื่อยๆ ไม่มีหลงแน่นอน มีป้ายบอกตลอด ตื่นตาตื่นใจทุกอย่าง (เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง 555555555 ) เดินมาแป๊บนึง เราแวะซื้อซิมเน็ตก่อนเข้าตม. ตรงนั้นจะมี 3 เครือข่ายให้บริการ ราคาไม่ต่างกันมาก เราเลือกของ Chunghwa Telecom ซื้อแบบ 5 วัน 300 NT เดินออกจากก็เจอคนเข้าแถว รอตรวจ ตม. คนเยอะมากก(ก.ไก่ล้านตัว) เพราะช่วงที่เราไป มันเป็นวันหยุดยาวของบ้านเรา คนเลยเยอะเป็นพิเศษ คนไทยเยอะมากจ้า เข้าคิวไม่นานก็ถึงคิวเรา เราเป็นคนแรกของกลุ่มที่ เข้าตม.ใจตุ่มๆต่อมๆ เพราะพาสปอร์ตเราขาวสะอาด พึ่งทำ เพราจะมาเที่ยวนี่แหละ กลัวมากกกกกก (เสพข่าวคนโดนกัก ตม.เยอะ กลัวตัวเองโดน 55555555 อย่าทำตัวมีพิรุธซิแก ยิ้มสวยยิ้มสยามเข้าไว้) ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ กำลังจะหยิบเอกสารพวกที่พัก ตั๋วบินกลับ โปรแกรมเที่ยวยื่นเค้า เจ้าหน้าที่ยื่นพาสปอร์ตคืน แล้วยิ้มให้ อ้าวววว อินี่ เดินออกมารอคนอื่นแบบงงๆ นี่กุผ่านแล้วหรอ 5555555 ชั้นกลัวอะไรว่ะเนี่ย เตรียมข้อมูล เตรียมตรวจคำถามมาอย่างดี พี่ไม่ถามหนูซักคำเลย น้องเราเดินออกมาหลังเรา นางบอกว่า เค้าถามว่ามากี่คน เพราะเห็น เรา กับ น้องนามสกุลเหมือนกัน นางบอกมา 4 คน แล้วชี้อีก2 คนที่เหลือ เจ้าหน้าที่ก็บอกโอเค แล้วให้ผ่านเลย เพื่อนอีก 2 คนเค้าก็ไม่ได้ถามไรเลย 555555555 พี่ตม.ไต้หวันใจดีจุง ไม่ถามอะไรหนูเลย หนูอยากตอบ อยากพูดด้วย
หลังผ่านตม.ก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จะไปนั่งรถไฟ MRT มาที่ Taipei Main Station ก่อนจะไปถึง MRT จะเจอเค้าเตอร์ ขาย Easy Card เราซื้อบัตรกันตรงนี้ ไม่ได้สนว่าลายสวยไม่สวย เพราะรีบเข้าเมือง เครื่องดีเลย์ทำให้แพลนเที่ยวพังหมด ไม่เป็นไปตามแพลนเลย (วงวารตัวเอง) เราซื้อบัตรและเติมเงิน 500 NT เดินต่อเพื่อนั่ง MRT
ใช่ค่ะ ถ้าทุกคนได้อ่านรีวิว การเข้าเมืองไทเป นั่ง MRT เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายไม่แพง เราเลือกวิธีนี้กัน แต่ทัวร์หอยทากอย่างพวกเรา ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง พอมาถึงจุดรอรถไฟ ด้วยความที่มัวแต่คุยกันโน่นนี่นั่น ตื่นตากับความใหญ่โตของสนามบิน คุยว่าไปถึงจะกินอะไรก่อนดี จะไปหาชานมร้านไหนก่อน คุยกันเพลิน จนมีรถไฟเข้ามาในสถานี มีคนยืนก่อนหน้าเรา เค้าเขยิบให้เรา เรานึกว่าเค้าคงไม่ไป เจ้ไม่รีบใช่ม่ะ แต่พวกน้องรีบ เข้าไปถึงมีเบาะว่างให้นั่ง เลือกกันตามสบาย ได้ที่นั่งติดกัน 4 คน เม้ามอยต่อ ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น รู้แค่ว่าอากาศข้างนอกเย็นมาก ลมพัดมาที ยืนสั่นแหง็กๆ นั่งไปเรื่อยๆ เพื่อนหันมาถาม แก ปกติสายสีม่วง รถด่วนมันจอดบางป้ายใช่มั๊ยว่ะ ทำไมคันนี้มันจอดทุกป้ายเลย พวกแกลองสังเกตดิ ทุกคนลองสังเกต อ้าววววว ชิบแล้ว จอดทุกป้ายจริงๆ มิน่าเจ๊คนนั้น นางไม่ขึ้นมา นางรู้ใช่มั๊ย ทำไมไม่บอกน้อง (พาล โทษทุกอย่าง) ขึ้นรถผิดชีวิตเปลี่ยนของจริงจ้า เพราะเราต้องเสียเวลาไปอีกเท่าตัว แผนพัง ตั้งแต่วันแรก ความเขียวขจีของต้นไม้ข้างทาง ไม่ได้ทำให้ใจน้องร่มรื่นเลยยยยยยยยยย
มาถึง Taipei Main Station หายนะยังคงติดตามเราจากไทยแน่นอน เพราะน้องหลงจ้า หลงอยู่ใน Taipei Main Station หาทางไป Ximen st.ไม่เจอซักที คุณพระ จะสร้าง Taipei Main Station มาใหญ่โตอะไรขนาดนั้น นึกภาพเหมือนเรามาเดินห้างห้างนึงได้เลย มีหลายชั้นมากกกกกก มีทุกสิ่งให้เราเลือกสรร แต่น้องจะไป Ximen st. ไง เดินวนหลายรอบมาก จนท้อใจ หลงเก่ง หลงจน แวะหาข้าวกินก่อน 55555555 เอาซิ ยังหลงอีกก็ได้ มีแรงแล้ว ไปกินข้าวมา หลังไปเติมพลัง สติเริ่มมา เริ่มงมเส้นทางถูก แล้วเราก็มาโผล่ Ximen st. จนได้ (เย้ๆๆๆ ปรบมือให้ตัวเอง)
อากาศแรกที่ได้สัมผัสในไทเป คืออากาศเกือบบ่ายโมง ลมหนาวนิดๆเย็นหน่อย แดดอ่อนๆ คืออากาศดีมากกกกกกกกกกก หลังออกทางออก 6 เราก็ใช้ Google map ตามหาที่พัก ที่เราจองไว้ คืนแรก เรานอน ที่ Backpackers Hostel – Ximen ค่ะทัวร์หอยทากอย่างเรา ก็เช่นเดิม เปิด map ยังไงให้หลง พวกเราทำได้ 555555 เดินงมอยู่พักนึง ก็มาถึงหน้าที่พัก สรุปแล้วพวกเราโง่เองจ้า เดินอ้อมมาจากอีกทาง ถ้ามาอีกทาง 3 นาทีถึง โง่ล้วนๆไม่มีอะไรผสม ขอรีวิวที่พักก่อนนะ ที่นี่ไม่มีลิฟต์ใช้บันไดเท่านั้น บันไดค่อนข้างชัน ขึ้นได้ทีละคน พวกอีชั้นอยู่ ชั้น 5 คิดสภาพ อิบ้าหอบฟางไปด้วย 555555555 หอบอะไรมาขนาดนั้น แต่เจ้าหน้าที่ใจดี แนะนำ บริการดีมาก ห้องพักของเรา เป็นแบบเตียง 2 ชั้น นอน 4 คน พอดี แต่ห้องไม่ได้ใหญ่มาก วางกระเป๋าเดินทาง 4 คน ก็เต็มห้อง มีห้องน้ำในตัว โดยรวม ก็พอดูได้ เหมาะสมกับราคา (พยายามไปหารื้อดูรูปที่พักมาให้นะ)
ออกมาจากที่พัก เราพุ่งไปหาชานมไข่มุกก่อนเลย ร้านไหนใกล้สุด พุ่งไปหาสุดแรง แล้วเราก็ได้กินชานมไข่มุก ร้าน Xin Fu Tang ร้านที่มีสาขาเยอะมากกกกกกกกกกก ไปทางไหนก็เจอ ถือว่าใช้ได้สำหรับชานมไข่มุกแก้วแรก ที่ไต้หวัน ไข่มุกหวานกำลังดี แต่ชาจืดไปนิด มีความหอมของชา น้ำแข็งน้อย (ชอบตรงนี้ บ้านเราอัดน้ำแข็งจนเต็ม ชานมได้น้อยนิด ที่ไต้หวันนี่ แทบจะร้องขอน้ำแข็ง) เอาไป 8/10 ราคา 50 NT
ได้เวลา ตามล่าหมาล่า เจ้าเด็ดเจ้าดังของที่นี่ เราเลือกร้าน Mala hotpot Ximen จองคิวไว้ รอประมาณ 1 ชั่วโมง เราจองคิวไว้ เดินเล่นแถวย่าน Ximen รอไม่นานก็ถึงคิวเรา โต๊ะที่เราได้อยู่ข้างในสุดของร้าน ทำให้ตอนเดินไปเดินมา ตักของ จะเห็นว่าเพื่อนเค้ากินอะไรกันบ้าง (แอบเผือกของกินบนโต๊ะชาวบ้าน) ของกินที่นี่ละลานตา ชื่นใจเป็นที่สุด ของคาวหวาน จัดมาอย่าให้ขาดจ๊ะแม่ ที่นี่มีเวลากิน 90 นาที น้ำจิ้มมีให้เลือกเยอะ แต่สำหรับเราไม่ค่อยมีน้ำจิ้มถูกปากเท่าไหร่ กินมันแค่ในหม้อก็พอ ของทะเลเค้าก็มีแบบอลังการ เลือกกินไม่ถูก สารพัดเครื่องดื่ม และของหวาน กินกันไม่ไหว รู้ตัวอีกที เอ้า จะหมดเวลาแล้ว กินเพลินไปหน่อย เด็ดสุดสำหรับเราก็ไอศครีม Haagen-Dazs ที่สุดในใจแจ้ โดนรวมแล้ว อร่อยจ้า ราคาที่โดนไป คนละ 725 NT กินอิ่มแล้วมีแรงเดิน ไปต่อกันค่ะ ไปเขาช้างกัน ไปดูวิวเมืองไทเปกัน
เริ่มจากนั่ง MRT ไปลง Xiangshan St. ออกทางออก 2 ตอนเราไปถึงก็ประมาณ 5 โมงเย็น แถวเขาช้าง ลมแรงเป็นช่วงๆ มีฝนโปรยพอให้ปวดไม่สบายได้ง่ายๆ ลังเลนิดๆว่าจะไปกันต่อมั๊ย หรือกลับห้องไปนอนดี แต่ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว ตากฝนเลยไปเลยจ้าเดินออกจากสถานี จะมีป้ายบอกทางไปขึ้นเขา เห็นได้ชัด ไม่หลงแน่นอน ระหว่างทางไปขึ้นเขา ความโชคดีของวันนี้ก็บังเกิด ข้างทางมีซากุระ คุณพระ เราเจอซากุระ ที่ไต้หวัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โอ๊ยยยยยยยยยยย ดีจัง มันสวยมากอ่ะแกร สวยจนลืมลมลืมฝนที่ตกอยู่
พวกเราใช้เวลาถ่ายรูปกับซากุระกันอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาเดินทางไปขึ้นเขากันต่อ ใช้เวลาขึ้นเขาจนไปถึงจุดที่แวะชมวิว ประมาณ 15 นาที แน่นอนค่ะ เราพกดวงหายนะมาจากไทย มาถึงจุดชมวิว เราก็ไม่เห็นยอดตึกไทเป ฟ้าปิด หมอกลง หนักมาก (น้องเศร้า) แต่โดยรวมแล้ว ไทเปตอนกลางคืนสวยมากแม่ หลังตากฝนจนฉ่ำ ได้เวลากลับที่พัก
ไต้หวัน ใครไม่เปย์ ไทเปจ้า
ทริปนี้ ไปมาซักพัก พึ่งมีเวลามารีวิว เราเดินทาง 15-20 กุมภาพันธ์ 2562
รูปอาจจะมีไม่เยอะมาก เพราะเน้นกิน เน้นช็อป เน้นเดิน จนลืมถ่ายรูป 55555555
ทริปนี้เป็นการเดินทางออกต่างประเทศของพวกเรา (ใช้ชื่อทริปว่า ทริปหอยทาก เรือยๆหลงๆ ไม่หลงไม่ใช่เรา) ไปกัน 4 คน แกงค์ชะนี ที่มีทักษะภาษาอังกฤษ ระดับ 1 ภาษาจีน ติดลบ ภาษาไทยยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ด้วยความอยากไปเที่ยวมากกกกกกก เลยเลือกไต้หวันแล้วกัน ดูน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่สำคัญ ไต้หวันมีชานมไข่มุกกกกกกกก ไปค่ะ เมื่อเราได้ ประเทศที่เราอยากไปแล้ว ต่อไป ไปซื้อตั๋วเครื่องบินค่ะ ดูหลายเว็บ หลายเอเจ้นมาก จนสุดท้ายคุยกันว่า เราลองนั่งแบบต่อเครื่องมั๊ย เพราะเวลา ที่ไปถึง มันก็เช้าพอดี ขากลับ ก็ช่างมัน ราคามันถูกกว่า จะได้เอาเงินไปช็อป ทุกคนเห็นด้วยกันหมด(ทำมายยยยยยยยยย พวกแกไม่ค้าน ไม่ห้ามเลย มันคือหายนะของทริปเราครั้งนี้เลยนะ แงๆๆๆ)
เราเลือก บินPHILIPPINE AIRLINES Flight Number PR 733 เวลาบิน ตอนแรก 20:45 เปลี่ยนเป็น22:45 อ่ะอันนี้ไม่ได้ติดอะไร เพราะ มีเมล์แจ้งล่วงหน้าว่าเปลี่ยนเวลาบิน ถึงกรุงมะลิลา ตอน ตี3 กว่า (มีอาหารให้ทานบินเครื่องจ้า แต่จำไม่ได้ว่าตัวเองเลือกกินอะไรไป น่าจะเป็นขนมปังกับสลัด) รอเปลี่ยนเครื่องบินไปที่สนามบินเถาหยวน ตอนเวลา 07:15 ระหว่างนั้นก็นั่งเล่นโทรศัพท์ คุยกันรอเวลาที่สนามบิน กระเป๋าเดินทางเรา จะส่งไปที่สนามบินเถาหยวนเลย ไม่ต้องมารับหรือแบกให้เป็นภาระตัวเองที่สนามบินมะลิลา พอเกือบ 06:30 พอเราก็ไปทำธุระส่วนตัวจัดการล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย ไปเข้าแถวรอจะไปขึ้นเครื่อง เพราะป้ายแจ้งว่าไฟท์บินของเรา จะบิน 07:15 แกงค์ชะนีของพวกเรา ตื่นเต้นมาก จะได้ไปไต้หวันจ๋าแล้ววววววว ตื่นเต้นจุง 07:45 ก็แล้ว ทำไมแถวมันยังอยู่ที่เดิมอีก เค้าไม่ให้เราไปหรอ (แกรรรรรรรรรรรรรรรรรร) เดินไปถามพนักงาน พนักงานแจ้งเครื่องบินดีเลย์ ไม่ทราบว่าจะมากี่โมง ให้รอแถวนี้ไปก่อน ถ้ามาแล้วจะเรียก เราก็งงๆอ๋องๆ คิดแค่ว่าเออ ยังไงก็ได้ แต่ชั้นต้องได้ไปไต้หวันนะ หันมาคุยกันกับเพื่อนที่เหลือว่าเครื่องดีเลย์ ให้รอไปก่อน ไม่รู้นานแค่ไหนว่ะ นักท่องเที่ยวไม่รู้ชาติไหน(ฝรั่งผมทอง น้องดูไม่ออกว่าชาติไหน) เดินมาถาม ว่าเครื่องดีเลย์หรอ เค้าจะไปไต้หวันเหมือนกัน พวกเราก็บอกใช่ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะได้บินตอนไหน (คุยกับเค้าด้วยภาษาอังกฤษระดับ 1 ใช้ภาษามือเข้าช่วย) จากนั้นไม่รู้ใครจากไหนมาถามเรา ว่าจะบินตอนไหน ให้ไปรอที่ไหน เดี๋ยวววววววววววววววว ทุกคน ดิชั้นเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนพวกเธอ ไม่ได้รู้อะไรเลย ไปถามพนักงานซิ อย่ามารุมน้อง 55555 ตอนนั้นทุกคนถาโถมมาถาม อิ้งรัวๆ ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง มีจีน เกาหลี เราบอกได้แค่ เครื่องมันดีเลย์โว๊ยยยยยยยย นอกนั้นก็ I Don’t know หายนะแรกมาแล้ว เครื่องบินดีเลย์ ทำไงล่ะ ก็ต้องรออย่างเดียวค่ะ ประมาณ 08:30 ได้ พนักงานประกาศเรียกขึ้นเครื่อง อาการตื่นเต้นของแกงค์ชะนีมาอีกครั้ง ลืมไปเลยว่าเครื่องบินมันดีเลย์ อาการดี๊ด๊ามาก 5555555 ขำตัวเองมากตอนนั้น
จากสนามบินมะลิลา ไปสนามบินเถาหยวน ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.นิดๆ
พอไปถึง เดินออกจากเครื่องบิน เดินตามทางมาเรื่อยๆ ไม่มีหลงแน่นอน มีป้ายบอกตลอด ตื่นตาตื่นใจทุกอย่าง (เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง 555555555 ) เดินมาแป๊บนึง เราแวะซื้อซิมเน็ตก่อนเข้าตม. ตรงนั้นจะมี 3 เครือข่ายให้บริการ ราคาไม่ต่างกันมาก เราเลือกของ Chunghwa Telecom ซื้อแบบ 5 วัน 300 NT เดินออกจากก็เจอคนเข้าแถว รอตรวจ ตม. คนเยอะมากก(ก.ไก่ล้านตัว) เพราะช่วงที่เราไป มันเป็นวันหยุดยาวของบ้านเรา คนเลยเยอะเป็นพิเศษ คนไทยเยอะมากจ้า เข้าคิวไม่นานก็ถึงคิวเรา เราเป็นคนแรกของกลุ่มที่ เข้าตม.ใจตุ่มๆต่อมๆ เพราะพาสปอร์ตเราขาวสะอาด พึ่งทำ เพราจะมาเที่ยวนี่แหละ กลัวมากกกกกก (เสพข่าวคนโดนกัก ตม.เยอะ กลัวตัวเองโดน 55555555 อย่าทำตัวมีพิรุธซิแก ยิ้มสวยยิ้มสยามเข้าไว้) ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ กำลังจะหยิบเอกสารพวกที่พัก ตั๋วบินกลับ โปรแกรมเที่ยวยื่นเค้า เจ้าหน้าที่ยื่นพาสปอร์ตคืน แล้วยิ้มให้ อ้าวววว อินี่ เดินออกมารอคนอื่นแบบงงๆ นี่กุผ่านแล้วหรอ 5555555 ชั้นกลัวอะไรว่ะเนี่ย เตรียมข้อมูล เตรียมตรวจคำถามมาอย่างดี พี่ไม่ถามหนูซักคำเลย น้องเราเดินออกมาหลังเรา นางบอกว่า เค้าถามว่ามากี่คน เพราะเห็น เรา กับ น้องนามสกุลเหมือนกัน นางบอกมา 4 คน แล้วชี้อีก2 คนที่เหลือ เจ้าหน้าที่ก็บอกโอเค แล้วให้ผ่านเลย เพื่อนอีก 2 คนเค้าก็ไม่ได้ถามไรเลย 555555555 พี่ตม.ไต้หวันใจดีจุง ไม่ถามอะไรหนูเลย หนูอยากตอบ อยากพูดด้วย
หลังผ่านตม.ก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จะไปนั่งรถไฟ MRT มาที่ Taipei Main Station ก่อนจะไปถึง MRT จะเจอเค้าเตอร์ ขาย Easy Card เราซื้อบัตรกันตรงนี้ ไม่ได้สนว่าลายสวยไม่สวย เพราะรีบเข้าเมือง เครื่องดีเลย์ทำให้แพลนเที่ยวพังหมด ไม่เป็นไปตามแพลนเลย (วงวารตัวเอง) เราซื้อบัตรและเติมเงิน 500 NT เดินต่อเพื่อนั่ง MRT
ใช่ค่ะ ถ้าทุกคนได้อ่านรีวิว การเข้าเมืองไทเป นั่ง MRT เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายไม่แพง เราเลือกวิธีนี้กัน แต่ทัวร์หอยทากอย่างพวกเรา ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง พอมาถึงจุดรอรถไฟ ด้วยความที่มัวแต่คุยกันโน่นนี่นั่น ตื่นตากับความใหญ่โตของสนามบิน คุยว่าไปถึงจะกินอะไรก่อนดี จะไปหาชานมร้านไหนก่อน คุยกันเพลิน จนมีรถไฟเข้ามาในสถานี มีคนยืนก่อนหน้าเรา เค้าเขยิบให้เรา เรานึกว่าเค้าคงไม่ไป เจ้ไม่รีบใช่ม่ะ แต่พวกน้องรีบ เข้าไปถึงมีเบาะว่างให้นั่ง เลือกกันตามสบาย ได้ที่นั่งติดกัน 4 คน เม้ามอยต่อ ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น รู้แค่ว่าอากาศข้างนอกเย็นมาก ลมพัดมาที ยืนสั่นแหง็กๆ นั่งไปเรื่อยๆ เพื่อนหันมาถาม แก ปกติสายสีม่วง รถด่วนมันจอดบางป้ายใช่มั๊ยว่ะ ทำไมคันนี้มันจอดทุกป้ายเลย พวกแกลองสังเกตดิ ทุกคนลองสังเกต อ้าววววว ชิบแล้ว จอดทุกป้ายจริงๆ มิน่าเจ๊คนนั้น นางไม่ขึ้นมา นางรู้ใช่มั๊ย ทำไมไม่บอกน้อง (พาล โทษทุกอย่าง) ขึ้นรถผิดชีวิตเปลี่ยนของจริงจ้า เพราะเราต้องเสียเวลาไปอีกเท่าตัว แผนพัง ตั้งแต่วันแรก ความเขียวขจีของต้นไม้ข้างทาง ไม่ได้ทำให้ใจน้องร่มรื่นเลยยยยยยยยยย
มาถึง Taipei Main Station หายนะยังคงติดตามเราจากไทยแน่นอน เพราะน้องหลงจ้า หลงอยู่ใน Taipei Main Station หาทางไป Ximen st.ไม่เจอซักที คุณพระ จะสร้าง Taipei Main Station มาใหญ่โตอะไรขนาดนั้น นึกภาพเหมือนเรามาเดินห้างห้างนึงได้เลย มีหลายชั้นมากกกกกก มีทุกสิ่งให้เราเลือกสรร แต่น้องจะไป Ximen st. ไง เดินวนหลายรอบมาก จนท้อใจ หลงเก่ง หลงจน แวะหาข้าวกินก่อน 55555555 เอาซิ ยังหลงอีกก็ได้ มีแรงแล้ว ไปกินข้าวมา หลังไปเติมพลัง สติเริ่มมา เริ่มงมเส้นทางถูก แล้วเราก็มาโผล่ Ximen st. จนได้ (เย้ๆๆๆ ปรบมือให้ตัวเอง)
อากาศแรกที่ได้สัมผัสในไทเป คืออากาศเกือบบ่ายโมง ลมหนาวนิดๆเย็นหน่อย แดดอ่อนๆ คืออากาศดีมากกกกกกกกกกก หลังออกทางออก 6 เราก็ใช้ Google map ตามหาที่พัก ที่เราจองไว้ คืนแรก เรานอน ที่ Backpackers Hostel – Ximen ค่ะทัวร์หอยทากอย่างเรา ก็เช่นเดิม เปิด map ยังไงให้หลง พวกเราทำได้ 555555 เดินงมอยู่พักนึง ก็มาถึงหน้าที่พัก สรุปแล้วพวกเราโง่เองจ้า เดินอ้อมมาจากอีกทาง ถ้ามาอีกทาง 3 นาทีถึง โง่ล้วนๆไม่มีอะไรผสม ขอรีวิวที่พักก่อนนะ ที่นี่ไม่มีลิฟต์ใช้บันไดเท่านั้น บันไดค่อนข้างชัน ขึ้นได้ทีละคน พวกอีชั้นอยู่ ชั้น 5 คิดสภาพ อิบ้าหอบฟางไปด้วย 555555555 หอบอะไรมาขนาดนั้น แต่เจ้าหน้าที่ใจดี แนะนำ บริการดีมาก ห้องพักของเรา เป็นแบบเตียง 2 ชั้น นอน 4 คน พอดี แต่ห้องไม่ได้ใหญ่มาก วางกระเป๋าเดินทาง 4 คน ก็เต็มห้อง มีห้องน้ำในตัว โดยรวม ก็พอดูได้ เหมาะสมกับราคา (พยายามไปหารื้อดูรูปที่พักมาให้นะ)
ออกมาจากที่พัก เราพุ่งไปหาชานมไข่มุกก่อนเลย ร้านไหนใกล้สุด พุ่งไปหาสุดแรง แล้วเราก็ได้กินชานมไข่มุก ร้าน Xin Fu Tang ร้านที่มีสาขาเยอะมากกกกกกกกกกก ไปทางไหนก็เจอ ถือว่าใช้ได้สำหรับชานมไข่มุกแก้วแรก ที่ไต้หวัน ไข่มุกหวานกำลังดี แต่ชาจืดไปนิด มีความหอมของชา น้ำแข็งน้อย (ชอบตรงนี้ บ้านเราอัดน้ำแข็งจนเต็ม ชานมได้น้อยนิด ที่ไต้หวันนี่ แทบจะร้องขอน้ำแข็ง) เอาไป 8/10 ราคา 50 NT
ได้เวลา ตามล่าหมาล่า เจ้าเด็ดเจ้าดังของที่นี่ เราเลือกร้าน Mala hotpot Ximen จองคิวไว้ รอประมาณ 1 ชั่วโมง เราจองคิวไว้ เดินเล่นแถวย่าน Ximen รอไม่นานก็ถึงคิวเรา โต๊ะที่เราได้อยู่ข้างในสุดของร้าน ทำให้ตอนเดินไปเดินมา ตักของ จะเห็นว่าเพื่อนเค้ากินอะไรกันบ้าง (แอบเผือกของกินบนโต๊ะชาวบ้าน) ของกินที่นี่ละลานตา ชื่นใจเป็นที่สุด ของคาวหวาน จัดมาอย่าให้ขาดจ๊ะแม่ ที่นี่มีเวลากิน 90 นาที น้ำจิ้มมีให้เลือกเยอะ แต่สำหรับเราไม่ค่อยมีน้ำจิ้มถูกปากเท่าไหร่ กินมันแค่ในหม้อก็พอ ของทะเลเค้าก็มีแบบอลังการ เลือกกินไม่ถูก สารพัดเครื่องดื่ม และของหวาน กินกันไม่ไหว รู้ตัวอีกที เอ้า จะหมดเวลาแล้ว กินเพลินไปหน่อย เด็ดสุดสำหรับเราก็ไอศครีม Haagen-Dazs ที่สุดในใจแจ้ โดนรวมแล้ว อร่อยจ้า ราคาที่โดนไป คนละ 725 NT กินอิ่มแล้วมีแรงเดิน ไปต่อกันค่ะ ไปเขาช้างกัน ไปดูวิวเมืองไทเปกัน
เริ่มจากนั่ง MRT ไปลง Xiangshan St. ออกทางออก 2 ตอนเราไปถึงก็ประมาณ 5 โมงเย็น แถวเขาช้าง ลมแรงเป็นช่วงๆ มีฝนโปรยพอให้ปวดไม่สบายได้ง่ายๆ ลังเลนิดๆว่าจะไปกันต่อมั๊ย หรือกลับห้องไปนอนดี แต่ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว ตากฝนเลยไปเลยจ้าเดินออกจากสถานี จะมีป้ายบอกทางไปขึ้นเขา เห็นได้ชัด ไม่หลงแน่นอน ระหว่างทางไปขึ้นเขา ความโชคดีของวันนี้ก็บังเกิด ข้างทางมีซากุระ คุณพระ เราเจอซากุระ ที่ไต้หวัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โอ๊ยยยยยยยยยยย ดีจัง มันสวยมากอ่ะแกร สวยจนลืมลมลืมฝนที่ตกอยู่
พวกเราใช้เวลาถ่ายรูปกับซากุระกันอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาเดินทางไปขึ้นเขากันต่อ ใช้เวลาขึ้นเขาจนไปถึงจุดที่แวะชมวิว ประมาณ 15 นาที แน่นอนค่ะ เราพกดวงหายนะมาจากไทย มาถึงจุดชมวิว เราก็ไม่เห็นยอดตึกไทเป ฟ้าปิด หมอกลง หนักมาก (น้องเศร้า) แต่โดยรวมแล้ว ไทเปตอนกลางคืนสวยมากแม่ หลังตากฝนจนฉ่ำ ได้เวลากลับที่พัก