[SR] รีวิว เครื่องวัดคุณภาพอากาศ Laser Egg 2

สวัสดีครับ พบกับ เต้ อีกเช่นเคยครับ วันนี้จะเป็นรีวิวที่ค่อนข้างสั้นนิดนึงครับ...ซึ่งวันนี้ผมจะมารีวิว เครื่องวัดคุณภาพอากาศ Kaiterra Laser Egg 2 ให้ดูกันครับว่ามันเป็นอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง

 
แน่นอนว่าในช่วงต้นปี 2563 เราก็จะเจอกับคุณภาพอากาศที่ไม่ค่อยจะดีกันซักเท่าไหร่...หลายๆคนก็ต้องดูแลตัวเองกันมากขึ้นโดยการซื้อหน้ากากที่ป้องกันฝุ่นได้ หรือ อาจจะซื้อเครื่องกรองอากาศมาใช้กันมากขึ้น และให้ความสำคัญกับฝุ่นละอองในอากาศกันมากขึ้น...วันนี้ผมก็เลยอยากจะมาแนะนำว่านอกจากเครื่องกรองอากาศแล้ว เครื่องวัดคุณภาพอากาศจำเป็นกับชีวิตประจำวันเราด้วยมั้ย

ผมก็เป็นคนนึงที่ก่อนซื้อเครื่องกรองอากาศผมก็คิดว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่สิ้นเปลืองและไม่จำเป็น...แต่พอได้ซื้อมาใช้แล้วก็พบว่า ตอนนี้เราอาจจะมองว่าไม่สำคัญ แต่ถึงเวลาจริงๆเมื่อเราเจ็บป่วยแล้วถึงจะนึกอยากได้ขึ้นมา มันก็อาจจะไม่ทันแล้ว..สำหรับใครที่อยากดูรีวิวเครื่องกรองอากาศที่ผมเคยทำก็รับชมได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ


สำหรับใครที่อยาดูเป็นวีดีโอก็เชิญชมได้เลยครับ 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
สำหรับเครื่องวัดคุณภาพอากาศ บางคนอาจจะได้ยินว่า Xiaomi ก็มีเครื่องวัดคุณภาพอากาศ แต่จริงๆแล้ววัดได้แค่ค่าฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น ไม่สามารถวัดค่าอื่นได้ แต่ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพง พกพาสะดวกครับ...แต่สำหรับ Laser Egg 2 ที่ผมเอามารีวิววันนี้ เป็นเครื่องที่สามารถวัดค่า AQI ได้ และได้หลายมาตรฐาน เช่น AQI US , AQI China , AQI India ซึ่งประเทศไทยจะใช้ AQI US เป็นค่ามาตรฐาน หรือใช้ดูในแอพพลิเคชันในมือถือเช่น Air Virsual เป็นต้น

เดี๋ยวเรามาดูกันที่ภายนอกกันก่อนแล้วกันครับ
 

 
จริงๆ Laser Egg 2 มีหลายรุ่น ที่สามารถวัดค่าต่างๆได้เพิ่มขึ้น แต่สำหรับบ้านเรา ใช้รุ่นนี้ก็เพียงพอแล้วครับ...ในกล่องก็จะมีคู่มือ ตัวเครื่อง แล้วก็สายชาร์จ Micro USB แต่ไม่มีหัวชาร์จมาให้นะครับ

 
ด้านหน้าก็จะเป็นตัวเครื่องแบบกลมมีลักษณะคล้ายถ้วย ด้านหน้าก็จะมีหน้าจอสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลางที่จะแสดงค่าต่างๆ แต่หน้าจอไม่ใช่ระบบสัมผัส
 

 
ด้านข้างเครื่องทั้งสองด้านก็จะไม่มีอะไร...ตัวเครื่องจะเป็นพลาสติกที่ผิวสัมผัสจะเป็นแบบด้าน ซึ่งอาจจะสกปรกได้ง่ายถ้าจับบ่อยๆ
 

ด้านหลังตัวเครื่องก็จะมีชองชาร์จ Micro USB และรอบๆที่ชาร์จะเป็นช่องดูดอากาศเพื่อเข้าไปตรวจสอบคุณภาพอากาศ

 
ด้านบนก็จะมีปุ่มสั่งงานสองปุ่มด้วยกัน ปุ่มด้านซ้ายก็จะเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง และด้านขวาจะเป็นปุ่ม Mode ที่เอาไว้สำหรับเปลี่ยนโหมดต่างๆ

 
ด้านล่างก็จะมีตุ่มสองจุด ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ไม่ให้ Laser Egg 2 กลิ้งไปมานั้นเอง

เมนต่างๆของตัวเครื่อง

ก่อนอื่นก่อนที่จะดูเมนูต่างๆของตัวเครื่อง Laser Egg 2 สามารถต่อ WiFi เข้ากับอินเตอร์เน็ตที่บ้านเราได้ ซึ่งการที่ Laser Egg 2 ต่อกับอินเตอร์เน็ต ก็จะทำให้แสดงค่าต่างๆได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศปัจจุบัน หรือ Tracking ค่าอากาศในห้องที่เราอยู่แล้วแสดงในแอพพลิเคชันได้เป็นต้น 

 
ซึ่งขั้นตอนการเชื่อมต่อก็ไม่ยาก เพียงแค่โหลดแอพพลิเคชัน Kaiterra จาก Play Store หรือ App Store จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนได้เลย...

 
วิธีการเชี่อมต่อ ก็จะต้องกดปุ่ม Mode ที่ตัวเครื่องจนตัวเครื่องขึ้นลักษณะแบบนี้ แล้วทำตามแอพพลิเคชันในมือถือได้เลย...

 
การเชื่อมต่อครั้งแรกอาจจะมีความยุ่งยากซักเล็กน้อย ผมแนะนำว่า ตอนลงแอพเสร็จ เข้าแอพ มันจะมีให้เรากดอนุญาตการเข้าถึง GPS ก็อย่าลืมกดอนุญาตด้วย ไม่งั้นอุปกรณ์ของเราจะไม่สามารถเชื่อมต่อหรือใช้งานได้

 
ต่อมาก็เลือกเมืองที่เราอยู่

 
เลือกอุปกรณ์ที่เราใช้ ซึ่งของเราเป็น Laser Egg Series

 
และเมื่อเข้าแอพและเพิ่มอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วก็อาจจะมีการอัพเดตเฟิร์มแวร์...ให้ทำการอัพเดต

 
และการเชื่อมต่อครั้งแรก ถ้าเป็นสัญลัษณ์ WiFi ที่ตัวเครื่องแล้ว แต่ตัวมือถือขึ้นว่าให้ทำขั้นตอนใหม่หรืออะไรก็ไม่ต้องทำ เพราะอุปกรณ์ได้ทำการเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่ตั้งค่าในแอพแล้วรอดูว่ามีเฟิร์มแวร์รุ่นใหม่มาให้อัพเดตรึยัง เพราะเหมือนเฟิร์มแวร์ที่ติดกล่องมาจะมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อนิดหน่อย

วิธีการเชื่อมต่อแบบละเอียดสามารถดูได้ที่วีดีโอรีวิวด้านบนได้นะครับ ^^;

เมื่อทำการเชื่อมต่อเสร็จแล้วเราก็มาดูแต่ละเมนูกันว่ามีอะไรบ้าง

 
ในเมนูแรก ก็จะเป็นหน้าจอที่แสดงค่า AQI ในห้องที่เราอยู่ตอนนี้ ซึ่งผมเลือกเป็น AQI US เป็นค่ามาตรฐาน...มุมบนซ้ายมือจริงๆแล้วจะเป็นสถานที่ที่เราอยู่ตอนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มันจะไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ แต่ตอนนี้สามารถอ่านภาษาไทยได้แล้ว ^^ ส่วนมุมบนขวาจะแสดงอุณหภูมิในห้องของเรา มุมล่างซ้ายจะแสดงระดับแบตเตอรี่ และสัญลักษณ์ WiFi เมื่อเราเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตที่บ้าน

 
และค่าตัวเลขตรงกลางจะเป็นค่าฝุ่นในห้องของเราเมื่อตัวเลขสูงขึ้น สีที่แสดงก็จะเปลี่ยนไปตามค่า

 
เมื่อกดไปเมนูถัดไปเมนูที่ 2 ก็จะเป็นการแสดงค่าฝุ่น PM 2.5 ที่อยู่ในห้องเรานั้นเอง ซึ่งจะเป็นหน่วยไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร

 
ถัดไปเป็นเมนูที่ 3 ในหน้านี้ก็จะแสดงค่าฝุ่นที่ต่ำกว่า PM 0.3 นั้นเอง แต่ไม่มีหน่วยวัดนะครับ และบรรทัดต่อมาก็จะเป็นอุณหภูมิห้อง และสุดท้ายจะเป็นความชื้นในห้องเรานะครับ

 
เมนูต่อมา เมนูที่ 4 เป็นหน้าที่ไว้แสดงสภาพอากาศตอนนี้ วันนี้ พรุ่งนี้ และ วัดถัดไป และมุมขวาบนก็จะแสดงอุณหภูมิภายนอก

 
เมนูถัดไปเมนูสุดท้ายจะเป็น LCD OFF ซึ่งเป็นการปิดหน้าจอเผื่อเราใช้งานตอนกลางคืน หรือต้องการประหยัดแบตเตอรี่ แต่ตัวเครื่องก็ยังทำงานปกติ

ระยะการใช้งานแบตเตอรี่

 
สำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ ตามสเปกแจ้งว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง ซึ่งผมทดสอบแล้ว เมื่อเปิดหน้าจอสว่างสุด และต่อ WiFi ไว้ด้วย เราสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมงจริงๆ แต่ถ้าอยากใช้งานได้นานกว่านั้นแนะนำให้ลดความสว่างหน้าจอลงมาเหลือแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ ผมก็สามารถใช้งานได้ถึง 12-13 ชั่วโมงเลย แต่ถ้าอยากให้นานกว่านั้นก็แนะนำ LCD OFF เลยครับ อันนี้จะใช้ได้นานมาก แต่เราก็จะดูค่าอะไรจากหน้าจอไม่ได้ แต่สามารถดูในแอพได้ครับ

ในส่วนของแอพพลิเคชัน Kaiterra

 
ในหน้าแรกของแอพพลิเคชัน Kaiterra ก็จะเป็นการแสดงค่า AQI US ในบริเวณที่เราอยู่

 
เมื่อเราเชื่อมต่อเครื่อง Laser Egg 2 กับอินเตอร์เน็ตที่บ้านแล้ว เมื่อเราเปิดเครื่อง Laser Egg 2 ตัวเครื่องก็จะทำการ Tracking ค่า AQI US ค่า PM 2.5 อุณหภูมิ และความชื้นในห้องของเราแล้วมาแสดงในแอพพลิเคชันได้อีกด้วย
ชื่อสินค้า:   Kaiterra Laser Egg 2
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่