1917 (Sam Mendes)
10/10
...
"ยอดเยี่ยมที่สุด ครบเครื่องทั้งศาสตร์และศิลปะแห่งความเป็นภาพยนตร์"
น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่แทบจะไม่มีหนังที่ว่าด้วยเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 เลย (ผิดกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีมากมายหลายเรื่อง) ...เรื่องล่าสุดที่เห็นก็คือ War Horse ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ว่าด้วยม้าศึกในสงครามที่มีบทบาทในการรบใยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ....การมาของ 1917 โดยผู้กำกับ แซม เมนเดส คือการเปิดมุมมองอีกมุมหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 1 บนโลกภาพยนตร์ให้กับผู้ชมได้รับรู้
สงครามโลกครั้งที่ 1 กินเวลายาวนานกว่า 4 ปี (เริ่มตั้งแต่ปี 1914 ถึง 1918) เป็นสงครามขนาดใหญ่โดยมีศูนย์กลางสู้รบอยู่ในทวีปยุโรป ...เป็นการทำสงครามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร ที่ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย กับ ฝ่ายมหาอำนาจกลาง ที่มีเยอรมัน ออสเตรีย ฮังการี และ บัลแกเรีย ....โดยเนื้อหาใน 1917 ก็เกิดขึ้นในช่วงท้ายๆ ของสงครามคือปี 1917 ตรงตามชื่อหนัง
1917 ว่าด้วยเรื่องราวของสองนายทหาร สคอฟีลด์ (จอร์จ แมคเคย์) และ เบลค (ดีน ชาร์ล แชปแมน) ได้รับมอบหมายจากหน่วยให้ทำภารกิจสำคัญคือการนำจดหมายไปแจ้งข่าวยังหน่วยรบในแนวหน้าให้ถอนกำลังทหารกว่า 1,600 นายกลับที่มั่น แทนการออกตีฝ่ายเยอรมันที่วางแผนทำทีเป็นถอนทัพเพื่อล่อให้ฝ่ายอังกฤษบุก ...แน่นอนว่าภารกิจนี้ต้องเร็ว ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทั้งชีวิตของตัวเองที่ต้องฝ่าวงล้อมแนวรบของข้าศึกเพื่อไปส่งข่าว ถ้าพลาดหมายถึงชีวิตทหารกว่า 1,600 นาย (หนึ่งในนั้นคือพี่ชายของเบลค) ต้องเสียชีวิตตามแผนการศึกของเยอรมันในครั้งนี้
จากเนื้อเรื่อง ถ้าจะเล่าเป็นหนังปกติธรรมดาทั่วไป ถึงปฏิบัติการภารกิจนี้ก็ทำได้ แต่ผู้กำกับ แซม เมนเดส กลับเลือกทางที่ยากกว่านั้น นั่นคือการใช้วิธีการเล่าแบบ One Continuous Shot หรือถ่ายแบบ Long Take ยาวตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบ (เอาจริงๆ ก็มีการตัดต่อแหละ แต่มันเนียนมากๆ) ...ซึ่งการเลือกวิธีนี้ต้องอาศัยทั้งการฝึกซ้อม นักแสดงต้องแม่น คิวกล้องต้องเป๊ะ การวางบล็อกกิ่งในการถ่ายทำต้องแม่น ...อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้ทั้งนักแสดงทั้งตัวนำ ตัวสมทบ รวมถึงผู้กำกับภาพ โรเจอร์ ดีคิน ที่ทำเรื่องโคตรยาก ได้อย่างน่าอัศจรรย์มากๆ
ด้วยวิธีการกำกับ การเล่าเรื่อง ของแซม เมนเดส ทำให้คนดูอย่างเรา เป็นเสมือนเพื่อนร่วมเดินทางไปกับสองนายทหาร ไปร่วมปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ...สารภาพว่านี่คือการดูหนังสงครามที่เหมือนกับว่าเราได้อยู่ในเหตุการณ์จริงในสงครามโลกครั้งที่ 1 ...เป็นการดูหนังที่ทั้งเหนื่อย ทั้งลุ้น ทั้งเกร็ง ทั้งกัดปาก คือมันสุดๆ มาก ...ด้วยภาษาภาพที่นำเสนอ การเคลื่อนกล้องผ่านสนามรบ การลงไปลุยกับตัวเอก ทั้งลวดหนาม ที่แคบ ลงน้ำ บุกป่าฝ่าดงกระสุน ..นี่คือการดูหนังที่โคตรมหัศจรรย์มากๆ สำหรับผม ...คือที่สุดแล้วจริงๆ ...นอกจากภาพแล้ว ดนตรีประกอบของโทมัส นิวแมน ก็เสริมอารมณ์ของหนังได้อย่างลงตัวมาก บวกกับงานด้าน Sound ต่างๆ ที่เสริมเติมแต่ง จนหัวใจคนดูอย่างเราเต้นระทึก ...คือสุดๆ แล้วจริงๆ
ทั้งหมดต้องยกความดี ความเก่งให้ผู้กำกับแซม เมนเดส ยกใจให้เลย (ขณะที่เขียนผลรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม DGA Awards เพิ่งประกาศออกมาแล้วแซม เมนเดส ได้ไป) คือทำหนังเก่งมาก เข้าใจในศาสตร์และศิลปะแห่งความเป็นภาพยนตร์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งงานด้านภาพ การแสดง ดนตรี เสียง ฉากและซีนต่างๆ แล้วเข้าใจเลือกจับจังหวะต่างๆ มานำเสนอ และแซม เมนเดสก็กำกับมันได้อย่างอยู่หมัดมากๆ
บอกตรงๆ นะ ถ้าผู้กำกับไม่เก่งจริง ไม่เจ๋งพอ ไม่มีทางที่จะทำหนังสงครามแบบนี้แล้วมัดใจคนดูได้อยู่หมัด ทำให้คนดูได้ตื่นเต้น ได้อะดรีนาลีนหลั่งตลอดเวลาที่ชม และที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น แซม เมนเดส ยกระดับให้ 1917 คือหนังสงครามชั้นดี ที่ไม่ได้มีดีแค่ภาพ เทคนิคการนำเสนอเท่านั้น แต่สารหรือ message ที่จะบอกกับผู้ชมก็มีครบถ้วน ...โดยเฉพาะประเด็นของการปกป้อง การฝ่าฟัน การเห็นคุณค่าของชีวิตทั้งตัวเอง หรือ ข้าศึกในสมรภูมิ ....สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากๆ ในหนังคือซีนเปิดเรื่องที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ นายทหารสองคนนอนหลับ พักผ่อน ใต้ต้นไม้ และจุดสุดท้ายก็มาจบที่การนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ..มันสื่อได้ถึงการมีชีวิตอยู่ ...แม้สงครามจะโหดร้ายขนาดไหน แต่ความสุขของการมีชีวิต การได้ใช้ชีวิตต่อไป มันมีคุณค่า มีความหมายที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่าจริงๆ
1917 คือภาพยนตร์ที่มากกว่าคำว่าสมบูรณ์แบบ ไม่แปลกใจที่หนังจะมาแรงแซงปลายในการคว้ารางวัลใหญ่ๆ สำคัญๆ จากหลากหลายสถาบัน ...นี่คือหนังที่ใช้ศาสตร์และองค์ประกอบของภาพยนตร์ได้อย่างครบถ้วน (เชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญของนักเรียนหนังในอนาคต) ...เป็นหนังสงครามที่พูดถึงการดิ้นรนที่จะมีชีวิตต่อไปได้อย่างสวยงาม ...นี่คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ทรงคุณค่ามากๆ และควรค่ากับการตีตั๋วไปชมในโรงภาพยนตร์จริงๆ
FB :
https://www.facebook.com/eattravelmoviecritic/
[CR] รีวิว : "1917" ...ยอดเยี่ยมที่สุด ครบเครื่องทั้งศาสตร์และศิลปะแห่งภาพยนตร์
10/10
...
"ยอดเยี่ยมที่สุด ครบเครื่องทั้งศาสตร์และศิลปะแห่งความเป็นภาพยนตร์"
น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่แทบจะไม่มีหนังที่ว่าด้วยเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 เลย (ผิดกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีมากมายหลายเรื่อง) ...เรื่องล่าสุดที่เห็นก็คือ War Horse ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ว่าด้วยม้าศึกในสงครามที่มีบทบาทในการรบใยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ....การมาของ 1917 โดยผู้กำกับ แซม เมนเดส คือการเปิดมุมมองอีกมุมหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 1 บนโลกภาพยนตร์ให้กับผู้ชมได้รับรู้
สงครามโลกครั้งที่ 1 กินเวลายาวนานกว่า 4 ปี (เริ่มตั้งแต่ปี 1914 ถึง 1918) เป็นสงครามขนาดใหญ่โดยมีศูนย์กลางสู้รบอยู่ในทวีปยุโรป ...เป็นการทำสงครามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร ที่ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย กับ ฝ่ายมหาอำนาจกลาง ที่มีเยอรมัน ออสเตรีย ฮังการี และ บัลแกเรีย ....โดยเนื้อหาใน 1917 ก็เกิดขึ้นในช่วงท้ายๆ ของสงครามคือปี 1917 ตรงตามชื่อหนัง
1917 ว่าด้วยเรื่องราวของสองนายทหาร สคอฟีลด์ (จอร์จ แมคเคย์) และ เบลค (ดีน ชาร์ล แชปแมน) ได้รับมอบหมายจากหน่วยให้ทำภารกิจสำคัญคือการนำจดหมายไปแจ้งข่าวยังหน่วยรบในแนวหน้าให้ถอนกำลังทหารกว่า 1,600 นายกลับที่มั่น แทนการออกตีฝ่ายเยอรมันที่วางแผนทำทีเป็นถอนทัพเพื่อล่อให้ฝ่ายอังกฤษบุก ...แน่นอนว่าภารกิจนี้ต้องเร็ว ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทั้งชีวิตของตัวเองที่ต้องฝ่าวงล้อมแนวรบของข้าศึกเพื่อไปส่งข่าว ถ้าพลาดหมายถึงชีวิตทหารกว่า 1,600 นาย (หนึ่งในนั้นคือพี่ชายของเบลค) ต้องเสียชีวิตตามแผนการศึกของเยอรมันในครั้งนี้
จากเนื้อเรื่อง ถ้าจะเล่าเป็นหนังปกติธรรมดาทั่วไป ถึงปฏิบัติการภารกิจนี้ก็ทำได้ แต่ผู้กำกับ แซม เมนเดส กลับเลือกทางที่ยากกว่านั้น นั่นคือการใช้วิธีการเล่าแบบ One Continuous Shot หรือถ่ายแบบ Long Take ยาวตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบ (เอาจริงๆ ก็มีการตัดต่อแหละ แต่มันเนียนมากๆ) ...ซึ่งการเลือกวิธีนี้ต้องอาศัยทั้งการฝึกซ้อม นักแสดงต้องแม่น คิวกล้องต้องเป๊ะ การวางบล็อกกิ่งในการถ่ายทำต้องแม่น ...อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้ทั้งนักแสดงทั้งตัวนำ ตัวสมทบ รวมถึงผู้กำกับภาพ โรเจอร์ ดีคิน ที่ทำเรื่องโคตรยาก ได้อย่างน่าอัศจรรย์มากๆ
ด้วยวิธีการกำกับ การเล่าเรื่อง ของแซม เมนเดส ทำให้คนดูอย่างเรา เป็นเสมือนเพื่อนร่วมเดินทางไปกับสองนายทหาร ไปร่วมปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ...สารภาพว่านี่คือการดูหนังสงครามที่เหมือนกับว่าเราได้อยู่ในเหตุการณ์จริงในสงครามโลกครั้งที่ 1 ...เป็นการดูหนังที่ทั้งเหนื่อย ทั้งลุ้น ทั้งเกร็ง ทั้งกัดปาก คือมันสุดๆ มาก ...ด้วยภาษาภาพที่นำเสนอ การเคลื่อนกล้องผ่านสนามรบ การลงไปลุยกับตัวเอก ทั้งลวดหนาม ที่แคบ ลงน้ำ บุกป่าฝ่าดงกระสุน ..นี่คือการดูหนังที่โคตรมหัศจรรย์มากๆ สำหรับผม ...คือที่สุดแล้วจริงๆ ...นอกจากภาพแล้ว ดนตรีประกอบของโทมัส นิวแมน ก็เสริมอารมณ์ของหนังได้อย่างลงตัวมาก บวกกับงานด้าน Sound ต่างๆ ที่เสริมเติมแต่ง จนหัวใจคนดูอย่างเราเต้นระทึก ...คือสุดๆ แล้วจริงๆ
ทั้งหมดต้องยกความดี ความเก่งให้ผู้กำกับแซม เมนเดส ยกใจให้เลย (ขณะที่เขียนผลรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม DGA Awards เพิ่งประกาศออกมาแล้วแซม เมนเดส ได้ไป) คือทำหนังเก่งมาก เข้าใจในศาสตร์และศิลปะแห่งความเป็นภาพยนตร์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งงานด้านภาพ การแสดง ดนตรี เสียง ฉากและซีนต่างๆ แล้วเข้าใจเลือกจับจังหวะต่างๆ มานำเสนอ และแซม เมนเดสก็กำกับมันได้อย่างอยู่หมัดมากๆ
บอกตรงๆ นะ ถ้าผู้กำกับไม่เก่งจริง ไม่เจ๋งพอ ไม่มีทางที่จะทำหนังสงครามแบบนี้แล้วมัดใจคนดูได้อยู่หมัด ทำให้คนดูได้ตื่นเต้น ได้อะดรีนาลีนหลั่งตลอดเวลาที่ชม และที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น แซม เมนเดส ยกระดับให้ 1917 คือหนังสงครามชั้นดี ที่ไม่ได้มีดีแค่ภาพ เทคนิคการนำเสนอเท่านั้น แต่สารหรือ message ที่จะบอกกับผู้ชมก็มีครบถ้วน ...โดยเฉพาะประเด็นของการปกป้อง การฝ่าฟัน การเห็นคุณค่าของชีวิตทั้งตัวเอง หรือ ข้าศึกในสมรภูมิ ....สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากๆ ในหนังคือซีนเปิดเรื่องที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ นายทหารสองคนนอนหลับ พักผ่อน ใต้ต้นไม้ และจุดสุดท้ายก็มาจบที่การนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ..มันสื่อได้ถึงการมีชีวิตอยู่ ...แม้สงครามจะโหดร้ายขนาดไหน แต่ความสุขของการมีชีวิต การได้ใช้ชีวิตต่อไป มันมีคุณค่า มีความหมายที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่าจริงๆ
1917 คือภาพยนตร์ที่มากกว่าคำว่าสมบูรณ์แบบ ไม่แปลกใจที่หนังจะมาแรงแซงปลายในการคว้ารางวัลใหญ่ๆ สำคัญๆ จากหลากหลายสถาบัน ...นี่คือหนังที่ใช้ศาสตร์และองค์ประกอบของภาพยนตร์ได้อย่างครบถ้วน (เชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญของนักเรียนหนังในอนาคต) ...เป็นหนังสงครามที่พูดถึงการดิ้นรนที่จะมีชีวิตต่อไปได้อย่างสวยงาม ...นี่คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ทรงคุณค่ามากๆ และควรค่ากับการตีตั๋วไปชมในโรงภาพยนตร์จริงๆ
FB : https://www.facebook.com/eattravelmoviecritic/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้