สวัสดีค่ะ 1917 ฟันรางวัลจากเวทีลูกโลกทองไป 2 รางวัล แต่ทั้ง 2 รางวัลคือรางวัลใหญ่ (ภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม) เขา(หนัง)เป็นใครมาจากไหน มาถึงมาซิวไปเลย ในตอนนั้นเราเองก็ยังไม่ได้ดูด้วย ยิ่งเห็นเป็นหนังสงครามยิ่งส่ายหน้าเลย ไม่เอาแน่นอน น่าเบื่อ ยิงกันโป้งเป้ง ยังไม่รวมไปถึงโปสเตอร์ที่นักแสดงยืนอยู่ในสนามรบ พูดตามตรงว่าเราไม่ให้ความสนใจเลยละ แต่จุดที่ทำให้ต้องไปดู เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ติด 1 ใน 7 เข้าชิงออสก้าร์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไง เราดูครบเกือบทุกเรื่องแล้ว หากไม่ได้ดูเรื่องนี้เราต้องข้องใจแน่ๆ เลยไปจัดรอบก่อนฉายจริง (ฉายจริง 30 มกราคม 2563) มาแล้วเรียบร้อยค่ะ
1917 เล่าถึงทหารอังกฤษ ยศนายสิบ 2 นาย เบรกและสกอร์ฟิลด์ ที่วันหนึ่งนั่งหลับพิงต้นไม้อยู่ ดันมีส้นเท้ามาเขี่ยบอกว่าเฮ้ยเอ็ง 2 คนไปพบท่านนายพลเขาหน่อย เขามีอะไรจะบอก ไอ้ 2 คนก็เดินต๊อกแต๊กไปหาท่านนายพล และก็ได้รู้ว่าตนต้องทำหน้าที่นำจดหมายไปให้อีกกองร้อย เพื่อระงับการโจมตี ไม่งั้นทหารจะต้องตายให้หนูแทะในสนามรบกันอีกกว่า 1,600 นายแน่นอน และ 1 ในนั้น คือพี่ชายของเบรก เนื้อเรื่องมันจึงมีเท่านี้ เท่านี้เลยละ...ภาระกิจเสี่ยงตายจึงเริ่มขึ้น นอกจากจะไปกันแค่ 2 นายแล้ว เขายังต้องเดินฝ่าพื้นที่ที่พวกเยอรมันเคยตั้งฐานทัพไว้อีกด้วย (คือ มันเดินไปตรงนั้นทั้งที่ไม่รู้ว่าเยอรมันไปแล้วจริงไหมนั่นละ) ท้ายที่สุดแล้ว 2 หนุ่มจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ เยอรมันยังอยู่ไหม? ติดตามดูได้ที่โรงภาพยนตร์ 30 มกราคม 2563 หรือรอบหนังสองทุ่มขึ้นไป 23-29 มกราคม 2563 ค่ะ
1917 เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทำแบบ Long Take หรือ One Shot แปลแบบง่ายๆ คือ ถ่ายรวดเดียวไม่มีคัทเลย จะเปลี่ยนมุมก็หมุนกล้องเอา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ในช่วงแรกถ่ายยาว 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว จากนั้นมีตัดบ้าง เราจับได้ว่าตัดไปประมาณ 4 รอบ ใครจับได้มากกว่านี้กระซิบกันบ้างง
ตัวละครเดินผ่านใครเราเดินผ่านด้วย ทำไมต้องทำให้ยาก? ผู้กำกับ Sam Mendes ให้เหตุผลว่าเขาอยากให้คนดูได้ร่วมเดินทางไปกับ 2 ทหารหนุ่มแบบก้าวต่อก้าว ร่วมลุ้น ร่วมกลัว อย่างที่เราบอกไปแล้วข้างต้นว่าเขาต้องเดินเข้าไปในที่ที่เยอรมันเคยตั้งฐานทัพดังนั้นเราจะไปรู้เลยว่ามันวางกับดักไว้ไหม พวกมันจะยังอยู่หรือเปล่า มันลุ้นแทบหยุดหายใจทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ เราจะได้เห็นฝีมือของนักแสดงนำทั้งสองคน แม้ว่าบทพูดจะไม่ได้ดีเด่น เป็นคำพูดประจำวันทั่วๆ ไป แต่ลองคิดดูสิคะ มันไม่มีการคัทนะ คุณต้องซ้อมกันดีขนาดนั้น ให้จังหวะมันลงล็อกแบบพอดิบพอดี ไม่พอดีแล้วจะทำยังไง แต่งบทเองมันก็ไม่ใช่

ทีมช่างภาพ อันนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นจุดขายของเรื่อง ทดแทนในส่วนของเนื้อเรื่องที่ไม่ดีเด่นเหมือนเรื่องอื่นๆ เพราะเขาทำการบ้านในการส่งต่อกล้องในแต่ละจุดได้สมูทมาก เราเชื่อเลยว่าต้องใช้ทั้งมือคนและหุ่นยนตร์แน่นอน เพราะนิ่งมาก คมมาก ทีมสถานที่ที่ต้องจัดวางองค์ประกอบของภูมิประเทศให้ตัวแสดงเดินต่อไปเรื่อยๆ ชื่นชมเลยว่าทำให้เราเชื่อได้จริงๆ ว่านี่คือสนามรบ อีกฝ่ายที่เราขอปรบมือให้ 3 เซ็ทเลยคือฝ่ายคอสตูมและเมคอัพ มันต้องเร็วมากเลยคิดออกไหมคะ ในการหันกล้องไปอีกทางแปปนึง หันมาอีกทีนักแสดงหน้าซีดแล้ว หันมาอีกทีคราบต่างๆ ต้องหาย เสื้อผ้าต้องกลับมาเข้าที่ ซึ่งมีเวลาไม่เกิน 3 วินาทีเท่านั้น ยอมรับว่าเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์เราภูมิใจมาก ภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของพวกเราที่ชอบทำอะไรให้มันยากๆ ซึ่ง งง ทำให้มันยากทำไม? ท้าทายละมั้ง ก็เอาๆ เอ็งเก่งๆ
ในส่วนของนักแสดง มากันเยอะค่ะ พูดแล้วจะอาจจะหาว่าเราสปอย พอเครดิตหนังขึ้นเราอ่านรายชื่อนักแสดงบางคนเรายัง งง เลยเขามาตอนไหน เพราะพออยู่ในชุดทหารอ่ะเนอะ แต่งหน้าอีก ต้องมาไล่หาใน Google เอง แล้วแต่ละคนมาแค่ 3-5 นาทีเท่านั้น เริ่มจากตัวนำแสดง Dean-Charles Chapman เจ้าของบทคิงทอมเมน บาราเทียน จาก Game of Thrones และ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Colin Firth ที่มารับบทท่านนายพล คนนี้บอกเลยว่าหาไม่เจอ Andrew Scott (ผู้ที่เคยรับบทศ.โมริอาตี้ในซีรีย์เชอร์ล็อกโฮมห์) มาเล่นเป็นผู้กองคนหนึ่งที่กวนประสาทสุดๆ Benedict Cumberbatch คนนี้เซอร์ไพร์ซมากกก มาในบททหารดุๆ อีกคนที่เราชื่นชอบส่วนตัว Richard Madden หรือ ร็อบ สตาร์ค หมาป่าหนุ่มจาก Game of Thrones นั่นเอง กรี๊ดๆ
อีกเรื่องที่จะไม่ให้เครดิตเขาไม่ได้เลยคือ ผู้ที่มาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ผู้กำกับฟัง คือ คุณปู่ของผู้กำกับนั่นเอง คุณปู่เป็นทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1 Mendes คนหลานบอกว่าเรื่องเล่าของคุณปู่ในวันนั้นกลายมาเป็นเรื่องราวดีดี และภาพยนตร์ที่จะออสก้ามาให้ผู้กำกับอย่างแน่นอน น่าภูมิใจกับเขาจริงๆ ค่ะ
ปล.
- ต้องขอแก้ไขหน่อยค่ะ เพราะเขียนไม่เคลียร์ ใช้เทคนิคลองช็อท แต่ไม่ลองทั้งเรื่อง โอเคนะคะ /
แหมให้เฉลยเลย หนังเขาจะทำโฆษณายังไงอะคะ
- ขอบคุณคอมเม้นที่เข้ามาช่วยเสนอความคิดเห็นและข้อมูลดีดีเพิ่มเติมนะคะ แก้ไขคำผิดด้วยค่ะ
- เราไม่ชอบให้คะแนนหนังน่าดูหรือไม่ควรพิจารณากันเองดีกว่าเนอะ
--------------------------------------------------------
ฝากเพจ Like Flick และ จะดูหนังอ่ะ ทาง Facebook ด้วยนะคะ
1917 : ภาพยนตร์ที่มีทุกอย่าง ยกเว้นเนื้อเรื่อง
1917 เล่าถึงทหารอังกฤษ ยศนายสิบ 2 นาย เบรกและสกอร์ฟิลด์ ที่วันหนึ่งนั่งหลับพิงต้นไม้อยู่ ดันมีส้นเท้ามาเขี่ยบอกว่าเฮ้ยเอ็ง 2 คนไปพบท่านนายพลเขาหน่อย เขามีอะไรจะบอก ไอ้ 2 คนก็เดินต๊อกแต๊กไปหาท่านนายพล และก็ได้รู้ว่าตนต้องทำหน้าที่นำจดหมายไปให้อีกกองร้อย เพื่อระงับการโจมตี ไม่งั้นทหารจะต้องตายให้หนูแทะในสนามรบกันอีกกว่า 1,600 นายแน่นอน และ 1 ในนั้น คือพี่ชายของเบรก เนื้อเรื่องมันจึงมีเท่านี้ เท่านี้เลยละ...ภาระกิจเสี่ยงตายจึงเริ่มขึ้น นอกจากจะไปกันแค่ 2 นายแล้ว เขายังต้องเดินฝ่าพื้นที่ที่พวกเยอรมันเคยตั้งฐานทัพไว้อีกด้วย (คือ มันเดินไปตรงนั้นทั้งที่ไม่รู้ว่าเยอรมันไปแล้วจริงไหมนั่นละ) ท้ายที่สุดแล้ว 2 หนุ่มจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ เยอรมันยังอยู่ไหม? ติดตามดูได้ที่โรงภาพยนตร์ 30 มกราคม 2563 หรือรอบหนังสองทุ่มขึ้นไป 23-29 มกราคม 2563 ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวละครเดินผ่านใครเราเดินผ่านด้วย ทำไมต้องทำให้ยาก? ผู้กำกับ Sam Mendes ให้เหตุผลว่าเขาอยากให้คนดูได้ร่วมเดินทางไปกับ 2 ทหารหนุ่มแบบก้าวต่อก้าว ร่วมลุ้น ร่วมกลัว อย่างที่เราบอกไปแล้วข้างต้นว่าเขาต้องเดินเข้าไปในที่ที่เยอรมันเคยตั้งฐานทัพดังนั้นเราจะไปรู้เลยว่ามันวางกับดักไว้ไหม พวกมันจะยังอยู่หรือเปล่า มันลุ้นแทบหยุดหายใจทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ เราจะได้เห็นฝีมือของนักแสดงนำทั้งสองคน แม้ว่าบทพูดจะไม่ได้ดีเด่น เป็นคำพูดประจำวันทั่วๆ ไป แต่ลองคิดดูสิคะ มันไม่มีการคัทนะ คุณต้องซ้อมกันดีขนาดนั้น ให้จังหวะมันลงล็อกแบบพอดิบพอดี ไม่พอดีแล้วจะทำยังไง แต่งบทเองมันก็ไม่ใช่
ในส่วนของนักแสดง มากันเยอะค่ะ พูดแล้วจะอาจจะหาว่าเราสปอย พอเครดิตหนังขึ้นเราอ่านรายชื่อนักแสดงบางคนเรายัง งง เลยเขามาตอนไหน เพราะพออยู่ในชุดทหารอ่ะเนอะ แต่งหน้าอีก ต้องมาไล่หาใน Google เอง แล้วแต่ละคนมาแค่ 3-5 นาทีเท่านั้น เริ่มจากตัวนำแสดง Dean-Charles Chapman เจ้าของบทคิงทอมเมน บาราเทียน จาก Game of Thrones และ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกเรื่องที่จะไม่ให้เครดิตเขาไม่ได้เลยคือ ผู้ที่มาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ผู้กำกับฟัง คือ คุณปู่ของผู้กำกับนั่นเอง คุณปู่เป็นทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1 Mendes คนหลานบอกว่าเรื่องเล่าของคุณปู่ในวันนั้นกลายมาเป็นเรื่องราวดีดี และภาพยนตร์ที่จะออสก้ามาให้ผู้กำกับอย่างแน่นอน น่าภูมิใจกับเขาจริงๆ ค่ะ
ปล.
- ต้องขอแก้ไขหน่อยค่ะ เพราะเขียนไม่เคลียร์ ใช้เทคนิคลองช็อท แต่ไม่ลองทั้งเรื่อง โอเคนะคะ /
แหมให้เฉลยเลย หนังเขาจะทำโฆษณายังไงอะคะ
- ขอบคุณคอมเม้นที่เข้ามาช่วยเสนอความคิดเห็นและข้อมูลดีดีเพิ่มเติมนะคะ แก้ไขคำผิดด้วยค่ะ
- เราไม่ชอบให้คะแนนหนังน่าดูหรือไม่ควรพิจารณากันเองดีกว่าเนอะ
--------------------------------------------------------
ฝากเพจ Like Flick และ จะดูหนังอ่ะ ทาง Facebook ด้วยนะคะ