ปุจฉา: Inuyama คือที่ไหนหนอ ที่ไหนหนอ
วิสัจฉนา: อินุยามา เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในจังหวัด ไอจิ เหนือขึ้นไปจากนาโกย่าไม่ไกล ดังนั้น หากใครมาเที่ยว นาโกยา แล้วมีตารางเวลาเหลือให้รีแลกซ์ละก็ เมืองนี้เป็นคำตอบที่ดีที่เดียว ที่สามารถเดินเล่นผ่อนคลายไม่ยากในเวลาครึ่งวัน หรือหนึ่งวัน และที่สำคัญ การเดินทางมาเมืองนี้ ยังง่าย สะดวก และที่สำคัญ ไม่แพงอีกด้วย ด้วยเจ้า "Meitetsu Day pass"  นี่โฆษณา โดยไม่ได้ค่าโฆษณาเลยนาาาาา 
โดยรายละเอียดของตั๋วอันนี้ ก็ตามลิ้งด้านล่างนี้เลย ราคา 1,380  เยน ( ณ วันที่ 1/2/2020)เท่านั้นเอง !! ถูกมากๆ
Website สำหรับ อินุยามา พาส
ไอ้เจ้าพาสตัวนี้ ให้อะไรเราบ้าง
1. ตั๋วเดินทางไป-กลับ จากสถานีต้นทางไป Inuyama  และตั๋วขากลับมายังสถานีปลายทาง (ซึ่งต้นทางของเราวันนี้ก็คือ Nagoya ปลายทางคือ Inuyama) 
ปล. ใช้ได้แค่ตอนไป และ กลับเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ unlimited เน้อ
2. ตั๋วสำหรับเข้าชม Inuyama castle โดยจะได้เป็นคูปองแล้วเรานำไปแลกตอนจะเข้าปราสาท 
3. คูปองส่วนลด โดยเข้าร่วมมากกว่า 12 ร้านค้า ในเมืองอินุยามะ โดยเลือกใช้ได้ทั้งหมด 3 ร้านค้า (เราจะได้เป็นใบมา สแตมๆ ว่าใช้ร้านใด และใช้ไปกี่ครั้งแล้วครับ ลองเลือกดูได้เลยครับ (แค่ค่าส่วนลดก็คุ้มแล้วววว ผมว่า)

 
ทำไมมันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเนี่ย แค่ 1380 ทั้งเดินทาง เที่ยว กิน ในที่เดียว..... แล้ว ซื้อได้ที่ไหนเล่า? 
ก็ซื้อได้ที่สถานี Meitetsu Nagoya stationนั่นเองจ้า ก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการจะซื้อ Inuyama day pass ง่ายๆแค่นี้เอง แล้วก็ถามเจ้าหน้าที่ว่า รถไฟ ชานชลา ที่เท่าไหร่ เวลาเท่าไหร่ ที่เหลือก็แค่นั่งรถไฟไปลง สถานี Inuyama ได้เลย 
ปล. Inuyama >> Inu แปลว่าน้องหมา (หมานั่นแหละ) yama แปลว่า ภูเขา....
ถ้าแปลตรงๆเมืองนี้ก็แปลว่า ภูเขาแห่งน้องหมาครับ 

เมื่อมาถึงสถานีก็จะได้เห็นวิวแบบนี้ครับ ป้ายบอกทางชัดเจนว่าไปชมปราสาทต้องเดินไปทางไหน แต่ไหนๆ ก็ไหนๆแล้วขอ แชะภาพทางรถไฟสักหน่อยนึง
แค่เดินตรงมาเรื่อยๆ เจอสองไฟแดงแล้วเลี้ยวขวา เท่านั้นเองครับง่ายมากๆ  เดินไม่ไกลราวๆ 500 เมตรได้ เดินเพลินๆ แป๊ปๆก็มาถึง ถนน Honmachi dori (ถนนเมืองเก่า)  แล้วครับ 
 
ถนนเส้นนี้เป็น ถนนสายหลักที่เดินต่อไปถึง ปราสาท อินุยามะนั่นครับสองข้างทางจะมีร้านขายของกินให้เดินเลือกซื้อตามความสนใจเลยครับ ถ้าเทียบกับเกียวโตที่แสนวุ่นวายแล้ว ที่นี่สงบกว่าแถบเกียวโตมากครับ ได้บรรยากาศเมืองเก่าที่ค่อนข้างรีแลกซ์ ของกินมีตลอดทางเดินสบายๆ ใครที่ไปย่านกิออนของเกียวโตแล้วรู้สึกว่าแออัดเกินไป ผมว่าเมืองนี้ตอบโจทย์นะครับ 

คนไม่แน่น แต่ให้อารมณ์ ถนนเก่าไม่แพ้กับเกียวโตเลยที่เดียว จะเห็นได้ว่ายังมีมุมเงียบสงบ ระหว่างเดินช้อปปิ้งด้วยพอสมควรอย่างภาพข้างล่าง

มีตลาดนัดเล็กๆ สำหรับขายของทำมือ แล้วก็อาหารรถเข็นยอดฮิตอย่างไก่ คาราอาเกะ หรือทาโกยากิ ด้วยนะครับ 
ระหว่างเดินก็เดินๆ เลือกดูได้เลยครับว่าร้านไหนน่ากิน ร้านไหนในคูปองที่เราอยากใช้

เดินมาเพลินๆ ไม่เท่าไหร่ ก็ ถึงตีนบันไดที่จะเดินขึ้นปราสาทแล้วครับ จะเจอศาลเจ้าซังโคอินาริ ครับ(Sankoinari Shrine) ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังปราสาทอินุยามาครับ

เด่นชัดเจนมากครับ สุดถนน ก็จะมีเสาแดงตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้ามครับ  ก่อนเดินข้ามขึ้นไปถ้าเริ่มหิว ผมแนะนำว่า ให้ลอง เจ้าเต้าหู้ย่างเต้าเจี้ยว เรียกว่า เด็งกาคุก่อนที่จะเดินขึ้นไปชมปราสาทกันครับ ร้านในคูปองหมายเลข 1 เลยครับ สังเกตได้ง่ายๆ อยู่ก่อนข้ามถนนไปยังเสาแดง ซ้ายมือครับ ถ้าใครที่กลัวสื่อสารไม่ได้..... แค่ยื่นใบคูปองสามช่อง ที่ได้มาจากตั๋วพาส แล้วชู 1 นิ้ว พนักงานขายรู้เรื่องแล้วครับ  อร่อยดีครับ กินเพลินๆ หมดเสียแล้ว


เดินผ่านขึ้นไปสักหน่อยก็จะเจอทิวเสาแดง คล้ายๆ ฟูชิมิอินาระที่เกียวโตครับ 
 


ศาลเจ้านี้เป็นที่ขอพรเรื่องความรัก ด้วยนะครับ แวะมาลองกันได้นะครับ เผื่อได้ติดไม่ติดมือกลับไป
เดินทะลุเสาแดงเรียงรายไปก็จะเป็นทางเดินขึ้นไปสู่ ปราสาทอินุยามะครับ 


ก่อนจะเดินลับตาศาลเจ้าไปอย่าลืมหันหลังกลับมาชมศาลเจ้าอีกครั้งนะครับ สีแดงของเสา และกำแพงตัดกับบรรยากาศสีเขียวนั้น สวยไม่เบาเลยพอเราเดินขึ้นมาถึงประตูตรงที่เก็บค่าเข้า เราก็แค่ยื่นตั๋วแลกบัตรเข้าชมปราสาทที่ได้มาพร้อมพาสกับเจ้าหน้าที่ เราก็จะได้ตั๋วเข้าปราสาทมาทันทีครับ ไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มเลย 



มาถึงแล้ว เย้ !! แต่น่าเสียดายตอนผมมา ปราสาทบูรณะอยู่ครับ สามารถขึ้นไปชมด้านบนได้ แต่ภายนอกไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เลยขอเอาตั๋วบังไว้ก่อนละกันนะครับ จินตนาการเติมเต็มกันเอานะภายในปราสาทก็จะเป็น พิพิทธภัณฑ์ ไว้ให้ดูถึงชุดเกราะโบราณ และภาพประวัติศาสตร์ครับ 

ปล. ทางขึ้นปราสาทบันไดค่อนข้างชัน ใครมากับผู้สูงอายุ ดูแลท่านดีๆ นะครับ และคนที่มีปัญหากับข้อเช่า กรุณา ขึ้นด้วยความระมัดระวัง

หากมาในวันที่อากาศดี วิวด้านบนถือว่าโอโห สวยมากๆครับ



จุดมุ่งหมายต่อไปของผมคือวัดไกลลิบๆนั่นเห็นไหมครับ (ในแผนที่ หมายเลข 4) ใครอยากตามก็ตามมาเลยนะครับ แต่ถ้ามันไกลก็ เดินชมริมแม่น้ำก่อนกลับก็เพียงพอแล้วครับ  



ก่อนลงจากปราสาทอินุยามา มีโรงเตี๊ยมอยู่ตรงข้ามทางเข้าปราสาทครับ แวะพักขา จิบชาเขียวสักครู่ก่อนก็ได้นะครับ วิธีซื้อก็จะมีตู้อัตโนมัติครับ 
หยอดเหรียญ กดเลือกสินค้า ล้วยื่นให้ ป้าที่ร้านได้เลยครับ หรือถ้างงๆ ก็ เรียกป้าเขาบอกว่า มัจฉะก็ได้ครับ เดี๋ยวเขามาช่วยเรากดเอง คนญี่ปุ่นใจดีครับ


ระหว่างทางที่เดินไปวัด Zenkoji แนะนำให้เดินเลียบแม่น้ำคิโซะ แม่น้ำสายใหญ่ที่เรามองเห็นจากมุมบนปราสาทก็จะเจอวิวสวยงามระหว่างทาง ให้เดินเล่นชมวิว พักผ่อนหย่อนใจ ถ้าใครมาในช่วงซากุระ คงเหมาะแก่การชมดอกไม้บานยิ่งนักเชียวแล 

หากเหนื่อยแล้ว สามารถนั่งรถไฟกลับได้ที่สถานี อินุยามายูเอ็นได้เลยครับ (หมายเลข 5) สามารถใช้ตั๋วรถไฟขากลับจากพาสอีกใบที่เหลือได้เลย หรือใครอยากจะกลับไปช้อปปิ้ง แล้วเดินไปขึ้นที่สถานีอินุยามะ ตอนขามาก็ไม่ว่ากัน


หลังจากอุตสาหะเดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะถึงวัด เซ็นโคจิครับ ขอแวะไหว้วัดพุทธสะหน่อยนะครับ คนญี่ปุ่นเวลาไหว้พระจะคล้ายๆ กับการไหว้ที่ศาลเจ้าชินโตครับ แต่การไหว้จะต่างจากประเทศไทยสักหน่อยคือเขานิยมจุดธูปข้างนอก และทำการกวักควันธูปเข้าหาตัวเพื่อเป็นสิริมงคลครับ 


 
บังเอิญ ได้มาเจอดอกซากุระพันธุ์ที่บานในช่วง ฤดูใบไม้ร่วงด้วยครับ เรียกว่า ชิกิซากุระ ทรงดอกจะเล็กและบานไม่ดกเท่าของฤดูใบไม้ผลิ แต่ว่าถือว่างามในยามที่ต้นไม้ผื่นเริ่มผลัดใบทีเดียวครับ


เป็นปราสาทลิบๆ นั่นไหมครับ นั่นแหละครับ ที่เดินมา 55555 


จริงๆจะขอแนะนำอีกทีหนึ่งซึ่งสวยมากๆ ถ้ามาชมในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คือวัด Jakkoin temple ครับ การเดินทางด้วยรถสาธารณะผมเห็นมีรถบัสอยู่นะครับ แต่ผมไม่ทราบว่าต้องขึ้นตรงไหน เลยเดินไป 5555+ ไม่แนะนำให้ตามครับ อันตรายเหงา เปล่าเปลี่ยว และที่สำคัญ เหนื่อยเกินไปๆๆๆๆๆ แต่เอารูปมาฝากไวให้ชมครับ 



สุดท้ายนี้ ใครที่มาเที่ยวนาโกยา แล้วมีวันว่างเหลือครึ่งวัน หนึ่งวัน เมืองนี้เป็นเมืองที่แนะนำให้มาเที่ยวครับ ราคาไม่แพง แต่บรรยากาศดี มุมถ่ายรูปเยอะ
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามการเดินทางครั้งนี้นะครับ

"การเดินทางเริ่มต้นเมื่อ เราคิดว่าครั้งต่อไปจะเป็นที่ไหน" "The next journey start when you start to think where is next"

สายัณสวัสดิ์

กระเป๋าใบเดียว