มีเรื่องปรึกษาเกี่ยวกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้
โครงเรื่องคือ ก่อนไปต่างประเทศ(ยังคบกะเเฟนเก่า)---->อยู่ต่างประเทศ(โดนบอกเลิก+เจอคนใหม่)---->กลับมาไทย สบสนหัวใจ(ยังคบกะคนใหม่)
เรื่องมันเริ่มสมัยเรียนปี 1 เรามีเเฟนเเล้วได้อยู่ด้วยกัน กะเป็นคู่รักวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เเต่คิดว่าทะเลาะกันบ่อยมาก เเต่ก็จะกลับมาดีกันได้เสมอ ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายขอโทษก่อนก็ตาม (มีน้องหมาด้วย 2 ตัว) เรื่องที่เปนปันหาบ่อยๆระหว่างช่วงที่คบกัน ก็ประมานว่า
1.เรื่องเงิน เพราะมีค่าหอเเพง ราคาสูงมาก ค่าอาหารน้องๆ เเล้วกะทั่วๆไป ซึ่งเราจะเป็นคนดูเเลเรื่องเงินทั้งหมดว่าจะใช้จ่ายอะไรบ้าง ทำให้หลายครั้งเเฟนเราไม่ได้ในสิ่งที่เค้าอยากได้ (อันนี้กะเห็นใจเค้า เเต่เราพยามเเล้วจริง)
2. ขี้หึงมาก เคยทะเลาะกันเพราะกดลิฟรอคนกะเคย ไปไหนกะใครไม่ได้ หรือจะรับเงินทอนกะเป็นปัญหาได้
3. ขนสัตว์ติดเสื้อผ้าเราเยอะมากๆ เค้าเป็นเจ้าของ ไม่ค่อยเห็นใจเราเรื่องนี้เลย( พอเป็นตัวอย่างนะ)
พูดเเทนในมุมเขาบ้างนะ เขาบอกว่า
เราไม่ค่อยใส่ใจเขา ไม่เข้าใจสิ่งที่เค้าเป็น เราถูกเสมอ เขาพูดอะไรมากะผิด ทำให้เลือกที่จะไม่พูด สุดท้ายมีหลายอย่างที่เราคิดว่า เรากะเขาไม่เข้าใจกันจริงๆเราสองคนไม่ใช่คู่ที่เเมทกันเลยพูดตรงๆ เรากะทำไม่ดีกะเขาไว้มาก เเต่เรากะรักมากด้วยเหมือนกัน(อาจจะย้อนเเย้งหน่อย) อันนี้ คือเราเล่าให้ฟังนะ ไม่ได้จะพูดว่าใครถูกผิดอะไรยังไง เพราะเรื่องกะจบไปแล้ว เรื่องพวกนี้กะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เเทบจะเรียกว่าปกติ จนกระทั่งเทอมสุดท้ายของปี4 เราได้ทุนไปฝึกงานต่างประเทศ(1ปี) เราอยากไปมาก 1 คือ มันกะเป็นผลดีกะเราตรงๆ 2 คือ เราคิดว่าหลังจากกลับมามันน่าจะทำให้เด็กจบใหม่อย่างเราหางานง่ายขึ้น 3 คือ ภาษา อาจจะเพิ่มเงินให้เราได้นิดหน่อย เพราะ เเฟนเราต้องการสิ่งที่ต้องใช้เงินเยอะมาก เรากะอยากให้ ของยิบๆย่อยๆ หรืออย่างน้อยน่าจะช่วยเรื่อง โปรไฟล์ได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะไป (สาขาเราถูกเรียกว่าจับฉ่าย หลายบอกหางานยาก เราเลยอยากไปสร้าง ปสก. เเละเรียนรู้เพื่อสร้างโปรไฟล์)
ก่อนไปเรากะบอกเค้าว่าถ้ามันไม่ไหวจริงๆ เราเข้าใจถ้าจะเลิก เเต่กะบอกด้วยเหมือนกันว่าอยากให้รอ เพราะเรารักเค้า พยามเพื่อเค้ามาก ระหว่างปี 1 ถึงปี4 เรายอมรับว่าไม่ใช่เเฟนที่ดีอะไร เเต่เราไม่เคยคิดจะเลิกกะเค้าเลย คบกันโดยมีความเชื่อที่ว่าสักวันมันต้องดีกว่านี้ ก็คิดไปตามภาษาเด็กๆ 555 จนสุดท้าย 1 เดือนก่อนที่เราจะไปฝึกงานต่างประเทศ เขาแอบคุยกะเเฟนเก่า เราจับได้เเบบเต็มๆ ตอนนั้นโกรธมาก เสียใจ หงุดหงิด ทุกอารมมาครบหมด ทำอะไรไม่ถูก พอถามเค้าว่าทำไมทำแบบนี้ เค้าบอกเค้าไม่รู้ เรากะโวยวายใหญ่ ผ่านไป หลายชั่วโมงเราเริ่มเข้าใจเเล้วว่า ทั้งหมดมันเป็นเพราะเราเองทำให้เขาอึดอัดกะเรามากเกินไป เราขอโอกาส ที่จะเป็นเเฟนที่ดีอีกครั้ง ซึ่งเขากะตกลงยอมให้โอกาสเราเเก้ตัว โดยเราขอว่า เลิกคุยกะคนนั้นได้มั้ย เขาตอบมาว่าได้ เเต่ เรากะจับได้ว่าเขาแอบคุยกันอีก2ครั้ง เรากะขอโอกาสเขามาเรื่อย จนกระทั่งเราต้องไปต่างประเทศจริงๆ เขากะไปส่งเราที่สนามบินพร้อมกับครอบครัวของเรา หลังจากไปถึง...( คือบอกว่าถ้าไปเเล้วไม่ไหวจะเลิกเราเข้าใจ เเต่เเมร่งเล่นมีเตรียมเอาไว้ก่อนไปอีก55 เราเเค่อยากเห็นว่าเค้าจะตัดสินใจที่จะสู้ไปกะเรามั้ย)
เราเริ่มปรับตัวกะที่ใหม่ๆทันที เเล้วก็หาอินเทอร์เนตทันที เพื่อที่จะต่อไลน์ หรือ เฟส โทรหาเค้าทันที ซึ่งกะทำสำเร็จ เราพยามสุดชีวิตที่จะหาเนตเเละเวลาโทรมาหาเขาที่ไทย (เวลาต่างกันมาก) ประมานหนึ่งอาทิตย์ เขาบอกว่า ไม่มีเราเเล้วเขาสบายใจกว่า จะใช้เงินทำอะไรไปไหนกะได้ สุดท้ายขอเลิกกะเรา เราทำทุกอย่างทุกวิธีเพื่อรั้งเขาไว้ เเน่นอนว่ามันไม่สำเร็จ เรื่องความรักเราสองคนจบลงเเค่นั้น
เราพบคนใหม่ที่เขาทำให้เราสบายใจ ดูเเลเราทุกอย่าง เป็นคนที่ทำอาหารให้เราทุกมื้อใส่ใจเราทุกอย่าง สอนเราใรสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เราเหมือนพบโลกอีกใบที่มันซ่อนอยู่ในตัวของคนคนนึง ซึ่งมันสวยงามมากเเละเเตกต่างกะโลกใบอื่นที่เราเคยเห็น เรากะเริ่มดีขึ้นจากการดูเเลของเขา จากการที่เขาใส่ใจเรา จากที่เราเคยเป็นผู้ให้ เรากลายเป็นผู้รับจนเราทำตัวไม่ถูก ว่าถ้ามีคนมาทำดีกะเราขนาดนี้เราจะทำไงดี เราหลงเขาเเล้วเต็มๆ เราทำงานที่เดียวกันพักที่เดียวกัน อยู่ด้วยกันทุกเวลา เราเรียนรู้กันเเละกันจนที่สุดเราใช้คำว่าเเฟนกะคนคนนี้ได้ เค้าไม่ได้ดูดีมากมายเเต่เรียบง่าย เวลาผ่านไม่กี่เดือน เรามีความรักครั้งใหม่ เเต่ยอมรับว่าบางครั้งเรายังห่วงคนเก่าอยู่ เราไม่ติดต่อกันอีกเลย ไม่รู้เลยว่าชีวิตเขาเป็นยังไงที่ไม่มีเรา ส่วนเราเคยคิดถึงเขา เเต่เรากะคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกทิ้ง บางทีจะห่วงเค้าทำไม เรารู้ว่าเรื่องของเรามันกลับไปเปนเหมือนเดิมไม่ได้อีกเเล้ว เราจึงรีบอยากก้าวผ่านไป ผ่านไปจนหมดโควต้า ถึงเรากลับไทย เราผ่านการฝึกงาน จากทั้งสองที่เรียบร้อย เราเรียนจบเเล้ว
เราได้กลับมาไทยเเล้วพร้อมกะเเฟนใหม่ของเรา(เป็นคนไทยเหมือนกัน เราชอบคนต่างชาตินะจริงๆ เเต่เราคิดว่าคนไทยสื่อสารกันได้ดีกว่าเวลาที่เราต้องการใคร มันรู้สึกถึงได้มากกว่า สำหรับเรานะ) เราเริ่มหางานทันทีตามที่วางแผนเอาไว้ เราเเละเเฟนเราหางานได้ไวมากๆ เราใช้เวลาประมาน20วันหลังจากกลับมาในการหางาน ตอนนี้เราทำงานในกรุงเทพ พร้อมกับเรียนโทไปด้วย มีประสบการทำงานมากพอที่มหาลัยจะรับเข้าเรียนเเล้ว เราใช้ชีวิตกะเเฟนคนนี้ทุกอย่างราบรื่นดี เเต่มีปากเสียงบ้างเพราะที่ไทยมีเรื่องให้เครียดมากกว่า เราทั้งคู่มีความเครียดเพิ่มขึ้นจนถึงตอนนี้ เราโอเครกันดีอยู่ เรามีเป้าหมายใหม่ หัวใจใหม่ ชีวิตใหม่ จนกระทั่ง
เพื่อนเราคนนึงโทรมาขายตรง ซึ่งก่อนหน้านี้ มันได้โทรไปขายกะเเฟนเก่าเราเเล้ว ด้วยความเป็นเพื่อนเรากะถามความเป็นไปปกติ จนเราได้รู้เรื่องเเฟนเก่าเราที่กำลังลำบาก ตกงาน ใจเราที่ได้ยินแบบนั้นก็กระวนกระวายขึ้นมา รู้สึกเป็นห่วงแปลกๆ อยากเเน่ใจว่าเค้าจะโอเค เเต่คือเราตั้งใจไว้เเล้วว่า จะไม่ติดต่อกะคนเก่าอีก เพราะเราไม่อยากทำผิดกับคนใหม่ เราเลิกคิดได้พักนึงเเต่เราก็กลับมาคิดใหม่ จนตอนนี้เราไม่เเน่ใจเเล้วว่าสิ่งที่เราเป็นคืออะไร เรายังรักคนเก่าหรือป่าว? เราตั้งกระทู้เเรกขึ้นมาเพราะพูดเรื่องนี้กะใครไม่ได้ มันอาจจะดูแบบ เรื่องเเค่นี้เองทำไมเราคิดไม่ได้ เเต่เราเริ่มไม่เเน่ใจว่าสิ่งที่เราคิดไว้ มันถูกจริงๆ
เราอยากรู้ว่าสิ่งที่เราเป็นตอนนี้ คือ เรายังตัดใจไม่ได้หรอ เรารู้สึกว่าเราพยามดูเเล คนคนนี้มาเกือบ4ปี น้ำตาเราไหลออกมาเกือบทุกครั้งที่เราคิดว่า เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง เเต่เราหนักเเน่นมาก ว่าจะไม่ทิ้งใคร เพื่อกลับไปหาคนเก่า เเละใจเรารู้สึกว่าเรารักคนปัจจุบันมากจริงๆ
คำถามคือ
1 เรายังติดใจไม่ได้หรอ
2 ทำไมเรายังรู้สึกเป็นห่วงอยู่ มันเป็นปกติหรือป่าว
ปล.เราไม่อยากให้โฟกัสเรื่องใครผิดใครถูก ใครดีไม่ดียังไงนะ เราอยากรู้สิ่งที่เราเป็นตอนนี้ เราอยากอ่าน อยากฟังคนที่มีเรื่องราวคล้ายๆเรา
มีคนใหม่ เเต่ ตัดใจไม่ได้ (หรือป่าว?)
โครงเรื่องคือ ก่อนไปต่างประเทศ(ยังคบกะเเฟนเก่า)---->อยู่ต่างประเทศ(โดนบอกเลิก+เจอคนใหม่)---->กลับมาไทย สบสนหัวใจ(ยังคบกะคนใหม่)
เรื่องมันเริ่มสมัยเรียนปี 1 เรามีเเฟนเเล้วได้อยู่ด้วยกัน กะเป็นคู่รักวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เเต่คิดว่าทะเลาะกันบ่อยมาก เเต่ก็จะกลับมาดีกันได้เสมอ ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายขอโทษก่อนก็ตาม (มีน้องหมาด้วย 2 ตัว) เรื่องที่เปนปันหาบ่อยๆระหว่างช่วงที่คบกัน ก็ประมานว่า
1.เรื่องเงิน เพราะมีค่าหอเเพง ราคาสูงมาก ค่าอาหารน้องๆ เเล้วกะทั่วๆไป ซึ่งเราจะเป็นคนดูเเลเรื่องเงินทั้งหมดว่าจะใช้จ่ายอะไรบ้าง ทำให้หลายครั้งเเฟนเราไม่ได้ในสิ่งที่เค้าอยากได้ (อันนี้กะเห็นใจเค้า เเต่เราพยามเเล้วจริง)
2. ขี้หึงมาก เคยทะเลาะกันเพราะกดลิฟรอคนกะเคย ไปไหนกะใครไม่ได้ หรือจะรับเงินทอนกะเป็นปัญหาได้
3. ขนสัตว์ติดเสื้อผ้าเราเยอะมากๆ เค้าเป็นเจ้าของ ไม่ค่อยเห็นใจเราเรื่องนี้เลย( พอเป็นตัวอย่างนะ)
พูดเเทนในมุมเขาบ้างนะ เขาบอกว่า
เราไม่ค่อยใส่ใจเขา ไม่เข้าใจสิ่งที่เค้าเป็น เราถูกเสมอ เขาพูดอะไรมากะผิด ทำให้เลือกที่จะไม่พูด สุดท้ายมีหลายอย่างที่เราคิดว่า เรากะเขาไม่เข้าใจกันจริงๆเราสองคนไม่ใช่คู่ที่เเมทกันเลยพูดตรงๆ เรากะทำไม่ดีกะเขาไว้มาก เเต่เรากะรักมากด้วยเหมือนกัน(อาจจะย้อนเเย้งหน่อย) อันนี้ คือเราเล่าให้ฟังนะ ไม่ได้จะพูดว่าใครถูกผิดอะไรยังไง เพราะเรื่องกะจบไปแล้ว เรื่องพวกนี้กะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เเทบจะเรียกว่าปกติ จนกระทั่งเทอมสุดท้ายของปี4 เราได้ทุนไปฝึกงานต่างประเทศ(1ปี) เราอยากไปมาก 1 คือ มันกะเป็นผลดีกะเราตรงๆ 2 คือ เราคิดว่าหลังจากกลับมามันน่าจะทำให้เด็กจบใหม่อย่างเราหางานง่ายขึ้น 3 คือ ภาษา อาจจะเพิ่มเงินให้เราได้นิดหน่อย เพราะ เเฟนเราต้องการสิ่งที่ต้องใช้เงินเยอะมาก เรากะอยากให้ ของยิบๆย่อยๆ หรืออย่างน้อยน่าจะช่วยเรื่อง โปรไฟล์ได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะไป (สาขาเราถูกเรียกว่าจับฉ่าย หลายบอกหางานยาก เราเลยอยากไปสร้าง ปสก. เเละเรียนรู้เพื่อสร้างโปรไฟล์)
ก่อนไปเรากะบอกเค้าว่าถ้ามันไม่ไหวจริงๆ เราเข้าใจถ้าจะเลิก เเต่กะบอกด้วยเหมือนกันว่าอยากให้รอ เพราะเรารักเค้า พยามเพื่อเค้ามาก ระหว่างปี 1 ถึงปี4 เรายอมรับว่าไม่ใช่เเฟนที่ดีอะไร เเต่เราไม่เคยคิดจะเลิกกะเค้าเลย คบกันโดยมีความเชื่อที่ว่าสักวันมันต้องดีกว่านี้ ก็คิดไปตามภาษาเด็กๆ 555 จนสุดท้าย 1 เดือนก่อนที่เราจะไปฝึกงานต่างประเทศ เขาแอบคุยกะเเฟนเก่า เราจับได้เเบบเต็มๆ ตอนนั้นโกรธมาก เสียใจ หงุดหงิด ทุกอารมมาครบหมด ทำอะไรไม่ถูก พอถามเค้าว่าทำไมทำแบบนี้ เค้าบอกเค้าไม่รู้ เรากะโวยวายใหญ่ ผ่านไป หลายชั่วโมงเราเริ่มเข้าใจเเล้วว่า ทั้งหมดมันเป็นเพราะเราเองทำให้เขาอึดอัดกะเรามากเกินไป เราขอโอกาส ที่จะเป็นเเฟนที่ดีอีกครั้ง ซึ่งเขากะตกลงยอมให้โอกาสเราเเก้ตัว โดยเราขอว่า เลิกคุยกะคนนั้นได้มั้ย เขาตอบมาว่าได้ เเต่ เรากะจับได้ว่าเขาแอบคุยกันอีก2ครั้ง เรากะขอโอกาสเขามาเรื่อย จนกระทั่งเราต้องไปต่างประเทศจริงๆ เขากะไปส่งเราที่สนามบินพร้อมกับครอบครัวของเรา หลังจากไปถึง...( คือบอกว่าถ้าไปเเล้วไม่ไหวจะเลิกเราเข้าใจ เเต่เเมร่งเล่นมีเตรียมเอาไว้ก่อนไปอีก55 เราเเค่อยากเห็นว่าเค้าจะตัดสินใจที่จะสู้ไปกะเรามั้ย)
เราเริ่มปรับตัวกะที่ใหม่ๆทันที เเล้วก็หาอินเทอร์เนตทันที เพื่อที่จะต่อไลน์ หรือ เฟส โทรหาเค้าทันที ซึ่งกะทำสำเร็จ เราพยามสุดชีวิตที่จะหาเนตเเละเวลาโทรมาหาเขาที่ไทย (เวลาต่างกันมาก) ประมานหนึ่งอาทิตย์ เขาบอกว่า ไม่มีเราเเล้วเขาสบายใจกว่า จะใช้เงินทำอะไรไปไหนกะได้ สุดท้ายขอเลิกกะเรา เราทำทุกอย่างทุกวิธีเพื่อรั้งเขาไว้ เเน่นอนว่ามันไม่สำเร็จ เรื่องความรักเราสองคนจบลงเเค่นั้น
เราพบคนใหม่ที่เขาทำให้เราสบายใจ ดูเเลเราทุกอย่าง เป็นคนที่ทำอาหารให้เราทุกมื้อใส่ใจเราทุกอย่าง สอนเราใรสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เราเหมือนพบโลกอีกใบที่มันซ่อนอยู่ในตัวของคนคนนึง ซึ่งมันสวยงามมากเเละเเตกต่างกะโลกใบอื่นที่เราเคยเห็น เรากะเริ่มดีขึ้นจากการดูเเลของเขา จากการที่เขาใส่ใจเรา จากที่เราเคยเป็นผู้ให้ เรากลายเป็นผู้รับจนเราทำตัวไม่ถูก ว่าถ้ามีคนมาทำดีกะเราขนาดนี้เราจะทำไงดี เราหลงเขาเเล้วเต็มๆ เราทำงานที่เดียวกันพักที่เดียวกัน อยู่ด้วยกันทุกเวลา เราเรียนรู้กันเเละกันจนที่สุดเราใช้คำว่าเเฟนกะคนคนนี้ได้ เค้าไม่ได้ดูดีมากมายเเต่เรียบง่าย เวลาผ่านไม่กี่เดือน เรามีความรักครั้งใหม่ เเต่ยอมรับว่าบางครั้งเรายังห่วงคนเก่าอยู่ เราไม่ติดต่อกันอีกเลย ไม่รู้เลยว่าชีวิตเขาเป็นยังไงที่ไม่มีเรา ส่วนเราเคยคิดถึงเขา เเต่เรากะคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกทิ้ง บางทีจะห่วงเค้าทำไม เรารู้ว่าเรื่องของเรามันกลับไปเปนเหมือนเดิมไม่ได้อีกเเล้ว เราจึงรีบอยากก้าวผ่านไป ผ่านไปจนหมดโควต้า ถึงเรากลับไทย เราผ่านการฝึกงาน จากทั้งสองที่เรียบร้อย เราเรียนจบเเล้ว
เราได้กลับมาไทยเเล้วพร้อมกะเเฟนใหม่ของเรา(เป็นคนไทยเหมือนกัน เราชอบคนต่างชาตินะจริงๆ เเต่เราคิดว่าคนไทยสื่อสารกันได้ดีกว่าเวลาที่เราต้องการใคร มันรู้สึกถึงได้มากกว่า สำหรับเรานะ) เราเริ่มหางานทันทีตามที่วางแผนเอาไว้ เราเเละเเฟนเราหางานได้ไวมากๆ เราใช้เวลาประมาน20วันหลังจากกลับมาในการหางาน ตอนนี้เราทำงานในกรุงเทพ พร้อมกับเรียนโทไปด้วย มีประสบการทำงานมากพอที่มหาลัยจะรับเข้าเรียนเเล้ว เราใช้ชีวิตกะเเฟนคนนี้ทุกอย่างราบรื่นดี เเต่มีปากเสียงบ้างเพราะที่ไทยมีเรื่องให้เครียดมากกว่า เราทั้งคู่มีความเครียดเพิ่มขึ้นจนถึงตอนนี้ เราโอเครกันดีอยู่ เรามีเป้าหมายใหม่ หัวใจใหม่ ชีวิตใหม่ จนกระทั่ง
เพื่อนเราคนนึงโทรมาขายตรง ซึ่งก่อนหน้านี้ มันได้โทรไปขายกะเเฟนเก่าเราเเล้ว ด้วยความเป็นเพื่อนเรากะถามความเป็นไปปกติ จนเราได้รู้เรื่องเเฟนเก่าเราที่กำลังลำบาก ตกงาน ใจเราที่ได้ยินแบบนั้นก็กระวนกระวายขึ้นมา รู้สึกเป็นห่วงแปลกๆ อยากเเน่ใจว่าเค้าจะโอเค เเต่คือเราตั้งใจไว้เเล้วว่า จะไม่ติดต่อกะคนเก่าอีก เพราะเราไม่อยากทำผิดกับคนใหม่ เราเลิกคิดได้พักนึงเเต่เราก็กลับมาคิดใหม่ จนตอนนี้เราไม่เเน่ใจเเล้วว่าสิ่งที่เราเป็นคืออะไร เรายังรักคนเก่าหรือป่าว? เราตั้งกระทู้เเรกขึ้นมาเพราะพูดเรื่องนี้กะใครไม่ได้ มันอาจจะดูแบบ เรื่องเเค่นี้เองทำไมเราคิดไม่ได้ เเต่เราเริ่มไม่เเน่ใจว่าสิ่งที่เราคิดไว้ มันถูกจริงๆ
เราอยากรู้ว่าสิ่งที่เราเป็นตอนนี้ คือ เรายังตัดใจไม่ได้หรอ เรารู้สึกว่าเราพยามดูเเล คนคนนี้มาเกือบ4ปี น้ำตาเราไหลออกมาเกือบทุกครั้งที่เราคิดว่า เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง เเต่เราหนักเเน่นมาก ว่าจะไม่ทิ้งใคร เพื่อกลับไปหาคนเก่า เเละใจเรารู้สึกว่าเรารักคนปัจจุบันมากจริงๆ
คำถามคือ
1 เรายังติดใจไม่ได้หรอ
2 ทำไมเรายังรู้สึกเป็นห่วงอยู่ มันเป็นปกติหรือป่าว
ปล.เราไม่อยากให้โฟกัสเรื่องใครผิดใครถูก ใครดีไม่ดียังไงนะ เราอยากรู้สิ่งที่เราเป็นตอนนี้ เราอยากอ่าน อยากฟังคนที่มีเรื่องราวคล้ายๆเรา