ผมฟังเขาพูดบ่อยเลยครับ หลายครั้งไม่ได้จะฟังหาสาระอะไรหรอก แต่ฟังเพื่อที่จะฟังภาษาฝรั่งเศสโดยเฉพาะ
ภาษาฝรั่งเศส โดยปกติก็ไพเราะอยู่แล้วครับ ไม่ว่าใครพูด หมายถึงเจ้าของภาษากับคนต่างชาติที่เก่งภาษาฝรั่งเศสอะ แต่มันก็จะมีคนอีกจำนวนมาก ที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างที่ไพเราะเป็นพิเศษ ซึ่งประธานาธิบดีมาครงคือหนึ่งในนั้น
แล้วมันถือว่ายอดเยี่ยม ตรงที่ว่าเขาเป็นบุคคลสาธารณะ ทำให้มันมีตัวอย่างมาเผยแพร่ต่อได้ เพราะว่ามีอีกหลายกรณีอย่างมาก ที่ผมเผยแพร่ต่อไม่ได้ ทั้งที่ผู้ที่พูดหลายคนนั้น พูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างที่ไพเราะยิ่งกว่านี้อีก เนื่องจากเจ้าตัวไม่ใช่บุคคลสาธารณะครับ
วิดีโอนี้จากท่านประธานาธิบดี ตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับการต้อนรับปีใหม่ ลองฟังดูครับ
สำหรับภาษาฝรั่งเศสนั้น ถ้านอกเหนือจากความไพเราะและความสวยงาม โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันยังมีพลังอยู่ที่ตัวของมันเองอีกด้วย เพราะว่ามันสามารถถูกใช้ได้ที่ " ประเทศฝรั่งเศส " ซึ่งเป็นประเทศที่โดดเด่นทั้งทางด้านศิลปะและทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ ตลอดรวมจนถึงธรรมชาติ แล้วอีกเหตุผลก็คือ มันมีจำนวนของประชากรที่ไม่ได้น้อยเลย รู้สึกว่าล่าสุด น่าจะเกิน 67,000,000 คนเรียบร้อยแล้ว พิจารณายังไงก็คุ้ม
แล้วการที่มันยังถูกใช้ได้ที่หลายจังหวัดของ " ประเทศแคนาดา " โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือที่จังหวัด Québec หรือ Quebec ซึ่งถึงแม้ว่าจะเรียกว่าจังหวัด แต่ว่าขนาดของมันเนี่ย ใหญ่จนเป็นประเทศหนึ่งได้อะ งงอย่างมาก อันนี้ก็เปิดโลกให้แก่ผมไม่น้อย เพราะว่ามันทำให้ได้รู้ ว่าถึงแม้ว่าประเทศนี้ มันจะหนาวขนาดนั้น แต่ เฮ้ย มันมีสิ่งที่ดีในจำนวนที่เยอะเหมือนกันนะเนี่ย
นอกจากนั้น อีกหลายประเทศและอาณาเขต จากทวีปยุโรปด้วยกันเอง, จากทวีปแอฟริกาเหนือที่อยู่ใกล้ๆๆๆ, จากทวีปแอฟริกา, จากทวีปอเมริกากลาง, จากทวีปอเมริกาใต้, และจากมหาสมุทรแปซิฟิก ภาษานี้ถูกใช้ที่นั่นได้ทั้งหมด จึงถือได้ว่าเป็นภาษาที่กิน " ความหลากหลาย " ซึ่งอันนี้มันก็สำคัญ ที่มันไม่ได้ถูกเจาะใช้อยู่ที่เฉพาะประเทศเดียวหรือที่เฉพาะกลุ่มของประเทศที่เป็นแนวเดียวกัน
อีกทั้งยังควรที่จะคำนึงถึง " พลังที่แฝง " อีกด้วยครับ ซึ่งก็หมายถึง คนต่างชาติที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเทศฝรั่งเศสอย่างที่โดยตรงยังไงล่ะ เช่น คนอังกฤษ, คนอิตาลี, คนรัสเซีย, หรือแม้แต่คนไทย ที่พูดและเขียนภาษาฝรั่งเศสได้ เพราะว่าชอบประเทศฝรั่งเศสและหรือภาษาฝรั่งเศส ซึ่งรวมกันแล้ว ก็มีในจำนวนที่เยอะอีก มันก็ยิ่งเพิ่มความหลากหลาย
" ภาษาฝรั่งเศส " ของประธานาธิบดี Macron เนี่ย ไพเราะอย่างมากเลยนะครับ ชอบเหมือนกันไหม
ภาษาฝรั่งเศส โดยปกติก็ไพเราะอยู่แล้วครับ ไม่ว่าใครพูด หมายถึงเจ้าของภาษากับคนต่างชาติที่เก่งภาษาฝรั่งเศสอะ แต่มันก็จะมีคนอีกจำนวนมาก ที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างที่ไพเราะเป็นพิเศษ ซึ่งประธานาธิบดีมาครงคือหนึ่งในนั้น
แล้วมันถือว่ายอดเยี่ยม ตรงที่ว่าเขาเป็นบุคคลสาธารณะ ทำให้มันมีตัวอย่างมาเผยแพร่ต่อได้ เพราะว่ามีอีกหลายกรณีอย่างมาก ที่ผมเผยแพร่ต่อไม่ได้ ทั้งที่ผู้ที่พูดหลายคนนั้น พูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างที่ไพเราะยิ่งกว่านี้อีก เนื่องจากเจ้าตัวไม่ใช่บุคคลสาธารณะครับ
วิดีโอนี้จากท่านประธานาธิบดี ตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับการต้อนรับปีใหม่ ลองฟังดูครับ
สำหรับภาษาฝรั่งเศสนั้น ถ้านอกเหนือจากความไพเราะและความสวยงาม โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันยังมีพลังอยู่ที่ตัวของมันเองอีกด้วย เพราะว่ามันสามารถถูกใช้ได้ที่ " ประเทศฝรั่งเศส " ซึ่งเป็นประเทศที่โดดเด่นทั้งทางด้านศิลปะและทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ ตลอดรวมจนถึงธรรมชาติ แล้วอีกเหตุผลก็คือ มันมีจำนวนของประชากรที่ไม่ได้น้อยเลย รู้สึกว่าล่าสุด น่าจะเกิน 67,000,000 คนเรียบร้อยแล้ว พิจารณายังไงก็คุ้ม
แล้วการที่มันยังถูกใช้ได้ที่หลายจังหวัดของ " ประเทศแคนาดา " โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือที่จังหวัด Québec หรือ Quebec ซึ่งถึงแม้ว่าจะเรียกว่าจังหวัด แต่ว่าขนาดของมันเนี่ย ใหญ่จนเป็นประเทศหนึ่งได้อะ งงอย่างมาก อันนี้ก็เปิดโลกให้แก่ผมไม่น้อย เพราะว่ามันทำให้ได้รู้ ว่าถึงแม้ว่าประเทศนี้ มันจะหนาวขนาดนั้น แต่ เฮ้ย มันมีสิ่งที่ดีในจำนวนที่เยอะเหมือนกันนะเนี่ย
นอกจากนั้น อีกหลายประเทศและอาณาเขต จากทวีปยุโรปด้วยกันเอง, จากทวีปแอฟริกาเหนือที่อยู่ใกล้ๆๆๆ, จากทวีปแอฟริกา, จากทวีปอเมริกากลาง, จากทวีปอเมริกาใต้, และจากมหาสมุทรแปซิฟิก ภาษานี้ถูกใช้ที่นั่นได้ทั้งหมด จึงถือได้ว่าเป็นภาษาที่กิน " ความหลากหลาย " ซึ่งอันนี้มันก็สำคัญ ที่มันไม่ได้ถูกเจาะใช้อยู่ที่เฉพาะประเทศเดียวหรือที่เฉพาะกลุ่มของประเทศที่เป็นแนวเดียวกัน
อีกทั้งยังควรที่จะคำนึงถึง " พลังที่แฝง " อีกด้วยครับ ซึ่งก็หมายถึง คนต่างชาติที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเทศฝรั่งเศสอย่างที่โดยตรงยังไงล่ะ เช่น คนอังกฤษ, คนอิตาลี, คนรัสเซีย, หรือแม้แต่คนไทย ที่พูดและเขียนภาษาฝรั่งเศสได้ เพราะว่าชอบประเทศฝรั่งเศสและหรือภาษาฝรั่งเศส ซึ่งรวมกันแล้ว ก็มีในจำนวนที่เยอะอีก มันก็ยิ่งเพิ่มความหลากหลาย