[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมอาจจะพิมพ์ได้ถูกไม่หมด แต่มันมีประโยคที่ผมชอบ คือ
เนย : "การทำในสิ่งที่รัก พาเรามาได้ไกลถึงเพียงนี้"
แก้ว : ฉากที่ไข่มุกถามว่าถ้าไปติดอยู่ที่ดวงจันทร์คนเดียวแล้วเลือกเอาอะไรไปได้ จะพาอะไรไป
แก้วตอบว่า "พี่ไม่อยากเอาอะไรไปเลย พี่เหนื่อย" > นี่คือคำพูดที่สื่อถึงการปล่อยวางครับ ยอดเยี่ยมเลย
สำหรับตัวหนัง ที่ผมเจอปัญหากับหนังไทยหลายเรื่องคือการตัดต่อ การไม่ปะติดปะต่อ การขาดเหตที่สนับสนุนผล
การขาดหายไปของฉากเล็กๆ แต่ทำให้มันสมบูรณ์ได้มากขึ้น
ไม่ใช่แต่กับหนังเรื่องนี้ แต่หลายๆเรื่องก็เป็นอารมณ์เหมือนดูหนังที่มีการตัดฉากออกไปหลายส่วน จนน่าขัดใจ
ยกตัวอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช่นฉากปาร์ตี้ที่จาลอดมาร้องเพลงกับน้องๆ แล้วครูแก้วมาตาม
ถ้าเพิ่มฉากที่ครูแก้วอยู่บ้าน โทรไปแล้วจาลอดไม่รับ นั่งกระวนกระวายดูเวลา ว่าดึกแล้ว จึงเดินออกมาตามด้วยอาการเซ็งๆจะดีมาก
การที่คอนเปิดตัวเพลงถูกยกเลิกแล้วถูกกลับมาให้จัดใหม่
คือการขาดหายไปของการเดินทางเข้ากรุงครั้งที่ 2 ของจาลอดและมืดเพื่อมาเป็นกำลังใจให้น้องๆ
ความประทับใจส่วนตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พล๊อตเรื่องดีอยู่ แต่ขาดความละเอียดในการเล่าเรื่อง การได้เห็นน้องๆในจอใหญ่ๆคือมีความสุข
ชอบตอนที่น้องๆมาแอบฟังพี่ก้องแต่งเพลงช้า อารมณ์ตอนนั้นบอกได้เลยว่า น้องๆกับพี่ก้องน่ารักจัง
ชอบตอนทีมไทบ้านสอนภาษา อิสาน และ ทีม bnk สอนภาษาญี่ปุ่น
ชอบคุกกี้ภาษาอิสาน
ก่อนน้ำหนึ่งจะอ้วกสีหน้าน้องได้จริงๆว่ากำลังไม่สบาย
ฉากที่น้องๆแยกกันไปเที่ยวหลังโปรเจคเพลงถูกยกเลิกแล้ววีดีโอคอลหากัน มันเป็นจิตนาการถึงช่วงเวลาที่วงปิดตัวลงได้ระดับหนึ่ง
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
ประโยคใดในหนัง ไทบ้าน x BNK48 ที่ทำให้คุณประทับใจ (มีสปอย)
สำหรับตัวหนัง ที่ผมเจอปัญหากับหนังไทยหลายเรื่องคือการตัดต่อ การไม่ปะติดปะต่อ การขาดเหตที่สนับสนุนผล
การขาดหายไปของฉากเล็กๆ แต่ทำให้มันสมบูรณ์ได้มากขึ้น
ไม่ใช่แต่กับหนังเรื่องนี้ แต่หลายๆเรื่องก็เป็นอารมณ์เหมือนดูหนังที่มีการตัดฉากออกไปหลายส่วน จนน่าขัดใจ
ยกตัวอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความประทับใจส่วนตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้