https://www.share2trade.com/index.php?mod=news&file=view&id=5358
PSTC ประเดิมศักราชใหม่คว้างาน "โครงการซื้อขายผลิตภัณฑ์พลังงาน" จากปตท.รายแรก มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท ส่งบริษัทย่อย"พีเอสทีเพาเวอร์" เป็นผู้ติดตั้งระบบผลิตพลังงานจาก LNGในโรงงานผลิตอาหาร พร้อมกับจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ตลอดอายุสัญญา 10 ปี ต่อสัญญาได้อีก 5 ปี ประเมินอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 10% ด้าน "ดร.พระนาย กังวาลรัตน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุโครงการผลิตภัณฑ์พลังงานจะช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคต และตั้งเป้าสร้างรายได้ 300-500 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LNG ปักหมุดรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท หนุนการเติบโตยั่งยืน
ดร.พระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่า บริษัทได้รับสัญญาว่าจ้างและสั่งซื้อจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ภายใต้ชื่อโครงการว่า "โครงการซื้อขายผลิตภัณฑ์พลังงาน" มูลค่า 250 ล้านบาท โดยจะการนำเอาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตอาหาร ร่วมกับการผลิตไฟฟ้าจากความร้อน และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Roof โดยได้ความเย็นเป็นของแถมจากก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ซึ่งจะดำเนินการบนพื้นที่ของ บริษัทศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด จำกัด
ทั้งนี้ PTT เป็นผู้ริเริ่มโครงการดังกล่าว เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลังงานให้กับลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานความร้อนและความเย็นในกระบวนการผลิต โดยกิจการร่วมค้า พีเอสทีเพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้นโดย PSTC สัดส่วน 100% ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง จัดหาระบบควบคู่กับการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว LNG โดยมีอายุสัญญา 10 ปี ซึ่งมูลค่าโครงการตลอดอายุสัญญา 250 ล้านบาท ทั้งนี้สามารถต่อสัญญาออกไปได้อีก 5 ปี ซึ่งหากนับรวม 15 ปี และมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 350 ล้านบาท
สำหรับโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการแรกของประเทศที่ทาง ปตท. ได้ริเริ่ม และมอบความไว้วางใจให้ทาง PSTC และบริษัทในเครือ เป็นผู้จัดหา ออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินการบริหารระบบดังกล่าวนี้ให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานความร้อนในการกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ควบคู่กับการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และพลังงานที่ใช้ในกระบวนการผลิตทั้งความร้อน และความเย็น ส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานของการผลิตสินค้าจะลดลงไปกว่า 10%
รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการแข่งขันให้กับโรงงานผู้ผลิตให้มีประสิทธิภาพที่โดดเด่นมากขึ้น ทั้งยังสามารถลดการสูญเสียพลังงานที่เหลือใช้มาต่อยอดในการผลิตไฟฟ้า และความร้อนและความเย็น
"การที่บริษัทฯได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ติดตั้งระบบโครงการซื้อขายผลิตภัณฑ์พลังงานของ ปตท. ถือว่าเป็นครั้งแรกของความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ และสะท้อนให้เห็นว่าเรามีความเชี่ยวชาญด้าน Engineering จึงได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้ และทาง PSTC หวังว่าจะช่วยหนุนและต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้จากการขาย "ผลิตภัณฑ์พลังงาน" ให้ได้ประมาณปีละ 300-500 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติเหลว LNG อีกปีละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ระยะยาวให้กับบริษัทฯ ต่อไป"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน PSTC กำลังอยู่ในระหว่างการนำเสนอโครงการ "ผลิตภัณฑ์พลังงาน" ให้กับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมอีกหลายราย โดยตั้งเป้าหมายหลักเป็นลูกค้ากลุ่มที่ใช้น้ำมันเตา และก๊าซ LPG ในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิต และยังแก้ปัญหาเรื่องมลภาวะฝุ่น pm 2.5 ที่เป็นปัญหาระยะยาวของประเทศได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 20% จากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจทุกกลุ่มมีสัญญาณที่ดี รวมทั้งมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ในส่วนของธุรกิจพลังงานไว้แล้วกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง
PSTC คว้าโปรเจค เทรดผลิตภัณฑ์พลังงานจากปตท.
PSTC ประเดิมศักราชใหม่คว้างาน "โครงการซื้อขายผลิตภัณฑ์พลังงาน" จากปตท.รายแรก มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท ส่งบริษัทย่อย"พีเอสทีเพาเวอร์" เป็นผู้ติดตั้งระบบผลิตพลังงานจาก LNGในโรงงานผลิตอาหาร พร้อมกับจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ตลอดอายุสัญญา 10 ปี ต่อสัญญาได้อีก 5 ปี ประเมินอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 10% ด้าน "ดร.พระนาย กังวาลรัตน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุโครงการผลิตภัณฑ์พลังงานจะช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคต และตั้งเป้าสร้างรายได้ 300-500 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LNG ปักหมุดรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท หนุนการเติบโตยั่งยืน
ดร.พระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่า บริษัทได้รับสัญญาว่าจ้างและสั่งซื้อจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ภายใต้ชื่อโครงการว่า "โครงการซื้อขายผลิตภัณฑ์พลังงาน" มูลค่า 250 ล้านบาท โดยจะการนำเอาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตอาหาร ร่วมกับการผลิตไฟฟ้าจากความร้อน และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Roof โดยได้ความเย็นเป็นของแถมจากก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ซึ่งจะดำเนินการบนพื้นที่ของ บริษัทศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด จำกัด
ทั้งนี้ PTT เป็นผู้ริเริ่มโครงการดังกล่าว เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลังงานให้กับลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานความร้อนและความเย็นในกระบวนการผลิต โดยกิจการร่วมค้า พีเอสทีเพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้นโดย PSTC สัดส่วน 100% ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง จัดหาระบบควบคู่กับการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว LNG โดยมีอายุสัญญา 10 ปี ซึ่งมูลค่าโครงการตลอดอายุสัญญา 250 ล้านบาท ทั้งนี้สามารถต่อสัญญาออกไปได้อีก 5 ปี ซึ่งหากนับรวม 15 ปี และมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 350 ล้านบาท
สำหรับโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการแรกของประเทศที่ทาง ปตท. ได้ริเริ่ม และมอบความไว้วางใจให้ทาง PSTC และบริษัทในเครือ เป็นผู้จัดหา ออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินการบริหารระบบดังกล่าวนี้ให้กับลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานความร้อนในการกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ควบคู่กับการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และพลังงานที่ใช้ในกระบวนการผลิตทั้งความร้อน และความเย็น ส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานของการผลิตสินค้าจะลดลงไปกว่า 10%
รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการแข่งขันให้กับโรงงานผู้ผลิตให้มีประสิทธิภาพที่โดดเด่นมากขึ้น ทั้งยังสามารถลดการสูญเสียพลังงานที่เหลือใช้มาต่อยอดในการผลิตไฟฟ้า และความร้อนและความเย็น
"การที่บริษัทฯได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ติดตั้งระบบโครงการซื้อขายผลิตภัณฑ์พลังงานของ ปตท. ถือว่าเป็นครั้งแรกของความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ และสะท้อนให้เห็นว่าเรามีความเชี่ยวชาญด้าน Engineering จึงได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้ และทาง PSTC หวังว่าจะช่วยหนุนและต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้จากการขาย "ผลิตภัณฑ์พลังงาน" ให้ได้ประมาณปีละ 300-500 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติเหลว LNG อีกปีละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ระยะยาวให้กับบริษัทฯ ต่อไป"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน PSTC กำลังอยู่ในระหว่างการนำเสนอโครงการ "ผลิตภัณฑ์พลังงาน" ให้กับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมอีกหลายราย โดยตั้งเป้าหมายหลักเป็นลูกค้ากลุ่มที่ใช้น้ำมันเตา และก๊าซ LPG ในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิต และยังแก้ปัญหาเรื่องมลภาวะฝุ่น pm 2.5 ที่เป็นปัญหาระยะยาวของประเทศได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 20% จากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจทุกกลุ่มมีสัญญาณที่ดี รวมทั้งมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ในส่วนของธุรกิจพลังงานไว้แล้วกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง