ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (สุรศักดิ์ ป้องศร, ธิติ ศรีนวล / 2020)
SCORE : 7/10
เมื่อกระแสดนตรีเปลี่ยนทาง เพลงหมอลำลูกทุ่งอีสานครองตลาดจนทำให้ BNK48 ต้องปรับตัวด้วยการเปิดโปรเจกต์ลับไปทำเพลงกับ ก้อง ห้วยไร่ ถึงจังหวัดศรีสะเกษ เนย, โมบายล์, แก้ว, ตาหวาน, น้ำหนึ่ง, น้ำใส, ปูเป้ และไข่มุก จึงต้องปรับตัวเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมไทบ้านโดยมี จาลอด ออนเดอะร๊อค มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงด้วยอีกแรง เมื่อความน่ารักสดใสของสาวไอดอลมาเจอกับความซื่อความม่วนซื่นแบบโลคอล ภารกิจดนตรีนี้จึงนำพามิตรภาพแสนชุลมุนที่อบอุ่นจนฝุ่นตลบจากอีสานให้คนดูได้เบิกบานกันทั่วไทย
.
ต้องออกตัวก่อนว่าเป็นคนที่ชอบจักรวาลหนังไทบ้านมากๆ เรียกว่าเป็นแฟนคลับเลยก็ได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นแฟนของวงไอดอล BNK48 เช่นเดียวกัน เพราะงั้นรีวิวนี้จะเขียนแบบไม่อวยอะไรเป็นพิเศษแน่นอน (เกริ่นให้ฟังเฉยๆ ว่าเราตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เขาต้องการขายหนังให้ดูนะ เพราะงั้นไม่ด่าแบบไม่มีเหตุผลแน่นอน)
.
เป็นหนังที่เหนือความคาดหมายมากๆ (ในแง่ที่ชอบและไม่ชอบ) เราค้นพบว่าหนังเรื่องนี้มีโครงสร้างบทภาพยนตร์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานของหนังไทบ้านมากๆ ด้วยเหตุผลที่ตัวหนังต้องรองรับในการนำเสนอ BNK48 เลยทำให้การเล่าเรื่องมันดรอปไปเยอะมาก เส้นเรื่องและความสัมพันธ์ของมันคือแทบไม่เหลือเลย กลายเป็นหนังที่มุ่งเน้นการเล่าเรื่องไปที่ BNK48 เป็นหลัก ซึ่งเหมือนจะดี แต่ในขณะเดียวกัน การให้น้ำหนักแต่ละตัวละครก็ไม่เท่าเทียม เรียกว่าโดดเด่นจริงๆ มีเพียงตัวละครเดียวเลยด้วยซ้ำ (ในกรุ๊ป BNK48) มันเลยทำให้น่าเสียดายมากๆ เพราะจุดขายหลักของหนังไทบ้านสำหรับเรามันคือความบ้านๆ ซึ่งอันนี้ตัวหนังทำได้ดีเหมือนเดิม แต่พาร์ทความสัมพันธ์ของตัวละครดรอปหายไม่เหลือเลย
.
เราค้นพบว่าบรรดาตัวละครไทบ้านยังคงเป็นสิ่งที่น่าประทับใจสำหรับเราเสมอ ทั้งในแง่ของการแสดงและการรักษาคาแรคเตอร์เอาไว้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีและอยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ การกลับมาในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการกลับมาเพื่อให้แฟนๆ หายคิดถึง (ยอมรับตรงๆ เลยว่าคิดถึงมาก และพร้อมจะรอคอยภาคต่อเสมอ) แต่ในขณะเดียวกัน น้ำหนักในส่วนของตัวละครไทบ้านก็อาจจะเป็นสิ่งที่แฟนๆ BNK48 ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เช่นเดียวกัน (ถ้าดูเพราะ BNK48 นะ) ความตลกของหนัง 98% มาจากแก๊งไทบ้านจริงๆ ส่วนความน่ารักอีก 100% มาจาก BNK48
.
ในความบ้านๆ ของหนัง ก็ยังมีสิ่งที่น่าประทับใจอยู่ (ในแง่ของแฟนหนังไทบ้านนะ) ตัวหนังมีการพัฒนาด้านงานภาพและโปรดัคชั่นขึ้นอย่างชัดเจน การถ่ายทำและเทคนิคต่างๆ น่าสนใจและทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งเราสามารถการันตีได้เลย ว่านี่คือมาตรฐานของหนังแมส ตจว. ที่ดีในแง่โปรดัคชั่นมากๆ แต่สิ่งที่เราเกลียดมากๆ คือการ Hard sale ของหนังเรื่องนี้ มันถูกนำเสนอมาได้น่าเกลียดและน่ารำคาญแบบสุดกู่ (เราไม่โทษในส่วนของการกำกับ, บท หรือลูกค้าที่เป็นสปอนของหนังเรื่องนี้นะ เพราะมันเป็นความไม่ชอบส่วนตัวของเราเท่านั้น) ถ้าเราจำไม่ผิด ไทบ้านในภาคก่อนๆ ก็มีสปอน และมันก็ไม่เคย Hard Sale แบบนี้ ถ้ามีโอกาสในการขายสินค้าในหนังเรื่องต่อไปอีก อย่าทำแบบนี้เลย เราขอร้อง
.
การแสดงของสาวๆ BNK48 คือสิ่งที่เราไม่สามารถบอกได้ 100% ว่าดีหรือไม่ดี ส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับคือบทภายในเรื่องแต่ละตัวละครมันไม่เท่ากัน ชนิดว่าห่างกันเยอะมาก บางครั้งก็ดูน่ารำคาญไปเลยสำหรับเราก็มี (ประเด็นคือซีนที่น่ารำคาญ ตัวละครที่ทำให้เรารำคาญดันเป็นโอชิของเราด้วยนี่สิ) ทั้งนี้ทั้งนั้น 1 ในนักแสดงที่น่าจับตามองและน่าจดจำอีกทั้งยังช่วยการันตีได้ว่าสาวๆ BNK48 สามารถเป็นนักแสดงได้จริงๆ (เณอปรางทำมาแล้วใน Homestay, อรทำมาแล้วใน App War, มิวสิค เจนนิส ทำมาแล้วใน Where We Belong, ปัญ จูเน่ น้ำใส และอีกหลายคนก็ทำมาแล้วใน ONEYEARtheseries) คือ เนย ต้องยอมรับจริงๆ ว่าการแสดงของเนยคือสิ่งที่ชวนให้หลงรักเป็นอย่างมาก ยกตำแหน่ง MVP ให้กับเนยเลยครับ (คามิโอชิเนยเตรียมทิชชู่ไปหน่อยก็ดีนะ) ส่วนจ๊อบซังคือตัวละครที่เราไม่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว (เราขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่จ๊อบซังไม่มีความหมายสำหรับเราในหนังเรื่องนี้จริงๆ ทั้งในแง่ของการแสดงที่แข็งจนไม่แน่ใจว่าปกติเป็นคนแบบนี้ไหม และบทที่ดูไม่สำคัญกับเรื่องเท่าไหร่เลย)
.
ท่ามกลางบทภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลในแง่ของการเล่าเรื่อง สิ่งหนึ่งที่แข็งแรงมากๆ และทำให้รู้สึกว่าการเอา BNK48 มาเล่นแล้วเหมาะสมสุดๆ คือแก่นของเรื่อง ตัวหนังมีการพูดถึงประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวและความแตกต่างของชีวิต ทั้งในแง่ของการเป็นเด็กในเมืองกรุง ที่ต้องพบเจอสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นชิน, ความพยายาม ความตั้งใจ บนความฝัน หยาดเหงื่อและหยดน้ำตา ภายใต้คำสอนที่ BNK48 พร่ำบอกมาเสนอคือ “ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ” โดยมีคำพูดหลักของจ๊อบซังอย่าง “ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆ ที่เราต้องเรียนรู้” ช่วยสนับสนุน มันถูกนำเสนอออกมาได้สุดทางมากๆ และทำให้เราหลงรักพาร์ทจบของหนังแบบสุดๆ เราดีใจที่ตัวหนังกล้านำเสนอโดยแหกจากกรอบแถมยังไม่กลัวแฟนๆ ไม่ชอบอีกด้วย ตบมือเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าจุดนี้หากมองลึกๆ ในรายละเอียดจะรู้สึกตะขิดตะขวงอยู่บ้างก็ตามที
.
ในภาพรวม ไทบ้าน x BNK48 เป็นหนังที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือแฟนๆ ไทบ้าน และ แฟนๆ BNK48 ตามชื่อเรื่อง ในขณะเดียวกัน ถ้าใครอยากจะเปิดใจดูหนังในตระกูลไทบ้าน นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ถึงแม้ว่าบาดแผลมันจะเยอะ แต่มันก็มอบความบันเทิงให้เราได้เยอะเช่นเดียวกัน แถมแก่นของมันก็แข็งแรงอีก เพราะงั้นถึงมันจะไม่ได้ดีมากมาย แต่มันก็ไม่ได้แย่ และ เนย ก็เป็น MVP ที่ใครคามิโอชิไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลทั้งปวงเลย .
[SR] Movie Review : ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (7/10)
SCORE : 7/10
เมื่อกระแสดนตรีเปลี่ยนทาง เพลงหมอลำลูกทุ่งอีสานครองตลาดจนทำให้ BNK48 ต้องปรับตัวด้วยการเปิดโปรเจกต์ลับไปทำเพลงกับ ก้อง ห้วยไร่ ถึงจังหวัดศรีสะเกษ เนย, โมบายล์, แก้ว, ตาหวาน, น้ำหนึ่ง, น้ำใส, ปูเป้ และไข่มุก จึงต้องปรับตัวเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมไทบ้านโดยมี จาลอด ออนเดอะร๊อค มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงด้วยอีกแรง เมื่อความน่ารักสดใสของสาวไอดอลมาเจอกับความซื่อความม่วนซื่นแบบโลคอล ภารกิจดนตรีนี้จึงนำพามิตรภาพแสนชุลมุนที่อบอุ่นจนฝุ่นตลบจากอีสานให้คนดูได้เบิกบานกันทั่วไทย
.
ต้องออกตัวก่อนว่าเป็นคนที่ชอบจักรวาลหนังไทบ้านมากๆ เรียกว่าเป็นแฟนคลับเลยก็ได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นแฟนของวงไอดอล BNK48 เช่นเดียวกัน เพราะงั้นรีวิวนี้จะเขียนแบบไม่อวยอะไรเป็นพิเศษแน่นอน (เกริ่นให้ฟังเฉยๆ ว่าเราตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เขาต้องการขายหนังให้ดูนะ เพราะงั้นไม่ด่าแบบไม่มีเหตุผลแน่นอน)
.
เป็นหนังที่เหนือความคาดหมายมากๆ (ในแง่ที่ชอบและไม่ชอบ) เราค้นพบว่าหนังเรื่องนี้มีโครงสร้างบทภาพยนตร์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานของหนังไทบ้านมากๆ ด้วยเหตุผลที่ตัวหนังต้องรองรับในการนำเสนอ BNK48 เลยทำให้การเล่าเรื่องมันดรอปไปเยอะมาก เส้นเรื่องและความสัมพันธ์ของมันคือแทบไม่เหลือเลย กลายเป็นหนังที่มุ่งเน้นการเล่าเรื่องไปที่ BNK48 เป็นหลัก ซึ่งเหมือนจะดี แต่ในขณะเดียวกัน การให้น้ำหนักแต่ละตัวละครก็ไม่เท่าเทียม เรียกว่าโดดเด่นจริงๆ มีเพียงตัวละครเดียวเลยด้วยซ้ำ (ในกรุ๊ป BNK48) มันเลยทำให้น่าเสียดายมากๆ เพราะจุดขายหลักของหนังไทบ้านสำหรับเรามันคือความบ้านๆ ซึ่งอันนี้ตัวหนังทำได้ดีเหมือนเดิม แต่พาร์ทความสัมพันธ์ของตัวละครดรอปหายไม่เหลือเลย
.
เราค้นพบว่าบรรดาตัวละครไทบ้านยังคงเป็นสิ่งที่น่าประทับใจสำหรับเราเสมอ ทั้งในแง่ของการแสดงและการรักษาคาแรคเตอร์เอาไว้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีและอยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ การกลับมาในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการกลับมาเพื่อให้แฟนๆ หายคิดถึง (ยอมรับตรงๆ เลยว่าคิดถึงมาก และพร้อมจะรอคอยภาคต่อเสมอ) แต่ในขณะเดียวกัน น้ำหนักในส่วนของตัวละครไทบ้านก็อาจจะเป็นสิ่งที่แฟนๆ BNK48 ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เช่นเดียวกัน (ถ้าดูเพราะ BNK48 นะ) ความตลกของหนัง 98% มาจากแก๊งไทบ้านจริงๆ ส่วนความน่ารักอีก 100% มาจาก BNK48
.
ในความบ้านๆ ของหนัง ก็ยังมีสิ่งที่น่าประทับใจอยู่ (ในแง่ของแฟนหนังไทบ้านนะ) ตัวหนังมีการพัฒนาด้านงานภาพและโปรดัคชั่นขึ้นอย่างชัดเจน การถ่ายทำและเทคนิคต่างๆ น่าสนใจและทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งเราสามารถการันตีได้เลย ว่านี่คือมาตรฐานของหนังแมส ตจว. ที่ดีในแง่โปรดัคชั่นมากๆ แต่สิ่งที่เราเกลียดมากๆ คือการ Hard sale ของหนังเรื่องนี้ มันถูกนำเสนอมาได้น่าเกลียดและน่ารำคาญแบบสุดกู่ (เราไม่โทษในส่วนของการกำกับ, บท หรือลูกค้าที่เป็นสปอนของหนังเรื่องนี้นะ เพราะมันเป็นความไม่ชอบส่วนตัวของเราเท่านั้น) ถ้าเราจำไม่ผิด ไทบ้านในภาคก่อนๆ ก็มีสปอน และมันก็ไม่เคย Hard Sale แบบนี้ ถ้ามีโอกาสในการขายสินค้าในหนังเรื่องต่อไปอีก อย่าทำแบบนี้เลย เราขอร้อง
.
การแสดงของสาวๆ BNK48 คือสิ่งที่เราไม่สามารถบอกได้ 100% ว่าดีหรือไม่ดี ส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับคือบทภายในเรื่องแต่ละตัวละครมันไม่เท่ากัน ชนิดว่าห่างกันเยอะมาก บางครั้งก็ดูน่ารำคาญไปเลยสำหรับเราก็มี (ประเด็นคือซีนที่น่ารำคาญ ตัวละครที่ทำให้เรารำคาญดันเป็นโอชิของเราด้วยนี่สิ) ทั้งนี้ทั้งนั้น 1 ในนักแสดงที่น่าจับตามองและน่าจดจำอีกทั้งยังช่วยการันตีได้ว่าสาวๆ BNK48 สามารถเป็นนักแสดงได้จริงๆ (เณอปรางทำมาแล้วใน Homestay, อรทำมาแล้วใน App War, มิวสิค เจนนิส ทำมาแล้วใน Where We Belong, ปัญ จูเน่ น้ำใส และอีกหลายคนก็ทำมาแล้วใน ONEYEARtheseries) คือ เนย ต้องยอมรับจริงๆ ว่าการแสดงของเนยคือสิ่งที่ชวนให้หลงรักเป็นอย่างมาก ยกตำแหน่ง MVP ให้กับเนยเลยครับ (คามิโอชิเนยเตรียมทิชชู่ไปหน่อยก็ดีนะ) ส่วนจ๊อบซังคือตัวละครที่เราไม่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว (เราขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่จ๊อบซังไม่มีความหมายสำหรับเราในหนังเรื่องนี้จริงๆ ทั้งในแง่ของการแสดงที่แข็งจนไม่แน่ใจว่าปกติเป็นคนแบบนี้ไหม และบทที่ดูไม่สำคัญกับเรื่องเท่าไหร่เลย)
.
ท่ามกลางบทภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลในแง่ของการเล่าเรื่อง สิ่งหนึ่งที่แข็งแรงมากๆ และทำให้รู้สึกว่าการเอา BNK48 มาเล่นแล้วเหมาะสมสุดๆ คือแก่นของเรื่อง ตัวหนังมีการพูดถึงประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวและความแตกต่างของชีวิต ทั้งในแง่ของการเป็นเด็กในเมืองกรุง ที่ต้องพบเจอสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นชิน, ความพยายาม ความตั้งใจ บนความฝัน หยาดเหงื่อและหยดน้ำตา ภายใต้คำสอนที่ BNK48 พร่ำบอกมาเสนอคือ “ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ” โดยมีคำพูดหลักของจ๊อบซังอย่าง “ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆ ที่เราต้องเรียนรู้” ช่วยสนับสนุน มันถูกนำเสนอออกมาได้สุดทางมากๆ และทำให้เราหลงรักพาร์ทจบของหนังแบบสุดๆ เราดีใจที่ตัวหนังกล้านำเสนอโดยแหกจากกรอบแถมยังไม่กลัวแฟนๆ ไม่ชอบอีกด้วย ตบมือเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าจุดนี้หากมองลึกๆ ในรายละเอียดจะรู้สึกตะขิดตะขวงอยู่บ้างก็ตามที
.
ในภาพรวม ไทบ้าน x BNK48 เป็นหนังที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือแฟนๆ ไทบ้าน และ แฟนๆ BNK48 ตามชื่อเรื่อง ในขณะเดียวกัน ถ้าใครอยากจะเปิดใจดูหนังในตระกูลไทบ้าน นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ถึงแม้ว่าบาดแผลมันจะเยอะ แต่มันก็มอบความบันเทิงให้เราได้เยอะเช่นเดียวกัน แถมแก่นของมันก็แข็งแรงอีก เพราะงั้นถึงมันจะไม่ได้ดีมากมาย แต่มันก็ไม่ได้แย่ และ เนย ก็เป็น MVP ที่ใครคามิโอชิไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลทั้งปวงเลย .
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้