สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้ห่างหายจากการเขียน Blog ท่องเที่ยวมานานพอสมควรเลย แต่มีรีวิวดองไว้เยอะมั่กๆ ทั้งเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อธันวาปี 2562 ตั้งใจว่างานซาๆลงเมื่อไรจะมาเขียนแพลนเที่ยวอีกแน่นอนค่ะ แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวทริปเล็กๆในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ของเราก่อน นั่นก็คือ “อัมพวา” นั่นเอง

เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้กรุงมากกกกกกๆ เค้าอยู่ที่จังหวัดสมุทรสงครามเอง ขับรถจากกรุงเทพไปก็ประมาณ 1.30-2 ชั่วโมงเท่านั้น ขับเพลินๆเลยจ้า เหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิตที่มีวันหยุดแค่สองวันแบบเราสุดๆไปเลยค่ะ จริงๆวางแพลนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่าอยากมาอัมพวา เพราะยังไม่เคยมาเลย สุดท้ายได้ไปญี่ปุ่นก่อน ทริปอัมพวาของเราเลยได้เลื่อนมาเดือนมกราแทนค่ะ ^^

เราจะพาทุกคนไปกิน ช้อป นอนสบายกันในเวลาแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น! เป็นทริปหวานเย็นของเรากับแฟนเลยค่ะ เที่ยวชิลๆ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ริมแม่น้ำแม่กลอง หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองมาพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนกลับไปลุยงานต่อ อ่ะไม่พิมพ์ยาวแล้ว เราไปกันเลยดีกว่าจ้าาาา

วันนี้เราตื่นกัน 9 โมงเช้า(วันเสาร์) เพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง เปิด Google Map ไปยังจุดมุ่งหมายก็คือที่พักของเราในวันนี้ค่ะ จะบอกว่าไม่ได้วางแพลนอะไรเลย กะจะเที่ยวตามรายทางเอา มีแค่หากูเกิ้ลไว้นิดหน่อยว่าทางผ่านเรามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ออกจากกรุงเทพ 10 โมงนิดๆ ใน map เขียนว่าใช้เวลา 1.30 ชั่วโมงค่ะ แต่เราจะถึงช้ากว่านั้น เพราะจะแวะเที่ยวตามทางด้วย

หลังจากขับรถไปเรื่อยๆสักพัก ก็รู้สึกหิวกันทั้งคู่แล้ว เนื่องจากยังไม่ได้ทานข้าวเช้ากันเลย ทางไปก็คือหาร้านข้าวยากมากกกกก ในช่วงที่ยังไม่ออกจากกรุงเทพ สุดท้ายมาจบที่ปั๊มน้ำมัน กับร้านอร่อยดีค่ะ อาหารมื้อแรกของเราในทริปนี้ 55555

และสถานที่แรกของทริปนี้ ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังที่พักพอดี ก็คือ “วัดบางกุ้ง” ที่เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงครามค่ะ เราลองหาข้อมูลมาเล็กน้อย ก็คือ เค้าเป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีอุโบสถที่เป็นโบสถ์เก่าแก่ เรียกว่า “โบสถ์ปรกโพธิ์” ถูกปกคลุมไปด้วยรากของต้นโพธิ์ ต้นกร่าง ต้นไทร แบบสวยงามมาก รอบๆก็จะมีรูปปั้นชาวบ้านที่กำลังซ้อมต่อสู้กันอยู่ แต่วันที่เราไปเหมือนเค้ากำลังบูรณะด้วยค่ะ

ส่วนมากคนที่มาที่นี่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติไปซะเยอะ เพราะที่นี่ถือเป็น UNSEEN THAILAND อีกที่นึงเลยค่ะ

และพอเราได้เข้าไปดูนั้นก็พบว่าาาาา สวยมากค่ะทุกคน สวยมากจริงๆ โบสถ์ถูกปกคลุมไปด้วยรากไม้ เถาวัลย์ให้อารมณ์แบบขลังมากๆเลย

เดินดูรอบๆก็จะมีรูปปั้นนักรบ และป้ายอธิบาย เล่าประวัติของโบสถ์นี้ค่ะ สามารถเข้าไปชม กราบไหว้ภายในโบสถ์ที่เป็นที่สถิตของ "หลวงพ่อนิลมณี" หรือ "หลวงพ่อดำ" ได้นะคะ แต่คนจะค่อนข้างเยอะหน่อย

หลังจากเดินชม ถ่ายรูป ดื่มด่ำบรรยากาศตรงนี้กันพอสมควรแล้ว เราก็ไปต่อกันเลยค่ะ

และสถานที่ต่อไปที่เราแวะกันก็คือ “ตลาดน้ำบางน้อย” ค่ะ ตอนแรกที่ขับรถมาจอดก็เคว้งนิดๆ เพราะเราไม่เจอตลาดน้ำเลย เจอแต่เป็นที่ขายของฝากเล็กๆ ก็แอบใจแป๊วแล้ว 5555555 แต่สรุปว่าต้องเดินเข้าไปอีกนิดนึงถึงจะเจอ

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอกับทางเข้าตลาดแล้วค่ะ

เดินเข้ามาก็เจอกับ “พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ” ก่อนเลย เข้าชมฟรีด้วยค่ะทุกคน เค้าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมภาชนะที่งมเจอใต้น้ำมาค่ะ เยอะมากกกกก ทั้งเรือเก่า ภาชนะเก่าต่างๆเลย

โชคดีมากๆที่วันที่เราไปแดดไม่ร้อนเท่าไรค่ะ เมฆครึ้มนิดๆเหมือนฝนจะตก แต่ที่นี่ไม่ตกน้า ถ้าจำไม่ผิดวันที่เราไปกรุงเทพฝนตกค่ะ ตลาดค่อนข้างสงบ มีนักท่องเที่ยวเยอะอยู่ แต่ไม่ถึงกับเดินเบียดเสียด อึดอัดค่ะ เราชอบมากกกก เดินสบายๆ ลมเย็นๆติดแม่น้ำอีก

เจอร้านของเล่นหมุนไข่ใบละ 1 บาท ก็ขอแวะสักหน่อย รำลึกสมัยเด็กที่ชอบไปหยอดเล่นตอนไปตลาดกับคุณแม่ 55555 ถามว่าหยอดไป 3 บาทได้อะไรไหม ตอบเลยว่าได้แค่ความสนุกจ้า เกลือล้วนๆ

มีทั้งร้านขายของฝาก และร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มเยอะเลย ส่วนตัวเราว่าราคาค่อนข้างถูกเลยค่ะ เหมาะกับการมาเดินเล่นชิลๆ หาอะไรกินกรุบกริบมากๆ ลมเย็นสบายยยย คนไม่เยอะ ไม่แออัด เป็นการหนีเที่ยวใกล้กรุงที่ชอบมั่ก 

เดินไปเรื่อยๆจนสุดทางก็จะมีสะพานให้ข้ามไปเดินอีกฝั่งค่ะ แต่เราไม่ได้ข้ามไปน้าาาา

สุดท้ายก็เดินวนกลับมาทางเดิม จริงๆแอบเล็งร้านกาแฟไว้หนึ่งร้าน เพราะเห็นว่าทางร้านมีกาแฟดริปของโปรดของเราและแฟนด้วย ก็เลยไม่รีรอเลยค่ะ

และปิดท้ายตลาดด้วยการแวะทานก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำร้านข้างๆ พร้อมชมวิวแม่น้ำไปด้วย บรรยากาศดี๊ดี เสียดายมากเราลืมถ่ายรูปอาหารมา แต่มันอร่อยมากกก ราคาชามละ 35 บาทเอง ส่วนอันนี้เราไม่รู้ว่าเรียกขนมอะไรค่ะ มีคุณป้าเดินมาขาย ชิ้นละ 3 บาทเท่านั้นนนน อันนี้ก็อร่อยยยย ซื้อสองชิ้นคุณป้าก็ขายราคาแค่ 5 บาทเองค่ะ

ได้เวลาเดินทางไปต่อของเรา ตอนแรกคิดว่าจะกลับไปเก็บของและนั่งพักที่ที่พักก่อน เพื่อรอเวลาไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำอัมพวาค่ะ แต่คุณแฟนเซิทเจอร้านกาแฟที่น่ากินอยู่ใกล้ๆตลาดนี้ เลยขอแวะไปชิมก่อน เรียกว่าเป็นทริปกิน และทริปชิลจริงๆ

เชื่อแล้วว่าเป็นร้านที่ใกล้ๆกับตลาดจริงๆ เพราะขับรถออกมาประมาณ 100 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเดินมาก็ได้ 555555 บรรยากาศจะเป็นแนวธรรมชาติ ร้านเป็นสีชมพูน่ารักตะมุตะมิ มีน้องหมานอนต้อนรับหน้าทางเข้าด้วย

เหลือที่นั่งโต๊ะสุดท้ายนี้พอดี มีเจ้านายนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่โซฟาด้วยค่ะ ทาสอย่างเราเลยต้องค่อยๆนั่ง เดี๋ยวเจ้านายจะตื่น 555555 เจ้านายคืออ้วนปุ๊กลุ๊กน่ารักมาก แถมนอนไม่ยอมตื่นเลย 

นี่คือเมนูที่เราสั่งมาค่ะ เป็นโกโก้ปั่นและเค้กมะพร้าวที่เลื่องชื่อของที่นี่เลย  โกโก้ปั่นรสชาติเข้มข้น หวานกำลังดีเลย ดื่มตอนอากาศร้อนๆแล้วสดชื่น ส่วนเค้กมะพร้าวอ่อนหอมมากกกกกก หอมมะพร้าวและใบเตยมากค่ะ เนื้อเค้กนุ่มละมุน อร่อยสมกับที่เป็นเมนูที่ขายดีของที่นี่เลย

หลังจากนั่งเล่นแมว กินขนมเค้กกันพอกรุบกริบแล้ว สถานีต่อไปก็คือไปที่พักค่ะ เราถึงที่นี่ประมาณบ่ายสาม แต่ตลาดน้ำอัมพวาเหมือนจะเปิดสี่โมงเย็น เลยขอไปพักและเก็บของก่อน

ขับรถตรงมาเรื่อยๆอีกไม่ไกล ก็ถึงที่พักของเราในวันนี้แล้วกับ ณ ทรีธารา (Na Tree Tara) ค่ะ เอาจริงคือมันดูยิ่งใหญ่และหรูกว่าที่เราคิดไว้มากๆ ตอนหาที่พักก็เ็นแล้วล่ะว่ามันน่าพัก หรูนิดๆ และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติด้วย แต่ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ 555555

ที่นี่มีที่จอดรถค่อนข้างเยอะเลยค่ะ พอมาถึงก็จะมีพนักงานต้อนรับนำที่เข็นสัมภาระมาเพื่อขนของๆเราให้ แต่เราเอากระเป๋าลากไปแค่ใบเดียวเลยไม่จำเป็นต้องใช้ค่ะ

หลังจากถึงก็เดินไปยัง Lobby เพื่อทำการเช็คอินค่ะ ที่นี่สามารถเข้าเช็คอินได้ตอนบ่ายโมง เรามาถึงที่นี่ประมาณบ่ายสามค่ะ นอกจากจะจองห้องพักแล้ว เราจองห้องอาหารคืนนี้ และสปาในวันพรุ่งนี้ไว้ด้วย ก็คือที่นี่มีครบเลยจ้า ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร (อยู่ที่เดียวกัน) และสปาเลย 

ระหว่างรอก็มีกล้วยตาก และน้ำมะพร้าวมาเสิร์ฟ เป็น Welcome Drink ของที่นี่ กล้วยตากอร่อยมากเด้อ 5555555

เก็บรูประหว่างทางเดินไปห้องมาฝากค่ะ ชอบสถาปัตย์ของที่นี่มากเลย สวยลงตัวสุดๆ

แท่นแท๊นนนนน นี่คือห้องพักของเราวันนี้ค่ะ เราจองไว้เป็นห้องแบบ SUPERIOR อยู่ชั้น 2 เป็นวิวสระว่ายน้ำ วิวธรรมชาติเลย สวยมากกกกก เราเข้าไปดูห้องในเว็บ ใจจริงคืออยากไปพักห้องแบบ Villas มากกก แต่เต็มจ้า เศร้าเลย ห้อง DELUXE POOL ชั้น 1 ที่ติดสระว่ายน้ำก็เต็ม ตัวเลือกเราเลยเหลือแค่ห้องนี้ค่ะ แต่ถือว่าโอเคน้า

รูปห้องคร่าวๆที่เราถ่ายมาค่ะ มีโซนโต๊ะเครื่องแป้ง โซฟา เตียง และห้องที่กว้างมาก กว้างจนรู้สึกว่ามันแอบกว้างไปหน่อยสำหรับเรานะ เพราะส่วนตัวเราชอบนอนห้องแคบๆ 555555 อันนี้มันโล่งมากเลย ทีวีของที่นี่เป็น Smart TV นะคะ ดูยูทูป ช่องอื่นๆ หรือแคสจากมือถือไปทีวีได้เลย หมดปัญหาไปนอนโรงแรมแล้วทีวีมีแต่ช่องอะไรไม่รู้

ห้องน้ำกว้าง แยกโซนเปียก โซนแห้งชัดเจน มีที่ให้นั่งอาบน้ำด้วยค่ะ มีไดร์เป่าผม ชุดคลุมให้ พวกสบู่ แชมพู โลชั่น เค้าจะใช้เป็นของโรงแรมทำเองเลย เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ส่วนมากจะเป็นมะพร้าวค่ะ หอมสุดๆ มีชุดแปรงสีฟันและยาสีฟันให้เด้อ ไม่ต้องเตรียมมาเลย

อวดวิวจากห้องพักของเราค่ะ ข้างล่างเป็นสระว่ายน้ำ ตรงข้ามคือห้องอาหาร รอบๆก็เป็นวิวของทางโรงแรมเองเลย

พอมาดูมุมสูงยิ่งรู้เลยว่าโรงแรมใหญ่มาก เขียวชะอุ่มเหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ