วันนี้ขอรีวิวซื้อเครื่องcpap จากต่างเว็ปประเทศ
เนื่องจากผมมีอาการนอนกรน เลยได้ไปหาหมอและทำsleeptest ที่จุฬา
ปรากฎว่ามีอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับด้วย หมอก็แนะนำให้ใส่เครื่องcpap
ก็เลยได้ศึกษาข้อมูลและราคาจากบนเน็ต เนื่องจากราคาที่ตัวแทนในไทยขายค่อนข้างจะแพงกว่าต่างประเทศเยอะ
แล้วก็ได้พบ Blogของคุณปิ่นโต2554
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nicephoto&group=6 ที่มีการรีวิวการซื้อจากต่างประเทศไว้
จากนั้นก็ได้หาข้อมูลเครื่องcpap ยี่ห้อต่างจนได้รุ่นที่ต้องการและซื้อผ่านเว็ปต่างประเทศ
อันนี้เป็นรายการที่ผมซื้อทั้งหมด ราคารวมค่าขนส่งมาไทยแล้ว ทางเว็ปมีให้เลือกขนส่ง UPS กับFedex
ผมเลือกFedexที่ราคาถูกกว่า ใช้เวลาส่งมาที่ไทยแค่3วัน
หลังจากของไกล้ถึงไทยทางFedex ก็ได้แจ้งกำหนดการส่งของและให้เราแจ้งรายละเอียดของสินค้า
เนื่องจากราคาสินค้าทั้งหมดมูลค่าเกิน4หมื่นบาทต้องผ่านพีธีศุลกากร และเนื่องจากเป็นอุปกรณ์การแพทย์
การนำเข้าต้องมีใบอนุญาติการนำเข้า แต่ถ้าซื้อใช้เองเครื่องเดียวต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น
ที่ระบุอาการของโรคและวิธีรักษา ใบรับรองคลินิกทั่วไปไม่ได้ ใช้ในการผ่อนผัน อย.ในการนำเข้าใช้เอง
จากที่ผมได้อ่าน Blogของคุณปิ่นโต2554 นั้น ตอนผมไปฝังผลsleeptestก็ได้ขอให้คุณหมอ ออกรับรองแพทย์ให้ คุณหมอก็ใจดีออกให้
และทางFedexได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวClearance พิธีศุลกากร และให้เราเลือกจะให้ทางFedex Clearance
หรือหากมีshippingที่รู้จักClearanceได้ก็
เนื่อกจากผมไม่รู้จักshipping เลยได้หาข้อมูลในเน็ต ปรากฎว่าshippingแต่ละเจ้าคิดค่าใช้จ่ายแพงมาก โดยคิดเป็นแบบภาษีเหมา
10%-30%บ้าง รวมแล้วมีคิดตั้งแต่12000 ถึง20000บ้าง และสามารถวันเดียวรับของได้เลย
ผมก็เลยได้สบถามไปยังทางFedex เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการClearance พิธีศุลกากร
ทางFedexจะมีแค่ใช้จ่าย1284บาท ไม่รวมภาษีต่างๆ
ผมเลยตัดสินใจให้ทางFedex เป็นคนClearance พิธีศุลกากร
ทางFedex ก็ได้ให้ผมแจ้งรายละเอียดของสินค้าและแหล่งผลิตของสินค้าทั้งหมด
เนื่องสั่งทางเว็ป ผมก็ไม่มีข้อมูลของแหล่งผลิตสินค้าก็ต้องรอให้ของมาถึงไทยแล้วให้Fedexถ่ายรูปสินค้าแล้วผมก็แจ้งรายละเอียดกลับไป
หลังจากพอของถึงแล้วทางFedex ก็ได้สรุปค่าภาษีต่างมาทั้งหมด รวมกับค่าธรรมเนียม1284แล้ว6800กว่า
แต่กว่าจะได้ของกลังจากที่ของถึงไทยแล้วใช้เวลาClearance พิธีศุลกากร ประมาณ1อาทิตย์
สรุปแล้วซื้อจากต่างประเทศถูกกว่าในไทยเยอะพอสมควร แต่จะไม่มีบริการหลังการขาย
ใครจะซื้อจากต่างประเทศต้องรับความเสี่ยงนี้หากของมีปัญหาอะไรขึ้นมา
เอกสารที่สำคัญคือใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลของรัฐ อาการของโรค และวิธีรักษา แล้วก็ชื่อต้องตรงกับผู้รับของ
รีวิวนี้ก็ขอเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่จะซื้อcpap จากต่างประเทศ
[CR] รีวิวซื้อเครื่องCPAP จากเว็ปต่างประเทศ
เนื่องจากผมมีอาการนอนกรน เลยได้ไปหาหมอและทำsleeptest ที่จุฬา
ปรากฎว่ามีอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับด้วย หมอก็แนะนำให้ใส่เครื่องcpap
ก็เลยได้ศึกษาข้อมูลและราคาจากบนเน็ต เนื่องจากราคาที่ตัวแทนในไทยขายค่อนข้างจะแพงกว่าต่างประเทศเยอะ
แล้วก็ได้พบ Blogของคุณปิ่นโต2554 https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nicephoto&group=6 ที่มีการรีวิวการซื้อจากต่างประเทศไว้
จากนั้นก็ได้หาข้อมูลเครื่องcpap ยี่ห้อต่างจนได้รุ่นที่ต้องการและซื้อผ่านเว็ปต่างประเทศ
อันนี้เป็นรายการที่ผมซื้อทั้งหมด ราคารวมค่าขนส่งมาไทยแล้ว ทางเว็ปมีให้เลือกขนส่ง UPS กับFedex
ผมเลือกFedexที่ราคาถูกกว่า ใช้เวลาส่งมาที่ไทยแค่3วัน
หลังจากของไกล้ถึงไทยทางFedex ก็ได้แจ้งกำหนดการส่งของและให้เราแจ้งรายละเอียดของสินค้า
เนื่องจากราคาสินค้าทั้งหมดมูลค่าเกิน4หมื่นบาทต้องผ่านพีธีศุลกากร และเนื่องจากเป็นอุปกรณ์การแพทย์
การนำเข้าต้องมีใบอนุญาติการนำเข้า แต่ถ้าซื้อใช้เองเครื่องเดียวต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น
ที่ระบุอาการของโรคและวิธีรักษา ใบรับรองคลินิกทั่วไปไม่ได้ ใช้ในการผ่อนผัน อย.ในการนำเข้าใช้เอง
จากที่ผมได้อ่าน Blogของคุณปิ่นโต2554 นั้น ตอนผมไปฝังผลsleeptestก็ได้ขอให้คุณหมอ ออกรับรองแพทย์ให้ คุณหมอก็ใจดีออกให้
และทางFedexได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวClearance พิธีศุลกากร และให้เราเลือกจะให้ทางFedex Clearance
หรือหากมีshippingที่รู้จักClearanceได้ก็
เนื่อกจากผมไม่รู้จักshipping เลยได้หาข้อมูลในเน็ต ปรากฎว่าshippingแต่ละเจ้าคิดค่าใช้จ่ายแพงมาก โดยคิดเป็นแบบภาษีเหมา
10%-30%บ้าง รวมแล้วมีคิดตั้งแต่12000 ถึง20000บ้าง และสามารถวันเดียวรับของได้เลย
ผมก็เลยได้สบถามไปยังทางFedex เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการClearance พิธีศุลกากร
ทางFedexจะมีแค่ใช้จ่าย1284บาท ไม่รวมภาษีต่างๆ
ผมเลยตัดสินใจให้ทางFedex เป็นคนClearance พิธีศุลกากร
ทางFedex ก็ได้ให้ผมแจ้งรายละเอียดของสินค้าและแหล่งผลิตของสินค้าทั้งหมด
เนื่องสั่งทางเว็ป ผมก็ไม่มีข้อมูลของแหล่งผลิตสินค้าก็ต้องรอให้ของมาถึงไทยแล้วให้Fedexถ่ายรูปสินค้าแล้วผมก็แจ้งรายละเอียดกลับไป
หลังจากพอของถึงแล้วทางFedex ก็ได้สรุปค่าภาษีต่างมาทั้งหมด รวมกับค่าธรรมเนียม1284แล้ว6800กว่า
แต่กว่าจะได้ของกลังจากที่ของถึงไทยแล้วใช้เวลาClearance พิธีศุลกากร ประมาณ1อาทิตย์
สรุปแล้วซื้อจากต่างประเทศถูกกว่าในไทยเยอะพอสมควร แต่จะไม่มีบริการหลังการขาย
ใครจะซื้อจากต่างประเทศต้องรับความเสี่ยงนี้หากของมีปัญหาอะไรขึ้นมา
เอกสารที่สำคัญคือใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลของรัฐ อาการของโรค และวิธีรักษา แล้วก็ชื่อต้องตรงกับผู้รับของ
รีวิวนี้ก็ขอเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่จะซื้อcpap จากต่างประเทศ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้