เมื่อเราไม่มีความสำคัญสำหรับเพื่อนอีกต่อไป

ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดีแต่ก็เอาเป็นว่าในกลุ่มเรามีกันห้าคน รู้จักกันตอนม.4เพราะอยู่ห้องเดียวกันคือศิลป์ฝรั่งเศส ตอนแรกก็ไม่ได้สนิทกันมากจะเป็นกลุ่มใหญ่กว่านี้แช้วไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแล้วแยกออกมาสนิทกันจริงๆทีหลังเพราะอะไรหลายอย่างที่เหมือนกัน พวกเราสนิทกันมากมีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด มีครั้งนึงตอนม.5ครูให้ทำรายงานเดี่ยวแล้วมีเพื่อนในกลุ่มทำไม่เสร็จพวกเราก็ไปช่วยกันทำจนดึกดื่น เราเองไม่ใช่คนพูดเพราะนะคะปกติตอนอยู่กับเพื่อนก็พ่นคำหยาบแทบตลอดเวลาซึ่งก็ไม่ถือสากันแต่ก็มีเคืองคำพูดกันบางครั้ง
   แล้วในกลุ่มเรามีเพื่อนคนนึงเป็นตุ๊ดซึ่งค่อนข้างที่จะเป็นตัวรองรับอารมณ์ของคนอื่นในกลุ่ม โดนบูลลี่ว่าอีตุ๊ด อีกะเทยอะไรแบบนี้ประจำ บางครั้งเขาไม่ค่อยพอใจหรือน้อยใจก็จะมาปรึกษาเรา ตอนนั้นคิดว่าคงเพราะเราสนิท ให้ความช่วยเหลือและรับฟังเขาบ่อยที่สุดหรือเปล่า ซึ่งเราก็ให้คำแนะนำอะไรมากไม่ได้เพราะบางครั้งก็เป็นเราเองที่พ่นคำพูดแบบไม่คิดใส่เขาเหมือนกัน แต่เรากับเขาก็ปรึกษาปัญหาให้คำแนะนำกันอยู่ตลอด มีการบ้านเราก็ช่วยกัน เขาจะให้เราช่วยทำเวลามีการบ้านภาษาฝรั่งเศสเพราะเราเข้าใจกว่า ส่วนเราก็จะให้เขาช่วยวิชาศิลปะเพราะเขาถนัดเรื่องนี้
   คือในข่วงเวลานั้นเราคิดว่าเขาคือเพื่อนที่สนิทกับเรามากที่สุดแล้วค่ะ จนกระทั่งถึงม.6ก็คุยกันว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศคือไปทุนของโรงเรียน ทุกคนในกลุ่มก็ตกลงกันว่าจะไปแต่เรามีปัญหานิดหน่อยเลยทำให้ไปไม่ได้แล้วเรียนเอกชนที่ไทยแทน ระยะแรกเราก็ยังติดต่อกันค่ะแต่ช่วงหลังๆก็ห่างกันออกไปเพราะต่างคนต่างมีสังคมใหม่ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เราเริ่มน้อยใจก็คือครั้งนึงเมื่อตอนเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเราก็คุยกับเพื่อนของเราคนที่เป็นตุ๊ด เราก็บอกเขาว่าเพื่อนที่มหาลัยไม่เหมือนเพื่อนตอนมัธยมเลย บลาๆฯ คุยเรื่องนี้กันไปเรื่อยจนเขาพูดออกมาว่า"เนี่ย ถ้าไม่มีกูก็ไม่มีใครคบหรอก ที่กูโทรหาเพราะกลัวเหงาไม่มีเพื่อนคบ" เราสะดุ้งกับคำพูดนี้อยู่ประมาณหนึ่งแต่ก็คิดว่าเพื่อนพูดเล่นและไม่ได้คิดอะไรเลยพยายามไม่คิดมาก
   พอเดือนธันวาก็คุยกันในไลน์กลุ่มว่าจะกลับไทยแล้วก็นัดกันไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ เราก็เออออเพราะไปได้หมด ตกลงกันเสร็จสรรพ พอวันที่พวกเขากลับมาถึงเราก็ไม่ได้ไปรับที่สนามบินเพราะติดเรียนแต่วิดีโอคอลหา แกล้งถามหาของฝาก(แต่ก่อนหน้านั้นที่รู้ว่าเพื่อนจะกลับมาเราไม่เคยพูดถึงเรื่องของฝากเลยนะคะ)แล้วเพื่อนที่เป็นตุ๊ดก็บอกไม่มีหรอก ไม่มีเงินซื้ออะไรให้ใครเลย  เราก็ไม่ว่าอะไรเพราะอยู่ต่างประเทศค่าใช้จ่ายก็เยอะอยู่แล้ว แต่วันถัดมาเราเห็นเพื่อนมัธยมปลายคนนึงซึ่งบ้านอยู่ติดกับเพื่อนของเราที่เป็นตุ๊ดถ่ายรูปขอบคุณของฝากจากเพื่อนคนนี้ลงสตอรี่ เราก็เริ่มคิดแล้วว่าทำไมถึงบอกเราว่าไม่มีของฝากให้ใคร
   วันที่นัดกันไปเที่ยวเราลองแกล้งลืมจนถึงวันพวกเขาสี่คนก็ไม่ได้โทรมาถามแล้วไปกันแค่นั้น แต่ก็มีเพื่อนหนึ่งในนั้นโทรมาถามตอนเย็นหลังจากที่กลับมาแล้วว่าทำไมไม่ไปเราก็เลยบอกว่าป่วยซึ่งป่วยจริงๆเพื่อนก็บอกว่าหายวันไหนค่อยมาก็ได้ แล้วเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเขานัดกันไปที่โรงเรียนเก่า เราไม่รู้ว่าเขาไป เห็นถ่ายลงสตอรี่แต่ไม่ได้ทักไปถาม มีรุ่นน้องทักมาหาเราว่าทำไมไม่ไปกับเพื่อนเราก็เลยตอบไปว่าเราไม่รู้ เขาไม่ได้บอกเรา แล้วเมื่อวานนี้พวกเราห้าคนไปดูหนังด้วยกัน กินข้าวด้วยกันเสร็จจากนั้นก็แยกย้ายเหลือเรากับเพื่อที่เป็นตุ๊ดแค่สองคนแล้วแบตโทรศัพท์เราหมดก็เลยขอยืมเขาโทรไปหาพี่ชาย แล้วอยู่ดีๆแชทกลุ่มมันก็เด้งขึ้นมา คือมันเป็นห้องแชทที่มีกันแค่สี่คนไม่มีเราอยู่ในนั้น โทรหาพี่เสร็จเราก็แยกกับเขาเลยทันที
   คือเราเองก็ไม่รู้ว่าเราผิดอะไรเหมือนกัน แต่การที่เขามีกลุ่มสนทนาอีกกลุ่มซึ่งมีเพื่อนทุกคนยกเว้นเรานี่แปลว่าเราก็ไม่จำเป็นหรือหมดความสำคัญกับพวกเขาแล้วใช่มั้ยคะ เราควรจะอยู่เฉยๆแล้วค่อยๆห่างออกมาใช่มั้ยคะ คือเราเองก็ไม่ชอบเหมือนกันกับการที่ถูกทำเหมือนไม่มีตัวตนแบบนี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่