จากบทความก่อนหน้า ที่แม่โน้ตเคยลงไว้หลายปีในหัวข้อ “แชร์ประสบการณ์ ครรภ์เป็นพิษ ลูกคลอดตอนอายุ 7 เดือน 4 วัน” จะเป็นเรื่องราวตั้งแต่การตั้งท้องขณะที่ยังเป็นความดันสูงซึ่งทำให้ต้องคลอดลูกก่อนกำหนด มันเป็นอะไรที่อัศจรรย์มากค่ะ ที่วันนี้แม่โน้ตได้ลูกสาวที่เติบโตน่ารัก เป็นเด็กดี ช่วยเหลืองานบ้านได้ตามกำลังของเค้า
แต่...”ความอัศจรรย์” ไม่หมดเพียงแค่นี้ วันนี้แม่โน้ตกลับมาพร้อมเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์มากกว่านั้น
วัตถุประสงค์ในการที่แม่โน้ตออกมาเล่าประสบการณ์เรื่องนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะว่ากล่าวใครทั้งสิ้น แต่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้หลายๆ คน ฉุกคิดในการใช้ชีวิตและการเข้ารับการรักษาที่ รพ. หมั่นสังเกตตัวเองและดูแลตัวเองให้มากๆ ตามแต่กำลังของท่านสมาชิกจะมีนะคะ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เพื่อให้สมาชิกทุกท่านได้สัมผัสกับความอัศจรรย์ของการรักษาโรคความดันโลหิตสูงไปด้วยกัน โน้ตจะขอเล่าแบบย่อๆ (ย่อมากไม่ได้นะคะ ปวดเข่า^^) นะคะ
ปี 2555 อายุ 34 ปี – ตรวจพบว่าโรคความดันโลหิตสูง ทำการอัลตร้าซาวน์ที่ไตทั้งสองข้างก็ไม่พบความผิดปกติ (เนื้องอก) แต่อย่างใด เข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านสีลม
ปี 2557 อายุ 36 ปี – ตั้งครรภ์ ไปฝากครรภ์กับคุณหมอที่คลินิกซึ่งสามารถคลอดที่โรงพยาบาลศูนย์ได้ ใน จ.ราชบุรี
ปี 2558 อายุ 37 ปี – คลอดลูกเพราะตกอยู่ในภาวะครรภ์เป็นพิษ
จากนั้นเป็นมาโน้ตก็ไป follow up เรื่องความดันที่โรงพยาบาลศูนย์เป็นระยะเวลากว่า 3-4 เดือนที่โน้ตไปหาคุณหมอเพื่อรักษาความดันโลหิตสูง ทุกครั้งหมอจะสั่งเพิ่มยา เพิ่มยา จนกินไปแล้วครึ่งโดสของยานั้น จึงคุยกับแฟนขอย้ายมารักษา รพ.เอกชน เผื่อจะมีการวินิจฉัยที่ละเอียดมากกว่านี้ (เช่น เจาะเลือด ดูค่าต่างๆ)
**แต่กรณีของโน้ตเราเป็นความดันสูงมาก่อนท้อง เพราะฉะนั้นความดันสูงจะยังเป็นอยู่นะคะ ไม่ได้หายไป เพียงแค่ทำให้ค่าของมันลดลงเป็นปกติจากการทานยาเท่านั้น**
จนวันที่โน้ตไป รพ.เอกชนใน จ.ราชบุรี เจอคุณหมอท่านหนึ่งเค้าอยากให้โน้ตเจาะเลือดเพื่อเป็นประวัติการรักษาของที่นั่น ผลสรุปเลือดออกมา ค่าโพแทสเซียมต่ำอีก ก็ต้องมาแก้เรื่องค่าโพแทสเซียมต่ำ ใช้เวลาหลายเดือนทีเดียว สุดท้ายมาทุกอย่างปกติได้เพราะยา “Aldactone”
มาถึงจุดนี้โน้ตผ่านมา 3 รพ. แล้วนะคะ
1. รพ.เอกชนที่กรุงเทพฯ
2. รพ. ศูนย์ ราชบุรี
3. รพ. เอกชน ราชบุรี
อ่ะ...ไปกันต่อ
พอทุกอย่างเข้าที่แล้วหลังจากนั้นประมาณเกือบปี โน้ตก็คิดแล้วว่าเราเป็นผู้ป่วยที่ต้องกินยาต่อเนื่อง จึงคุยกับแฟนว่า
“เอางี้ไหม โน้ตจะเปลี่ยนไปหาหมอที่คลินิกแทน เพื่อลดรายจ่าย พอดีเห็นมีคลินิกของคุณหมอท่านหนึ่ง ท่านรักษาเรื่องไต ดูน่าจะเก่งอยู่ คนไข้มารอกันแต่เช้าเลย ค่ำๆ ก็มีเยอะ”
สมมุติว่าชื่อ “คลินิกคุณหมอสอ” นะคะ
แฟนก็โอเค แต่ว่าโน้ตยังเหลือต้องไปรับยาที่ รพ. เอกชนอีกหนึ่งครั้ง ก็เลยคิดว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะไปที่เอกชน
++ ประตูเปลี่ยนชีวิต...ได้เปิดออก ++
วันนั้นไป รพ.เอกชนนั้นตามปกติ นั่งรอจนพยาบาลเรียกตามคิวตรวจ ก็เข้าห้องไปพบคุณหมอ เอ๊ะ...วันนี้เป็นคุณหมอผู้ชาย คุณหมอท่านก็อ่านประวัติโน้ต เค้าขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้นว่า
คุณหมอ : “คุณเป็นความดันโลหิตสูงก่อนอายุ 35 ปี ปกติคนที่เป็นโรคนี้ก่อนอายุ 35 ปี มันต้องหาสาเหตุนะ แต่ที่ รพ.แรกเค้าได้ทำ CT ไหม?”
โน้ต : “ไม่ค่ะ อัลตร้าซาวน์อย่างเดียว”
คุณหมอ : (ขมวดคิ้ว) เอางี้ ผมให้คุณทำ CT Scan นะ ผมว่ามันต้องเจอสาเหตุ
และแล้วกระบวนการ CT Scan ก็เริ่มขึ้นและจบลง (แม่โน้ตเร่งให้นะ) ไปฟังผลรอบหน้ากับคุณหมอเฉพาะทางอีกท่านหนึ่ง
++ วันฟังผล ++
คุณหมอชอ : “คนไข้มีเนื้องอกที่ต่อมหมวกไตข้างซ้ายนะครับ”
โน้ต : (ดีใจ ที่เจอสาเหตุ)
คุณหมอชอ : “เดี๋ยวหมอจะส่งไปตรวจรักษาที่ รพ.ศิริราชนะครับ”
ซึ่งกระบวนการการตรวจ การผ่าตัด รวมถึงค่ารักษาพยาบาล คุณหมอชออธิบายละเอียดมากทุกขั้นตอน ที่สำคัญ คุณหมอช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่าย ขอบคุณคุณหมออีกครั้งตรงนี้เลยค่ะ
“ความอัศจรรย์” ที่สุดของที่สุดอยู่ตรงนี้แหละค่ะ ทันทีที่รู้ว่าเราเจอเนื้องอกที่ต่อมหมวกไต สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ภาพเก่าในอดีตมันวนเวียนรอบหัวเลย ที่ผ่านมากับการกินยาการรักษาโรคความดันสูงมันคืออะไร? การที่ไม่ได้หาสาเหตุอย่างจริงจังคืออะไร? และการที่คลอดก่อนกำหนดเพราะครรภ์เป็นพิษมันเป็นผลมากจากเนื้องอกชิ้นนี้ใช่ไหม?
...พอตั้งสติได้ ก็คิดซะว่าไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้ก็ได้รู้แล้ว
การจะได้ผ่าตัดมันไม่ได้ไวขนาดนั้น เพราะโน้ตต้องไปนับหนึ่งใหม่ที่ รพ.ศิริราช แถมลูกก็ยังเล็ก ท่านสมาชิกคงทราบดีว่า รพ.ศิริราชคนไข้เยอะมากๆ ต้องไปถึงที่นั่นตี 5 บ้างอย่างช้าไม่เกิน 6 โมง ตอนนั้นได้แต่บอกตัวเองว่า
“อยากหายต้องอดทน เราจะผ่านมันไปได้”
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามกันต่อนะคะ
Simply Mommy Note
+_+_+ โรคความดันโลหิตสูงที่ฉันเคยเป็นมา 7 ปี สุดท้ายหายขาดเพราะ... ตอนที่ 1/3 : “ถูกที่ ถูกคน ถูกเวลา” +_+_+
แต่...”ความอัศจรรย์” ไม่หมดเพียงแค่นี้ วันนี้แม่โน้ตกลับมาพร้อมเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์มากกว่านั้น
วัตถุประสงค์ในการที่แม่โน้ตออกมาเล่าประสบการณ์เรื่องนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะว่ากล่าวใครทั้งสิ้น แต่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้หลายๆ คน ฉุกคิดในการใช้ชีวิตและการเข้ารับการรักษาที่ รพ. หมั่นสังเกตตัวเองและดูแลตัวเองให้มากๆ ตามแต่กำลังของท่านสมาชิกจะมีนะคะ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เพื่อให้สมาชิกทุกท่านได้สัมผัสกับความอัศจรรย์ของการรักษาโรคความดันโลหิตสูงไปด้วยกัน โน้ตจะขอเล่าแบบย่อๆ (ย่อมากไม่ได้นะคะ ปวดเข่า^^) นะคะ
ปี 2555 อายุ 34 ปี – ตรวจพบว่าโรคความดันโลหิตสูง ทำการอัลตร้าซาวน์ที่ไตทั้งสองข้างก็ไม่พบความผิดปกติ (เนื้องอก) แต่อย่างใด เข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านสีลม
ปี 2557 อายุ 36 ปี – ตั้งครรภ์ ไปฝากครรภ์กับคุณหมอที่คลินิกซึ่งสามารถคลอดที่โรงพยาบาลศูนย์ได้ ใน จ.ราชบุรี
ปี 2558 อายุ 37 ปี – คลอดลูกเพราะตกอยู่ในภาวะครรภ์เป็นพิษ
จากนั้นเป็นมาโน้ตก็ไป follow up เรื่องความดันที่โรงพยาบาลศูนย์เป็นระยะเวลากว่า 3-4 เดือนที่โน้ตไปหาคุณหมอเพื่อรักษาความดันโลหิตสูง ทุกครั้งหมอจะสั่งเพิ่มยา เพิ่มยา จนกินไปแล้วครึ่งโดสของยานั้น จึงคุยกับแฟนขอย้ายมารักษา รพ.เอกชน เผื่อจะมีการวินิจฉัยที่ละเอียดมากกว่านี้ (เช่น เจาะเลือด ดูค่าต่างๆ)
**แต่กรณีของโน้ตเราเป็นความดันสูงมาก่อนท้อง เพราะฉะนั้นความดันสูงจะยังเป็นอยู่นะคะ ไม่ได้หายไป เพียงแค่ทำให้ค่าของมันลดลงเป็นปกติจากการทานยาเท่านั้น**
จนวันที่โน้ตไป รพ.เอกชนใน จ.ราชบุรี เจอคุณหมอท่านหนึ่งเค้าอยากให้โน้ตเจาะเลือดเพื่อเป็นประวัติการรักษาของที่นั่น ผลสรุปเลือดออกมา ค่าโพแทสเซียมต่ำอีก ก็ต้องมาแก้เรื่องค่าโพแทสเซียมต่ำ ใช้เวลาหลายเดือนทีเดียว สุดท้ายมาทุกอย่างปกติได้เพราะยา “Aldactone”
มาถึงจุดนี้โน้ตผ่านมา 3 รพ. แล้วนะคะ
1. รพ.เอกชนที่กรุงเทพฯ
2. รพ. ศูนย์ ราชบุรี
3. รพ. เอกชน ราชบุรี
อ่ะ...ไปกันต่อ
พอทุกอย่างเข้าที่แล้วหลังจากนั้นประมาณเกือบปี โน้ตก็คิดแล้วว่าเราเป็นผู้ป่วยที่ต้องกินยาต่อเนื่อง จึงคุยกับแฟนว่า
“เอางี้ไหม โน้ตจะเปลี่ยนไปหาหมอที่คลินิกแทน เพื่อลดรายจ่าย พอดีเห็นมีคลินิกของคุณหมอท่านหนึ่ง ท่านรักษาเรื่องไต ดูน่าจะเก่งอยู่ คนไข้มารอกันแต่เช้าเลย ค่ำๆ ก็มีเยอะ”
สมมุติว่าชื่อ “คลินิกคุณหมอสอ” นะคะ
แฟนก็โอเค แต่ว่าโน้ตยังเหลือต้องไปรับยาที่ รพ. เอกชนอีกหนึ่งครั้ง ก็เลยคิดว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะไปที่เอกชน
++ ประตูเปลี่ยนชีวิต...ได้เปิดออก ++
วันนั้นไป รพ.เอกชนนั้นตามปกติ นั่งรอจนพยาบาลเรียกตามคิวตรวจ ก็เข้าห้องไปพบคุณหมอ เอ๊ะ...วันนี้เป็นคุณหมอผู้ชาย คุณหมอท่านก็อ่านประวัติโน้ต เค้าขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้นว่า
คุณหมอ : “คุณเป็นความดันโลหิตสูงก่อนอายุ 35 ปี ปกติคนที่เป็นโรคนี้ก่อนอายุ 35 ปี มันต้องหาสาเหตุนะ แต่ที่ รพ.แรกเค้าได้ทำ CT ไหม?”
โน้ต : “ไม่ค่ะ อัลตร้าซาวน์อย่างเดียว”
คุณหมอ : (ขมวดคิ้ว) เอางี้ ผมให้คุณทำ CT Scan นะ ผมว่ามันต้องเจอสาเหตุ
และแล้วกระบวนการ CT Scan ก็เริ่มขึ้นและจบลง (แม่โน้ตเร่งให้นะ) ไปฟังผลรอบหน้ากับคุณหมอเฉพาะทางอีกท่านหนึ่ง
++ วันฟังผล ++
คุณหมอชอ : “คนไข้มีเนื้องอกที่ต่อมหมวกไตข้างซ้ายนะครับ”
โน้ต : (ดีใจ ที่เจอสาเหตุ)
คุณหมอชอ : “เดี๋ยวหมอจะส่งไปตรวจรักษาที่ รพ.ศิริราชนะครับ”
ซึ่งกระบวนการการตรวจ การผ่าตัด รวมถึงค่ารักษาพยาบาล คุณหมอชออธิบายละเอียดมากทุกขั้นตอน ที่สำคัญ คุณหมอช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่าย ขอบคุณคุณหมออีกครั้งตรงนี้เลยค่ะ
“ความอัศจรรย์” ที่สุดของที่สุดอยู่ตรงนี้แหละค่ะ ทันทีที่รู้ว่าเราเจอเนื้องอกที่ต่อมหมวกไต สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ภาพเก่าในอดีตมันวนเวียนรอบหัวเลย ที่ผ่านมากับการกินยาการรักษาโรคความดันสูงมันคืออะไร? การที่ไม่ได้หาสาเหตุอย่างจริงจังคืออะไร? และการที่คลอดก่อนกำหนดเพราะครรภ์เป็นพิษมันเป็นผลมากจากเนื้องอกชิ้นนี้ใช่ไหม?
...พอตั้งสติได้ ก็คิดซะว่าไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้ก็ได้รู้แล้ว
การจะได้ผ่าตัดมันไม่ได้ไวขนาดนั้น เพราะโน้ตต้องไปนับหนึ่งใหม่ที่ รพ.ศิริราช แถมลูกก็ยังเล็ก ท่านสมาชิกคงทราบดีว่า รพ.ศิริราชคนไข้เยอะมากๆ ต้องไปถึงที่นั่นตี 5 บ้างอย่างช้าไม่เกิน 6 โมง ตอนนั้นได้แต่บอกตัวเองว่า
“อยากหายต้องอดทน เราจะผ่านมันไปได้”
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามกันต่อนะคะ
Simply Mommy Note