รีวิวประสบการณ์จากเพื่อน จขกท. ค่ะ
-----
ทริปนี้เกือบจะเป็นทริปที่ดีที่สุดในชีวิตเราแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุอาเพศตอนขากลับ ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยมากแต่นอนไม่หลับเลย เพราะคิดว่าควรจะเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่ชอบเดินทาง จริงๆ เราอ่านเจอเรื่องทำนองนี้มาเยอะแล้วล่ะ แต่ธรรมชาติของมนุษย์อ่ะนะ ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาหรอก เราชอบเชื่อ ชอบคิดว่าโชคร้ายต่างๆ มักจะไม่เกิดกับตัวเรา คิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งไกลตัว แต่เปล่าเลย เรามีสิทธิ “ซวย” ได้เท่าๆ กับคนอื่น
เรื่องซวยของเราเกิดขึ้นตอนขากลับ เราต้องบินจาก MSP กลับ BKK เราพยายามเช็คอินล่วงหน้า 24 ชม. ก่อนบิน ซึ่งทุกครั้งก็ทำได้ปกติ แต่ครั้งนี้มีปัญหาบางอย่างกับตั๋วเรา มันบอกให้เราไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ ซึ่งเราก็ยังไม่คิดว่าจะมีอะไร ตอนเช้าวันที่ 4 ม.ค. เครื่องเราจะบินออกเวลาประมาณ 7.00 น.
คร่าวๆ ก็คือ แรกเริ่ม เราต้องบิน Delta เพราะตอนจองคือสายการบิน partner ของ China Eastern พอมาถึงเคาน์เตอร์ พนักงานรูด passport เราสักพักก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “ในระบบแจ้งว่าคุณยังไม่ได้จ่ายค่าตั๋ว” เราหันไปมองหน้าแฟนงงๆ
อ้าวววว เราก็งงดิ ตั๋วนี่เราจ่ายเงิน ตัดบัตรเรียบร้อย พี่คะ หนูจองข้ามปี จองตั้งแต่ พ.ค.นะเฮ้ย เราเลยเถียง (อย่างสุภาพ) ไปว่า เราจ่ายแล้ว แล้วเราก็ให้ receipt เขาดู ซึ่งเขาก็ให้บริการอย่างดีมาก delta แนะนำเลย คือเรารู้สึกว่าเค้าดูแลลูกค้าดีระดับนีง เขาพยายามโทรหาใครสักคนอยู่นานมาก แล้วหลังจากโทรติด ก็เป็นอันสรุปได้คร่าวๆ ว่า “Someone has cancelled your ticket” ซัมติง
ซึ่งเราก็ถึงกับหน้าหวอ อีหยังว่ะ ในระบบก็ยังมีข้อมูลเราอยู่ มา cancel บ้าบอไร สุดท้ายพอเรายืนยันว่า เราจ่ายเงินแล้วจริงๆ เขาก็อืมๆ เหมือนออกตั๋วอีกอันให้เรา ต่อเครื่องเดิม เวลาเดิมทุกอย่าง
เป็นอันจบขา msp-jfk เรา check-in กระเป๋าไป พร้อมกับรีบขึ้นเครื่องแทบไม่ได้ร่ำลาแฟน
ขอบคุณมากๆ เลยความโรแมนติกที่เตรียมไว้มันหายไปหมด
และถ้าคุณคิดว่ามันจะจบแค่นั้น ฮ่าๆๆ นี่มันพึ่งเริ่มปี 2020 นะเว้ย ไม่มีทาง... พอเราลงที่สนามบิน jfk เรามีลางสังหรณ์แปลกๆ บางอย่างว่ามันจะต้องมีซัมติงอะไรอีกแน่ เพราะขาบินมาจากไทย การเดินทางราบรื่นผิดปกติ ราบรื่นขนาด ตม.ไม่ได้ถามอะไรทั้งสิ้นตอนเข้าเมกา แค่ปั๊มพาสพอร์ตละก็ผ่าน
กลับมาที่ jfk เราลง terminal 4 ซึ่งเราต้องบินไปต่อที่ pvg เซี่ยงไฮ้อีกที่ terminal 1 คนบินบ่อยๆ จะทราบว่า terminal 1 เป็นที่ที่เครื่องบิน international ของเมกา เราหอบกระเป๋าสองใบ ใบละ 2-3 โลมั้ง จนปวดหลัง เสื้อเราเหงื่อออกพลั่ก
จนเจอ terminal 1 พอเจอเสร็จ เราก็พยายามหา counter China Eastern เพื่อขอใบ boarding pass เข้า gate ต่อ
หน้าเคาน์เตอร์คนต่อแถวยาวเป็นร้อย เยอะมาก ซึ่งเราก็เข้าแถวรออย่างอดทนตามระเบียบ พอมาถึงคิวเรา จนท. ground ก็เอา passport เราไปสแกน แล้วคิ้วขมวด (อีกแล้ว สัญญาณของหายนะ) แล้วบอกว่า “คุณไม่มีข้อมูลในระบบ” เราก็เอา receipt ให้เขาดู เขาก็บอก อืม แต่มันไม่มีข้อมูลในระบบ
เราเถียงกับเค้าอยู่นานมาก แถมตะโกนโหวกเหวกเหมือนเจ๊กตื่นไฟดังมากด้วย คือนึกสภาพคนพึ่งตื่น ข้าวยังไม่ได้- ตั๋วที่จองล่วงหน้าครึ่งปีหาย ควายค่ะ เราก็อิ้งรัวๆ รวบรัดตัดความได้ดังนี้ “นี่ตั๋วจองมาตั้ง 5 เดือนล่วงหน้า แถมเคยโดนแคนเซิลไปรอบนึงแล้ว นี่เขาให้ตั๋วใหม่มา ยังจะมาทำแบบนี้กับเราอีกเหรอ ละนี่กระเป๋าเราอยู่ไหน ทำไมคุณไม่มีข้อมูลเรา บลาๆๆ” ตอนนั้นสมองช็อตมาก คือแบบ ถ้าพลาดไฟลท์นี้กูไม่รู้ได้กลับอีกเมื่อไหร่ โดนไล่ออกแน่ๆ!
คุณ manager ผู้หญิงชาวจีน ผิวขาวสวมแว่น ก็ทำหน้าที่ได้ดีสุดๆ คือการบอกเราว่า
“ในเมื่อคุณไม่มีชื่อในระบบ ก็ต้องรอเครื่องบินถัดไป ซึ่งคุณต้องจ่ายค่า penalty เพิ่ม ไม่รู้ว่าจะเท่าไหร่ แต่คุณคงต้องรออ่านะ” บ้านค่ะ เราก็เถียงไปอีก ว่าไรจำไม่ได้ละ แต่ที่รับไม่ได้คือ สายตาที่เขามองเรา คือเกมือนเรามาขอบินฟรี ซึ่งตั๋วนี่มันไม่ได้ low cost นะเว้ย ราคา 35,000 บาทนี่ กูทำงานแปลกี่หน้ารู้บ้างไหมเนี่ย ที่นี่ไม่มี service mind ใดๆ ทั้งสิ้น แถมบอกที่นั่งเต็มแล้ว เอิ่ม
ระหว่างนี้เราให้เเฟนโทรหา customer service ของ CE ระหว่างที่เรารอเถียง แฟนเรารอสายอยู่พักนึง พอได้คุยกับ จนท. ก็เป็นอันสรุปว่า ตั๋วเรายังอยู่ปกติ ไม่ได้หายไปไหน อืมเอาเข้าไป ใครเอาตั๋วกูไปซ่อน ตอนนั้นเราเริ่มปวดหัวตุ้บๆ
เราควักมือถือออกมาเช็คว่าซื้อตั๋วกลับไทย
เลยดีไหม ซึ่งตั๋ว
ราคา 30,000 บาท ถ้าเราซึ่งนี่เท่ากับว่า เราบิน business class มาได้เลย ซึ่งตอนนั้นจิงๆ ถ้ารวยก็อยากซึ่ง
ไปเลย แต่เราห่วงกระเป๋าที่โหลดมาสองใบ ไม่รู้ตอนนี้กระเป๋าไปอยู่ไหนแล้ว คือบับ ปวดหัวมากอะไรกันหนาวะเนี่ย
บวกกับสายตาพนักงานที่มองเหมือนอีเจ๊นี่เป็นคนบ้าที่มโนว่าตัวเองมีตั๋ว แล้วมาอาละวาดแถวนี้
เราหันหลังกลับ กำลังจะเดินกลับไปที่ TERMINAL 4 อีกครั้งเพื่อไปตามหากระเป๋ากับ Delta แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำยังไงต่อไป ตอนนั้นเราถอดใจเรื่องตั๋วไปแล้ว เพราะ เจ้าหน้าที่ China Eastern ไม่ช่วยห่าไรทั้งสิ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็น manager
ตอนที่เรากำลังจะขึ้น air train ไปนั่นเอง แฟนเราก็ส่งข้อความในเฟสมาว่า มีคนโทรหาและบอกว่า “มีตั๋วให้อยู่ในนึง” ให้รีบวิ่งกลับไปที่เคานเตอร์ด่วน
เรารีบวิ่งไปที่เคานเตอร์แบบไม่คิดชีวิต พนักงานผู้ชายคนหนึ่งบอกเราว่าเค้าโทรหาเรา เพราะสายการบิน Delta ส่งอีเมลล์มาบอกให้เราขึ้นเครื่อง อี ผญ.เมเนเจอร์ตอนแรกยืนยันคำเดียวว่าเราไม่มีชื่อในระบบ จะไม่ให้เราขึ้น แต่ จนท.ผช.บอกว่าให้ๆ ตั๋วเราไปเถอะ พยายามช่วยเราเต็มที่ เขาพูดว่า “Just give her the ticket, come on.”
สุดท้ายอีเมเนเจอร์ผู้หญิงก็จำใจให้ตั๋วเราอย่างไม่เต็มใจ ทั้งๆ ที่เรามีชื่อในระบบ ขอประณามเลยนะ เพราะนาง เพราะสาบานว่าเราจะไม่ใช้บริการสายการบินนี้อีกแล้ว
พอนางปริ้น boarding pass ให้เรา จนท. ผช. บอกให้เรารีบไปเข้า gate นางบอก Go,go!
เรารอเข้า gate นานมาก ประมาณ 30 นาที เรากลัวมากว่าสุดท้ายแม้เราจะได้ตั๋ว แต่ก็อาจตกเครื่องได้ เราต่อแถวรอสแกนของเรื่อยๆ เท้าไม่ติดพื้น พลางเงื่อหูฟังว่าสายการบินจะเรียกขื่อเราเมื่อไหร่
พอถึงคิวเราสแกนของ เรารีบถอดเสื้อ วางของในถาดอย่างเร่งรีบ พลางเงี่ยหูฟัง last minute calling ไปด้วย
พอเราหลุดผลั๊วออกมาจากบริเวณสแกนได้ เรารีบหา Gate 5 ทันที และรีบวิ่งไปตามป้าย และแล้วสายการบินก็เรียกชื่อเรา เรียกแบบ last minute calling ให้เรารีบไปรายงานตัวที่ gate 5 ด่วน เรารีบวิ่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอมาถึง gate เราก็รีบตะโกนว่า It’s me! กูมาแล้ว เครื่องอย่าพึ่งออกนะสาส!
จนท.กราวด์รีบสแกนพาสปอร์ตเราแล้วนำเราไปที่ Gate พร้อมกับพูดเชิงตำหนิๆ ว่า You’re the last one. เราจำได้ว่านางคือหนึ่งใน จนท.สายการบินที่ทำการ check-in เรานั่นแหละ เกือบจะเถียงไปละว่าเมเนเจอร์นั่นแหละ ไม่ช่วยเหลือใดๆ กูเลย แต่ตอนนั้นเราไม่มีแรงทะเลาะกับใครทั้งสิ้น แม้แต่ตอนที่เราไปนั่งในเครื่องแล้ว เราก็ยังไม่หายหอบ เหงื่อเราท่วมตัว เรารู้สึกหลิวเหมือนจะเป็นลม แต่ก็ดีใจที่ได้ขึ้นเครื่องมาทันแบบฉิวเฉียด
ขาต่อเครื่องที่ PVG ราบรื่นดีไม่มีอะไร แต่ความซวยยังไม่จบแค่นั้น เราขี้เกียจเล่า ขอรวบรัดตัดความเลยแล้วกัน
สุดท้ายพอเราบินมาถึง BKK กระเป๋า 2 ใบที่โหลดใต้เครื่องมา มันไม่ตามมากับเราด้วย! ได้เรื่องคือ มันตกตั้งแต่ที่ JFK แล้วเนื่องจากตั๋วเรามีปัญหา ตอนนี้เราได้กระเป๋าคืนแล้ว 1 ใบ แต่อีก 1 ใบนึงยังไม่รู้ไปตกอยู่ที่จีนมณฑลไหน
สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกว่า เวลาจองผ่าน Skyscanner ควรซื้อกับสายการบินโดยตรง เพราะราคาแพงกว่าจองกับเอเจนซี่ไม่เยอะมากเลย เผลอราคาอาจจะเท่ากันด้วยซ้ำ และหลีกเลี่ยงเอเจน Gotogate จำชื่อนี้ไว้ให้ดี
แม้ว่าคุณจะจ่ายเงิน จองตั๋วแล้ว มีหมายเลขจอง มีเลข E-ticket แต่เอเจนมันโกง ยกเลิกตั๋วขากลับคุณแล้วไม่จ่ายเงินกับสายการบิน คุณก็จะถูกลอยแพอยู่ดี!!
และเราขอประณามสายการบิน China Eastern หน่อยเถอะ ในวันที่เราโดนยกเลิกตั๋ว (ครั้งแรก) ในวันที่ 26 พ.ย. 62
เราโดยหา จนท.เพื่อทำการจองตั๋วใหม่นานมาก รอสาย 30 นาที ไม่มีใครรับ จนเราต้องถ่อไปสำนักงานใหญ่ของคุณ
(เพิ่มเติม : จขกท. ได้ช่วยโทรหานะคะ จำได้ว่ากว่าพนักงานจะรับสายนานมาก แล้วก็เลยบอกว่าจะถามเรื่องบินไปจีนค่ะ เขารีบถามรายละเอียด แล้วเราเลยบอกข้อมูลของเพื่อนไปว่าถูกยกเลิก เช็กให้หน่อยค่ะ พนักงานชายเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะบอกว่า "ซักครู่นะครับ" แล้วก็ปล่อยให้เรารอสายไปกว่า 15 นาที ก่อนจะถูกตัดสาย และเราก็โทรไม่ติดอีกเลยค่ะ)
แล้วเราพบว่า เราโทรหา call center customer service แต่ไม่มีใครรับสายทั้งสิ้น แม้แต่ตอนที่เราเดินเข้าไปในสำนักงาน ก็ไม่มีเสียงโทรศัพท์เลย คุณมัน scam หลอกลวง นี่คือครั้งสุดท้ายที่เราจะขึ้นสายการบินนี้ ขอบคุณมาก!
[เตือนภัย!!] & (รีวิว) แชร์ประสบการณ์ Gotogate ยกเลิกตั๋วขากลับโดยไม่มีเหตุผล!
-----
ทริปนี้เกือบจะเป็นทริปที่ดีที่สุดในชีวิตเราแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุอาเพศตอนขากลับ ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยมากแต่นอนไม่หลับเลย เพราะคิดว่าควรจะเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่ชอบเดินทาง จริงๆ เราอ่านเจอเรื่องทำนองนี้มาเยอะแล้วล่ะ แต่ธรรมชาติของมนุษย์อ่ะนะ ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาหรอก เราชอบเชื่อ ชอบคิดว่าโชคร้ายต่างๆ มักจะไม่เกิดกับตัวเรา คิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งไกลตัว แต่เปล่าเลย เรามีสิทธิ “ซวย” ได้เท่าๆ กับคนอื่น
เรื่องซวยของเราเกิดขึ้นตอนขากลับ เราต้องบินจาก MSP กลับ BKK เราพยายามเช็คอินล่วงหน้า 24 ชม. ก่อนบิน ซึ่งทุกครั้งก็ทำได้ปกติ แต่ครั้งนี้มีปัญหาบางอย่างกับตั๋วเรา มันบอกให้เราไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ ซึ่งเราก็ยังไม่คิดว่าจะมีอะไร ตอนเช้าวันที่ 4 ม.ค. เครื่องเราจะบินออกเวลาประมาณ 7.00 น.
คร่าวๆ ก็คือ แรกเริ่ม เราต้องบิน Delta เพราะตอนจองคือสายการบิน partner ของ China Eastern พอมาถึงเคาน์เตอร์ พนักงานรูด passport เราสักพักก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “ในระบบแจ้งว่าคุณยังไม่ได้จ่ายค่าตั๋ว” เราหันไปมองหน้าแฟนงงๆ
อ้าวววว เราก็งงดิ ตั๋วนี่เราจ่ายเงิน ตัดบัตรเรียบร้อย พี่คะ หนูจองข้ามปี จองตั้งแต่ พ.ค.นะเฮ้ย เราเลยเถียง (อย่างสุภาพ) ไปว่า เราจ่ายแล้ว แล้วเราก็ให้ receipt เขาดู ซึ่งเขาก็ให้บริการอย่างดีมาก delta แนะนำเลย คือเรารู้สึกว่าเค้าดูแลลูกค้าดีระดับนีง เขาพยายามโทรหาใครสักคนอยู่นานมาก แล้วหลังจากโทรติด ก็เป็นอันสรุปได้คร่าวๆ ว่า “Someone has cancelled your ticket” ซัมติง
ซึ่งเราก็ถึงกับหน้าหวอ อีหยังว่ะ ในระบบก็ยังมีข้อมูลเราอยู่ มา cancel บ้าบอไร สุดท้ายพอเรายืนยันว่า เราจ่ายเงินแล้วจริงๆ เขาก็อืมๆ เหมือนออกตั๋วอีกอันให้เรา ต่อเครื่องเดิม เวลาเดิมทุกอย่าง
เป็นอันจบขา msp-jfk เรา check-in กระเป๋าไป พร้อมกับรีบขึ้นเครื่องแทบไม่ได้ร่ำลาแฟน
ขอบคุณมากๆ เลยความโรแมนติกที่เตรียมไว้มันหายไปหมด
และถ้าคุณคิดว่ามันจะจบแค่นั้น ฮ่าๆๆ นี่มันพึ่งเริ่มปี 2020 นะเว้ย ไม่มีทาง... พอเราลงที่สนามบิน jfk เรามีลางสังหรณ์แปลกๆ บางอย่างว่ามันจะต้องมีซัมติงอะไรอีกแน่ เพราะขาบินมาจากไทย การเดินทางราบรื่นผิดปกติ ราบรื่นขนาด ตม.ไม่ได้ถามอะไรทั้งสิ้นตอนเข้าเมกา แค่ปั๊มพาสพอร์ตละก็ผ่าน
กลับมาที่ jfk เราลง terminal 4 ซึ่งเราต้องบินไปต่อที่ pvg เซี่ยงไฮ้อีกที่ terminal 1 คนบินบ่อยๆ จะทราบว่า terminal 1 เป็นที่ที่เครื่องบิน international ของเมกา เราหอบกระเป๋าสองใบ ใบละ 2-3 โลมั้ง จนปวดหลัง เสื้อเราเหงื่อออกพลั่ก
จนเจอ terminal 1 พอเจอเสร็จ เราก็พยายามหา counter China Eastern เพื่อขอใบ boarding pass เข้า gate ต่อ
หน้าเคาน์เตอร์คนต่อแถวยาวเป็นร้อย เยอะมาก ซึ่งเราก็เข้าแถวรออย่างอดทนตามระเบียบ พอมาถึงคิวเรา จนท. ground ก็เอา passport เราไปสแกน แล้วคิ้วขมวด (อีกแล้ว สัญญาณของหายนะ) แล้วบอกว่า “คุณไม่มีข้อมูลในระบบ” เราก็เอา receipt ให้เขาดู เขาก็บอก อืม แต่มันไม่มีข้อมูลในระบบ
เราเถียงกับเค้าอยู่นานมาก แถมตะโกนโหวกเหวกเหมือนเจ๊กตื่นไฟดังมากด้วย คือนึกสภาพคนพึ่งตื่น ข้าวยังไม่ได้- ตั๋วที่จองล่วงหน้าครึ่งปีหาย ควายค่ะ เราก็อิ้งรัวๆ รวบรัดตัดความได้ดังนี้ “นี่ตั๋วจองมาตั้ง 5 เดือนล่วงหน้า แถมเคยโดนแคนเซิลไปรอบนึงแล้ว นี่เขาให้ตั๋วใหม่มา ยังจะมาทำแบบนี้กับเราอีกเหรอ ละนี่กระเป๋าเราอยู่ไหน ทำไมคุณไม่มีข้อมูลเรา บลาๆๆ” ตอนนั้นสมองช็อตมาก คือแบบ ถ้าพลาดไฟลท์นี้กูไม่รู้ได้กลับอีกเมื่อไหร่ โดนไล่ออกแน่ๆ!
คุณ manager ผู้หญิงชาวจีน ผิวขาวสวมแว่น ก็ทำหน้าที่ได้ดีสุดๆ คือการบอกเราว่า
“ในเมื่อคุณไม่มีชื่อในระบบ ก็ต้องรอเครื่องบินถัดไป ซึ่งคุณต้องจ่ายค่า penalty เพิ่ม ไม่รู้ว่าจะเท่าไหร่ แต่คุณคงต้องรออ่านะ” บ้านค่ะ เราก็เถียงไปอีก ว่าไรจำไม่ได้ละ แต่ที่รับไม่ได้คือ สายตาที่เขามองเรา คือเกมือนเรามาขอบินฟรี ซึ่งตั๋วนี่มันไม่ได้ low cost นะเว้ย ราคา 35,000 บาทนี่ กูทำงานแปลกี่หน้ารู้บ้างไหมเนี่ย ที่นี่ไม่มี service mind ใดๆ ทั้งสิ้น แถมบอกที่นั่งเต็มแล้ว เอิ่ม
ระหว่างนี้เราให้เเฟนโทรหา customer service ของ CE ระหว่างที่เรารอเถียง แฟนเรารอสายอยู่พักนึง พอได้คุยกับ จนท. ก็เป็นอันสรุปว่า ตั๋วเรายังอยู่ปกติ ไม่ได้หายไปไหน อืมเอาเข้าไป ใครเอาตั๋วกูไปซ่อน ตอนนั้นเราเริ่มปวดหัวตุ้บๆ
เราควักมือถือออกมาเช็คว่าซื้อตั๋วกลับไทยเลยดีไหม ซึ่งตั๋วราคา 30,000 บาท ถ้าเราซึ่งนี่เท่ากับว่า เราบิน business class มาได้เลย ซึ่งตอนนั้นจิงๆ ถ้ารวยก็อยากซึ่งไปเลย แต่เราห่วงกระเป๋าที่โหลดมาสองใบ ไม่รู้ตอนนี้กระเป๋าไปอยู่ไหนแล้ว คือบับ ปวดหัวมากอะไรกันหนาวะเนี่ย
บวกกับสายตาพนักงานที่มองเหมือนอีเจ๊นี่เป็นคนบ้าที่มโนว่าตัวเองมีตั๋ว แล้วมาอาละวาดแถวนี้
เราหันหลังกลับ กำลังจะเดินกลับไปที่ TERMINAL 4 อีกครั้งเพื่อไปตามหากระเป๋ากับ Delta แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำยังไงต่อไป ตอนนั้นเราถอดใจเรื่องตั๋วไปแล้ว เพราะ เจ้าหน้าที่ China Eastern ไม่ช่วยห่าไรทั้งสิ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็น manager
ตอนที่เรากำลังจะขึ้น air train ไปนั่นเอง แฟนเราก็ส่งข้อความในเฟสมาว่า มีคนโทรหาและบอกว่า “มีตั๋วให้อยู่ในนึง” ให้รีบวิ่งกลับไปที่เคานเตอร์ด่วน
เรารีบวิ่งไปที่เคานเตอร์แบบไม่คิดชีวิต พนักงานผู้ชายคนหนึ่งบอกเราว่าเค้าโทรหาเรา เพราะสายการบิน Delta ส่งอีเมลล์มาบอกให้เราขึ้นเครื่อง อี ผญ.เมเนเจอร์ตอนแรกยืนยันคำเดียวว่าเราไม่มีชื่อในระบบ จะไม่ให้เราขึ้น แต่ จนท.ผช.บอกว่าให้ๆ ตั๋วเราไปเถอะ พยายามช่วยเราเต็มที่ เขาพูดว่า “Just give her the ticket, come on.”
สุดท้ายอีเมเนเจอร์ผู้หญิงก็จำใจให้ตั๋วเราอย่างไม่เต็มใจ ทั้งๆ ที่เรามีชื่อในระบบ ขอประณามเลยนะ เพราะนาง เพราะสาบานว่าเราจะไม่ใช้บริการสายการบินนี้อีกแล้ว
พอนางปริ้น boarding pass ให้เรา จนท. ผช. บอกให้เรารีบไปเข้า gate นางบอก Go,go!
เรารอเข้า gate นานมาก ประมาณ 30 นาที เรากลัวมากว่าสุดท้ายแม้เราจะได้ตั๋ว แต่ก็อาจตกเครื่องได้ เราต่อแถวรอสแกนของเรื่อยๆ เท้าไม่ติดพื้น พลางเงื่อหูฟังว่าสายการบินจะเรียกขื่อเราเมื่อไหร่
พอถึงคิวเราสแกนของ เรารีบถอดเสื้อ วางของในถาดอย่างเร่งรีบ พลางเงี่ยหูฟัง last minute calling ไปด้วย
พอเราหลุดผลั๊วออกมาจากบริเวณสแกนได้ เรารีบหา Gate 5 ทันที และรีบวิ่งไปตามป้าย และแล้วสายการบินก็เรียกชื่อเรา เรียกแบบ last minute calling ให้เรารีบไปรายงานตัวที่ gate 5 ด่วน เรารีบวิ่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอมาถึง gate เราก็รีบตะโกนว่า It’s me! กูมาแล้ว เครื่องอย่าพึ่งออกนะสาส!
จนท.กราวด์รีบสแกนพาสปอร์ตเราแล้วนำเราไปที่ Gate พร้อมกับพูดเชิงตำหนิๆ ว่า You’re the last one. เราจำได้ว่านางคือหนึ่งใน จนท.สายการบินที่ทำการ check-in เรานั่นแหละ เกือบจะเถียงไปละว่าเมเนเจอร์นั่นแหละ ไม่ช่วยเหลือใดๆ กูเลย แต่ตอนนั้นเราไม่มีแรงทะเลาะกับใครทั้งสิ้น แม้แต่ตอนที่เราไปนั่งในเครื่องแล้ว เราก็ยังไม่หายหอบ เหงื่อเราท่วมตัว เรารู้สึกหลิวเหมือนจะเป็นลม แต่ก็ดีใจที่ได้ขึ้นเครื่องมาทันแบบฉิวเฉียด
ขาต่อเครื่องที่ PVG ราบรื่นดีไม่มีอะไร แต่ความซวยยังไม่จบแค่นั้น เราขี้เกียจเล่า ขอรวบรัดตัดความเลยแล้วกัน
สุดท้ายพอเราบินมาถึง BKK กระเป๋า 2 ใบที่โหลดใต้เครื่องมา มันไม่ตามมากับเราด้วย! ได้เรื่องคือ มันตกตั้งแต่ที่ JFK แล้วเนื่องจากตั๋วเรามีปัญหา ตอนนี้เราได้กระเป๋าคืนแล้ว 1 ใบ แต่อีก 1 ใบนึงยังไม่รู้ไปตกอยู่ที่จีนมณฑลไหน
สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกว่า เวลาจองผ่าน Skyscanner ควรซื้อกับสายการบินโดยตรง เพราะราคาแพงกว่าจองกับเอเจนซี่ไม่เยอะมากเลย เผลอราคาอาจจะเท่ากันด้วยซ้ำ และหลีกเลี่ยงเอเจน Gotogate จำชื่อนี้ไว้ให้ดี
แม้ว่าคุณจะจ่ายเงิน จองตั๋วแล้ว มีหมายเลขจอง มีเลข E-ticket แต่เอเจนมันโกง ยกเลิกตั๋วขากลับคุณแล้วไม่จ่ายเงินกับสายการบิน คุณก็จะถูกลอยแพอยู่ดี!!
และเราขอประณามสายการบิน China Eastern หน่อยเถอะ ในวันที่เราโดนยกเลิกตั๋ว (ครั้งแรก) ในวันที่ 26 พ.ย. 62
เราโดยหา จนท.เพื่อทำการจองตั๋วใหม่นานมาก รอสาย 30 นาที ไม่มีใครรับ จนเราต้องถ่อไปสำนักงานใหญ่ของคุณ
(เพิ่มเติม : จขกท. ได้ช่วยโทรหานะคะ จำได้ว่ากว่าพนักงานจะรับสายนานมาก แล้วก็เลยบอกว่าจะถามเรื่องบินไปจีนค่ะ เขารีบถามรายละเอียด แล้วเราเลยบอกข้อมูลของเพื่อนไปว่าถูกยกเลิก เช็กให้หน่อยค่ะ พนักงานชายเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะบอกว่า "ซักครู่นะครับ" แล้วก็ปล่อยให้เรารอสายไปกว่า 15 นาที ก่อนจะถูกตัดสาย และเราก็โทรไม่ติดอีกเลยค่ะ)
แล้วเราพบว่า เราโทรหา call center customer service แต่ไม่มีใครรับสายทั้งสิ้น แม้แต่ตอนที่เราเดินเข้าไปในสำนักงาน ก็ไม่มีเสียงโทรศัพท์เลย คุณมัน scam หลอกลวง นี่คือครั้งสุดท้ายที่เราจะขึ้นสายการบินนี้ ขอบคุณมาก!