Little Women (Greta Gerwig)
9.5/10
....
"อบอุ่น งดงาม บทดีมาก ฉลาดเล่าเรื่องได้ลงตัวและกลมกล่อมสุดๆ"
เมื่อได้รู้ข่าวว่าจะมีการนำ Little Women มาทำใหม่ บอกตรงๆ ว่ารู้สึกเฉยๆ มากในตอนแรก ...ด้วยเพราะ Little Women เป็นงานจากวรรณกรรมคลาสลิก ที่ถูกสร้างซ้ำ สร้างบ่อยอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในรูปของภาพยนตร์ มินิซีรีส์ หรือแม้แต่เวอร์ชั่นการ์ตูนญี่ปุ่นก็มี ...อย่างล่าสุดที่ผมคุ้นเคย คือเวอร์ชั่นปี 1994 ในเวอร์ชั่นของผู้กำกับหญิงมากฝีมือชาวออสซี่ จิลเลียน อาร์มสตรอง ที่มีวิโนน่า ไรเดอร์ แสดงนำในบทของโจได้อย่างดีงาม ยอดเยี่ยม (จนเธอได้ชิงออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนั้น)....จากความรู้สึกเฉยๆ ในตอนแรก กลับมาตื่นเต้น อยากดู Little Women ฉบับนี้ เมื่อรู้ว่าคนที่ทำใหม่คือ เกรต้า เกอร์วิก นักแสดงสาวมากฝีมือ ที่ฝากผลงานกำกับหนังเรื่องแรก Little Bird งาน Coming of Age ชั้นดี ได้อย่างงดงาม
.
Little Women คืองานเขียนระดับขึ้นหิ้งในวงการวรรณกรรมอเมริกันของ ลุยซ่า เมย์ อัลคอท (ว่ากันว่า เธอเองก็เขียนอ้างอิงจากชีวิตครอวครัวของเธอเอง) ...งานเขียนชิ้นนี้เชื่อว่าเด็กที่เรียนวรรณคดีอังกฤษคงคุ้นเคย อาจใช้เป็นบทเรียนในคลาสหรือหนังสืออ่านนอกเวลา (ไม่ต่างอะไรที่เด็กวรรณคดีจะคุ้นเคยกับเชคสเปียร์ ,เจน ออสติน ,โธมัส ฮาร์ดี้ และ ดีเอช ลอร์เลนซ์) ....ไม่แปลกหรอกที่งานเขียนคลาสลิกขึ้นหิ้งชิ้นนี้จะถูกถ่ายทอดมาเป็นหนัง ซีรีส์ การ์ตูนในหลากหลายเวอร์ชั่น (ไม่ต่างจากที่ไทยเราทำคู่กรรม จำเลยรัก หรือบ้านทรายทอง) ความยากของการทำใหม่ครั้งนี้ นั่นคือจะทำยังไงกับงานเขียนที่ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างทะลุปรุโปร่ง ให้ดูใหม่ แตกต่าง และยังทรงคุณค่าของชิ้นงานได้อย่างลงตัว
.
ความต่างของ Little Women ในเวอร์ชั่นนี้ คือการเลือกวิธีการเล่าเรื่องของเกรต้า เกอร์วิก ที่เล่าเรื่องสลับคู่ขนานระหว่างเหตุการณ์ในปัจจุบันกับเรื่องราวในอดีต (ซึ่งแตกต่างจากเวอร์ชั่นเดิมๆ ที่จะเล่าเรื่องตามลำดับเหตุการณ์ของเวลา) ของสี่สาวดรุณี พี่น้องตระกูลมาร์ช อันประกอบด้วย เม็ก (เอ็มม่า วัตสัน) พี่สาวคนโต ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง แต่ด้วยความมั่นคง ความเชื่อในรักแท้ ทำให้เธอต้องยอมทิ้งความฝันและเลือกแต่งงานกับชายที่ตัวเองรัก ... โจ (เซอร์ช่า โรแนน) พี่สาวคนรอง หัวขบถ หัวก้าวหน้า รักอิสระ และความคิดล้ำกว่าเกินกว่าผู้หญิงในยุคนั้น เธอฝันอยากเป็นนักเขียน และเลือกทำตามความฝันมากกว่าหัวใจ ....เบธ (เอลิซา สแกนเลน) พี่สาวคนที่สาม จิตใจดีงาม รักพี่น้อง ขี้โรคและอ่อนเอง ...และเอมี่ (ฟลอเรนท์ พิวท์) น้องสาวคนสุดท้อง ที่มีอารมณ์ทั้งขี้อิจฉา เอาแต่ใจ ตามแบบฉบับน้องคนเล็ก และใฝ่ฝันจะเป็นจิตรกร ...นอกจากนี้ยังมีตังละครอื่นๆ รายรอบที่สำคัญคือ แม่ (ลอร่า เดิร์น) แม่ที่ต้องเลี่ยงลูกสาวทั้งสี่ ในขณะที่สามีของเธอต้องไปออกรบในช่วงสงครามกลางเมือง ....ป้ามาร์ช (เมอรีล สตรีพ) พี่สาวของสามี จุกจิก ขี้บ่น เป็นผู้หญิงตามขนบของหญิงยุคเก่าอย่างครบเครื่อง และ ลอรี่ (ทิโมธี ชาลาเม่ต์) หนุ่มน้อยข้างบ้าน ร่าเริง สดใส ่และหลงรักในตัวโจอย่างหัวปักหัวปำ
.
สำหรับผม การที่เกรต้า เลือกวิธีเล่าเรื่องแบบตัดสลับอดีต กับปัจจุบันนั้น แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในหนังหลายๆ เรื่อง ...แต่มันทำให้ Little Women เวอร์ชั่น 2019 นี้ดูใหม่ขึ้นมาก ดูสดและแตกต่าง...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุการณ์ในปัจจุบัน มันได้สะท้อนถึงสิ่งที่เป็นมาในอดีต และเหตุการณ์ในอดีต ก็ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของตัวละครในปัจจุบัน ราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน ราวกับสองเหตุการณ์ที่เล่าสลับกันนั้น เป็นกระจกสะท้อนกลับซึ่งกันและกัน ...การเล่าเรื่องแบบสลับไปมาระหว่างสองช่วงเวลา นับว่าเป็นความเสี่ยงมาก ถ้าบทไม่ดีจริง หรือการกำกับไม่แม่นจริง คนดูอย่างเรามีงง สับสนแน่ๆ แต่เกรต้า สามารถเล่าเรื่องได้อย่างเนียนมาก ฉลาด ลงตัว (แสดงว่าเธอเข้าใจในหัวใจและแก่นของเรื่อง Little Women อย่างแท้จริง และสามารถจับเอา Main Point สำคัญที่หนังสือต้องการสื่อมาเล่าในหนังได้อย่างอยู่หมัดมาก) ... ด้วยความต่างด้วยการใช้โทนสี โทนภาพ และองค์ประกอบของศาสตร์ภาพยนตร์ต่างๆ เพื่อบอกถึงช่วงเวลาในปัจจุบัน ที่มีความหม่นหมองกว่า เศร้ากว่า กับการตัดสินใจของตัวละครโจ ที่ต้องออกมาต่อสู้ ดิ้นรน ด้วยตัวเองในเส้นทางนักเขียน ในขณะที่อดีต จะเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ความสดใสของคนในครอบครัว โทนสีจะสดใส อบอุ่น และมีชีวิตชีวามาก ...ก่อนที่ทั้งสองเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันจะมาบรรจบกัน ราวกับสองเหตุการณ์นี้คือเนื้อเดียวกัน เพื่อดำเนินชีวิต เรื่องราวต่อไปในอนาคต ได้อย่างกลมกล่อม ลงตัวมาก
.
แม้ว่าเหตุการณ์ในหนังจะเกิดในช่วงเวลาร้อยกว่าปีเศษ ในช่วงการเกิดสงครามกลางเมืองในอเมริกา และเหตุการณ์หลังสงครามที่ผ่านพ้นไป แต่เนื้อหาในเวอร์ชั่นนี้กลับดูใหม่มาก ทันสมัยมาก เป็นสี่ดรุณี ที่ต่าง ด้วยการเล่าเรื่องที่เร็ว ฉึบฉับ ไม่เอื่อยเฉื่อยแบบเคยๆ แต่ในความฉึบฉับ แก่น หัวใจของเรื่องทั้งในเรื่องขนบ ค่านิยมของความเป็นผู้หญิง การจิกกัดสังคมที่มองค่าผู้หญิงแค่การแต่งงานกับคนรวยๆ หรือแม้แต่การแต่งนิยายในขนบเก่าๆ ที่นางเอกของเรื่องต้องสมหวังในรัก ต้องแต่งงานเท่านั้น ...ผู้กำกับและเขียนบท เกรต้า เล่ามันได้อย่างสนุก มีอารมณ์แอบเหน็บขนบเรื่องแบบเดิมๆ เอามาล้อได้อย่างเนียนๆ ตามแบบคนรุ่นใหม่มองมา แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งแก่นความคลาสลิกของเรื่อง Little Women ที่ครองหัวใจคนดู คนอ่านได้ทุกยุคสมัย ...เกรต้าพิสูจน์แล้วว่า เธอเป็นนักแสดงที่เก่ง เป็นคนทำหนังที่ฉลาดมาก แลละสามารถพาให้หนังก้าวหน้าไปไกลกว่าเดิมมาก รวมถึงอนาคตการทำหนังของเธอ ที่สานต่อความสำเร็จจาก Lady Bird ได้อย่างก้าวไกล และพิสูจน์ได้เลยว่า หนังเรื่องแรกไม่ได้มาแบบฟลุคๆ
.
นอกจากตัวหนังจะโดดเด่นมากแล้ว การแสดงโดยองค์รวมนี่ดีงามมาก ทั้งเซอร์ช่า โรแนน ที่ถอดความเป็นโจได้อย่างมีเสน่ห์มาก ทั้งความสดใส ความขบถ ความเศร้าปนความเข้มแข็ง ...สำหรับผม เซอร์ช่าเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่โคตรเก่งมาก เป็นแฟนคลับน้องมาตั้งแต่ Atonement และงานต่อๆ มา กับการเข้าชิงรางวัลหลายครั้ง นี่คือนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีฝีมือมาก และเชื่อว่าในบทโจ จะทำให้เธอได้ชิงรางวัลออสการ์แน่ๆ ไม่ต้องสงสัย ....อีกคนที่ชอบมากๆ คือ ฟลอเรนท์ พิวท์ ในบทเอมี่ น้องคนเล็ก ....นี่คือเอมี่ที่มีเสน่ห์โคตรๆ และตัวพิวท์เองตีบทนี้ได้แตกละเอียดมาก นี่คืออีกหนึ่งปีทองของเธอมากๆ ที่หนังทั้งสามเรื่องที่ฉายทั้ง Fighting with my Family , Midsommar รวมถึงเรื่องนี้ เธอได้บนที่แปลกใหม่ แตกต่าง และทำหน้าที่นักแสดงที่ดีได้อย่างลงตัว ...บทของน้องทิมมี่ ในบทลอรี่ ก็มีเสน่ห์ในตัว บทของแม่ ที่ลอร่า เดิร์นเล่นก็ดูอบอุ่นมาก (ต่างจากการสวมบททนายตัวแสบใน Marriage Story งานกำกับของโนอา บอมแบค แฟนหนุ่มตัวจริงของเกรต้า เกอร์วิค) รวมถึงเมอรีล สตรีพ ที่มาน้อย ต่อยหนัก เป็นตัวขโมยซีนที่ร้ายกาจมากๆ ....จะมีขัดๆ ก็แค่ตัวเอมม่า วัตสัน เท่านั้นนะ (ผมว่าเธอดูเกร็งๆ ในบท แม้จะรู้ว่าตั้งใจจะเล่นให้ดี แต่มันยังไม่สุด)
.
Little Women ในฉบับ 2019 คือการดูหนังเปิดปีใหม่ที่โคตรมีความสุขมากๆ มันกลมกล่อม อิ่มเอม บันเทิงใจมาก ราวกับเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว เป็นเพื่อนบ้านของสมาชิกครอบครัวมาร์ช ทุกฉาก ทุกซีน มันดีจริงๆ นะ. งดงามจริงๆ ...ยิ่งดูจบแล้ว ผมมั่นใจมากๆ ว่าหนังจะต้องเข้าชิงหนังยอดเยี่ยมออสการ์ปีนี้แน่ๆ ไม่ต้องสงสัย ....โอ้ววว อยากจะบอกอีกที เกรต้า เกอร์วิก เก่งมาก ปลื้มมาก และรองานชิ้นต่อไปของเธอ ในฐานะผู้กำกับอย่างใจจดใจจ่อ ...ปรบมือ
FB :
https://www.facebook.com/eattravelmoviecritic
[CR] รีวิว : "Little Women" : อบอุ่น งดงาม บทดีมาก ฉลาด เล่าเรื่องได้ลงตัวและกลมกล่อมสุดๆ
9.5/10
....
"อบอุ่น งดงาม บทดีมาก ฉลาดเล่าเรื่องได้ลงตัวและกลมกล่อมสุดๆ"
เมื่อได้รู้ข่าวว่าจะมีการนำ Little Women มาทำใหม่ บอกตรงๆ ว่ารู้สึกเฉยๆ มากในตอนแรก ...ด้วยเพราะ Little Women เป็นงานจากวรรณกรรมคลาสลิก ที่ถูกสร้างซ้ำ สร้างบ่อยอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในรูปของภาพยนตร์ มินิซีรีส์ หรือแม้แต่เวอร์ชั่นการ์ตูนญี่ปุ่นก็มี ...อย่างล่าสุดที่ผมคุ้นเคย คือเวอร์ชั่นปี 1994 ในเวอร์ชั่นของผู้กำกับหญิงมากฝีมือชาวออสซี่ จิลเลียน อาร์มสตรอง ที่มีวิโนน่า ไรเดอร์ แสดงนำในบทของโจได้อย่างดีงาม ยอดเยี่ยม (จนเธอได้ชิงออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนั้น)....จากความรู้สึกเฉยๆ ในตอนแรก กลับมาตื่นเต้น อยากดู Little Women ฉบับนี้ เมื่อรู้ว่าคนที่ทำใหม่คือ เกรต้า เกอร์วิก นักแสดงสาวมากฝีมือ ที่ฝากผลงานกำกับหนังเรื่องแรก Little Bird งาน Coming of Age ชั้นดี ได้อย่างงดงาม
.
Little Women คืองานเขียนระดับขึ้นหิ้งในวงการวรรณกรรมอเมริกันของ ลุยซ่า เมย์ อัลคอท (ว่ากันว่า เธอเองก็เขียนอ้างอิงจากชีวิตครอวครัวของเธอเอง) ...งานเขียนชิ้นนี้เชื่อว่าเด็กที่เรียนวรรณคดีอังกฤษคงคุ้นเคย อาจใช้เป็นบทเรียนในคลาสหรือหนังสืออ่านนอกเวลา (ไม่ต่างอะไรที่เด็กวรรณคดีจะคุ้นเคยกับเชคสเปียร์ ,เจน ออสติน ,โธมัส ฮาร์ดี้ และ ดีเอช ลอร์เลนซ์) ....ไม่แปลกหรอกที่งานเขียนคลาสลิกขึ้นหิ้งชิ้นนี้จะถูกถ่ายทอดมาเป็นหนัง ซีรีส์ การ์ตูนในหลากหลายเวอร์ชั่น (ไม่ต่างจากที่ไทยเราทำคู่กรรม จำเลยรัก หรือบ้านทรายทอง) ความยากของการทำใหม่ครั้งนี้ นั่นคือจะทำยังไงกับงานเขียนที่ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างทะลุปรุโปร่ง ให้ดูใหม่ แตกต่าง และยังทรงคุณค่าของชิ้นงานได้อย่างลงตัว
.
ความต่างของ Little Women ในเวอร์ชั่นนี้ คือการเลือกวิธีการเล่าเรื่องของเกรต้า เกอร์วิก ที่เล่าเรื่องสลับคู่ขนานระหว่างเหตุการณ์ในปัจจุบันกับเรื่องราวในอดีต (ซึ่งแตกต่างจากเวอร์ชั่นเดิมๆ ที่จะเล่าเรื่องตามลำดับเหตุการณ์ของเวลา) ของสี่สาวดรุณี พี่น้องตระกูลมาร์ช อันประกอบด้วย เม็ก (เอ็มม่า วัตสัน) พี่สาวคนโต ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง แต่ด้วยความมั่นคง ความเชื่อในรักแท้ ทำให้เธอต้องยอมทิ้งความฝันและเลือกแต่งงานกับชายที่ตัวเองรัก ... โจ (เซอร์ช่า โรแนน) พี่สาวคนรอง หัวขบถ หัวก้าวหน้า รักอิสระ และความคิดล้ำกว่าเกินกว่าผู้หญิงในยุคนั้น เธอฝันอยากเป็นนักเขียน และเลือกทำตามความฝันมากกว่าหัวใจ ....เบธ (เอลิซา สแกนเลน) พี่สาวคนที่สาม จิตใจดีงาม รักพี่น้อง ขี้โรคและอ่อนเอง ...และเอมี่ (ฟลอเรนท์ พิวท์) น้องสาวคนสุดท้อง ที่มีอารมณ์ทั้งขี้อิจฉา เอาแต่ใจ ตามแบบฉบับน้องคนเล็ก และใฝ่ฝันจะเป็นจิตรกร ...นอกจากนี้ยังมีตังละครอื่นๆ รายรอบที่สำคัญคือ แม่ (ลอร่า เดิร์น) แม่ที่ต้องเลี่ยงลูกสาวทั้งสี่ ในขณะที่สามีของเธอต้องไปออกรบในช่วงสงครามกลางเมือง ....ป้ามาร์ช (เมอรีล สตรีพ) พี่สาวของสามี จุกจิก ขี้บ่น เป็นผู้หญิงตามขนบของหญิงยุคเก่าอย่างครบเครื่อง และ ลอรี่ (ทิโมธี ชาลาเม่ต์) หนุ่มน้อยข้างบ้าน ร่าเริง สดใส ่และหลงรักในตัวโจอย่างหัวปักหัวปำ
.
สำหรับผม การที่เกรต้า เลือกวิธีเล่าเรื่องแบบตัดสลับอดีต กับปัจจุบันนั้น แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในหนังหลายๆ เรื่อง ...แต่มันทำให้ Little Women เวอร์ชั่น 2019 นี้ดูใหม่ขึ้นมาก ดูสดและแตกต่าง...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุการณ์ในปัจจุบัน มันได้สะท้อนถึงสิ่งที่เป็นมาในอดีต และเหตุการณ์ในอดีต ก็ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของตัวละครในปัจจุบัน ราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน ราวกับสองเหตุการณ์ที่เล่าสลับกันนั้น เป็นกระจกสะท้อนกลับซึ่งกันและกัน ...การเล่าเรื่องแบบสลับไปมาระหว่างสองช่วงเวลา นับว่าเป็นความเสี่ยงมาก ถ้าบทไม่ดีจริง หรือการกำกับไม่แม่นจริง คนดูอย่างเรามีงง สับสนแน่ๆ แต่เกรต้า สามารถเล่าเรื่องได้อย่างเนียนมาก ฉลาด ลงตัว (แสดงว่าเธอเข้าใจในหัวใจและแก่นของเรื่อง Little Women อย่างแท้จริง และสามารถจับเอา Main Point สำคัญที่หนังสือต้องการสื่อมาเล่าในหนังได้อย่างอยู่หมัดมาก) ... ด้วยความต่างด้วยการใช้โทนสี โทนภาพ และองค์ประกอบของศาสตร์ภาพยนตร์ต่างๆ เพื่อบอกถึงช่วงเวลาในปัจจุบัน ที่มีความหม่นหมองกว่า เศร้ากว่า กับการตัดสินใจของตัวละครโจ ที่ต้องออกมาต่อสู้ ดิ้นรน ด้วยตัวเองในเส้นทางนักเขียน ในขณะที่อดีต จะเต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ความสดใสของคนในครอบครัว โทนสีจะสดใส อบอุ่น และมีชีวิตชีวามาก ...ก่อนที่ทั้งสองเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันจะมาบรรจบกัน ราวกับสองเหตุการณ์นี้คือเนื้อเดียวกัน เพื่อดำเนินชีวิต เรื่องราวต่อไปในอนาคต ได้อย่างกลมกล่อม ลงตัวมาก
.
แม้ว่าเหตุการณ์ในหนังจะเกิดในช่วงเวลาร้อยกว่าปีเศษ ในช่วงการเกิดสงครามกลางเมืองในอเมริกา และเหตุการณ์หลังสงครามที่ผ่านพ้นไป แต่เนื้อหาในเวอร์ชั่นนี้กลับดูใหม่มาก ทันสมัยมาก เป็นสี่ดรุณี ที่ต่าง ด้วยการเล่าเรื่องที่เร็ว ฉึบฉับ ไม่เอื่อยเฉื่อยแบบเคยๆ แต่ในความฉึบฉับ แก่น หัวใจของเรื่องทั้งในเรื่องขนบ ค่านิยมของความเป็นผู้หญิง การจิกกัดสังคมที่มองค่าผู้หญิงแค่การแต่งงานกับคนรวยๆ หรือแม้แต่การแต่งนิยายในขนบเก่าๆ ที่นางเอกของเรื่องต้องสมหวังในรัก ต้องแต่งงานเท่านั้น ...ผู้กำกับและเขียนบท เกรต้า เล่ามันได้อย่างสนุก มีอารมณ์แอบเหน็บขนบเรื่องแบบเดิมๆ เอามาล้อได้อย่างเนียนๆ ตามแบบคนรุ่นใหม่มองมา แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งแก่นความคลาสลิกของเรื่อง Little Women ที่ครองหัวใจคนดู คนอ่านได้ทุกยุคสมัย ...เกรต้าพิสูจน์แล้วว่า เธอเป็นนักแสดงที่เก่ง เป็นคนทำหนังที่ฉลาดมาก แลละสามารถพาให้หนังก้าวหน้าไปไกลกว่าเดิมมาก รวมถึงอนาคตการทำหนังของเธอ ที่สานต่อความสำเร็จจาก Lady Bird ได้อย่างก้าวไกล และพิสูจน์ได้เลยว่า หนังเรื่องแรกไม่ได้มาแบบฟลุคๆ
.
นอกจากตัวหนังจะโดดเด่นมากแล้ว การแสดงโดยองค์รวมนี่ดีงามมาก ทั้งเซอร์ช่า โรแนน ที่ถอดความเป็นโจได้อย่างมีเสน่ห์มาก ทั้งความสดใส ความขบถ ความเศร้าปนความเข้มแข็ง ...สำหรับผม เซอร์ช่าเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่โคตรเก่งมาก เป็นแฟนคลับน้องมาตั้งแต่ Atonement และงานต่อๆ มา กับการเข้าชิงรางวัลหลายครั้ง นี่คือนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีฝีมือมาก และเชื่อว่าในบทโจ จะทำให้เธอได้ชิงรางวัลออสการ์แน่ๆ ไม่ต้องสงสัย ....อีกคนที่ชอบมากๆ คือ ฟลอเรนท์ พิวท์ ในบทเอมี่ น้องคนเล็ก ....นี่คือเอมี่ที่มีเสน่ห์โคตรๆ และตัวพิวท์เองตีบทนี้ได้แตกละเอียดมาก นี่คืออีกหนึ่งปีทองของเธอมากๆ ที่หนังทั้งสามเรื่องที่ฉายทั้ง Fighting with my Family , Midsommar รวมถึงเรื่องนี้ เธอได้บนที่แปลกใหม่ แตกต่าง และทำหน้าที่นักแสดงที่ดีได้อย่างลงตัว ...บทของน้องทิมมี่ ในบทลอรี่ ก็มีเสน่ห์ในตัว บทของแม่ ที่ลอร่า เดิร์นเล่นก็ดูอบอุ่นมาก (ต่างจากการสวมบททนายตัวแสบใน Marriage Story งานกำกับของโนอา บอมแบค แฟนหนุ่มตัวจริงของเกรต้า เกอร์วิค) รวมถึงเมอรีล สตรีพ ที่มาน้อย ต่อยหนัก เป็นตัวขโมยซีนที่ร้ายกาจมากๆ ....จะมีขัดๆ ก็แค่ตัวเอมม่า วัตสัน เท่านั้นนะ (ผมว่าเธอดูเกร็งๆ ในบท แม้จะรู้ว่าตั้งใจจะเล่นให้ดี แต่มันยังไม่สุด)
.
Little Women ในฉบับ 2019 คือการดูหนังเปิดปีใหม่ที่โคตรมีความสุขมากๆ มันกลมกล่อม อิ่มเอม บันเทิงใจมาก ราวกับเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว เป็นเพื่อนบ้านของสมาชิกครอบครัวมาร์ช ทุกฉาก ทุกซีน มันดีจริงๆ นะ. งดงามจริงๆ ...ยิ่งดูจบแล้ว ผมมั่นใจมากๆ ว่าหนังจะต้องเข้าชิงหนังยอดเยี่ยมออสการ์ปีนี้แน่ๆ ไม่ต้องสงสัย ....โอ้ววว อยากจะบอกอีกที เกรต้า เกอร์วิก เก่งมาก ปลื้มมาก และรองานชิ้นต่อไปของเธอ ในฐานะผู้กำกับอย่างใจจดใจจ่อ ...ปรบมือ
FB : https://www.facebook.com/eattravelmoviecritic
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้