เอาเฉพาะ u23. ก่อน. ไทยดูจากผู้เล่นแล้ว. เราตัวเล็ก. ถ้าเทียบเอเชียเราก็เสียเปรียบ.จีน เกาหลี. หรือพวกอาหรับแขกขาว โครงสร้างร่างกายดีกว่าเราทั้งนั้น จะมีก็แต่ความคล่อง(ย้ำคล่อง ไม่ใช่ความเร็ว) ที่เป็นจุดเด่นของไทย
ไทย เองรายการนี้ เน้นความคล่องตัว มีหน้าตัวใหญ่พักบอล นี่จะเป็นแนวทางที่เราเล่นไปอีกหลายปี เพราะเรามีตัวแบบนี้ ปัญหาตอนนี้คือ ไทยแทบไม่มีกองหน้าที่เก็บบอลได้ในลีกเลย การจะพัฒนาตรงนี้ยังมองอนาคตไม่เห็น ครั้นจะเล่นต่องบอล ใช้ความเร็ว ทักษะ ความฟิต เราก็ไม่ถึงขั้นจะเล่นได้ 90 นาที ตอนนี้จุดอ่อนของฟุตบอลไทยตีแผ่ตรงหน้าแล้ว ว่าจะไปเอเชีย แรงแค่นี้ รูปร่างแค่นี้ ทักษะเท่านี้. ไม่พอ ซึ่งดูจะเพิ่มต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี
เวียดนาม โค้ชเค้าเน้นรูปร่างมาก่อน. กับความฟิต เน้นรับไม่เสีย. จะเห็นว่าหลังๆ โค้ชจะเรียกตัวที่มีวินัย ฟิต. ไม่เอาซุปตาร์ก็ได้ ใครเจอก็ยิงยาก และใช้จังหวะฉาบฉวย แต่จุดอ่อนก็คือการเข้าทำ และการสร้างสรรค์เกมส์ กำแพงที่ต้องข้าม คือ นอกจากร่างกาย จินตนาการเกมส์รุกพวกเค้าจะต้องใช้เวลาสร้าง
ตอนนี้ปลายทางของ 2 ชาติ ไทยต้องการสรีระ. ความแข็งแกร่งเพื่อไประดับเอเชียอย่างยั่งยืน. ส่วนเวียดนามต้องการการรังสรรค์เกมส์รุก. ผมเชื่อว่าระยะสั้นเวียดนามจะต่อยอดได้ไกลกว่าไทย เค้าจะดีกว่าเราไปอีก 2-3 ปี แต่ถ้ายังเล่นทรงนี้แล้วทีมชาติจะไปไกลต้องมีกองหน้าพรสวรรค์มาจุติมากมายจะต่อยอดยาวๆ ส่วนไทยการแพ้ออสเตรเลีย ทำให้เราเห็นว่า แค่ความคล่องมันไม่พอจะต่อยอดทีมชาติให้เหนือขึ้นไปได้. แต่ร่างกายที่ดี กับเบสิคที่ดี ต่างหากจะพาเราไป ตอนนี้เหมือน 2 ชาติ ใช้ข้อเด่นที่ต่างกัน และมีจุดอ่อนสลับกัน
ส่วนตัวคิดว่าวันนี้ นักเตะจากอเคดิมี่ บุรีรัมย์เริ่มทำให้เราเห็นแล้วว่า วินัยที่เนวินใส่มามันได้ผลพอสมควร สมาคมฟุตบอล และแฟนบอล ควรหันมาสนับสนุนสโมสร ให้สร้างเด็กป้อนในลีกที่มีคุณภาพแบบศุภโชค ศุภนัฐ หรืออานนท์ และปั้นในทุกตำแหน่ง ในบอลถ้วยควรลดโค้วต้าต่างชาติบ้างได้แล้ว วันนี้เราอาจจะแพ้ วันหน้าเราอาจไม่มีนิชิโนะ แต่เรารู้แล้วเราต้องพัฒนาอย่างไร อย่าปล่อยให้การแพ้วันนี้สูญเปล่า
ไทย กับ เวียดนาม ใครพัฒนามาถูกทางกันแน่
ไทย เองรายการนี้ เน้นความคล่องตัว มีหน้าตัวใหญ่พักบอล นี่จะเป็นแนวทางที่เราเล่นไปอีกหลายปี เพราะเรามีตัวแบบนี้ ปัญหาตอนนี้คือ ไทยแทบไม่มีกองหน้าที่เก็บบอลได้ในลีกเลย การจะพัฒนาตรงนี้ยังมองอนาคตไม่เห็น ครั้นจะเล่นต่องบอล ใช้ความเร็ว ทักษะ ความฟิต เราก็ไม่ถึงขั้นจะเล่นได้ 90 นาที ตอนนี้จุดอ่อนของฟุตบอลไทยตีแผ่ตรงหน้าแล้ว ว่าจะไปเอเชีย แรงแค่นี้ รูปร่างแค่นี้ ทักษะเท่านี้. ไม่พอ ซึ่งดูจะเพิ่มต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี
เวียดนาม โค้ชเค้าเน้นรูปร่างมาก่อน. กับความฟิต เน้นรับไม่เสีย. จะเห็นว่าหลังๆ โค้ชจะเรียกตัวที่มีวินัย ฟิต. ไม่เอาซุปตาร์ก็ได้ ใครเจอก็ยิงยาก และใช้จังหวะฉาบฉวย แต่จุดอ่อนก็คือการเข้าทำ และการสร้างสรรค์เกมส์ กำแพงที่ต้องข้าม คือ นอกจากร่างกาย จินตนาการเกมส์รุกพวกเค้าจะต้องใช้เวลาสร้าง
ตอนนี้ปลายทางของ 2 ชาติ ไทยต้องการสรีระ. ความแข็งแกร่งเพื่อไประดับเอเชียอย่างยั่งยืน. ส่วนเวียดนามต้องการการรังสรรค์เกมส์รุก. ผมเชื่อว่าระยะสั้นเวียดนามจะต่อยอดได้ไกลกว่าไทย เค้าจะดีกว่าเราไปอีก 2-3 ปี แต่ถ้ายังเล่นทรงนี้แล้วทีมชาติจะไปไกลต้องมีกองหน้าพรสวรรค์มาจุติมากมายจะต่อยอดยาวๆ ส่วนไทยการแพ้ออสเตรเลีย ทำให้เราเห็นว่า แค่ความคล่องมันไม่พอจะต่อยอดทีมชาติให้เหนือขึ้นไปได้. แต่ร่างกายที่ดี กับเบสิคที่ดี ต่างหากจะพาเราไป ตอนนี้เหมือน 2 ชาติ ใช้ข้อเด่นที่ต่างกัน และมีจุดอ่อนสลับกัน
ส่วนตัวคิดว่าวันนี้ นักเตะจากอเคดิมี่ บุรีรัมย์เริ่มทำให้เราเห็นแล้วว่า วินัยที่เนวินใส่มามันได้ผลพอสมควร สมาคมฟุตบอล และแฟนบอล ควรหันมาสนับสนุนสโมสร ให้สร้างเด็กป้อนในลีกที่มีคุณภาพแบบศุภโชค ศุภนัฐ หรืออานนท์ และปั้นในทุกตำแหน่ง ในบอลถ้วยควรลดโค้วต้าต่างชาติบ้างได้แล้ว วันนี้เราอาจจะแพ้ วันหน้าเราอาจไม่มีนิชิโนะ แต่เรารู้แล้วเราต้องพัฒนาอย่างไร อย่าปล่อยให้การแพ้วันนี้สูญเปล่า