รีวิวลากกระเป๋าเข้าเก็นติ้งไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซียกันเองยกครอบครัว!!
บอกก่อนว่าอันนี้เป็นรีวิวครั้งแรกเลยนะคะ ถูกผิดตรงไหนยังไง แนะนำได้นะคะ
มาเริ่มกันเลยย
----------------------------------------------------
Day 1 - เดินทางจากกรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) มุ่งหน้าเข้าสู่ กัวลาลัมเปอร์
29 December 2019
9.10 น. บินข้ามน่านฟ้าไปลั้ลลาที่ประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยตั๋วเครื่องบินของ AirAsia
เหตุผลเดียวเลยค่ะ คือราคาถูกที่สุด (ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ บอกก่อน 5555) เที่ยวบินเป็น AK 881 ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 คือ แบ่งเป็นสองข้าง ข้างละ 3 ที่นั่ง ซึ่งถ้าใครไม่มีสัมภาระต้องโหลดเข้าใต้ท้องเครื่อง สามารถทำ Self Check-in ที่ตู้ AirAsia สีแดงๆ ได้เลย ไม่ต้องเข้าแถวไปเช็คอินกับเค้าเตอร์ ส่วนใครมีกระเป๋าต้องโหลด ก็ต่อแถวโลด
แต่วันนั้นคนเยอะมากๆๆๆ ใครมีบัตรเบ่ง AirAsia แบบพรีเมี่ยมทั้งหลาย ก็ยื่นเข้าแถวพิเศษไม่ต้องรอคิวนานได้เลย ใครไม่มีก็เผื่อเวลาไว้หน่อยนะคะ ช่วงเทศกาลมันโหดชริงๆ เผื่อเวลาก่อนเครื่องบินออก 3 ชั่วโมงไปเลย เวลาเหลือดีกว่าขาด
ดอนเมือง(DMK) - กัวลาลัมเปอร์(KUL) เวลาที่มาเลเซียจะไวกว่าไทย 1 ชั่วโมงนะคะ
11.20 น. เวลาของประเทศมาเล ใช้เวลานั่งเครื่องแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงละจ้า มาแลนดิ้งที่อาคาร 2 ของสนามบิน ซึ่งคนที่นี่เรียกว่า “KLIA 2” ย่อมาจาก “Kuala Lumpur International Airport” เต็มมากเวอออร์ 555 พอออกจากประตูเครื่องบินนี่ อากาศเหมือนเมืองไทยเป๊ะ ร้อน! 555 และเดินโคตรไกล บอกเลยว่าโคตรรรรรไกลจริงๆ กว่าจะถึงด่าน ตม. เหมือนอ้อมรอบสถามบินรอบใหญ่ แอบสังเกตนั่ง สายการบิน Low cost ทีไร เดินไกลงี้ตล๊อด 555
เหนื่อยจากการเดิน ก็ ได้มายืนพักยาวๆ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพราะคนยืนต่อคิวจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว แต่ด้วยสายตาอันเฉี่ยวไวของเรา ก็สังเกตเห็นแถวที่สั้นที่สุดอยู่ทางซ้าย และขยับค่อนข้างไว ก็ไม่รีรอจ้า มุดๆๆ ย้ายไปแถวนั้น ใช้เวลาทั้งหมดก็น่าจะเกินชั่วโมง กว่าจะได้ออกมารับกระเป๋า
12.45 น. พอเดินออกมาโซนข้างนอกได้ ก็เจอร้านอาหารเต็มไปหมดเลย เราเลือกร้านที่มีบะหมี่ไก่ราดซอส และซาลาเปาหมูแดง ชอบง่ะซาลาเปาหมูแดงมาเลเซียอร่อย จบด้วยไอติม Snicker จากร้านมินิมาร์ทใกล้ๆ มาเป็นตู้เลยจ้า รองท้องก่อนออกเดินทางขึ้นไปเก็นติ้ง Genting Highland เพราะจะใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชั่วโม๊งงง!
ย้ำอีกครั้งว่าเป็นไอติมนะจ๊า
แอบถ่ายหน้าตู้ไอติมมา แบบอื่นก็มีนะ แต่ไม่ได้ชิม พอไปหาที่อื่นก็ไม่เจอตู้ไอติม Snicker แบบนี้แล้ว T T ขากลับก็ไม่ผ่านทางนี้ เส้าแปป อยากกินอี๊กกกก อร่อยยยย
ด้วยความที่ทริปนี้มีหลายคน เราเลยเลือกการเดินทางโดยเหมารถตู้ซะเลย สำหรับใครที่มาเองนะคะ มีทางเลือกในการเดินทางออกจากสนามบินหลายทาง
1. รสบัสสาธารณะ - สำหรับจำนวนคนน้อย สามารถนั่งรถบัสได้ที่ชั้นใต้ดินของ KLIA 2 เจ้าหน้าที่พูดอังกฤษได้
2. เรียก GRAB TAXI ได้เลย - ถ้ามีงบหน่อยนะ สะดวกสบาย ง่ายดี ไปที่ไหนก็ได้ ใช้ App เดียวกับตอนอยู่ไทยได้เลยด้วย ไม่ต้องโหลดใหม่ อินเตอร์ฝุดๆ
3. บริการรถตู้ - อันนี้จะเป็นแบบเหมา มีทั้งแบบติดต่อเค้าเตอร์ชั้นใต้ดินของ KLIA 2 และติดต่อคนที่ยืนดักตรงหน้าประตูทางออกเลย
เหมารถตู้ไป Genting Highland ถ้าเหมารถด้านล่างจากเค้าเตอร์ ได้ราคา 500 ริงกิต (ริงกิตละ 7.28 บาทไทย ณ ตอนนั้น) แต่เราแอบลองใช้บริการของพี่สาวที่มายืนดักหน้าประตูทางออกดู กลัวเหมือนกันนะ แต่คิดว่าถ้าเถื่อนนี่น่าจะโดนไล่ไปนานละ เพราะมาทุกครั้งก็เจอยืนดักไว้ทุกครั้ง 555 เอ้า! ลองก็ลอง ปรากฏว่า ค่อนข้างโอเคเลยนะ เก็บแค่ 450 ริงกิต ได้รถใหญ่กว่าด้วย นั่งมาทั้งหมด 10 คน ง่ายดี ไม่ต้องเดินลงไปข้างล่าง ก็ถึงอย่างสวัสดิภาพ (พี่คนที่รอบริการ คือพี่เสื้อชมพูเลย)
ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากสนามบินขึ้นไปเก็นติ้งไฮแลนด์ทางรถ (จริงๆ นั่งกระเช้าขึ้นไปก็ได้นะ แต่แถวยาวมว้ากกกกกกกก นั่งรถเถอะ ไว้ค่อยนั่งกระเช้าลงมาเล่น เพราะจริงๆ ระหว่างทางกระเช้า จอดหลายสถานี มีที่เที่ยวหลายที่อยู่
เช็คอินที่ First World Resort ด้วยความที่จองมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ก็เช็คอินผ่านตู้อัตโนมัติได้เลย เลือกได้เอาวิวไม่เอาวิว ใกล้-ไกลลิฟต์ Non-smoking หรือเปล่า ทั้งหมดนี้มีบางอย่างต้องเพิ่มเงินเข้าไป ใช้พาสปอร์ตเราสแกน ก็จะได้คีการ์ดออกมา ที่นี่เค้าขึ้นชื่อว่ามีห้องพักมากที่สุดในโลก ติด Guinness World Record ด้วยนะ ด้วยห้องพักทั้งหมด 6,000+ กว่าห้องเลย มีทั้งหมด 3 ตึก แต่เราได้ตึกใหม่สุดและเล็กสุด 5555
รอบๆ เสานั้นคือ เครื่องเช็คอินอัตโนมัติหมดเลยจ่าาา หลายสิบเครื่องเลยจ่าา ถ้าใครไม่ชอบเล่นกับเครื่องแบบนี้ ทางโรมแรมเค้าก็มีเค้าเตอร์เช็คอินปกติให้บริการด้วยจ้า
เดินชม Casino ของที่นี่หน่อย จริงๆ มีหลายที่ แต่ที่ๆ ใหม่และใหญ่ที่สุด ต้องยกให้ “SkyCasino” เค้าไม่ให้ถ่ายรูปด้านใน เลยได้แต่ทางเข้ามา ตอนถ่ายก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ เหมือนกันนะ ยามจะมาด่ากูมั้ยว้า แต่เค้าไม่สนจ้า รอด! อ้อ กระเป๋าเป้เค้าไม่ให้สะพายเข้านะ ถ้าเป็นกระเป๋าสะพายข้างทั่วไป เข้าได้ไม่เป็นไร ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ใครรู้ช่วยบอกที
มีชาฟรีกาแฟฟรีบริการ เป็นตู้กดอัตโนมัติ คอแห้งก็เดินไปกดเองได้เลย คาซิโนที่นี่เค้าค่อนข้างใหญ่อยู่นะ มีร้านอาหารด้านใน รองรับบุคคลที่ต้องการจะพักทานข้าวแบบทำเวลา เพราะกลับไปลุ้นกันต่อ ส่วนเค้าเตอร์ทำบัตรสมาชิกคาซิโนก็โอ้โหยิ่งใหญ่อลังการตามด้านล่างนี้เลย
จบวันแรกแบบไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่ เพราะเหนื่อยกับการเดินทางเล็กน้อย มีเดินสำรวจรอบๆ นิดหน่อย เดี๋ยวมารีวิวเพิ่มเติมในวันถัดไปนะคะ หลับเอาแรงไปลุยต่อวันรุ่งขึ้น
[CR] รีวิวเที่ยว "เก็นติ้ง ไฮแลนด์ (Genting Highland)" ช่วงเทศกาลปีใหม่ ละเอียดยิบ ไม่ง้อทัวร์
บอกก่อนว่าอันนี้เป็นรีวิวครั้งแรกเลยนะคะ ถูกผิดตรงไหนยังไง แนะนำได้นะคะ
----------------------------------------------------
Day 1 - เดินทางจากกรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) มุ่งหน้าเข้าสู่ กัวลาลัมเปอร์
29 December 2019
9.10 น. บินข้ามน่านฟ้าไปลั้ลลาที่ประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยตั๋วเครื่องบินของ AirAsia
เหตุผลเดียวเลยค่ะ คือราคาถูกที่สุด (ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ บอกก่อน 5555) เที่ยวบินเป็น AK 881 ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 คือ แบ่งเป็นสองข้าง ข้างละ 3 ที่นั่ง ซึ่งถ้าใครไม่มีสัมภาระต้องโหลดเข้าใต้ท้องเครื่อง สามารถทำ Self Check-in ที่ตู้ AirAsia สีแดงๆ ได้เลย ไม่ต้องเข้าแถวไปเช็คอินกับเค้าเตอร์ ส่วนใครมีกระเป๋าต้องโหลด ก็ต่อแถวโลด
แต่วันนั้นคนเยอะมากๆๆๆ ใครมีบัตรเบ่ง AirAsia แบบพรีเมี่ยมทั้งหลาย ก็ยื่นเข้าแถวพิเศษไม่ต้องรอคิวนานได้เลย ใครไม่มีก็เผื่อเวลาไว้หน่อยนะคะ ช่วงเทศกาลมันโหดชริงๆ เผื่อเวลาก่อนเครื่องบินออก 3 ชั่วโมงไปเลย เวลาเหลือดีกว่าขาด
ดอนเมือง(DMK) - กัวลาลัมเปอร์(KUL) เวลาที่มาเลเซียจะไวกว่าไทย 1 ชั่วโมงนะคะ
11.20 น. เวลาของประเทศมาเล ใช้เวลานั่งเครื่องแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงละจ้า มาแลนดิ้งที่อาคาร 2 ของสนามบิน ซึ่งคนที่นี่เรียกว่า “KLIA 2” ย่อมาจาก “Kuala Lumpur International Airport” เต็มมากเวอออร์ 555 พอออกจากประตูเครื่องบินนี่ อากาศเหมือนเมืองไทยเป๊ะ ร้อน! 555 และเดินโคตรไกล บอกเลยว่าโคตรรรรรไกลจริงๆ กว่าจะถึงด่าน ตม. เหมือนอ้อมรอบสถามบินรอบใหญ่ แอบสังเกตนั่ง สายการบิน Low cost ทีไร เดินไกลงี้ตล๊อด 555
เหนื่อยจากการเดิน ก็ ได้มายืนพักยาวๆ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพราะคนยืนต่อคิวจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว แต่ด้วยสายตาอันเฉี่ยวไวของเรา ก็สังเกตเห็นแถวที่สั้นที่สุดอยู่ทางซ้าย และขยับค่อนข้างไว ก็ไม่รีรอจ้า มุดๆๆ ย้ายไปแถวนั้น ใช้เวลาทั้งหมดก็น่าจะเกินชั่วโมง กว่าจะได้ออกมารับกระเป๋า
12.45 น. พอเดินออกมาโซนข้างนอกได้ ก็เจอร้านอาหารเต็มไปหมดเลย เราเลือกร้านที่มีบะหมี่ไก่ราดซอส และซาลาเปาหมูแดง ชอบง่ะซาลาเปาหมูแดงมาเลเซียอร่อย จบด้วยไอติม Snicker จากร้านมินิมาร์ทใกล้ๆ มาเป็นตู้เลยจ้า รองท้องก่อนออกเดินทางขึ้นไปเก็นติ้ง Genting Highland เพราะจะใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชั่วโม๊งงง!
ย้ำอีกครั้งว่าเป็นไอติมนะจ๊า
แอบถ่ายหน้าตู้ไอติมมา แบบอื่นก็มีนะ แต่ไม่ได้ชิม พอไปหาที่อื่นก็ไม่เจอตู้ไอติม Snicker แบบนี้แล้ว T T ขากลับก็ไม่ผ่านทางนี้ เส้าแปป อยากกินอี๊กกกก อร่อยยยย
ด้วยความที่ทริปนี้มีหลายคน เราเลยเลือกการเดินทางโดยเหมารถตู้ซะเลย สำหรับใครที่มาเองนะคะ มีทางเลือกในการเดินทางออกจากสนามบินหลายทาง
1. รสบัสสาธารณะ - สำหรับจำนวนคนน้อย สามารถนั่งรถบัสได้ที่ชั้นใต้ดินของ KLIA 2 เจ้าหน้าที่พูดอังกฤษได้
2. เรียก GRAB TAXI ได้เลย - ถ้ามีงบหน่อยนะ สะดวกสบาย ง่ายดี ไปที่ไหนก็ได้ ใช้ App เดียวกับตอนอยู่ไทยได้เลยด้วย ไม่ต้องโหลดใหม่ อินเตอร์ฝุดๆ
3. บริการรถตู้ - อันนี้จะเป็นแบบเหมา มีทั้งแบบติดต่อเค้าเตอร์ชั้นใต้ดินของ KLIA 2 และติดต่อคนที่ยืนดักตรงหน้าประตูทางออกเลย
เหมารถตู้ไป Genting Highland ถ้าเหมารถด้านล่างจากเค้าเตอร์ ได้ราคา 500 ริงกิต (ริงกิตละ 7.28 บาทไทย ณ ตอนนั้น) แต่เราแอบลองใช้บริการของพี่สาวที่มายืนดักหน้าประตูทางออกดู กลัวเหมือนกันนะ แต่คิดว่าถ้าเถื่อนนี่น่าจะโดนไล่ไปนานละ เพราะมาทุกครั้งก็เจอยืนดักไว้ทุกครั้ง 555 เอ้า! ลองก็ลอง ปรากฏว่า ค่อนข้างโอเคเลยนะ เก็บแค่ 450 ริงกิต ได้รถใหญ่กว่าด้วย นั่งมาทั้งหมด 10 คน ง่ายดี ไม่ต้องเดินลงไปข้างล่าง ก็ถึงอย่างสวัสดิภาพ (พี่คนที่รอบริการ คือพี่เสื้อชมพูเลย)
ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากสนามบินขึ้นไปเก็นติ้งไฮแลนด์ทางรถ (จริงๆ นั่งกระเช้าขึ้นไปก็ได้นะ แต่แถวยาวมว้ากกกกกกกก นั่งรถเถอะ ไว้ค่อยนั่งกระเช้าลงมาเล่น เพราะจริงๆ ระหว่างทางกระเช้า จอดหลายสถานี มีที่เที่ยวหลายที่อยู่
เช็คอินที่ First World Resort ด้วยความที่จองมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ก็เช็คอินผ่านตู้อัตโนมัติได้เลย เลือกได้เอาวิวไม่เอาวิว ใกล้-ไกลลิฟต์ Non-smoking หรือเปล่า ทั้งหมดนี้มีบางอย่างต้องเพิ่มเงินเข้าไป ใช้พาสปอร์ตเราสแกน ก็จะได้คีการ์ดออกมา ที่นี่เค้าขึ้นชื่อว่ามีห้องพักมากที่สุดในโลก ติด Guinness World Record ด้วยนะ ด้วยห้องพักทั้งหมด 6,000+ กว่าห้องเลย มีทั้งหมด 3 ตึก แต่เราได้ตึกใหม่สุดและเล็กสุด 5555
รอบๆ เสานั้นคือ เครื่องเช็คอินอัตโนมัติหมดเลยจ่าาา หลายสิบเครื่องเลยจ่าา ถ้าใครไม่ชอบเล่นกับเครื่องแบบนี้ ทางโรมแรมเค้าก็มีเค้าเตอร์เช็คอินปกติให้บริการด้วยจ้า
เดินชม Casino ของที่นี่หน่อย จริงๆ มีหลายที่ แต่ที่ๆ ใหม่และใหญ่ที่สุด ต้องยกให้ “SkyCasino” เค้าไม่ให้ถ่ายรูปด้านใน เลยได้แต่ทางเข้ามา ตอนถ่ายก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ เหมือนกันนะ ยามจะมาด่ากูมั้ยว้า แต่เค้าไม่สนจ้า รอด! อ้อ กระเป๋าเป้เค้าไม่ให้สะพายเข้านะ ถ้าเป็นกระเป๋าสะพายข้างทั่วไป เข้าได้ไม่เป็นไร ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ใครรู้ช่วยบอกที
มีชาฟรีกาแฟฟรีบริการ เป็นตู้กดอัตโนมัติ คอแห้งก็เดินไปกดเองได้เลย คาซิโนที่นี่เค้าค่อนข้างใหญ่อยู่นะ มีร้านอาหารด้านใน รองรับบุคคลที่ต้องการจะพักทานข้าวแบบทำเวลา เพราะกลับไปลุ้นกันต่อ ส่วนเค้าเตอร์ทำบัตรสมาชิกคาซิโนก็โอ้โหยิ่งใหญ่อลังการตามด้านล่างนี้เลย
จบวันแรกแบบไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่ เพราะเหนื่อยกับการเดินทางเล็กน้อย มีเดินสำรวจรอบๆ นิดหน่อย เดี๋ยวมารีวิวเพิ่มเติมในวันถัดไปนะคะ หลับเอาแรงไปลุยต่อวันรุ่งขึ้น
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น