DCA กองทุนรวม (20,000 THB/month)

**กองทุนรวมตราสารทุน หุ้นไทย**
(50%) (10,000 THB/month) (3 funds)
Passive fund
1. SCBSET50E : 3,000 THB
Active fund
1. JB25 : 3,000 THB
2. 1AMSET50-RA : 4,000 THB

ที่เลือกกองทุนรวมในตราสารทุน 50% เนื่องจากยอมรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง เงินลงทุนเป็นเงินเย็นที่ไม่รบกวนเงินออมอื่น เป็นกองทุนที่เติบโตให้ค่าตอบแทนระยะยาวดี ทั้ง 3 กองทุนมีทั้งค่า front-end fee, back-end fee และ management fee ที่ต่ำทั้งหมด ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ได้คล้ายกันทั้งหมด

**กองทุนตราสารหนี้**
(15%) (3,000 THB/month) (2 funds)
Active fund
1. TMBABF : 1,500 THB
2. TFIF : 1,500 THB

เลือกกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้บ้างเพราะความเสี่ยงน้อยแม้จะมีค่าตอบแทนระยะยาวน้อยกว่าแต่โอกาสรักษาเงินต้นทุนไว้ปลอดภัยที่สุด

**กองทุนรวมตราสารทุน หุ้นต่างประเทศ**
(20%) (4,000 THB/month) (2 funds)
Passive fund
1. K-USXNDQ-A(D) : 2,000 THB
Active fund 
1. KGHRMF : 2,000 THB ลดหย่อนภาษีได้

เลือกลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทย และทั้ง 2 กองมีผลประกอบการที่ดี กองทุนแรกมีปันผลไว้ใช้ระหว่างออมบ้างและกองทุนที่สองลงทุนเกี่ยวกับสุขภาพน่าจะมีอนาคตในสังคมที่จะเป็นสังคมผู้สูงอายุและลดหย่อนภาษีได้

**กองทุนรวมผสม**
(10%) (2,000 THB/month) (1 fund)
Active fund
1. PHATRA SG-AA : 2,000 THB

**กองทุนสินทรัพย์ทางเลือก** 
(5%) (1,000 THB/month)
1. TGoldBullion-UH : 1,000 THB)

อีก 2 กองสุดท้ายรวมกัน 15% เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตไปลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ไม่ซ้ำกับกองทุนหลัก

ผมลองจัดประมาณนี้พอไหวไหมครับ รบกวนผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญผู้มีประสบการณ์ในการลงทุนช่วยวิจารณ์ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าทุกความเห็นครับ 🙏