มาเรียนต่างประเทศเเต่ไม่มีความสุขเลย ทำยังไงดี

คือตอนนี้เรามาเรียนต่อที่ญี่ปุ่นค่ะ พึ่งมาเรียนได้เกือบปี
เราอายุ 16 ปีนะคะ มาเรียนม.4 ค่ะ เราอยู่ที่นี้ช่วงเเรกเราก็เป็นhomesick นั้นเเหละค่ะเป็นหนักมากด้วยเพราะ เราเป็นคนค่อนข้างติดพ่อเเม่ ชีวิตนี้ไม่เคยห่างจากครอบครัวเกิน 3 วัน เเล้วการที่เรามาเรียนที่ญี่ปุ่นเลยเนี่ยมันทำให้เราเป็น homesick หนักมา เราร้องไห้ตลอด เราคอลกับเเม่เราทุกวัน เเต่ถึงจะได้คุยได้เห็นหน้ากันมันก็ไม่ได้รู้สึกว่าความคิดถึงมันน้อยลงเลยอะค่ะ มันมีเเต่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ พอเราเป็นเเบบนี้เราก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่คอลอาจจะคิดถึงน้อยลงก็ได้นะ เเต่พอเราทำได้วัน สองวัน เราเศร้าหนักกว่าเดิมอีกค่ะ เพราะเหมือนความสุขในเเต่ละวันคือ การได้กลับมาคอลกับเเม่พูดคุยเรื่องในเเต่ละวัน ว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง

เรามีเพื่อนอยู่บางเเต่ก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น  เราอยู่ในเมืองที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ที่เที่ยวก็มีอยู่ไม่กี่ที่ ตอนเเรกที่เราเข้ามาเรียนเราคิดว่าผ่านไปสักครึ่งปีอะไรๆมันคงจะดีขึ้น เเต่รู้สึกว่ายิ่งเวลาผ่านไปทุกอย่างมันยิ่งเเย่ลง เราไม่มีใครให้ระบายเวลามีเรื่องอึดอัดใจ  บางครั้งเราก็กลัวตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้ามาก

เราไม่มีความสุขกับการไปโรงเรียน ทุกครั้งที่ต้องเดินเข้าห้องเรียนเราเเบบรู้สึกอึดอัดมากกับการอยู่ในห้องเรียนยิ่งเวลาที่ต้องทำงานกลุ่ม เพราะภาษาเรามันไม่ได้ดีมากขนาดนั้น เเล้วการที่ต้องมานั้นเรียนกับเพื่อนคนญี่ปุ่นเลย เเล้วเราเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่เข้าใจเเละคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง เราก็ยิ่งรู้สึกว่าทำไมเราโง่จังวะ เรากับเพื่อนในห้องบางคนก็พอจะคุยๆกันอยู่บ้าง เเต่มันก็อาจจะมีอุปสรรคด้านภาษา  มันทำให้เราค่อนข้างที่จะคุยกับเพื่อนต่างชาติไม่ค่อยได้ เราอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนคนญี่ปุ่นนะคะ เเต่เพราะบ้านของเพื่อนเเต่ละคนก็อยู่อีกเมืองหนึ่ง บ้างคนนั่งรถไฟเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงโรงเรียน เเล้วเราที่อยู่หอโรงเรียนก็ต้องกลับหอก่อน 1 ทุ่มอีก เวลาอยากจะไปเที่ยวหลังเลิกเรียน เเต่หลายๆอย่างมันก็ไม่ได้สะดวกขนาดนั้น

เรื่องการเรียนเราก็ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไรเรื่องค่ะ เรายอมรับเลยว่าเราไม่เก่งเรื่องเรียนมาเเต่ไหนเเต่ไรเเล้ว
เเล้วยิ่งมาเรียนที่นี้โดยที่เรียนทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งคันจิก็ย๊ากยาก  สอบ 2ครั้งที่ผ่านมาคะเเนนสอบมันก็ได้เเบบตกครึ่งหนึ่งขอวิชาทั้งหมดที่เรียน(ทีญี่ปุ่นคะเเนนทั้งหมด 70% มาจากคะเเนนสอบส่วนอีก 10% คือคะเเนนเเบบฝึก บลาๆ) เราค่อนข้างที่จะกดดันตัวเองในเรื่องการเรียน เพราะเราก็อยากที่จะทำคะเเนนดีๆให้พ่อกับเเม่เห็นบาง เเต่คันจิมันก็มาเเบบไม่หยุดยั้ง ถึงเเม้ว่าพ่อกับเเม่เราจะพูดเสมอว่าต่อให้เราตกทุกวิชาเขาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาเข้าใจว่ามันยากมาก เพราะเเม่เราเป็นคนญี่ปุ่น เขาก็เข้าใจว่าคันจิมันยากมาก เเม่กับพ่อเราบอกเสมอว่าเจ้าอยากให้เรา enjoyกับที่นู้นมากกว่าที่จะมากังวลเรื่องเรียน เเต่เราก็อยากจะทำคะเเนนดีๆให้เข้าภูมิใจบางที่ส่งเรามาเรียนถึงที่นี้ เราพยายามท่องคันจิทุกๆวัน เเต่มันก็ยังไม่พออยู่ดีที่เราจะเข้าใจพวกวิชาวิทย์ ประวัติ สังคม หรือหลายๆวิชา ที่มีคันจิที่เป็นศัพท์เฉพาะ

จริงๆเราก็มีเพื่อนต่างชาติในหอนะคะคือเราก็ไปกินข้าวเช้า-เที่ยง-เย็นกับทุกคน เเต่ทุกคนไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันเลย เพราะเหมือนเวลาทุกคนจะไปเที่ยวก็จะไปกับเพื่อนที่เป็นชาติเดียวกับตัวเองมากกว่า (ในกลุ่มเรามีเพื่อนคนเกาหลี อินโด ไทย)เรารู้สึกไม่มีใครเลย เพื่อนคนไทยอีกคนก็ไปเที่ยวกับแฟนตลอด เราเหงามากก เเต่เราไม่เคยพูดเรื่องความอึดอัดของเราให้ใครฟังเลยนะคะ  

เรากลับไทยปีละครั้งค่ะ ปิดเทอมที่ยาวที่สุดของที่นี้ก็เเค่ 2-3 อาทิตย์ เเล้วทุกครั้งที่เรากลับมาจากไทยเราก็จะเป็นโฮมซิกหนักกว่าเก่า จนบ้างครั้งเราก็รู้สึกว่าเราไม่น่าเลือกมาทางนี้เลย หาลยๆคนอาจจะคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีจะตาย มีตั้งหลายคนที่อยากจะมา เเต่มาไม่ได้ เราจะก็รู้นะคะ ว่าโชคดีที่มีโอกาสได้มาเรียนที่นี้เเต่การเรียนต่างประเทศมันคงไม่เหมาะกับเราจริงๆ

เเต่เอาจริงๆถ้าทำได้เราก็อยาจะปรับตัวให้เข้ากับทุกอย่างที่นี้ให้ได้  อย่าจะมีความสุขกับการมาเรียนต่างประเทศเหมือนที่ได้ยินคนอื่นๆเข้าพูดกัน อยากจะมีความสุขกับการที่ได้มาเรียนในประเทศที่ตัวเองชอบที่สุด อยากจะมีเพื่อนเยอะๆที่เราสามารถออกไปเที่ยวด้วยกันได้ตลอดเวลา อยากจะหัวเราะไปกับเพื่อนๆ ออกไปเที่ยวบ่อยๆ จนลืมๆเรื่องความเศร้าไป เราเคยพยายามปรับตัว พยายามเปิดใจเเบบสุดๆ พยายามทำตัวเองให้มีความสุข เเต่ยิ่งทำข้างในมันก็เหมือนยิ่งพัง ยิ่งฝืน ยิ่งกดดันตัวเองเลยอะค่ะ เราควรจะทำยังไงให้มีความสุขกับชีวิตที่นี้ดีหรอคะ เพราะเวลาที่เรามีความสุขที่สุดตอนนี้คือการได้คุยกับครอบครัว ได้คอลกับเพื่อนที่ไทย

จริงๆอีก 10เดือนน้องหนูก็จะมาเรียนต่อที่นี้เหมือนกันถ้าน้องมาอะไรๆมันควดีขึ้น คงมีคนไปเที่ยวด้วยกันบ่อยขึ้น เเต่กว่าจะถึงตอนนั้นหนูควรทำยังไงให้ตัวเองมีความสุขกับชีวิตในตอนนี้หรอคะ

ป.ล. ถึงยังไงความฝันของหนูก็ยังเป็นเรียนมหาลัยในญี่ปุ่นอยู่ดีนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่