หนังของ โนแลน นี่ ถือว่าเป็น อะไรที่สุด จริงๆ โดยเฉพาะหนังที่ คิดและ ใส่ ทฤษฎี หรือ เงื่อนไขอะไรที่แปลกๆ เข้าไปเป็น พล๊อตหลัก ให้คนดูได้คิดตาม และจะหาคำเฉลยออกมาได้ก็ต้องดูจนจบเรื่อง หรือ ไม่ก็ต้องจบเรื่องแบบหลายๆรอบก็มี กว่าจะเข้าใจ
หนังแนวนี้ ของแก ก็ตั้งแต่ MEMENTO, Inception และ Interstellar ส่วนผลงานเรื่องอื่นๆ ในส่วนตัว ผมมองว่าไม่ได้มี ทฤษฎีแปลกๆ อะไรที่ใส่เข้าไป เลยไม่ได้จัดรวมไว้
มาปีนี้ก็เป็น อีกปีที่หลายคนต่างเฝ้ารอคอย ผลงานของ Nolan รวมทั้งตัวผมคนหนึ่ง ที่รอ หลังจาก ล่าสุด เมื่อปี 2017 (Dunkirk)
หลังจากได้ดูตัวอย่าง ตัวแรกของ TENET ก็รู้ได้ทันที ว่า Nolan ปล่อยของแปลก ใหม่มาอีกแล้ว เมื่อดู ตัวอย่างจบ ผมก็นึกตามวิเคราะห์ตามว่า TENET มันจะมาไม้ไหน มันจะเล่นอะไรกับเราอีก ใช้เวลานาน ตั้งแต่ ตัวอย่างออก จึงจะมาแชร์แนวคิด การวิเคราะห์ พล๊อตหลักว่าน่าจะออกมาแนวนี้ ส่วนจะใช่ หรือไม่ใช่ ก็ไม่มีอะไรจะเสีย เเค่ ตีความเอา จากตัวอย่างครับ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ตัวหนังน่าจะพูดถึง ตัวละคร ทั้งฝั่งพระเอก กับ ฝั่งผู้ร้าย ที่อยู่ในโลกหรือกฏเกณฑ์ต่างทฤษฎีกัน เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน ต่างทฤษฎีต่างกฏเกณฑ์ที่ว่า คือ ทฤษฎี ดำเนินแบบไปข้างหน้าที่เป็นปกติของโลก ของ ตัวพระเอก และ ทฤษฎี ดำเนินแบบถอยหลัง ของอีกโลกหนึ่งหรือหรือกฏเกณฑ์หนึ่งของ ของพระเอกที่มองทาง ฝั่งผู้ร้าย หรือ พระเอก กับ ผู้ร้าย อยู่ในทฤษฎี กฏเกณฑ์ ที่เป็น reverse ของกันและกัน
ส่วนตัวพระเอก เป็นคนที่อยู่โลกทฤษฎีดำเนินไปข้างหน้าปกติแบบเราๆ ที่ดำเนินอยู่ และถูกกลุ่มบุคคล ที่อยู่อีกโลก หรือ กลุ่มบุคคลที่คอยสอดส่อง ทั้ง 2 ฝั่ง พาตัวมาทำงานให้อีกฝั่งหนึ่ง ที่เป็น ทฤษฎีดำเนินไปแบบถอยหลังในมุมมองของพระเอก
ทำให้พระเอก รู้ คาดเดาเหตุการณ์ ที่จะเกิดต่อจากนี้ไป จาก สภาพที่เห็นอยู่ในขณะปัจจุบัน ที่เกิดเป็นผลลัพแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเกิดต่อเนื่องจากนี้ไปสำหรับพระเอก เเน่นอนว่ามุมมองที่เห็นจะเป็น แบบ reverse นั่นเอง เป็นมุมมองที่ มีผล เกิดขึ้นก่อน ค่อยดำเนินไปที่ต้นเหตุ ดูจากตัวอย่าง นาทีนี่ 1:56 ที่มีหน่วยปฏิบัติการคนหนึ่ง เด้งออกมาจากห้อง ประตูเลื่อนชนกับ พระเอก และจากตัวอย่าง มุมมอง จะถูกถ่ายทอดออกมาทั้ง สองมุมมอง คือ จากมุมมองตัวพระเอก ที่เป็นแบบ reverse และพร้อมทั้งถูกถ่ายทอดออกมาในแบบปกติ สังเกตฉากไล่ล่าบนถนน ที่ มีฉากที่รถพลิกคว่ำปกติ ในขณะที่รถพระเอกกับคู่หู วิ่งถอยหลัง และตัดฉากมาที่พระเอกเห็นรถคันที่พลิกคว่ำในมุมมอง reverse และรถวิ่งไปข้างหน้า แสดงว่า แม้แต่รถ ก็อยู่กันคนละเงื่อนไขกฏเกณฑ์
ส่วนความสามารถที่มีในโลกฝั่งนั้นที่เป็นเหตุการณ์ในตัวหนัง พระเอกน่าจะเป็นตัวการไขความลับและ หยุดยั้งการก่อการร้ายของโลกฝั่งนั้นได้ เนื่องจากพระเอก เริ่มจาก ผลลัพธ์ แล้วย้อนไปที่จุดเริ่มต้น โดยพระเอกจะเป็นผู้ไปแก้ไขอดีต ในโลกฝั่งนั้น ซึ่ง มันคือเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตของตัวพระเอกเอง แต่ในเรื่อง ฉากการตัดต่อ และ Timeline แต่ละฝั่งที่ reverse กันและกัน นั้น ทาง Nolan จะนำเสนอออกมาอย่างไรให้คนดูเข้าใจนี่สิ ต้องขั้นเทพเลยละครับ
การดำเนินของฝั่งตัวพระเอกน่าจะเป็นการเริ่มจาก หายนะ และดำเนินไปจนไปสู่จุดเริ่มต้นของหายนะ
ส่วนฝั่งผู้ร้าย ก็จะเห็น ฝั้งพระเอก เป็นมุมมอง reverse เหมือนกัน คือ เห็น ผลสำเร็จของฝั่งพระเอก และดำเนินไป จะถึงความพยายามเริ่มต้นที่จะขัดขวาง
ทฤษฎีนี้เคยทำเป็นหนังออกมาแล้ว คือ
เรื่อง Tomorrow I Will Date With Yesterday's You แต่แตกต่างที่ TENET ลงลึกถึงสถาณการณ์ ที่เกิดขึ้นต่อหน้า และเป็นแบบ reverse ในมุมมองของตัวพระเอก ผสมกบมุมมองปกติ
อย่าเชื่อครับ เพราะ เดาตีความจากตัวอย่างเท่าที่เห็น
TENET ของ Nolan ตีความ วิเคราะห์ พล๊อตเรื่องหลัก ที่พอจะเป็นไปได้
หนังของ โนแลน นี่ ถือว่าเป็น อะไรที่สุด จริงๆ โดยเฉพาะหนังที่ คิดและ ใส่ ทฤษฎี หรือ เงื่อนไขอะไรที่แปลกๆ เข้าไปเป็น พล๊อตหลัก ให้คนดูได้คิดตาม และจะหาคำเฉลยออกมาได้ก็ต้องดูจนจบเรื่อง หรือ ไม่ก็ต้องจบเรื่องแบบหลายๆรอบก็มี กว่าจะเข้าใจ
หนังแนวนี้ ของแก ก็ตั้งแต่ MEMENTO, Inception และ Interstellar ส่วนผลงานเรื่องอื่นๆ ในส่วนตัว ผมมองว่าไม่ได้มี ทฤษฎีแปลกๆ อะไรที่ใส่เข้าไป เลยไม่ได้จัดรวมไว้
มาปีนี้ก็เป็น อีกปีที่หลายคนต่างเฝ้ารอคอย ผลงานของ Nolan รวมทั้งตัวผมคนหนึ่ง ที่รอ หลังจาก ล่าสุด เมื่อปี 2017 (Dunkirk)
หลังจากได้ดูตัวอย่าง ตัวแรกของ TENET ก็รู้ได้ทันที ว่า Nolan ปล่อยของแปลก ใหม่มาอีกแล้ว เมื่อดู ตัวอย่างจบ ผมก็นึกตามวิเคราะห์ตามว่า TENET มันจะมาไม้ไหน มันจะเล่นอะไรกับเราอีก ใช้เวลานาน ตั้งแต่ ตัวอย่างออก จึงจะมาแชร์แนวคิด การวิเคราะห์ พล๊อตหลักว่าน่าจะออกมาแนวนี้ ส่วนจะใช่ หรือไม่ใช่ ก็ไม่มีอะไรจะเสีย เเค่ ตีความเอา จากตัวอย่างครับ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ตัวหนังน่าจะพูดถึง ตัวละคร ทั้งฝั่งพระเอก กับ ฝั่งผู้ร้าย ที่อยู่ในโลกหรือกฏเกณฑ์ต่างทฤษฎีกัน เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน ต่างทฤษฎีต่างกฏเกณฑ์ที่ว่า คือ ทฤษฎี ดำเนินแบบไปข้างหน้าที่เป็นปกติของโลก ของ ตัวพระเอก และ ทฤษฎี ดำเนินแบบถอยหลัง ของอีกโลกหนึ่งหรือหรือกฏเกณฑ์หนึ่งของ ของพระเอกที่มองทาง ฝั่งผู้ร้าย หรือ พระเอก กับ ผู้ร้าย อยู่ในทฤษฎี กฏเกณฑ์ ที่เป็น reverse ของกันและกัน
ส่วนตัวพระเอก เป็นคนที่อยู่โลกทฤษฎีดำเนินไปข้างหน้าปกติแบบเราๆ ที่ดำเนินอยู่ และถูกกลุ่มบุคคล ที่อยู่อีกโลก หรือ กลุ่มบุคคลที่คอยสอดส่อง ทั้ง 2 ฝั่ง พาตัวมาทำงานให้อีกฝั่งหนึ่ง ที่เป็น ทฤษฎีดำเนินไปแบบถอยหลังในมุมมองของพระเอก
ทำให้พระเอก รู้ คาดเดาเหตุการณ์ ที่จะเกิดต่อจากนี้ไป จาก สภาพที่เห็นอยู่ในขณะปัจจุบัน ที่เกิดเป็นผลลัพแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเกิดต่อเนื่องจากนี้ไปสำหรับพระเอก เเน่นอนว่ามุมมองที่เห็นจะเป็น แบบ reverse นั่นเอง เป็นมุมมองที่ มีผล เกิดขึ้นก่อน ค่อยดำเนินไปที่ต้นเหตุ ดูจากตัวอย่าง นาทีนี่ 1:56 ที่มีหน่วยปฏิบัติการคนหนึ่ง เด้งออกมาจากห้อง ประตูเลื่อนชนกับ พระเอก และจากตัวอย่าง มุมมอง จะถูกถ่ายทอดออกมาทั้ง สองมุมมอง คือ จากมุมมองตัวพระเอก ที่เป็นแบบ reverse และพร้อมทั้งถูกถ่ายทอดออกมาในแบบปกติ สังเกตฉากไล่ล่าบนถนน ที่ มีฉากที่รถพลิกคว่ำปกติ ในขณะที่รถพระเอกกับคู่หู วิ่งถอยหลัง และตัดฉากมาที่พระเอกเห็นรถคันที่พลิกคว่ำในมุมมอง reverse และรถวิ่งไปข้างหน้า แสดงว่า แม้แต่รถ ก็อยู่กันคนละเงื่อนไขกฏเกณฑ์
ส่วนความสามารถที่มีในโลกฝั่งนั้นที่เป็นเหตุการณ์ในตัวหนัง พระเอกน่าจะเป็นตัวการไขความลับและ หยุดยั้งการก่อการร้ายของโลกฝั่งนั้นได้ เนื่องจากพระเอก เริ่มจาก ผลลัพธ์ แล้วย้อนไปที่จุดเริ่มต้น โดยพระเอกจะเป็นผู้ไปแก้ไขอดีต ในโลกฝั่งนั้น ซึ่ง มันคือเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตของตัวพระเอกเอง แต่ในเรื่อง ฉากการตัดต่อ และ Timeline แต่ละฝั่งที่ reverse กันและกัน นั้น ทาง Nolan จะนำเสนอออกมาอย่างไรให้คนดูเข้าใจนี่สิ ต้องขั้นเทพเลยละครับ
การดำเนินของฝั่งตัวพระเอกน่าจะเป็นการเริ่มจาก หายนะ และดำเนินไปจนไปสู่จุดเริ่มต้นของหายนะ
ส่วนฝั่งผู้ร้าย ก็จะเห็น ฝั้งพระเอก เป็นมุมมอง reverse เหมือนกัน คือ เห็น ผลสำเร็จของฝั่งพระเอก และดำเนินไป จะถึงความพยายามเริ่มต้นที่จะขัดขวาง
ทฤษฎีนี้เคยทำเป็นหนังออกมาแล้ว คือ
เรื่อง Tomorrow I Will Date With Yesterday's You แต่แตกต่างที่ TENET ลงลึกถึงสถาณการณ์ ที่เกิดขึ้นต่อหน้า และเป็นแบบ reverse ในมุมมองของตัวพระเอก ผสมกบมุมมองปกติ
อย่าเชื่อครับ เพราะ เดาตีความจากตัวอย่างเท่าที่เห็น