เหล่าอาสาสมัครฮีโร่ในชีวิตจริง

White Helmets



White Helmets กลุ่มฮีโร่ในชีวิตจริง ช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมาย ในสงครามซีเรีย

เรื่องราวของฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตเด็ก ผู้บาดเจ็บและผู้สูญหาย กลุ่มชายหญิงที่กล้าหาญที่สุดในประเทศซีเรีย กลุ่ม White Helmets ที่ช่วยเหลือผู้คนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังระหว่างสงคราม
‘ขณะที่ระเบิดโปรยปรายลงมา หน่วยป้องกันมาตุภูมิของประเทศซีเรียก็เข้าสู่สงคราม แต่ในสถานการณ์ที่หน่วยงานรัฐไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ พวกเขาเหล่าพลเมืองอาสาผู้ไร้อาวุธกลุ่มนี้ เสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้อื่น ไม่แบ่งแยกฝ่าย เชื้อชาติ หรือศาสนา

พวกเขาถูกเรียกขานว่า ‘หน่วยหมวกขาว’  สถานที่ทำงานของพวกเขา คือสถานที่ๆ อันตรายที่สุดในโลก…’
นี่คือคำนิยามสั้นๆ ที่อธิบายเกี่ยวกับพวกเขา
 
ยิ่งสถานการณ์สงครามในซีเรียที่เลวร้ายลงทุกวัน กลุ่มคนที่ลำบากที่สุดก็คงไม่พ้นประชาชนตาดำๆโดยเฉพาะจากเหตุการณ์ระเบิดต่างๆ ทำให้ตึกใหญ่ๆ และบ้านเรือนเสียหาย  โดยเฉพาะสถานที่สำคัญที่คนพลุกพล่านอย่างตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือตึกของหน่วยงานรัฐก็มักจะตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีเสมอ ทำให้มีผุ้เคราะห์ร้ายเสียชีวิต รวมถึงติดอยู่ในซากสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก
 
หน้าที่ของพวกเขาก็คือ ช่วยเหลือคนเหล่านั้นออกมาอย่างปลอดภัย…แม้จะต้องค้นหาเป็นวัน เจอศพนับสิบ แต่หากได้ช่วยเหลือคนที่รอดชีวิตเพียงหนึ่งชีวิต มันก็คุ้มค่ามากแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขาตั้งกลุ่มนี้มา ก็สามารถช่วยชีวิตเหล่าประชาชนตาดำๆ ไปแล้วกว่า 60,000 ชีวิตเลยทีเดียว



วีรกรรมของพวกเขานั้นเลื่องลือจนถูกนำไปทำเป็นหนังสารคดี ฉายทาง Netflix ชื่อเรื่องเดียวกับกลุ่มของพวกเขาเช่นกัน
ขอบคุณที่มา: Whitehelmets
Cr.https://www.catdumb.com/white-helmet-heroes-333/

ฟูกูชิมะ 50


(สองคนงานในทีมฟุกุชิมะ 50 กำลังวางแผนในการซ่อมแซมโรงไฟฟ้า (ภาพจากเอพี/เดลีเมล))

ฟูกูชิมะ 50 เป็นชื่อที่สื่อตั้งให้แก่กลุ่มของลูกจ้างของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะแห่งที่หนึ่ง ซึ่งยังคงทำงานต่อไปหลังจากเกิดเพลิงไหม้ขึ้นในเครื่องปฏิกรณ์หน่วยที่ 4 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งส่งผลให้มีการอพยพพนักงาน 750 คน จากทั้งหมด 800 คน

ต่อมา กลุ่มฟูกูชิมะ 50 ได้รับการสมทบโดยคนงานเพิ่มเติมในหลายวันต่อมา แต่ชื่อ "ฟูกูชิมะ 50" ยังคงถูกใช้โดยสื่อเพื่อหมายถึงกลุ่มคนงานที่ทำงานอยู่ที่ฟูกูชิมะ จำนวนคนงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้นเป็น 580 คนในตอนเช้าของวันที่ 18 มีนาคม โดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ-คาริวะ และคนงานซึ่งติตตั้งสายไฟฟ้าเข้ามาร่วมด้วย   เมื่อวันที่ 23 มีนาคม จำนวนของคนงาน พนักงานดับเพลิง และทหารที่ยังคงทำงานอยู่ที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวเพิ่มคนเป็นมากกว่า 1,000 คน

ฟูกูชิมะ 50 เป็นกลุ่มที่ถูกนำตัวมาจากโตชิบา ฮิตาชิ บริษัทท้องถิ่นขนาดเล็กถึงปานกลางในฟูกูชิมะ คาจิมะ คันเด็นโก] พนักงานดับเพลิงจากโตเกียว โอซากะ โยโกฮามะ คาวาซากิ และนาโงยะ ตลอดจนบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียวและบริษัทลูก

มีคนงานมากกว่า 20 คนได้รับบาดเจ็บจนถึงวันที่ 18 มีนาคม รวมไปถึงคนงานที่ได้รับกัมมันตภาพรังสีเมื่อคนงานพยายามที่จะระบายไอน้ำจากวาล์วของอาคารคลุมเตาปฏิกรณ์ ส่วนคนงานอีก 3 คนได้รับปริมาณรังสีสูงกว่า 100 มิลลิซีเวิร์ต 2 คนในจำนวนนี้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเนื่องจากรังสีบีตาทำให้ผิวไหม้

คนงานและอาสาสมัครถูกจัดให้ทำภารกิจเพื่อรักษาเครื่องปฏิกรณ์ให้เสถียร กิจกรรมของพวกเขารวมไปถึงการประเมินความเสียหายและระดับกัมมันตรังสีซึ่งเกิดจากแรงระเบิด การทำให้เครื่องปฏิกรณ์ที่ติดขัดมีอุณหภูมิเย็นลงด้วยน้ำทะเลและป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้ 

คนงานเหล่านี้ยังคงทำงานอยู่ในพื้นที่แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการถูกพิษกัมมันตรังสี  ระดับของกัมมันตรังสีในพื้นที่สูงกว่าในพื้นที่กีดกัน 20 กิโลเมตร และสื่อได้รายงานว่าความร้ายแรงของเหตุการณ์นี้อาจเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพในอนาคตของพวกเขา รวมทั้งผลกระทบที่อาจถึงตายของคนงานเหล่านี้  นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง กล่าวว่าคนงานเหล่านี้ "พร้อมที่จะตาย"
Cr.https://th.wikipedia.org/wiki/ฟูกูชิมะ_50

ซีเคร็ทซานต้า


Residents of Santa Claus, Indiana, answer thousands of letters from around the world, with a personal note on every one.
อาสาสมัครที่เมืองซานตาครอส รัฐอินเดียน่า ช่วยตอบจดหมายเด็กที่ส่งจดหมายถึงซานต้า

เมืองชื่อ Santa Claus ในรัฐ Indiana ทางตอนกลางของสหรัฐฯ แม้จะอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือราว 6,000 กิโลเมตร แต่ก็เป็นจุดหมายปลายทางของจดหมายปีละราว 25,000 ฉบับ
การไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ส่งต่อจดหมายจากเด็กทั่วโลกที่เขียนถึงซานตาคลอสไปให้ที่สำนักงานไปรษณีย์ของเมืองแห่งนี้เป็นประจำทุกปี ไม่ว่าที่อยู่จ่าหน้าจะชัดเจนหรือติดแสตมป์หรือไม่ก็ตาม  และอาสาสมัครที่เมืองนี้ช่วยทำหน้าที่ผู้ช่วยของซานตาคลอส เพื่อตอบจดหมายแต่ละฉบับเป็นรายบุคคล
ประเพณีดังกล่าวเริ่มมาได้ประมาณ 102 ปีที่แล้ว

หัวหน้ากลุ่มอาสาสมัครที่เมือง Santa Claus ซึ่งช่วยตอบจดหมายที่เด็กเขียนถึงซานต้าบอกว่า ตนไม่เคยสัญญาจะให้อะไรหรือตำหนิใคร แต่จะเน้นที่การช่วยสร้างกำลังใจมากกว่า  และสำหรับปีนี้ จดหมายจากเด็กส่วนใหญ่มักขอของขวัญ เช่น ของเล่นใหม่ Hatchimals โทรศัพท์ iPhone ลูกสุนัข และลูกม้า เป็นต้น
แต่นอกจากเด็กแล้ว บางครั้งการขอของขวัญก็อาจมาจากคนที่โตแล้วด้วย เช่น วัยรุ่นในประเทศจีนขอพรให้ทำคะแนนได้ดีในการสอบ และขอความสำเร็จในการเข้ามหาวิทยาลัยที่ดี  หรือบางครั้งก็มีผู้ใหญ่ซึ่งขอแหวนเพชร ขอสามี หรือขอให้หายจากโรค เช่นกัน
Cr. https://www.voathai.com/a/santa-claus-letters-ct/3646295.html

Donut Dollies


เมื่อพูดถึงสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามยุคไหน หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักจะถูกหยิบยกมาชี้วัดความได้เปรียบนอกเหนือจากกำลังและอาวุธ ก็คือขวัญกำลังใจของทหาร โดยเฉพาะในแนวหน้าที่ความตึงเครียดอาจส่งผลต่อจิตใจของทหารอย่างรุนแรง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “โดนัท ดอลลี”

จากจุดเริ่มต้นการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ของอเมริกา หน่วยกาชาดจึงเริ่มทำการเฟ้นหากลุ่มอาสาสมัครสาวเพื่อทำหน้าที่เป็น “คนแจกโดนัท” โดยพวกเธอจะต้องออกไปแจกโดนัทในเขตสงคราม และต้องผ่านการทดสอบและฝึกฝนอย่างเข้มข้น

โดยที่พวกเธอจะต้องมีอายุ 25 ขึ้นไป จบการศึกษาปริญญาเป็นอย่างน้อย และจะต้องผ่านการสอบคัดเลือกทั่วไปทั้งข้อเขียนและการสอบสมรรถภาพ และสำคัญที่สุดคือ พวกเธอจะต้องมีบุคลิกและรูปร่างที่ดีมาก ๆ ด้วย ทำให้มีอาสาสมัครเพียงแค่ 1 ใน 6 เท่านั้นที่ผ่าน

เมื่อได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการแล้ว พวกเธอจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรค รับเครื่องแบบของหน่วยกาชาด และต้องเข้ารับการฝึกพื้นฐาน และเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ สังคม และระเบียบการทั้งของทหารสหรัฐฯ และของสภากาชาด รวมทั้งพวกเธอยังต้องปฏิบัติตามกฎการแต่งกายอย่างเคร่งครัดตลอดเวลาที่ทำงาน คือห้ามสวมต่างหู, เครื่องประดับผม, ทาเล็บ และห้ามแต่งหน้ามากเกินไป
 
หลังจากที่การฝึกเสร็จสิ้น พวกเธอก็จะถูกส่งข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังสถานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นรถบรรทุกที่ถูกดัดแปลงติดตั้งเครื่องทำโดนัท สามารถเดินทางเข้าไปยังค่ายทหารตามที่ห่างไกล หรือแม้แต่ในแนวหน้าเพื่อแจกจ่ายโดนัทสดใหม่ ร้อน ๆ ให้กับเหล่าทหาร

แต่งบประมาณส่วนใหญ่ก็มักจะถูกจัดสรรลงไปเพื่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จับต้องได้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้โครงการนี้เกือบจะไม่เกิดขึ้น โชคดีที่บริษัทโดนัทในสหรัฐต่างก็พร้อมใจกันบริจาคเครื่องทำโดนัทเป็นจำนวนมากถึง 468 เครื่อง และจากเอกสารที่เผยแพร่ออกมาหลังสงคราม มีการประเมินว่าสาว ๆ อาสาสมัคร 205 คน เสิร์ฟโดนัทให้กับทหารในอังกฤษไปแล้วมากกว่า 4.6 ล้านชิ้น
Cr.https://www.flagfrog.com/history-of-the-donut-dollies/ By  PeemPim

“Trümmerfrauen”


“Trümmerfrauen” เหล่าสาวขนเศษปูนแห่งเยอรมนี ผู้เก็บกวาดซากเมืองหลังสงครามโลก

ในช่วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่สองจบลงใหม่ๆ ประเทศเยอรมนีก็ต้องพบกับสภาพบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังจากสงคราม ซึ่งรอคอยให้คนมาเก็บกวาดทำความสะอาดอยู่ในทุกๆ มุมเมือง
แน่นอนว่างานการเก็บกวาดเมืองที่เละเทะอาจจะไม่ใช่เรื่องที่มีคนพูดถึงกันมากนักในประวัติศาสตร์ แต่นี่ก็เป็นงานสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในการฟื้นฟูเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเยอรมนี ซึ่งกำลังขาดแคลนแรงงานเป็นอย่างมากจากการที่ผู้ชายส่วนใหญ่เสียชีวิตหรือกลายเป็นนักโทษสงคราม
 
นับว่าเป็นโชคดีของเยอรมนีที่ในเวลานั้น พวกเขาสามารถหาแรงงานจากผู้ที่เหลือรอดจากสงครามมาได้ โดยพวกเธอนั้นคือเหล่าหญิงสาวที่ถูกเรียกกันว่า “Trümmerfrauen” หรือ “สาวเศษปูน” 

Trümmerfrauen คือเหล่าสาวชาวเยอรมัน ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทเอกชนที่รับหน้าที่เก็บกวาดเมืองให้ทำงานเก็บกวาดเศษหินเศษปูนในเมือง โดยพวกเธอจะทำงานใช้แรงเหล่านี้ในสภาพที่แทบจะไม่ต่างจากผู้ชายเลย
เพราะไม่ใช่แค่ขนหินและเศษซากจากอาคารและท้องถนนเท่านั้น แต่ในบางครั้งพวกเธอยังต้องแบกค้อนไปพังอาคารที่โดนทิ้งระเบิดอย่างหนักจนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้วด้วย เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่รับหน้าที่เก็บกวาดเท่านั้น แต่ยังรับหน้าที่รื้อถอนในบางกรณีด้วย
 
และชื่อเสียงเหล่านี้เอง ก็ทำให้พวกเธอบางคนสามารถได้รับเหรียญ Bundesverdienstkreuz อันเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์คุณธรรมอันมีค่าแห่งเยอรมนีในเวลาต่อมา 
ขอบคุณที่มา amusingplanet, zeitklicks
Cr.https://www.catdumb.com/trummerfrauen-378/  By เหมียวศรัทธา

เหล่าอาสาสมัครดับไฟป่าในออสเตรเลีย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ไฟป่าออสเตรเลีย สร้างฮีโร่ โซเชี่ยลแชร์ภาพสาวลุยไฟช่วยโคอาล่า รอดหวุดหวิด
Cr.ที่มา https://www.springnews.co.th/global/577863



"แบร์" เพื่อนสี่ขาค้นหาโคอาลาบาดเจ็บจากไฟป่า
จากสุนัขถูกทิ้งเพราะอาการย้ำคิดย้ำทำ สู่สัตว์สี่ขาตัวเก่งพร้อมภารกิจใหญ่ กับการตามหาโคอาลาและสัตว์ป่าท้องถิ่นที่ได้รับบาดเจ็บจากไฟป่าในออสเตรเลีย
Cr.ที่มา https://www.sbs.com.au/language/thai/meet-bear-the-dog-who-finds-koalas-injured-in-australian-bushfires



คนไทยใจดี ช่วยกันทำอาหารเลี้ยงเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าออสเตรเลีย
Cr.ที่มา https://news.thaipbs.or.th/content/286245

ขอขอบคุณที่มาข้อมูลทั้งหมด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่