5 ปีหลังนี้ ฟุตบอลระดับชาติของไทย และเวียดนาม เบียดกันมาตลอด
แต่ในระดับสโมสร บนเวทีเอเชีย สโมสรจากไทยทำผลงานได้ดีกว่ามาก
และถ้ามองระดับบุคคล นักเตะไทยก็สามารถสร้างความสำเร็จที่ชัดเจนได้มากกว่า
จากการได้รับการยอมรับจาก เจ ลีก และยังมีนักเตะที่เป็นดาวเด่นใจ เจ ลีก ด้วยแล้ว
ก็นับว่าน่ายินดีอย่างยิ่ง สำหรับช่วงหลังของทศวรรษที่ 20นี้

แต่... สำหรับทศวรรษที่ 30 นี้ หลายอย่างอาจจะเปลี่ยนไป
และมีโอกาสมากที่เวียดนามจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับในสนามฟุตบอลเลย
หลังจากที่อ่านเจอว่า เวียดนามติดอันดับ 8 ของประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในโลก จาก usnews.com
https://www.usnews.com/news/best-countries/best-invest-in
ทั้งที่เวียดนามนั้น มีทุกอย่างที่ด้อยกว่าไทย ทั้ง GDP per Capita หรือมูลค่าทางเศรษฐกิจ ก็ตาม
ที่ยิ่งกว่านั้น ดันไปเจออีกว่า ในปี 2018 เวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับการลงทุนโดยตรง (FDI) 
จำนวนราว 19 พันล้าน USD มากกว่าไทยที่ได้รับราว 11 พันล้าน USD 
Thailand -- long a draw for manufacturing investors -- pulled in $11 billion last year, nearly four times as much as the previous year. Vietnam received a record $19 billion in FDI
https://asia.nikkei.com/Economy/Southeast-Asia-bucks-trend-of-sinking-global-foreign-investment
ดังนั้นการที่บอกว่าในปีที่ผ่านมา เวียดนามจะติดเป็นประเทศที่น่าลงทุนที่สุดอันดับ 8 ในโลก ก็อาจจะไม่เกินจริงก็ได้

แล้วทั้งหมดนี้มันเกี่ยวอะไรกับฟุตบอล
ผมคิดว่าถ้าเวียดนามรวยขึ้น นักฟุตบอลเวียดนามก็น่าจะเก่งขึ้น สโมสรเวียดนามก็น่าจะมีโอกาสพัฒนาให้ดีได้มากขึ้น
และมีโอกาสจ้างโค้ชที่เก่งๆ ได้มากขึ้น อุตสาหกรรมฟุตบอลของเวียดนามก็น่าจะเติบโตขึ้น
ทำให้เป็นไปได้ว่า ฟุตบอลของเวียดนามจะก้าวหน้าหนีไทยไปได้จริงๆ ในปี 2021
ที่สโมสรเวียดนามจะได้ลงเล่นใน AFC ก็ได้

ปล. ทั้งหมดนี้ผมเดาเอานะ