เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ไปเดินเล่นที่เซนทรัลเวสเกต หลังจากไม่ได้เดินมาหลายเดือน ตอนแรกว่าจะไปแค่กินข้าว กับเดินชิล ๆ เท่านั้น พอลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้น G ก็เจอป้าย sephora ใหม่ใหญ่มาก ไอ้เราก็สาวกเครื่องสำอางอยู่แล้ว เลยบอกพ่อกับแม่ว่า
           ไปเดินเล่นที่อื่นก่อนได้เลย เดี๋ยวขอเข้าไปสำรวจกิจการหน่อย 555+

            ตอนแรกว่าจะเข้าไปวน ๆ เดิน ๆ ดูเท่านั้นว่ามีอะไรบ้าง ของเยอะอย่างสาขาใหญ่ ๆ ในเมืองหรือเปล่า แล้วเราก็ไปมองหาอายแชโดว์ของแบรนด์หนึ่งซึ่งมีขายในออนไลน์ แต่ไม่กล้าซื้อเพราะยังไม่เห็นสีกับลองเนื้อ เราก็ไปยืนส่อง ๆ น้องพนักงานก็เข้ามาส่งยิ้มกว้างมากให้เรา แล้วถามว่า
หาอะไรหรือคะ? เราก็บอกว่า อยากดูสีของอายแชโดว์ นางก็บอกว่าของยังไม่ลงค่ะ ตอนนี้มีขายแค่ออนไลน์ ถ้าพี่อยากลองสีสินค้าจะมาหน้าร้านสิ้นเดือน เราก็โอเค แล้วนางก็เดินทิ้งระยะห่างเราออกไป

            จากนั้นเราก็ไปหยิบลิปมันแบรนด์หนึ่งมา นางก็เข้ามาอีกค่ะ 555+ (พนักงานที่นี่เขามีเทคนิคแบบนี้แหละ พอหยิบของ หรือแตะ ๆ ก็จะเดินกลับมาหา) พอเราหยิบใส่ตะกร้า นางก็ทิ้งระยะไปอีก คราวนี้ก็เดิน ๆ วน ๆ จนมาเจอของที่อยากได้ แต่ใน sephora สาขาในเมืองหมด เราก็เลย ลองแตะ ๆ ทา ๆ น้องคนนั้นก็มาอีก

            ด้วยความที่อยากได้อยู่เป็นทุนเดิม นางก็บอกว่า พี่คะสีที่พี่ลองอยู่มันมีพาเลตแบบรวม 5 สี ราคาถูกกว่าตลับแยกนะคะ แล้วนางก็เอามาให้เราลอง พร้อมอธิบายสรรพคุณแบบพร้อมมาก คราวนี้เราก็รู้สึกว่าพาเลตมันใหญ่ไป เราก็บอกนางว่าไม่เอาดีกว่า นางก็ไม่ว่าอะไร แล้วเราก็เดินวนอีก แต่ด้วยใจมันอยากก็กลับมาหยุดที่ที่เดิม

            คราวนี้พอหยุดครั้งที่ 2 เราก็ลองสีที่อยากได้ กับอีกสี แต่คราวนี้น้องคนนั้นทิ้งระยะห่างจากเราพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนเดิม นางปล่อยให้เราตัดสินใจเอง เรายืนถู ๆ ทา ๆ ลองสีที่แขนอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจ พอหันไปสบตาน้องคนนั้น น้องก็รีบเดินเข้ามาทันที เราก็บอกว่าเราจะเอาอีกสีหนึ่ง นางก็หยิบให้ เช็คความสมบูรณ์ของสินค้าเรียบร้อย พอเดินจากเคาน์เตอร์นั้นเราก็ไปเห็นรองพื้นตัวดังที่ยูทูปเบอร์รีวิวว่าดี ก็เลยแวะ น้องคนเดิมก็เข้ามาช่วยแล้วก็ลองสี นางดู ๆ แล้วก็เลือกสีลองกับผิว เราก็เออ ชอบ ๆ พยายามเทียบผิว แต่สีที่พอดีมันหมด นางก็ไม่ยัดเยียดค่ะ มีแนะนำให้มาดูคราวหน้าด้วย (พี่ไปดูแน่)
คราวนี้ถึงเวลาจ่ายเงิน

            พอไปถึงหน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงิน พนักงานที่เก็บเงินก็เห็นของที่เราซื้อ แล้วนางก็บอกว่า “พี่คะ สีนี้มันมี Limited ออกมาใหม่เอี่ยมเลยค่ะแต่หนูไม่รู้ว่าราคามันเท่ากันมั้ย พี่สนใจดูไหมคะ?”

            ไอ้เราจะจ่ายเงินแล้ว ก็โอเค ดูก็ดู นางก็วิ่งไปจากเคาน์เตอร์แป๊บนึง แล้วกลับมาพร้อมกับกล่องสีทองอร่ามของสินค้าตัวที่นางบอกว่า Limited
พอแกะสินค้าเอาออกมาตลับสีทองวิ๊ง ๆ กระแทกดวงตาเราเต็ม ๆ แล้วนางก็บอกว่า เนี่ยเพิ่งมาค่ะ สินค้าต้อนรับปีหนู เปิดออกมา เนื้อสีสวยปั้มลายนูนเป็นรูปหนูน่ารักมากกกกกกกก

แต่พอเช็คราคามันแพงกว่าปกติอยู่ 50 บาท นางก็บอกว่ามันแพงกว่าค่ะ พี่ไม่เอาก็ไม่เป็นไรนะคะ

เราก็...คิดสิคะ จากปกติ มันเป็นตลับดำเรียบ ๆ ได้ตลับทอง แถมข้างในน่ารักมาก

“เอาค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว”

สุดท้าย ออกจาก sephora ด้วยค่าเสียหายเกือบสามพัน ทั้งที่แค่อยากเข้าไปเดินวนดูเท่านั้น แถมประทับใจน้องพนักงานที่อัธยาศัยดีมาก ไว้คราวหน้าพี่ไปเซนทรัลเวสเกตแล้วจะแวะไปเสียทรัพย์อีกนะคะ

ปล. เคยเจอเรื่องแย่ ๆ ก็เอามาลง คราวนี้เจอเรื่องดี ๆ ก็ต้องเอามาลงบ้าง เพราะวันนี้เป็นการเดินซื้อเครื่องสำอางที่มีความสุขดีค่ะ