ในวันที่ฉันเลือดออกมากที่สุด

วันนี้ขอมาเล่าประสบการณ์สำคัญที่เกิดกับตัวเอง เมื่อกลางปีที่แล้ว ณ วันศุกร์ ที่21 มิถุนายน 2562 เรามีประจำเดือน ซึ่งผู้หญิงทุกคนก็มีกันทั้งนั้น มันก็ไม่แปลกเลยใช่มั๊ย ยังไงประจำเดือนกับผู้หญิง ก็ของคู่กันอยู่แล้ว สำหรับเรา อยากเรียกว่า ประจำปีมากกว่า เพราะเฉลี่ยแล้วปีนึง 3-4 เดือน จะมีซักที ส่วนตัว เราก็รู้สึกดี เพราะมันจะไม่มีการปวดท้อง แต่เวลามาที ก็จะปวดหนักเอาการอยู่ ปวดมากขนาดที่ไม่สามารถ ดำเนินชีวิตประจำวันปกติได้ เช่นไปเรียนไม่ไหว ไปทำงานไม่ได้ ปวดจนเป็นลมก็บ่อย แต่ถึงแม้ว่า นาน ๆ มาที แต่เลือดก็ไม่ได้ออกเยอะมาก สมกับที่ไม่มาหลาย ๆ เดือนนะ ตรงกันข้ามเลย เลือดออกน้อย คล้ายจะกะปริบกะปรอยด้วยซ้ำ แถมกลางคืน หยุดทำงาน นอนสบาย โดยไม่ต้องพึ่งพา ผ้าอนามัยซะอีก

    ตามความรู้สึกของตัวเอง ปวดท้องมาก ก็ทน ๆ เอา เพราะไม่อยากกินยา แต่เมื่อมันไม่ไหว ก็ต้องพึ่งยาอยู่ดี มันก็พอช่วยให้ทุเลาอาการปวดได้บ้าง แต่สำหรับครั้งนี้ มันกลับไม่ใช่อย่างที่เคยซะแล้วน่ะสิ ปวดท้องมาก และมากขึ้นเรื่อย ๆ เลือดก็ออกเยอะ จนเรายังสงสัยว่า ทำไมเลือดออกเยอะจัง  เรายังคงนั่งทนทำงานต่อไป ก็พยายามทน บ่นบ้างไรบ้าง เป็นครั้ง ๆ ไป กินยาตั้งแต่เช้า ทำไมมันไม่ทุเลาบ้างเลยล่ะ นั่งทำงานไม่มีสมาธิเลย มือนึงกุมท้องตลอดเวลา จนครึ่งวันผ่านไป หลังกินข้าวเที่ยงเรียบร้อย กินยาอีก แต่มันไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว กลับรู้สึกตัวเองเหมือนจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ 

    เราเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 15-30 นาที แค่บ่ายโมง เราใช้ผ้าอนามัยไปแล้ว 18 แผ่น รู้ตัวแน่ ๆ แล้วว่า เราไม่ปกติแน่ ๆ  แต่ก็ยังทนนั่งทำงานต่อไป จนรู้สึกตัวว่า เหมือนจะเป็นลม เหงื่อแตกพลั่ก ๆ ทั้งที่ในออฟฟิศ แอร์เย็นมาก ซักพักลงไปนอนใต้โต๊ะทำงานตัวเอง แต่ไม่ได้หลับหรอกนะ น้องที่ทำงานเห็นเรา หน้าซีด เหงื่อท่วม ก็เลยเอาน้ำร้อนใส่ขวดมาให้อังท้องไว้ก่อน

    ซักพักนึง เรารู้สึกว่า กางเกงตัวเองเปียก ลุกขึ้นยืนด่วนเลย แล้วบอกตัวเองว่า อยู่ไม่ได้แล้ว กางเกงน่าจะเลอะ ลองเอามือจับที่กางเกงด้านหลัง  กางเกงเปียกชุ่มมาก แต่สิ่งที่เปียกติดปลายนิ้วเรามาด้วย คือเลือดสด ๆ เลยแหล่ะ เราตัดสินใจบอกเจ้านายว่า ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ขืนนั่ง เก้าอี้ก็จะเลอะด้วย เพราะเบาะเป็นผ้า เราหยิบกระดาษไปหอบนึง สำหรับปูที่เบาะรถด้วย  ท้องก็ปวดมากตลอด อดทนเท่านั้น เราบอกกับตัวเอง รีบขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน สุดท้ายเราไปไม่ถึงบ้าน ตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาล ยังไงก็ทางผ่าน อีกอย่างใกล้กว่ากลับบ้าน ในใจตอนนั้น คิดแค่ว่า จะให้หมอฉีดยาแก้ปวดให้ซักเข็ม ให้หายปวดท้อง เดี๋ยวอะไร ๆ ก็คงดีขึ้นตามมาเอง

    พอถึงโรงพยาบาล พยาบาลยื่นกระปุกให้เรา ไปฉี่ เพื่อตรวจ  ถามว่าเราตั้งครรภ์หรือไม่ เราบอกพยาบาลว่า เรามีประจำเดือนอยู่ ปกติเวลามีประจำเดือน เค้าจะไม่ตรวจฉี่กันไม่ใช่หรอ พยาบาลบอก ตรวจได้ ให้ล้างให้สะอาดก่อน เราก็เดินงง ๆ ไปห้องน้ำ อ่ะฉี่ก็ฉี่ แล้วมานั่งรอ ระหว่างรอนั้น เรารู้สึกว่า เวลามันผ่านไปนานมาก คนไข้ก็ไม่ได้เยอะนี่นา บ่นในใจคนเดียว รู้สึกว่า ไม่ไหวอ่ะ ทำไงดี ท้องก็ปวดมาก ระหว่างนั้น ก็ยังเข้าห้องน้ำเปลี่ยนผ้าอนามัยตลอด เหมือนมันเต็มเร็วมาก ๆ ในที่สุด เราทนจนไม่ไหวจะทนแล้ว เลยลุกจากเก้าอี้เพื่อจะเดินไปถามพยาบาล แต่เมื่อลุกขึ้นยืน เรารู้สึกว่ามันมีน้ำไหลมาตามขา เราก้มมองขาตัวเอง เห็นเลือดสีแดงสด ๆ ไหลลงมา ตกใจมากรีบหันไปมองที่เก้าอี้ เห็นเลือดตัวเองนองเต็มเก้าอี้ตัวนั้นเลย นองแบบว่าเยอะเป็นแอ่งเลย เราตกใจมาก รีบเดินไปหาพยาบาล ถามว่า เราต้องรออีกนานแค่ไหน เราไม่ไหวแล้ว พยาบาลตกใจเมื่อเห็นสภาพเรา และทางเดินที่เราเดินมา ประหนึ่งเหมือนมีพรมแดง เพราะเลือดเราไหลเป็นทางเดินเลย เรียกรถเข็นด่วน พยาบาลต้องให้เรารีบนั่ง เพราะเราอาจล้มได้ เนื่องจากเลือดออกเยอะมาก 

    เราถูกเข็นไปรอหน้าห้องหมอ และได้เข้าไปพบหมอในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา พยาบาลบอกให้เราถอดกางเกง ทั้งนอกและใน ซึ่ง ณ เวลานั้น กางเกงเราเปียกชุ่มไปด้วยเลือด ก้มมองขาตัวเอง เลือดอาบ ไหลนองพื้น สงสารพนักงานทำความสะอาดเลย เราทำพื้นเลอะ เรานุ่งผ้าถุงที่พยาบาลยื่นให้ แล้วขึ้นขาหยั่ง รู้สึกตัวเองเลยว่า เลือดไหลแบบไม่บันยะบันยัง หมอตรวจภายใน ทั้งที่เลือดไหล ๆ นั่นแหล่ะ เสร็จแล้วให้เราย้ายมาอีกเตียง ตรวจอัลตร้าซาวน์ ช่องคลอดอีก ตอนที่หมอดึงอุปกรณ์ออกมา เราเห็นเลือดตัวเอง เลือดสด ๆ ไหลย้อนอุปกรณ์ของหมอเลย ตอนนั้น รู้สึกกลัวมาก นี่เราเป็นอะไร ทำไมเลือดออกเยอะขนาดนี้

    หมอถามเราว่า เรามาโรงพยาบาลยังไง มากับใคร เราบอกหมอว่า มาคนเดียว ขับรถมาเอง หมอบอกให้เราโทรตามญาติ เพราะวันนี้หมอต้องให้เราแอดมิทด่วน แล้วหมอจะขูดมดลูกวันนี้เลย แว่บแรกที่เราได้ยิน กลัวที่สุด ใจคอไม่ดีเลย หมอไม่ได้บอกอะไรมากกว่านั้น เรารู้สึกตัวเองคิดอะไรไม่ทัน ไม่ได้ยินอะไรแล้ว ความกลัวเข้าครอบงำ ร้องไห้โฮ คนเดียวก็ร้อง คนมอง แต่ไม่ได้สนใจแล้ว จนพยาบาลเข้ามาสะกิด เราจึงได้สติ โทรหาสามี ยิ่งร้องไปใหญ่ ยอมรับว่า ความรู้สึกเดียวที่มีตอนนั้น คือกลัวมาก ขูดมดลูกอะไร ทำไมต้องขูด ทุกคนคิดว่าเราแท้งลูก แต่เราไม่ได้ท้อง พยาบาลบอกว่าเลือดออกเยอะกว่าคนแท้งลูกอีก

    เมื่อทำเรื่องเอกสารต่าง ๆ เรียบร้อย เราถูกเข็นไปตรวจคลื่นหัวใจก่อน ทุกอย่างปกติดี จากนั้นก็ถูกเข็นไปรอที่ห้องพักก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนอนรอ ใส่สายน้ำเกลือ เจาะเลือดไปตรวจ เรากลัวตลอดเวลา ถามพยาบาลถึงการขูดมดลูก พยาบาลบอกเราว่าไม่ต้องกลัว ไม่เจ็บ ไม่น่ากลัว เวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่มาเข็ฯเราไปที่ห้องผ่าตัด ซักพักเราก็ไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว เพราะหมอให้ยา เพื่อให้หลับ ตื่นมาอีกที อยู่ห้องพักฟื้น 22.30 น. เราถูกเข็นกลับมาทีห้องพัก วันรุ่งขึ้น หมอให้เรากลับบ้านได้ อีก 1 สัปดาห์ค่อยมาฟังผล

    จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เราเรียนรู้ที่จะต้องสังเกตตัวเองให้มาก ๆ ถ้าเรารู้สึกว่า เราป่วย เราผิดปกติ สิ่งที่เรานิ่งนอนใจไม่ได้ ก็คือ เราต้องรีบไปหาหมอ เราต้องไปให้หมอตรวจ เราอย่าคิดว่า เราไม่เป็นไรหรอก กินยาเดี๋ยวก็หาย มันเป็นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อตัวเอง ครั้งนี้ เบื้องต้นหมอวินิจฉัยว่า มีเลือดออกมากผิดปกติจากโพรงมดลูก และการขูดมดลูกครั้งนี้ เป็นการรักษา สิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจกัน คือการขูดมดลูก มันต้องแท้งลูก หรืออะไรที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ประเด็นของการแท้งลูกมันคือประเด็นท้าย ๆ เลยจริง ๆ เราก็ถามหมอ และหาข้อมูลเพิ่มเติม ถึงรู้ว่า การขูดมดลูก ก็คือการนำเนื้อเยื่อภายในมดลูกออกมาเพื่อใช้ในการตรวจ วินิจฉัย หรือรักษาความผิดปกติที่เกิดจากมดลูก เช่น การมีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ เป็นต้น ทั้งยังอาจใช้สำหรับผู้ที่มีภาวะแท้งนั่นเอง

    หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น หมอนัดเราทุกเดือน เพื่อฉีดยาคุมกำเนิด ซึ่งการฉีดยาคุมนี้ เหตุผลหลักคือ รักษาอาการเลือดออก ทุกเดือนที่เราต้องไปฉีดยา ก่อนฉีด หมอจะอัลตร้าซาวน์ก่อนทุกครั้ง เพื่อดูความเป็นไปของมดลูกเรา ซึ่งในทุกเดือน สิ่งที่หมอบอกเราก็คือ เดือนนี้ มดลูกบวม เดือนนี้มดลูกโต บวม ๆ โต ๆ สลับกันไป หมอเลยต้องให้เราฉีดยาคุมไปทุกเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เรามีประจำเดือน ไม่ให้เราเลือดออก เพราะมีโอกาสที่เราจะเลือดออกมากอีก เราถามหมอว่า ต้องฉีดไปถึงเมื่อไหร่ หมอบอก ฉีดไปจนกว่า เราจะเป็นวัยหมดประจำเดือน เพื่อให้มดลูกเราแห้งไปเอง 
   
     ณ ปัจจุบัน เราฉีดยาคุมล่าสุด เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ครั้งนี้ หมอขอลองนัดเราห่างกว่าเดิม เพื่อดูปฏิกิริยา จากฉีดทุกเดือนมาเป็น 3 เดือน ถ้าไม่ดีขึ้น เราก็ต้องกลับมาฉีดทุกเดือนเหมือนเดิม 

     สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา เราเชื่อหมอนะ ระบบภายในของผู้หญิงยุ่งยาก และซับซ้อนเหลือเกิน เราหวังว่า ประสบการณ์ ของเรา คงมีประโยชน์กับผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยกันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่