รู้สึกไม่ดีหลังซื้อบ้านค่ะ (ขอระบายค่ะเพราะยกเลิกไม่ได้แล้ว)
ทั้งทางโครงการ และธนาคารที่ยื่นกู้ หลังการซื้อขาย คำพูด ช่างแตกต่างกับตอนก่อนยื่นกู้
- ทางโครงการ แนะนำดีมากก่อนซื้อขาย แถมของให้เยอะนู่นนี่นั่น
จนมาถึงวันตอนตรวจบ้าน รอบแรกเป็นร้อยจุด ให้ช่างโครงการแก้ให้รอบแรก แก้ให้ไม่เรียบร้อย
อันนี้เข้าใจเพราะแก้ไม่เสร็จหรอกในครั้งเดียว
พอวันที่ไปโอนบ้าน ช่างที่จ้างไปตรวจๆรอบที่2 (ตรงกับวันที่โอนบ้านพอดี) ก้อยังมีให้แก้ไขเยอะเหมือนเดิม วันนั้นพอโอนเสร็จโทรถามกับเซลล์ขายบ้าน ว่าเรียบร้อยมั้ยเพราะเราไม่ได้เข้าไปเอง เซลล์บอกว่าเรียบร้อยดี จะให้ช่างแก้ไขตามให้ แล้วก็ถามว่าจะเข้ามาตรวจมั้ย? เราบอกว่าจะแวะไปช่วงเย็น เซลล์ก็บอกว่าวันนี้ยังไม่ต้องเข้ามาก็ได้ค่ะ เพราะช่างล็อคกุญแจบ้านแล้ว
ทางเซลล์ก็ออกมาจากโครงการแล้วเพราะจะไปงานเลี้ยง (ช่วงปีใหม่พอดี) ให้เราเข้าไปดูวันอื่น
เราก็แบบแวะไปดูแปปนึงล่ะกัน ทางผ่าน ปรากฏว่าพอไปถึง ประตูรั้วไม่ได้ปิด ประตูบ้านไม่ได้ล็อค ไฟเป็ดไว้ทั้งบ้าน สภาพที่เข้าไปเห็นคือ งานที่บอกว่าแก้คืองานปาดหน้าพื้นปูนหลังบ้านที่ไม่เรียบร้อย รอยปูนที่เทเลอะกำแพงหลังบ้าน ข้างบ้านมีเศษขยะเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ไปดูก่อนจะโอน เราก็เริ่มไม่โอเครแล้ว ทำไมเซลล์ถึงบอกว่าล็อคบ้านแล้วทั้งที่ไม่ได้ล๊อคอะไรเลย ไม่ได้เข้าไปตรวจก่อนออกไปข้างนอกหรอ?? อันนี้เราไม่โอเครล่ะ
หลังจากโอน โทรไปถามเรื่องงานแก้ ก็ยังไม่มีคำตอบอะไรว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ( แต่ติดหยุดยาวปีใหม่อันนี้เข้าใจได้ค่ะ รอแก้หลังปีใหม่) แต่ติดคือคำพูดของเซลล์ที่เราไม่ค่อยโอเค (ความรุ้สึกเราน่ะ) เหมือนตอนที่ไปติดต่อซื้อ เขาไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าจะแก้บ้านเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เมื่อไหร่เราต้องคอยโทรไปถามเรื่อยๆ ไม่สามารถกำหนดวันที่จะเสร็จให้ได้ เหมือนจะต้องรอไปเรื่อยๆทั้งที่จะจ่ายค่าบ้านอยู่แล้ว แต่ยังไม่เสร็จพร้อมเข้าอยู่
-ส่วนธนาคารที่ขอสินเชื่อ วันที่ไปเซ็นโอนทำตามขั้นตอนเรียบร้อย (ต้องบอกว่าเราลงทะเบียนบ้านดีมีดาวน์ ตามขั้นตอนและลงภายในวันที่11 ธ.ค.62 ได้รับemail ตอบกลับวันที่ 13 ว่าสำเร็จ)
เราไปเซ็นสัญญาโอนซื้อขายบ้านวันที่ 25 ธันวาคม วันนั้นได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ แล้วว่าต้องเซ็นใบคำร้อง ให้ตรวจสอบวงเงินขององค์การบ้านดีมีดาวหรือไม่ เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าไม่ต้องเซ็นให้รออย่างเดียว (แต่เราไปอ่านในเว็บไซต์ว่าหลังจากลงทะเบียนรอบแรกแล้วเป็นโอนเรียบร้อยแล้วให้เซ็นใบคำร้องแล้วยื่นธนาคารธอส) เราก็เลยมาเซ็นสาขาใกล้เคียงที่อยู่ใกล้บ้านปัจจุบัน
จากนั้นก็รอมาเรื่อยๆต้นหลังปีใหม่ ก็เลยได้โทรไปสอบถามที่สำนักงานใหญ่เรื่องของสถานะว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว. ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่โทรไปสอบถามเขาแจ้งว่าข้อมูลของเรายังไม่ลงระบบให้ไปติดต่อกับธนาคารที่ทำสัญญาซื้อขายอีกครั้ง ## คราวนี้เราก็ได้ LINE ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ทำเรื่องซื้อขายบ้านกับเรา
ซึ่งก็อยากได้คำตอบไม่แน่ชัด ก็ถามไปถามมา จนได้เรื่องว่าต้องเข้าไปเซ็นเอกสารที่ธนาคารที่ทำรายการซื้อขายบ้าน อีกรอบ (ก็งงว่าทำไมต้องเข้าไปอีกในเมื่อวันนั้นบอกว่าไม่ต้องเซ็นอะไร )
เราติดทำงานเราเลยถามว่าเป็นธนาคารใกล้เคียงได้ไหม เขาบอกเราว่าให้ไปสาขาใกล้เคียงได้เซ็นธนาคารไหนก็ได้ แต่ก่อนหน้านี้เราเคยไปเซ็นกับสาขาใกล้บ้านไว้แล้วไง ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเคยเซ็นไปแล้ว #สิ่งที่ตอบกลับมาคือ เค้ารับเซ็นก็ไปถาม คือตอบแบบ!!! อืม
#นี่คือสิ่งที่เราเจอหลังซื้อบ้านหลังแรก เราอยากเตือนให้คนที่กำลังจะซื้อบ้านให้ดูดีๆทั้งตัวโครงการ พนักงาน เรารุ้สึกโอเครแล้ว จะยกเลิกก็ไม่ได้เพราะโอนแล้ว ก็ต้องทำใจ
(กระทู้นี้ไม่ได้จะโจมตีใครทั้งสิ้น เพียงแต่ระบายในสิ่งที่เจอมา อาจจะไม่ได้หนักหนานัก แต่เรื่องของความรุ้สึกก็าฝสำคัญ เราเป็นลูกค้ามีเครดิตในการซื้อ เราจ่ายเงินเพื่ออยู่อาศัยเป็นสิบปี เราควรได้รับคำแนะนำที่ดีไม่ใช่ทิ้งขว้าง)
กู้ซื้อบ้าน
ทั้งทางโครงการ และธนาคารที่ยื่นกู้ หลังการซื้อขาย คำพูด ช่างแตกต่างกับตอนก่อนยื่นกู้
- ทางโครงการ แนะนำดีมากก่อนซื้อขาย แถมของให้เยอะนู่นนี่นั่น
จนมาถึงวันตอนตรวจบ้าน รอบแรกเป็นร้อยจุด ให้ช่างโครงการแก้ให้รอบแรก แก้ให้ไม่เรียบร้อย
อันนี้เข้าใจเพราะแก้ไม่เสร็จหรอกในครั้งเดียว
พอวันที่ไปโอนบ้าน ช่างที่จ้างไปตรวจๆรอบที่2 (ตรงกับวันที่โอนบ้านพอดี) ก้อยังมีให้แก้ไขเยอะเหมือนเดิม วันนั้นพอโอนเสร็จโทรถามกับเซลล์ขายบ้าน ว่าเรียบร้อยมั้ยเพราะเราไม่ได้เข้าไปเอง เซลล์บอกว่าเรียบร้อยดี จะให้ช่างแก้ไขตามให้ แล้วก็ถามว่าจะเข้ามาตรวจมั้ย? เราบอกว่าจะแวะไปช่วงเย็น เซลล์ก็บอกว่าวันนี้ยังไม่ต้องเข้ามาก็ได้ค่ะ เพราะช่างล็อคกุญแจบ้านแล้ว
ทางเซลล์ก็ออกมาจากโครงการแล้วเพราะจะไปงานเลี้ยง (ช่วงปีใหม่พอดี) ให้เราเข้าไปดูวันอื่น
เราก็แบบแวะไปดูแปปนึงล่ะกัน ทางผ่าน ปรากฏว่าพอไปถึง ประตูรั้วไม่ได้ปิด ประตูบ้านไม่ได้ล็อค ไฟเป็ดไว้ทั้งบ้าน สภาพที่เข้าไปเห็นคือ งานที่บอกว่าแก้คืองานปาดหน้าพื้นปูนหลังบ้านที่ไม่เรียบร้อย รอยปูนที่เทเลอะกำแพงหลังบ้าน ข้างบ้านมีเศษขยะเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ไปดูก่อนจะโอน เราก็เริ่มไม่โอเครแล้ว ทำไมเซลล์ถึงบอกว่าล็อคบ้านแล้วทั้งที่ไม่ได้ล๊อคอะไรเลย ไม่ได้เข้าไปตรวจก่อนออกไปข้างนอกหรอ?? อันนี้เราไม่โอเครล่ะ
หลังจากโอน โทรไปถามเรื่องงานแก้ ก็ยังไม่มีคำตอบอะไรว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ( แต่ติดหยุดยาวปีใหม่อันนี้เข้าใจได้ค่ะ รอแก้หลังปีใหม่) แต่ติดคือคำพูดของเซลล์ที่เราไม่ค่อยโอเค (ความรุ้สึกเราน่ะ) เหมือนตอนที่ไปติดต่อซื้อ เขาไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าจะแก้บ้านเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เมื่อไหร่เราต้องคอยโทรไปถามเรื่อยๆ ไม่สามารถกำหนดวันที่จะเสร็จให้ได้ เหมือนจะต้องรอไปเรื่อยๆทั้งที่จะจ่ายค่าบ้านอยู่แล้ว แต่ยังไม่เสร็จพร้อมเข้าอยู่
-ส่วนธนาคารที่ขอสินเชื่อ วันที่ไปเซ็นโอนทำตามขั้นตอนเรียบร้อย (ต้องบอกว่าเราลงทะเบียนบ้านดีมีดาวน์ ตามขั้นตอนและลงภายในวันที่11 ธ.ค.62 ได้รับemail ตอบกลับวันที่ 13 ว่าสำเร็จ)
เราไปเซ็นสัญญาโอนซื้อขายบ้านวันที่ 25 ธันวาคม วันนั้นได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ แล้วว่าต้องเซ็นใบคำร้อง ให้ตรวจสอบวงเงินขององค์การบ้านดีมีดาวหรือไม่ เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าไม่ต้องเซ็นให้รออย่างเดียว (แต่เราไปอ่านในเว็บไซต์ว่าหลังจากลงทะเบียนรอบแรกแล้วเป็นโอนเรียบร้อยแล้วให้เซ็นใบคำร้องแล้วยื่นธนาคารธอส) เราก็เลยมาเซ็นสาขาใกล้เคียงที่อยู่ใกล้บ้านปัจจุบัน
จากนั้นก็รอมาเรื่อยๆต้นหลังปีใหม่ ก็เลยได้โทรไปสอบถามที่สำนักงานใหญ่เรื่องของสถานะว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว. ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่โทรไปสอบถามเขาแจ้งว่าข้อมูลของเรายังไม่ลงระบบให้ไปติดต่อกับธนาคารที่ทำสัญญาซื้อขายอีกครั้ง ## คราวนี้เราก็ได้ LINE ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ทำเรื่องซื้อขายบ้านกับเรา
ซึ่งก็อยากได้คำตอบไม่แน่ชัด ก็ถามไปถามมา จนได้เรื่องว่าต้องเข้าไปเซ็นเอกสารที่ธนาคารที่ทำรายการซื้อขายบ้าน อีกรอบ (ก็งงว่าทำไมต้องเข้าไปอีกในเมื่อวันนั้นบอกว่าไม่ต้องเซ็นอะไร )
เราติดทำงานเราเลยถามว่าเป็นธนาคารใกล้เคียงได้ไหม เขาบอกเราว่าให้ไปสาขาใกล้เคียงได้เซ็นธนาคารไหนก็ได้ แต่ก่อนหน้านี้เราเคยไปเซ็นกับสาขาใกล้บ้านไว้แล้วไง ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเคยเซ็นไปแล้ว #สิ่งที่ตอบกลับมาคือ เค้ารับเซ็นก็ไปถาม คือตอบแบบ!!! อืม
#นี่คือสิ่งที่เราเจอหลังซื้อบ้านหลังแรก เราอยากเตือนให้คนที่กำลังจะซื้อบ้านให้ดูดีๆทั้งตัวโครงการ พนักงาน เรารุ้สึกโอเครแล้ว จะยกเลิกก็ไม่ได้เพราะโอนแล้ว ก็ต้องทำใจ
(กระทู้นี้ไม่ได้จะโจมตีใครทั้งสิ้น เพียงแต่ระบายในสิ่งที่เจอมา อาจจะไม่ได้หนักหนานัก แต่เรื่องของความรุ้สึกก็าฝสำคัญ เราเป็นลูกค้ามีเครดิตในการซื้อ เราจ่ายเงินเพื่ออยู่อาศัยเป็นสิบปี เราควรได้รับคำแนะนำที่ดีไม่ใช่ทิ้งขว้าง)