ความรักของผมกับชาวต่างชาติที่เกิดโดยบังเอิญเมื่อผมไปเที่ยวเหมือนกับว่าความฝันของผมเป็นจริงเเต่... ทำไงดีครับ

สวัสดีครับผมคิดว่าเราเคยดูหนัง ฟังคนเล่าหรืออะไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องความรักของ ชญ ที่เพิ่งเจอกันหรือกำลังชอบกันได้สักพักเเต่ก็ต้องเเยกจากกันด้วยสาเหตุต่างๆอะไรประมาณนี้
        ผมจะเริ่มเล่าคือผมได้ไปเที่ยวที่ภูเก็ตกับพี่น้องครับ เเล้วก็ได้จองทริปไปจะนั่งเรือไปเกาะพีพี เเละก็ดำน้ำดูปะการัง หลังจากนั้นก็กลับไปนอนที่พัก ตื่นเช้ามาก็มีรถมารับเพื่อไปจุดรอคิวเพื่อลงเรือ พอได้เวลาก็พากันลงเรือระหว่างที่นั้งรอไปดำน้ำดูปะการังผมก็มองไปท้ายเรือดูคลื่นระหว่างเรือกำลังเเล่น หลังจากนั้นก็หันกลับมาระหว่างนั้นก็เห็นครอบครัวๆนึงที่ดูเหมือนเป็นชาวจีนมากัน4คน มี พ่อ เเม่ ลูกสาว2คน เเล้วผมก็สังเกตุเห็นว่ามีคนนึงดูค่อนข้างน่ารักเเต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ผมก็นั่งหลับจนไปถึงจุดดำน้ำชมปะการังพอถึงก็เปลี่ยนชุดเพื่อลงน้ำ ระหว่างรอลงน้ำก็เห็นน้องคนนั้นลงไปเเล้วผมก็ยื่นมองอยู่ครู่นึงก็เห็นน้องหันมาสบตาพอดีเเล้วผมก็ทำเป็นหันไปทางอื่นเเทน(เเอบยิ้มนิดๆ) พอลงน้ำก็ไม่ได้คิดอะไรสนใจเเค่ปะการังกับปลาที่ว่ายในน้ำ เเต่ก็เเอบคิดว่าจะเข้าทักเวลาว่ายไปใกล้ เเต่ก็คิดว่าอย่าดีกว่าน้องคงไม่คิดอะไร เเล้วก็คิดว่าคงจะคุยด้วยไม่รู้เรื่องเพราะคิดว่าน้องหน้าจะเป็นคนจีน หลังจากนั้นก็ขึ้นมาเพื่อรอไปอีกทีนึง ระหว่างที่นั่งรอก็เเอบมองน้องระหว่างหันไปก็เห็นว่าน้องกำลังมองอยู่เเล้วน้องก็หันหน้าหลบเเล้วก็หันหน้ากลับมามองผมอีกครั้งเเล้วผมกับน้องก็ยิ้ม ผมเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรเเปลกๆ(เริ่มเข้าข้างตัวเอง) หลังจากนั้นก็นั่งหลับตารอไปอีกที เวลาลืมตาก็หันไปมองน้องบ้างไม่กล้ามองนานกลัวน้องจะคิดว่าโรคจิต หลังนั้นก็ไปอีกจุดนึงเป็นจุดที่ให้ถ่ายเเค่รูปก็ไม่มีอะไร เเล้วก็ไปเกาะพีพีเเล้วก็นั่งทานข้าวในสถานที่ ที่ทัวร์จัดให้เเล้วก็เเอบมองหาว่าน้องนั่งอยู่ตรงไหน เเต่ก็ไม่เจอเมื่อถึงเวลาก็ขึ้นเรือ ไกด์บอกว่าต่อไปจะไปจอดรอบๆเกาะไข่เพื่อให้ปล่อยให้ดำน้ำเเละก็จะให้ไปบนเกาะ เมื่อถึงเวลาก็ปล่อยลงน้องก็ลงไปว่ายก่อน  ผมกับพี่น้องก็ลงไปว่ายเล่นตามไป ตอนนั้นเห็นน้องมองมาเเต่ยังไม่ได้อะไรก็เลยว่ายไปที่โขดหิน หลังจากนั้นก็ว่ายไปเเถวๆที่น้องอยู่จังหวะนั้นน้องหันหลังอยู่ รอบๆประมาณ5เมตรก็ไม่ค่อยมีคน ผมเลยทักไปว่าexcuse me น้องก็หันมายิ้มเเล้วผมก็ถามภาษาอังกฤษไปว่ามาจากไหน น้องก็บอกว่ามาจากengland  ผมก็งงมากหน้าตาน้องเหมือนคนจีนมากๆ เเล้วก็ถามว่าwhere are u study รู้ว่าใช้อะไรผิดไม่เเน่ใจ น้องก็งงเเล้วก็พูดใหม่ซ้ำๆช้าๆ น้องดูตั้งใจฟังมากๆ เเล้วผมก็บอกว่า ชั่งยิ้ม เเล้วก็บอกไปว่า  In Thailand ,if u forget  something that u want to say u can say ชั่งยิ้ม  น้องก็ยิ้ม เเล้วก็ถามว่าในไทยคิดว่าเป็นไงน้องก็บอกว่า hot  เเล้วก็ถามอะไรไปอีกไม่เเน่  เเต่ลืมถามชื่อน้องเพราะตกใจมากๆ น้องหน้าจะอายุห่างจากผมไม่มาก เเล้วพอพ่อน้องเห็นก็รีบว่ายน้ำมาน้องก็ทำหน้าเเบบตกใจเเบบว่าเหี้.เเล้วพ่อมา ผมก็ว่ายถอยออกมา น้องมองไปที่พ่อเเล้วมองกลับมาเเล้วโบกมือลาผมเเบบไวมาก เเล้วหลังจากนั้นก็ว่ายไปกับพ่อน้อง ผมก็เเบบว่าน้องจะโดนอะไรป่าววะในใจคิด หลังจากว่ายเสร็จก็ขึ้นมานั่งครั้งนี้ไม่กล้ามองน้องเพราะกลัวพ่อน้องจะว่าน้องจริงๆก็กลัวพ่อน้องว่าด้วยเเละครับ พอถึงเกาะก็ลงไปไกด์บอกให้ไปที่บาร์ก่อนเดินไปหน้าบาร์ เเต่ไม่ได้เข้าไปเพราะน้องผมอยากนั่งตรงอีกฟาก พอได้ที่ก็เดินไปซื้ออะไรมากินเเถวบาร์ เผือเจอน้องเเต่ก็ไม่เห็นพอกลับมานั่งมองไปที่คนที่เล่นน้ำคนเยอะมากๆ เรือก็เข้ามาจอดตลอดเวลา เผอิญเห็นว่าน้องกับเเฝดของน้องนั่งเล่นน้ำกันอยู่ เเฝดของน้องก็เล่นน้ำตามปกติเเต่น้องนั่งหันหลังมาทางบริเวณผม ผมก็กะว่าจะลงไปทำไปเป็นเล่นเเต่ก็ไม่กล้ากลัวพ่อน้องเห็น จนน้องกับเเฝดลุกขึ้นมาน้องหันมาทางผมเเล้วก็เดินไปเรื่อยๆรอบชายหาด ผมก็คิดว่าควรจะลองเดินตามไปเผือจะได้คุยกับน้องเเต่ก็ไม่กล้าลัวพ่อน้องเห็น เเต่ก็ยังไม่ได้เดินจนตัดสินใจว่าจะเดินไปพอตอนเดินไปสวนกับน้องพอดีเเต่อยู่ตรงหน้าพ่อน้องเลยทำเป็นว่าไม่สนอะไร เเล้วก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม มองดูนาฬิกาเหลือเวลาอีก10 นาทีจะขึ้นเรือผมไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะนี้คงเป็นที่สุดท้ายที่จะได้ไปทำความรู้จักกับน้อง เเล้วผมก็เห็นว่าน้องเดินไปเล่นน้ำเเล้วพ่อน้องก็ตามไป จังหวะนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำไงเลยตัดสินใจว่าจะไปคุยกับพ่อน้องเพื่อจะทำเป็นไปทักทายเเล้วจะถามว่าจะเป็นไรไหมถ้าผมจะขอติดต่อกับน้อง(ในใจคิดว่าเอาก็เอาวะทำอะไรบ้าๆสักครั้ง อายเเปปเดียวเดี่ยวก็จากกันเเล้ว) เเล้วก็เดินไปหาพ่อน้อง น้องก็มองเเบบตกใจเเล้วก็เดินไปบนฝั่งเเล้วผมก็ถามพ่อน้องว่าจะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะถามอะไรบางอย่าง เเล้วก็ว่ามาจากไหนพ่อน้องก็บอกว่ามากจากengland  เเล้วก็บอกประมาณว่าเขาเเละเเฟนย้ายจากhong kong ไปอยู่england แล้วไปมีลูกสองคนที่england เเล้วเขาก็รีบเดินไปเเล้วพากันไปเอาของที่เอาไว้ที่บาร์ น้องก็เเบบไม่กล้ามองผมเลยตอนนั้น เเล้วผมก็เดินออกมา รู้สึกว่าโครตfail  เเล้วก็บอกตัวเองว่าguทำอะไรของguวะ หลังจากนั้นก็รอขึ้นเรือ พอตอนขึ้นเรือก็โดนฝรั่งนั้งที่ของผมก็เลยต้องมานั่งด้านหลัง ครั้งนี้รู้สึกว่าพ่อน้องจะหันมาตลอดเวลาผมเลยไม่กล้ามองอีกเลย จนเรือถึงฝั่งไกด์บอกลากลับคนในเรือโชคดี ทุกคนค่อยเดินออกจากเรือผมมองไปที่น้องตลอดเเละน้องก็มองกลับเเต่มองเเปปเดียวเพราะพ่อน้องอยู่ด้านหลังจังหวะที่น้องเดินก้าวข้ามเรือไปบนทางเดินเพื่อขึ้นฝั่งน้องหันมาครั้งสุดท้าย ผมกำลังจะโบกมือลาเเต่น้องต้องรีบเดินเพราะพ่อตามอยู่ด้านหลัง พอขึ้นไปฝั่งน้องกับครอบครัวก็ยื่นรอตรงที่รอรถผมก็ไปเข้าห้องน้ำ ผมไม่กล้ามองไปเเล้วเพราะพ่อน้องยื่นอยู่ตรงนั้นพ่อน้องพูดอะไรสักอย่างเเล้วน้องก็ก้มหน้า เเล้วก็เดินจากไปจากตรงนั้นผมได้เเต่ยื่นมองเเบบเศร้าๆ  เเล้วก็ไปขึ้นรถที่ไปส่งทีๆพัก ระหว่างทางผมก็ได้เเต่หาเเฮชเเท๊ก ที่เกี่ยวกับน้อง สถานที่ๆเที่ยว จนถึงที่พักหลังจากนั้นก็หามาตลอดจนถึงเวลาค่ำออกไปหาอะไรทาน คุยกับพี่ว่าจะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหนดีจริงๆในใจก็มีคือริมหาดที่ทะเล คาดว่าอาจไปเจอน้องอีกครั้งที่นั้นพอไปถึงที่หาดอีก 1 ชม. ก็จะเป็นเวลาเที่ยงคืนผมก็นั่งรอที่ๆนึงมองโคมลอย เเล้วก็หวังว่าภาวนาว่าจะเจอน้องอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นบอกกับพี่ของผมว่าผมอยากจะเดินไปถ่ายรูปที่ๆมีพลุสวยๆเยอะๆ ระหว่างทางที่เดินผมไม่สนใจพลุอะไรทั้งนั้นสนใจเเค่ว่าระหว่างทางจะเจอน้องไหมเเค่นั้น เดินจนไปถึงจุด จุดพลุก็รู้สึกควรพอไปต่อคงไม่ได้อะไรพอถึงเวลาทั้งพลุ ทั้งโคม เต็มทั่วท้องฟ้าผมรู้สึกว่าสวยมากเเต่ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรเลย หลังจากนั้นก็เดินกลับเเละเเอบมองดูตลอดว่าจะมีไหมจนขึ้นรถผมรู้สึกสิ้นหวังกับเรื่องในวันนั้นทั้งหมด พี่ขับรถกลับที่พักผมเป็นคนเปิดmap เพื่อบอกทางระหว่างทางก็นึกเเค่ว่าทำไหมตอนที่อยู่ที่หาดตอนที่น้องมาเล่นน้ำตรงหน้าไม่ยอมเข้าไปทักทายต่อ เเค่เพราะว่ากลัวพ่อน้องจะว่า เเอบร้องไห้ระว่างทางจนพอใกล้ถึงที่พักก็เเอบปาดน้ำตาที่ไหลออกให้หมดพี่จะได้ไม่รู้ว่าผมร้องไห้ พอขึ้นห้องมาก็รู้สึกเคว้งคว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
หลังจากนั้นก็ปิดไฟนอน  เพราะต้องตื่นไวจะได้ทันรถที่ไปส่งที่สนามบินพอถึงสนามบินก็หวังว่าน้องจะมารอหรือขึ้นเที่ยวบินเวลสใกล้ๆกับผม เเอบมองหาถึงเเม้จะรู้ว่าเป็นไปได้ยากเพราะรู้ว่าที่ๆรอนั้นเป็นของในประเทศเเต่ผมก็ยังมีความหวังเล็กๆ จนถึงเวลาขึ้นรถรอไปส่งตรงเครื่องบินก็รู้ว่าจะไม่มีโอกาศอีกเเล้ว  
หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่องพอเครื่องถึงก็ลงเครื่องนั่งรถกลับบ้าน เเละก็ยังหาน้องจากช่องทางอื่นๆหวังที่จะได้ติดต่อกับน้องอีกจนถึงตอนนี้ (ตอนที่นั่งที่เรือเพิ่งทราบจากพี่ว่าเวลาที่ผมนั่งหลับตาเวลานั่งเรือน้องได้มองผมตลอดเเล้วก็เเอบยิ้ม เเต่พอเห็นว่าพี่ผมมองไปน้องก็ทำเป็นหลับตา มันทำให้ผมคิดว่าเรื่องที่ผ่านมานั้นผมไม่ได้คิดไปเอง หน้าตาผมไม่ค่อยดี อาจจะไม่ดีเลยเเละ เเต่ก็ไม่ทราบว่าทำไหมน้องถึงสนใจในตัวผมหรือไม่ก็พี่ผมเป็นคนเเต่งเรื่องนี้)
        เรื่องที่ผมได้เจอในวันนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าถ้ามีโอกาสอะไรเข้ามาก็ควรจะทำมันให้ดี อย่าปล่อยทิ้งไปเพราะว่าเเค่ความกลัวเล็กๆน้อยถ้าคิดว่าโอกาสนั้นไม่ได้มีมาบ่อยๆก็ควรจะทำมันซะเเม้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ ผมไม่อยากจะคิดถึงเรื่องในวันนั้นเพราะทำให้ผมรู้สึกเศร้าเเละคิดถึงน้อง  เเต่ก็ไม่อยากลืมเพราะเป็นเรื่องราวความรักที่ดีที่สุดของผมตอนนี้   

ผมยังอยากที่จะติดต่อกับน้องอยู่ ไม่ใช่คิดเเค่อยากจะรัก เเต่คิดว่าไม่อยากปล่อยความสัมพันธ์ที่ดีของผมที่มีกับน้องหายไป ถึงเเม้ว่าน้องจะไม่คิดอะไรเเล้วก็ตาม
น้องเป็นคนที่มีพ่อเเม่ย้ายมาจากhong kong ไปที่englang เเละมีลูก2คน ในทริปนั้นน้องใส่บิกินี่สี่เหลื่อง วันนั้นเป็นวันที่ 31/12/2019
มีรูปน้องในinstagram #hongkonginengland (ถ่ายติดน้องตอนพี่สาวถ่ายวิว)        ถ้าใครสามารถหาช่องทางการติดต่อน้องได้สามารถตอบมาได้เลยครับ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน อาจจะมีเขียนผิดบ้างเเต่ขอโทษตรงนี้เลยละกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่