สวัสดี ผมป้อมครับ
กระทู้นี้ ผมมีประสบการณ์ วิกฤติทางการเงิน เครดิตเสีย การยื่นซื้อบ้าน ยื่นกู้ธนาคาร มีผลอนุมัติใน 2 วัน ของผมมาเล่าครับ
ยาวหน่อยนะครับ
ขอย้อนกลับไปถึงตอนก่อนเรื่องซื้อบ้านนะครับ
ผม อยู่กับแฟน และมีลูก 2 คน
ใช้ชีวิตเรื่อยไป วางแผนตามประสา เก็บเงินซื้อบ้านซักหลัง รถ 1 คัน ลูกๆ ได้เรียนโรงเรียนดีๆ
แต่แล้ว.......
ผมประสบปัญหา วิกฤติทางการเงินอย่างหนัก
หนักจนผม มืดทุกด้าน เหมือนมวยจนมุม นั่งจำนนกับชีวิต
และด้วยวิกฤตินั้น ทำให้ผมมีการผ่อนชำระสินเชื่อล่าช้า และค้างชำระ ทำให้ประวัติทางการเงินเสียไป " เครดิตเสีย "
เเละมีการบังคับชำระแบบปิดยอด
(ปรับโครงสร้างหนี้) เพื่อจบสัญญาสินเชื่อนั้น
เรื่องที่อยู่อาศัย ตอนนั้นผมได้เช่าบ้าน 1 หลัง ค่าเช่าก็เกือบหมื่นบาท
ระหว่างวิกฤติทางการเงิน ผมทำทุกอย่างที่ได้เงิน ผมคิดเสมอ ผมต้องพา แฟน ลูก ออกจากวิกฤตินี้ให้ได้ ด้วยตัวผมเอง
" แฟนผมก็ช่วยตลอด คู่คิด กำลังใจชั้นดีเลยละ "
กลางวันทำงานประจำ ( พนักงานขาย ) กลางคืนทำงานออนไลน์ นอน ตีสอง ตีสาม ทำหลายอย่างมาก ทำจนผมเหมือนคนบ้า พักผ่อนน้อย บางวัน หลับคาคอมฯ หลับคาโต๊ะทำงาน
ที่ผมต้องทำขนาดนี้ คือ อย่างที่บอก ผมสงสาร ลูก และแฟน ที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
เวลาผ่านไปทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ( ดีขึ้นแต่ยังไม่ดีซะเลย ) ผมก็ตัดสินใจ ปิดยอดสินเชื่อ ที่ผมมีปัญหาอยู่ เพื่อมองไปที่อนาคต เรื่องเครดิต
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดี
จากนั้นจุดเปลี่ยนสำคัญของผม ที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจซื้อบ้านคือ....เจ้าของบ้านเช่า จะขายบ้าน ....??????
เฮ้ย เดือนร้อนเลยนะ...!!
คำถามในหัวคือ แล้วเราจะต้องไปอยู่ไหน หาเช่าที่อื่นหร๋อ ....เงินก็มีไม่มาก เครียดสุดๆ งง มึนๆ
นั่งมองหน้าแฟน มองลูกๆ มึนๆ งงๆ
เจ้าของบ้านเดิม เสนอขายบ้านให้ผม 2,100,000 บาท + ค่าใช้จ่ายในการโอนทั้งหมด คนละครึ่ง ซึ่งผมก็.....อืม.....เยอะอยู่นะ
มองเงินในบัญชีแล้วก็.....คิดอะไรไม่ออกเลย
แฟนผมลุย...ก้มหน้าหาบ้านเช่าหลังใหม่ ราคาประมาณเดิมแต่ยังไม่มี ด้วยที่ว่าบ้านเช่าเดิมดีมากๆ มีเจอบ้าง แต่...ราคา 12,000 บาทขึ้นไป ซึ่งก็สูงกว่าเดิม
และในระหว่างแฟนผม หาบ้านเช่า ก็มี บ้านใหม่ ทาวน์โฮม ขึ้นมาในฟีดโซเชียล เสนอขายที่ 2.49 ล้านบาท .....ราคาพอกับบ้านที่ผมเช่าอยู่เลย น่าสนใจ
แต่พอไปดูจริงๆ ก็คือบ้านแบบ 1 ที่จอดรถ....
ซึ่งถ้าจะซื้อผมมอง 2 ที่จอดรถเลยนะ เพื่อความสะดวก และแล้วเซลล์ก็พาไปดู บ้านสวยดี ฟังชั่นได้ แต่ราคา...... 3.19 ล้านบาท เฮ้ย....แม่เจ้า!!!!!!!!! ราคาสูงไป
เป็นบ้าน ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ หลังกลาง
เซลล์ขายบ้านก็แนะนำ โน้นนี่ นี่นั้น เสนอโปรฯนั้น โปรฯนี้
ผมก็เลยเล่าให้เซลล์ฟังว่า ผมมีเก็บในบัญชีน้อยมากๆๆๆๆ แถม มีปัญหาเรื่องเครดิตอีก พึ่งปิดไป ไม่ถึงปีเลย เงินเดือนก็ 2 หมื่นกว่า แต่ได้ค่าคอมมิชชั่น และทำงานออนไลน์ เงินผ่านเข้าบัญชี ตลอด
และวันนั้นเราก็จากกัน เพราะ ยังไม่กล้าจอง อาย กลัวกู้ไม่ผ่าน กลัวผ่อนไม่หมด กลัวเสียเวลาเซลล์ กลัวทุกอย่าง จริงๆคือกลัวผิดหวัง
แต่เซลล์ ก็ยังคือเซลล์ ตามผมอยู่นั้น ตามๆๆๆๆ
ตามจนผม คุยกับแฟนว่า เอาไงดี เซลล์ตาม
ตอนนั้น ยัง งง งง ว่าจะเอายังไง จะซื้อหลังเก่าที่เช่า หรือซื้อบ้านใหม่ที่แพงกว่า
แต่ประเด็นคือ ผมกลัวเรื่องเครดิตผมจะไม่ผ่าน รวมถึงเรื่องรายได้ และหนี้สิน
แต่ก็นะ คุยกันจนคิดขึ้นได้ว่า สุดท้าย
จะบ้านใหม่หรือบ้านเก่า ถ้ากู้ไม่ผ่าน เพราะเรื่องที่กังวล มันก็คือไม่ผ่าน อยู่ดี...
สรุป แฟนเลยบอกว่าให้ไปจองบ้านใหม่ แต่ให้บอกเซลล์ว่า
ถ้ากู้ไม่ผ่าน ขอเงินจองคืน
เซลล์ก็รับปาก เซ็นสัญญาจอง
(
ผมจองบ้านไปแล้ว โดยผมไม่มีรูปบ้านที่ผมจองแม้แต่รูปเดียว ทุกอย่างมันคือความทรงจำ ในวันที่ไปดูบ้าน )
ผมทำสัญญาจองบ้าน
วันจันทร์ที่
16 กันยายน 2562 ตอน 1 ทุ่ม เซลล์ก็ให้ผมไปเตรียมเอกสาร
ผมนำเอกสาร มายื่นขอกู้
วันพุธที่
18 กันยายน 2562 โดยยื่นเอกสารเพื่อขอกู้ 6 ธนาคาร มี ธนาคารสีม่วง , ธนาคารสีเขียว , ธนาคารสีชมพู , ธนาคารสีส้ม ธ , ธนาคารสีเหลือง , และธนาคารสีส้ม
หลังจากที่ยื่น เอกสารแล้ว
วันพฤหัสบดี ที่
19 กันยายน 2562 ธนาคารเริ่มโทรมา ธนาคารสีม่วง ไม่ผ่านเกณฑ์ , ธนาคารสีชมพู ไม่ผ่านเกณฑ์, ธนาคารสีเหลือง ไม่ผ่านเกณฑ์, ธนาคารสีส้ม ธ ไม่ผ่านเกณฑ์ ทุกธนาคารที่ปฏิเสธ เค้าบอกปฏิเสธผมเรื่อง เครดิต ผมปิดแล้วก็จริง แต่ระยะเวลาที่ปิดไป ยังไม่เพียงพอ ต่อเกณฑ์ของเค้า
ก็เหลือแค่ ธนาคารสีเขียว ที่โทรมาคุย แล้วแจ้งว่ามีโอกาสกู้ผ่าน เพราะเงินผ่านธนาคารต่อเดือนสม่ำเสมอ และรายรับจากรายได้งานประจำดี
แต่ ธนาคารสุดท้าย ธนาคารสีส้ม ยังเงียบ ไม่มีติดต่อมา
จนในวันศุกร์ที่
20 กันยายน 2562 ผมได้คุยกับแฟนระหว่างกินข้าวเย็น เราคุยกันเรื่องกู้ คิดเหมือนกันคือ
คงจบแล้ว เรื่องกู้ซื้อบ้าน นั่งโทษตัวเอง ต่างๆ นา นา .......
ทันใดนั้น เดี๋ยวนั้นเลย เวลา 2 ทุ่มกว่าๆ
โทรศัพท์ผมดัง.....ใครหว่าโทรมา.....
ผมรับ....สวัสดีครับ
ปลายสาย.... สวัสดีคะ คุณ....ใช่มั้ยค่ะ ดิฉันจากธนาคารสีส้มนะ คือสินเชื่อบ้าน ...... " บร้าาาาาา แบบคล้ายกับที่ปฏิเสธผมเลย โน้นนี่ นี่นั้น บร้าาาาาาาา "
ขณะนี้ในทางเอกสารภายใน สินเชื่อที่ยื่นขอ
อนุมัติแล้วนะค่ะ แต่ด้วยนโยบายทางเรา
อนุมัติในวงเงินได้สูงสุดที่ 95% ของวงเงินยื่นกู้นะคะและต้องมาวางเงินดาวน์ 5% เดี๋ยวทางเรา จะส่งรายละเอียด และหากไม่มีอะไรติดขัด ทางดิฉันขอนัดทำสัญญา เป็นวันที่ 27 กันยายน 2562 นะค่ะ
(สรุปผมกู้คนเดียวผ่าน)
....อ้าวเฮ้ย ตอนนั้น ผมเหมือนคนบ้า จริงๆ ครับผมเหมือนบ้า น้ำตาคลอ พูดไม่ออก งง งง มึน มึน หน้าลูกผม หน้าแฟนผม ลอยในหัวผม ผมดีใจมากครับ ความผิดผลาด ในอดีตของผม จะไม่เป็นฝันร้ายในอนาคต ผมและครอบครัวผมอีกต่อไป เพราะอย่างน้อยวันข้างหน้า บ้านที่ผมจะพาครอบครัวไปอาศัย นั้นคือบ้านที่พ่ออย่างผมกู้ซื้อมา
หลังจากนั้น ผมก็เตรียมเอกสารที่ต้องนำไปแนบเพิ่มเติมในวันทำสัญญา
และสุดท้าย วันที่
27 กันยายน 2562 ผมก็ได้เป็นหนี้ 95% ขอ 3.19 ล้านบาท อย่างเป็นทางการ เเละเพียงผู้เดียว โดยมี ลูกและแฟน ค่อยให้กำลังใจ ข้างๆ
เท่ากับว่า ถ้านับจากวันยื่นเอกสาร จนถึงวันแจ้งผลอนุมัติใช้เวลาเพียง 2 วันทำการ
และถ้านับจากวันยื่นเอกสารจนถึงวันทำสัญญาใช้เวลา เพียง 7-8 วันทำการ
อ่านถึงตรงนี้ หลายคนคงมีคำถาม ว่าผมเป็นหนี้ กู้เงินมาซื้อบ้าน และจะดีใจทำไม ในเมื่อก็ยังไม่รู้ว่าจะผ่อนหมดมั้ย
ผมเองก็ ไม่รู้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ทุกวันนี้ ผมเป็นพ่อที่หาบ้านของเราให้ลูกๆซุกหัวนอนได้ ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กับครอบครัว กับบ้านหลังใหม่ ใช้ชีวิตรอบคอบขึ้น วางแผนสร้างครอบครัวอย่างจริงจัง ตั้งใจทำงานและหวังว่าผมจะผ่อนบ้านหมดในเร็ววัน
ขอบคุณ แฟนที่แสนดี ลูกๆ ที่น่ารัก กำลังใจที่เต็มเปี่ยม พ่อแม่ พี่น้อง ที่คอยช่วยเหลือ
สุดท้ายผมต้องขอขอบคุณธนาคารสีส้ม อัศวินที่ให้โอกาสในการกู้ครั้งนี้ ผมสัญญากับตัวเองว่า............
...ผมจะไม่เป็นหนี้นาน เพราะรู้ถึงดอกเบี้ย ผมจะรีบผ่อนให้หมด ให้เร็วที่สุด^^ ครับ
กรณีประสบการณ์ของผมที่นำมาแชร์ มันคือส่วนนึงของชีวิตคนที่ล้มเหลวมาแล้วในบางเรื่อง ผมหวังว่า จะเป็นอุทาหรณ์ในการดำเนินชีวิต เป็นบันดาลใจในการซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ของใครหลายๆ คน และหวังว่า วิกฤติชีวิตผมจะทำให้ ท่านๆ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ยิ่งขึ้นนะครับ
ผมคิดว่า นี่คืออีก 3 สิ่งที่ทุกคนควรมีในชีวิต มันคือสิ่งที่ผมได้รับรู้มา และมันก็จริงครับ
1. ความขยัน อดทน
2. เครดิต
3. มิตรสหายที่ดี
บ๊ายบายครับ ไปก่อน ไปเล่นกับลูกๆ 😻
ขอเพิ่มเติมข้อมูลนะครับ.......แก้ไขครับ
หลังจากหลายท่านได้อ่านกระทู้ที่ผมเขียน
แน่นอนครับ คำวิจารณ์มากมายที่เกิดจากข้อมูลในกระทู้ มีหลายท่านที่ตำหนิการกระทำของผม มีหลายท่านให้กำลังใจผม
จริงๆ เจตนาผมของผมคือ ต้องการให้คนที่ เคยมีประสบการณ์ไม่ดีทางด้านการเงิน ได้มีกำลังใจในการกลับมามีวินัยทางการเงินอีกครั้ง เพื่ออนาคตตัวเอง( เครดิต )
กรณีผม หลายท่าน อาจจะมองว่าเร็วเกินไปในการสร้างหนี้ก้อนโต หลังจากพึ่งผ่านวิกฤติการเงินมา แต่ สำหรับตัวผมกับแฟน เราได้มีการวางแผนไว้แล้ว ว่าจะจัดการยังไง และผมยังยืนยันครับ ว่านี่มันคือความสุข นี่คือจุดเริ่มต้น ของทุกอย่าง ที่ผมและแฟนต้องการสร้างให้ครอบครัว ถึงแม้ผมกับแฟนจะต้องทำงานหนัก ถึงแม้เราจะเป็นหนี้ก็ตาม
ในส่วนข้อมูลในกระทู้ที่ไม่ชัดเจนเองเรื่องรายได้ผม และเรื่องรายได้ของแฟน ทำให้เกิด คำวิจารณ์มากมาย ถึงความสามารถในการผ่อนชำระของหนี้ก้อนนี้ของผม
ซึ่งเรื่องนี้ ในอนาคต ผมก็ไม่ทราบได้ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ณ.ปัจจุบัน ผมพร้อมที่จะจัดการกับหนี้ก้อนนี้ครับ
จริงๆ ผมขอแจกแจงรายได้คร่าวๆ ของผมและแฟนให้ทราบเพราะเห็นว่าเป็นประเด็นหลักในการวิจารณ์ นะครับ
รายได้ผมเอง มีอยู่ หลักๆ 3 ส่วน
คือ
1. เงินเดือน ซึ่งบอกไปแล้วว่า ประมาณ 2 หมื่นกว่า
2.คอมมิชชั่น จาก การขายของงานเซลล์
3.ทำงานออนไลน์ และอื่นๆ
" ขอขายของนะครับ ผมรับดูแล โปรโมท เพจขายสินค้า แก้ไขปัญหา เพจธุรกิจ ในเฟสบุ๊ค และผมสามารถติดต่อกับทางเฟสบุ๊คได้โดยตรง "
ส่วนของแฟนผม 2 ส่วนหลักๆ
คือ
1.เงินเดือน
2.ค่าคอมมิชชั่น
ถ้าเฉลี่ยรายรับต่อเดือนของครอบครัวเราจะอยู่ที่ประมาณ มากกว่า 1.1 แสนบาท ครับ ( ซึ่งนี่คือเงินที่เรา พร้อมที่ชำระหนี้ บ้านหลังนี้ )
และผมกับแฟนเราทำงานกับ( บมจ ) ซึ่งมีสวัสดีการดีๆหลายด้าน และมีสวัสดีการด้านเงินสะสม สำรองเลี้ยงชีพ อยู่ด้วยครับ
ยังไงก็ตาม ผมต้องขอโทษ หากผมทำอะไรผิดพลาดไป และอาจแจกแจงบางส่วนไม่ละเอียด
ผมขอน้อมรับทุกคำวิจารณ์ ทุกความคิดเห็น แต่เพียงผู้เดียว ครับ
และขอบคุณทุกๆกำลังใจด้วยครับ
วิกฤติการเงิน และเครดิตเสีย กับ การกู้บ้านราคา 3.19 ล้านบาท อนุมัติใน 2 วัน
กระทู้นี้ ผมมีประสบการณ์ วิกฤติทางการเงิน เครดิตเสีย การยื่นซื้อบ้าน ยื่นกู้ธนาคาร มีผลอนุมัติใน 2 วัน ของผมมาเล่าครับ ยาวหน่อยนะครับ
ขอย้อนกลับไปถึงตอนก่อนเรื่องซื้อบ้านนะครับ
ผม อยู่กับแฟน และมีลูก 2 คน
ใช้ชีวิตเรื่อยไป วางแผนตามประสา เก็บเงินซื้อบ้านซักหลัง รถ 1 คัน ลูกๆ ได้เรียนโรงเรียนดีๆ
แต่แล้ว.......
ผมประสบปัญหา วิกฤติทางการเงินอย่างหนัก
หนักจนผม มืดทุกด้าน เหมือนมวยจนมุม นั่งจำนนกับชีวิต
และด้วยวิกฤตินั้น ทำให้ผมมีการผ่อนชำระสินเชื่อล่าช้า และค้างชำระ ทำให้ประวัติทางการเงินเสียไป " เครดิตเสีย "
เเละมีการบังคับชำระแบบปิดยอด (ปรับโครงสร้างหนี้) เพื่อจบสัญญาสินเชื่อนั้น
เรื่องที่อยู่อาศัย ตอนนั้นผมได้เช่าบ้าน 1 หลัง ค่าเช่าก็เกือบหมื่นบาท
ระหว่างวิกฤติทางการเงิน ผมทำทุกอย่างที่ได้เงิน ผมคิดเสมอ ผมต้องพา แฟน ลูก ออกจากวิกฤตินี้ให้ได้ ด้วยตัวผมเอง " แฟนผมก็ช่วยตลอด คู่คิด กำลังใจชั้นดีเลยละ "
กลางวันทำงานประจำ ( พนักงานขาย ) กลางคืนทำงานออนไลน์ นอน ตีสอง ตีสาม ทำหลายอย่างมาก ทำจนผมเหมือนคนบ้า พักผ่อนน้อย บางวัน หลับคาคอมฯ หลับคาโต๊ะทำงาน
ที่ผมต้องทำขนาดนี้ คือ อย่างที่บอก ผมสงสาร ลูก และแฟน ที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
เวลาผ่านไปทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ( ดีขึ้นแต่ยังไม่ดีซะเลย ) ผมก็ตัดสินใจ ปิดยอดสินเชื่อ ที่ผมมีปัญหาอยู่ เพื่อมองไปที่อนาคต เรื่องเครดิต
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดี
จากนั้นจุดเปลี่ยนสำคัญของผม ที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจซื้อบ้านคือ....เจ้าของบ้านเช่า จะขายบ้าน ....?????? เฮ้ย เดือนร้อนเลยนะ...!!
คำถามในหัวคือ แล้วเราจะต้องไปอยู่ไหน หาเช่าที่อื่นหร๋อ ....เงินก็มีไม่มาก เครียดสุดๆ งง มึนๆ
นั่งมองหน้าแฟน มองลูกๆ มึนๆ งงๆ
เจ้าของบ้านเดิม เสนอขายบ้านให้ผม 2,100,000 บาท + ค่าใช้จ่ายในการโอนทั้งหมด คนละครึ่ง ซึ่งผมก็.....อืม.....เยอะอยู่นะ
มองเงินในบัญชีแล้วก็.....คิดอะไรไม่ออกเลย
แฟนผมลุย...ก้มหน้าหาบ้านเช่าหลังใหม่ ราคาประมาณเดิมแต่ยังไม่มี ด้วยที่ว่าบ้านเช่าเดิมดีมากๆ มีเจอบ้าง แต่...ราคา 12,000 บาทขึ้นไป ซึ่งก็สูงกว่าเดิม
และในระหว่างแฟนผม หาบ้านเช่า ก็มี บ้านใหม่ ทาวน์โฮม ขึ้นมาในฟีดโซเชียล เสนอขายที่ 2.49 ล้านบาท .....ราคาพอกับบ้านที่ผมเช่าอยู่เลย น่าสนใจ
แต่พอไปดูจริงๆ ก็คือบ้านแบบ 1 ที่จอดรถ....
ซึ่งถ้าจะซื้อผมมอง 2 ที่จอดรถเลยนะ เพื่อความสะดวก และแล้วเซลล์ก็พาไปดู บ้านสวยดี ฟังชั่นได้ แต่ราคา...... 3.19 ล้านบาท เฮ้ย....แม่เจ้า!!!!!!!!! ราคาสูงไป
เป็นบ้าน ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ หลังกลาง
เซลล์ขายบ้านก็แนะนำ โน้นนี่ นี่นั้น เสนอโปรฯนั้น โปรฯนี้
ผมก็เลยเล่าให้เซลล์ฟังว่า ผมมีเก็บในบัญชีน้อยมากๆๆๆๆ แถม มีปัญหาเรื่องเครดิตอีก พึ่งปิดไป ไม่ถึงปีเลย เงินเดือนก็ 2 หมื่นกว่า แต่ได้ค่าคอมมิชชั่น และทำงานออนไลน์ เงินผ่านเข้าบัญชี ตลอด
และวันนั้นเราก็จากกัน เพราะ ยังไม่กล้าจอง อาย กลัวกู้ไม่ผ่าน กลัวผ่อนไม่หมด กลัวเสียเวลาเซลล์ กลัวทุกอย่าง จริงๆคือกลัวผิดหวัง
แต่เซลล์ ก็ยังคือเซลล์ ตามผมอยู่นั้น ตามๆๆๆๆ
ตามจนผม คุยกับแฟนว่า เอาไงดี เซลล์ตาม
ตอนนั้น ยัง งง งง ว่าจะเอายังไง จะซื้อหลังเก่าที่เช่า หรือซื้อบ้านใหม่ที่แพงกว่า
แต่ประเด็นคือ ผมกลัวเรื่องเครดิตผมจะไม่ผ่าน รวมถึงเรื่องรายได้ และหนี้สิน
แต่ก็นะ คุยกันจนคิดขึ้นได้ว่า สุดท้าย จะบ้านใหม่หรือบ้านเก่า ถ้ากู้ไม่ผ่าน เพราะเรื่องที่กังวล มันก็คือไม่ผ่าน อยู่ดี...
สรุป แฟนเลยบอกว่าให้ไปจองบ้านใหม่ แต่ให้บอกเซลล์ว่า ถ้ากู้ไม่ผ่าน ขอเงินจองคืน
เซลล์ก็รับปาก เซ็นสัญญาจอง
( ผมจองบ้านไปแล้ว โดยผมไม่มีรูปบ้านที่ผมจองแม้แต่รูปเดียว ทุกอย่างมันคือความทรงจำ ในวันที่ไปดูบ้าน )
ผมทำสัญญาจองบ้าน
วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562 ตอน 1 ทุ่ม เซลล์ก็ให้ผมไปเตรียมเอกสาร
ผมนำเอกสาร มายื่นขอกู้
วันพุธที่ 18 กันยายน 2562 โดยยื่นเอกสารเพื่อขอกู้ 6 ธนาคาร มี ธนาคารสีม่วง , ธนาคารสีเขียว , ธนาคารสีชมพู , ธนาคารสีส้ม ธ , ธนาคารสีเหลือง , และธนาคารสีส้ม
หลังจากที่ยื่น เอกสารแล้ว
วันพฤหัสบดี ที่ 19 กันยายน 2562 ธนาคารเริ่มโทรมา ธนาคารสีม่วง ไม่ผ่านเกณฑ์ , ธนาคารสีชมพู ไม่ผ่านเกณฑ์, ธนาคารสีเหลือง ไม่ผ่านเกณฑ์, ธนาคารสีส้ม ธ ไม่ผ่านเกณฑ์ ทุกธนาคารที่ปฏิเสธ เค้าบอกปฏิเสธผมเรื่อง เครดิต ผมปิดแล้วก็จริง แต่ระยะเวลาที่ปิดไป ยังไม่เพียงพอ ต่อเกณฑ์ของเค้า
ก็เหลือแค่ ธนาคารสีเขียว ที่โทรมาคุย แล้วแจ้งว่ามีโอกาสกู้ผ่าน เพราะเงินผ่านธนาคารต่อเดือนสม่ำเสมอ และรายรับจากรายได้งานประจำดี
แต่ ธนาคารสุดท้าย ธนาคารสีส้ม ยังเงียบ ไม่มีติดต่อมา
จนในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2562 ผมได้คุยกับแฟนระหว่างกินข้าวเย็น เราคุยกันเรื่องกู้ คิดเหมือนกันคือ คงจบแล้ว เรื่องกู้ซื้อบ้าน นั่งโทษตัวเอง ต่างๆ นา นา .......
ทันใดนั้น เดี๋ยวนั้นเลย เวลา 2 ทุ่มกว่าๆ
โทรศัพท์ผมดัง.....ใครหว่าโทรมา.....
ผมรับ....สวัสดีครับ
ปลายสาย.... สวัสดีคะ คุณ....ใช่มั้ยค่ะ ดิฉันจากธนาคารสีส้มนะ คือสินเชื่อบ้าน ...... " บร้าาาาาา แบบคล้ายกับที่ปฏิเสธผมเลย โน้นนี่ นี่นั้น บร้าาาาาาาา "
ขณะนี้ในทางเอกสารภายใน สินเชื่อที่ยื่นขอ อนุมัติแล้วนะค่ะ แต่ด้วยนโยบายทางเราอนุมัติในวงเงินได้สูงสุดที่ 95% ของวงเงินยื่นกู้นะคะและต้องมาวางเงินดาวน์ 5% เดี๋ยวทางเรา จะส่งรายละเอียด และหากไม่มีอะไรติดขัด ทางดิฉันขอนัดทำสัญญา เป็นวันที่ 27 กันยายน 2562 นะค่ะ (สรุปผมกู้คนเดียวผ่าน)
....อ้าวเฮ้ย ตอนนั้น ผมเหมือนคนบ้า จริงๆ ครับผมเหมือนบ้า น้ำตาคลอ พูดไม่ออก งง งง มึน มึน หน้าลูกผม หน้าแฟนผม ลอยในหัวผม ผมดีใจมากครับ ความผิดผลาด ในอดีตของผม จะไม่เป็นฝันร้ายในอนาคต ผมและครอบครัวผมอีกต่อไป เพราะอย่างน้อยวันข้างหน้า บ้านที่ผมจะพาครอบครัวไปอาศัย นั้นคือบ้านที่พ่ออย่างผมกู้ซื้อมา
หลังจากนั้น ผมก็เตรียมเอกสารที่ต้องนำไปแนบเพิ่มเติมในวันทำสัญญา
และสุดท้าย วันที่ 27 กันยายน 2562 ผมก็ได้เป็นหนี้ 95% ขอ 3.19 ล้านบาท อย่างเป็นทางการ เเละเพียงผู้เดียว โดยมี ลูกและแฟน ค่อยให้กำลังใจ ข้างๆ
เท่ากับว่า ถ้านับจากวันยื่นเอกสาร จนถึงวันแจ้งผลอนุมัติใช้เวลาเพียง 2 วันทำการ
และถ้านับจากวันยื่นเอกสารจนถึงวันทำสัญญาใช้เวลา เพียง 7-8 วันทำการ
อ่านถึงตรงนี้ หลายคนคงมีคำถาม ว่าผมเป็นหนี้ กู้เงินมาซื้อบ้าน และจะดีใจทำไม ในเมื่อก็ยังไม่รู้ว่าจะผ่อนหมดมั้ย
ผมเองก็ ไม่รู้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ทุกวันนี้ ผมเป็นพ่อที่หาบ้านของเราให้ลูกๆซุกหัวนอนได้ ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กับครอบครัว กับบ้านหลังใหม่ ใช้ชีวิตรอบคอบขึ้น วางแผนสร้างครอบครัวอย่างจริงจัง ตั้งใจทำงานและหวังว่าผมจะผ่อนบ้านหมดในเร็ววัน
ขอบคุณ แฟนที่แสนดี ลูกๆ ที่น่ารัก กำลังใจที่เต็มเปี่ยม พ่อแม่ พี่น้อง ที่คอยช่วยเหลือ
สุดท้ายผมต้องขอขอบคุณธนาคารสีส้ม อัศวินที่ให้โอกาสในการกู้ครั้งนี้ ผมสัญญากับตัวเองว่า............
...ผมจะไม่เป็นหนี้นาน เพราะรู้ถึงดอกเบี้ย ผมจะรีบผ่อนให้หมด ให้เร็วที่สุด^^ ครับ
กรณีประสบการณ์ของผมที่นำมาแชร์ มันคือส่วนนึงของชีวิตคนที่ล้มเหลวมาแล้วในบางเรื่อง ผมหวังว่า จะเป็นอุทาหรณ์ในการดำเนินชีวิต เป็นบันดาลใจในการซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ของใครหลายๆ คน และหวังว่า วิกฤติชีวิตผมจะทำให้ ท่านๆ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ยิ่งขึ้นนะครับ
ผมคิดว่า นี่คืออีก 3 สิ่งที่ทุกคนควรมีในชีวิต มันคือสิ่งที่ผมได้รับรู้มา และมันก็จริงครับ
1. ความขยัน อดทน
2. เครดิต
3. มิตรสหายที่ดี
บ๊ายบายครับ ไปก่อน ไปเล่นกับลูกๆ 😻
ขอเพิ่มเติมข้อมูลนะครับ.......แก้ไขครับ
หลังจากหลายท่านได้อ่านกระทู้ที่ผมเขียน
แน่นอนครับ คำวิจารณ์มากมายที่เกิดจากข้อมูลในกระทู้ มีหลายท่านที่ตำหนิการกระทำของผม มีหลายท่านให้กำลังใจผม
จริงๆ เจตนาผมของผมคือ ต้องการให้คนที่ เคยมีประสบการณ์ไม่ดีทางด้านการเงิน ได้มีกำลังใจในการกลับมามีวินัยทางการเงินอีกครั้ง เพื่ออนาคตตัวเอง( เครดิต )
กรณีผม หลายท่าน อาจจะมองว่าเร็วเกินไปในการสร้างหนี้ก้อนโต หลังจากพึ่งผ่านวิกฤติการเงินมา แต่ สำหรับตัวผมกับแฟน เราได้มีการวางแผนไว้แล้ว ว่าจะจัดการยังไง และผมยังยืนยันครับ ว่านี่มันคือความสุข นี่คือจุดเริ่มต้น ของทุกอย่าง ที่ผมและแฟนต้องการสร้างให้ครอบครัว ถึงแม้ผมกับแฟนจะต้องทำงานหนัก ถึงแม้เราจะเป็นหนี้ก็ตาม
ในส่วนข้อมูลในกระทู้ที่ไม่ชัดเจนเองเรื่องรายได้ผม และเรื่องรายได้ของแฟน ทำให้เกิด คำวิจารณ์มากมาย ถึงความสามารถในการผ่อนชำระของหนี้ก้อนนี้ของผม
ซึ่งเรื่องนี้ ในอนาคต ผมก็ไม่ทราบได้ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ณ.ปัจจุบัน ผมพร้อมที่จะจัดการกับหนี้ก้อนนี้ครับ
จริงๆ ผมขอแจกแจงรายได้คร่าวๆ ของผมและแฟนให้ทราบเพราะเห็นว่าเป็นประเด็นหลักในการวิจารณ์ นะครับ
รายได้ผมเอง มีอยู่ หลักๆ 3 ส่วน
คือ
1. เงินเดือน ซึ่งบอกไปแล้วว่า ประมาณ 2 หมื่นกว่า
2.คอมมิชชั่น จาก การขายของงานเซลล์
3.ทำงานออนไลน์ และอื่นๆ
" ขอขายของนะครับ ผมรับดูแล โปรโมท เพจขายสินค้า แก้ไขปัญหา เพจธุรกิจ ในเฟสบุ๊ค และผมสามารถติดต่อกับทางเฟสบุ๊คได้โดยตรง "
ส่วนของแฟนผม 2 ส่วนหลักๆ
คือ
1.เงินเดือน
2.ค่าคอมมิชชั่น
ถ้าเฉลี่ยรายรับต่อเดือนของครอบครัวเราจะอยู่ที่ประมาณ มากกว่า 1.1 แสนบาท ครับ ( ซึ่งนี่คือเงินที่เรา พร้อมที่ชำระหนี้ บ้านหลังนี้ )
และผมกับแฟนเราทำงานกับ( บมจ ) ซึ่งมีสวัสดีการดีๆหลายด้าน และมีสวัสดีการด้านเงินสะสม สำรองเลี้ยงชีพ อยู่ด้วยครับ
ยังไงก็ตาม ผมต้องขอโทษ หากผมทำอะไรผิดพลาดไป และอาจแจกแจงบางส่วนไม่ละเอียด
ผมขอน้อมรับทุกคำวิจารณ์ ทุกความคิดเห็น แต่เพียงผู้เดียว ครับ
และขอบคุณทุกๆกำลังใจด้วยครับ