จากเดิม เราเคยคิดว่า เมืองไทยมีเสือโคร่งงเหลืออยู่เพียงแค่ห้วยขาแข้งกับอุทยานรอบๆแห่งเดียว
2-3 ปีที่ผ่านมา วงการป่าไม้บ้านเรา มีข่าวดีคือพบเสือโคร่งในป่าอุทยานฝั่งภาคกลาง-อีสาน ในดงพญาเย็น ซึ่งหายสาบสูญไปนานถึง 20 ปี ซึ่งล่าสุด 3-4 เดือนที่แล้วมีรายงานพบที่ อุทยานแห้งชาติภูเขียว-น้ำหนาว จำนวนคร่าวๆที่ประมาณได้คือ ราว 30-35 ตัว

แต่ปัญหาคือคิดจากฐานประชากรเสือ 30 กว่าตัวที่มีวันนี้ ย้อนกลับไปยังช่วงที่หลายปีผ่านมา ที่พวกมันหายไปจากการสำรวจ จนถูกประเมินว่า อาจสูญพันธ์จากภาคอีสาน
แสดงว่า จำนวนต้นฐานของพวกมันน่าจะมีเพียง 3-5 ตัวเท่านั้น ซึ่งถ้าปล่อยตามยะถากรรมอีกไม่เกิน 1-2 รุ่น เสือพวกนี้คงเกิดปัญหาสายเลือดอ่อนแอ จากการผสมพันธ์กันเองในครอบครัว
ทางกรมป่าไม้ไม่คิดจะย้ายเสือโคร่งจากทางขาแข้งมาช่วยเติมสายเลือดเรอะครับ? ได้ยินว่า 5 ปีก่อนเคยมีแนวคิดนี้ แต่ล้มเลิกไป เนื่องจาก จำนวนเสือที่จะย้ายมาได้มีไม่มากพอจะแพร่พันธ์ได้อย่างยั่งยืน แต่ถ้าในพื้นที่มีเสือและกำลังจะเกิดปัญหาสายเลือดชิด ควรจะพิจารณาแผนนี้กลับมามั้ยครับ
เสือโคร่งที่ป่าตะวันออกในอนาคตจะมีปัญหาสายเลือดชิดมั้ยครับ?
2-3 ปีที่ผ่านมา วงการป่าไม้บ้านเรา มีข่าวดีคือพบเสือโคร่งในป่าอุทยานฝั่งภาคกลาง-อีสาน ในดงพญาเย็น ซึ่งหายสาบสูญไปนานถึง 20 ปี ซึ่งล่าสุด 3-4 เดือนที่แล้วมีรายงานพบที่ อุทยานแห้งชาติภูเขียว-น้ำหนาว จำนวนคร่าวๆที่ประมาณได้คือ ราว 30-35 ตัว
แต่ปัญหาคือคิดจากฐานประชากรเสือ 30 กว่าตัวที่มีวันนี้ ย้อนกลับไปยังช่วงที่หลายปีผ่านมา ที่พวกมันหายไปจากการสำรวจ จนถูกประเมินว่า อาจสูญพันธ์จากภาคอีสาน
แสดงว่า จำนวนต้นฐานของพวกมันน่าจะมีเพียง 3-5 ตัวเท่านั้น ซึ่งถ้าปล่อยตามยะถากรรมอีกไม่เกิน 1-2 รุ่น เสือพวกนี้คงเกิดปัญหาสายเลือดอ่อนแอ จากการผสมพันธ์กันเองในครอบครัว
ทางกรมป่าไม้ไม่คิดจะย้ายเสือโคร่งจากทางขาแข้งมาช่วยเติมสายเลือดเรอะครับ? ได้ยินว่า 5 ปีก่อนเคยมีแนวคิดนี้ แต่ล้มเลิกไป เนื่องจาก จำนวนเสือที่จะย้ายมาได้มีไม่มากพอจะแพร่พันธ์ได้อย่างยั่งยืน แต่ถ้าในพื้นที่มีเสือและกำลังจะเกิดปัญหาสายเลือดชิด ควรจะพิจารณาแผนนี้กลับมามั้ยครับ