ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ รีวิวร้านอาหาร COAL Bistro & Bar by Chef Willment หัวหน้ากรรมการแห่ง TOP Chef Thailand

[SR] ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ รีวิวร้านอาหาร COAL Bistro & Bar by Chef Willment หัวหน้ากรรมการแห่ง TOP Chef Thailand

กระทู้รีวิว

ร้านอาหาร อาหาร อาหารคาว อาหารฟิวชั่น ร้านอาหารย่านราชพฤกษ์

สวัสดีครับ สมาชิกพันทิปทุกท่าน ปกติผมไม่ค่อยได้เขียนรีวิวอาหารแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย
แต่คราวนี้ได้โอกาสดีจาก Pantip X Top Chef Thailand เลือกผมไปลองทานและรีวิวอาหารร้านนี้ ต้องบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมากๆ และเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุด ตั้งแต่ผมเริ่มมีความสนใจในเรื่องอาหารเลยครับ
สำหรับเชฟวิลแมน ลีอองนั้น ส่วนตัวผมรู้จักและชื่นชอบเชฟท่านนี้อยู่แล้ว พอได้รู้ว่าจะได้มาเจอตัวจริง ก็เอาสิครับ โอกาสดีๆ แบบนี้ ใครจะไม่คว้าไว้หล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

สำหรับร้าน COAL Bistro & Bar ตั้งอยู่ที่ถนนราชพฤกษ์ ใกล้ๆ ร้านดาวล้อมเดือนนั่นแหละครับ ข้างล่างนี้เป็นแผนที่ และ Social Media ของร้านครับ

ถ้ามาทาง BTS ลงตรงบางหว้า แล้วต่อแท็กซี่ได้เลยครับ

สำหรับบางท่านอาจจะสงสัยว่า Bistro มันคืออะไร และคอนเซปคร่าวๆ ของร้านนี้เป็นยังไง

ขออนุญาตนำคำตอบที่เชฟวิลแมนตอบคำถามพี่ @ninjathai มาบอกเล่าสมาชิกกันนะครับ เป็นคำตอบแบบเข้าใจง่ายๆ ฟังง่ายๆ

เชฟอธิบายไว้ประมาณว่า Bistro เป็นเหมือนลูกผสมระหว่าง Restaurant กับ Cafe ก็คือ ไม่ใช่ร้านอาหารที่เสิรฟ์แต่อาหารจ๋าไปเลย แต่จะมีบรรยากาศแบบชิลๆ ง่ายๆ ใครมานั่งกินเล่นๆ ก็ได้ อาหารก็มีตั้งแต่เบาๆ ยันหนักไปเลยก็มีครับ

เชฟบอกว่าที่เลือกคอนเซปร้านเป็นประมาณนี้ เพราะว่าอยากให้คนที่มาทานที่ร้าน ไม่รู้สึกถูกบรรยากาศกดดันว่าต้องแต่งตัวดีๆ มาทานอะไรอย่างนี้ อยากให้คนมาทาน ได้ฟีลสบายๆ ครับ เอาหล่ะ เราได้คอนเซปร้านแล้ว เดี๋ยวเราเริ่มไปชมร้าน และตัวอาหารกันเลยดีกว่าครับ

**รูปภาพอาหารและบรรยากาศในร้านทั้งหมดในรีวิวนี้ ผมจะไม่แก้สีเลยแม้แต่รูปเดียว แต่มีแก้ Exposure บางใบครับ ส่วนบางใบที่สั่นก็ขออภัยด้วยครับ ในร้านไฟมืดไปนิดนึง (ตามสไตล์ร้าน Bistro) บวกกับเพิ่งใช้กล้องตัวนี้ครั้งแรก ยังกะอะไรไม่ถูกเยอะครับ

บรรยากาศหน้าร้าน

สำหรับบรรยากาศหน้าร้าน ก็จะประมาณนี้ครับ

บรรยากาศภายในร้าน

ครัวที่นี่ส่วนหนึ่งเป็นครัวเปิดนะครับ

เห็นเชฟวิลแมนบอกว่าเตาทำอาหารที่นี่ Build ขึ้นมาเองด้วยนะครับ

ส่วนนี้เข้าใจว่าเป็นห้องรับรองสำหรับลูกค้าที่มาหลายท่านครับ

โดยรวมผมว่าบรรยากาศในร้านสบายๆ ดีครับ เหมือนร้าน Bistro ร้านอื่นๆ ส่วนใหญ่

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม

สำหรับน้ำดื่ม ผมสั่งเป็น Lime Soda (มะนาวโซดา) ครับ

ส่วนตัวคิดว่าขมไปหน่อย เปรี้ยวน้อยไปนิดนึงครับ

Appetizer อาหารทานเล่น เรียกน้ำย่อย

จานแรกเป็นขนมปัง Homemade กับเนยทรัฟเฟิลครับ ขนมปังมีสองแบบ คือ Charcoal กับ White bun

เนื้อขนมปังนุ่ม หวานกำลังดีครับ จริงๆ ไม่ได้ต่างจากขนมปังดีๆที่อื่นมาก แต่เจอเนยทรัฟเฟิลเข้าไปด้วย คือจบครับ เลิกคุยครับ ไม่ใช่ไม่อร่อยนะครับ ขอก้มหน้าก้มตากินต่อเลย ฮ่าๆๆ กินขาดตรงเนยนี่แหละครับ

Marinated Tuna with Italian Dressing

จบจากจานแรกไป ก็จะเป็นสลัดทูน่าสไตล์ Western หน่อยนึงครับ เท่าที่ลองดู คิดว่าน่าจะเป็น Yellowfin Tuna ไม่ใช่ Bluefin แต่หมักมาในซอสของทางร้าน ก่อนจะเอามาย่างตรงรอบนอกครับ จานนี้ถูกใจผมมากตรงรสชาติของทูน่านี่แหละ หมักไว้ มีรส แต่ไม่ทำลายความเป็นทูน่าครับ ส่วนน้ำ Italian Dressing ผมว่ายังน้อยไปนิด ผักสดดี จานนี้ทูน่าเป็นพระเอกอย่างแท้จริงครับ

Main Course คอร์สหลัก

Seared Foie Gras with Mango Caramelize and Mango Gel

จานนี้น่าจะนับว่าเป็นจานแรกของ Main Course ได้นะครับ เป็นฟัวกราส์ เสิร์ฟกับมะม่วง เจลมะม่วง ซอสเบอร์รี่ เป็นการเอาผลไม้มาสู้กับไขมัน

จริงๆ ถ้าเคยกินแนวนี้มาแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรโดดเด่นนะครับ จานนี้คงจะเปลี่ยนใจคนไม่ชอบทานตับไม่ได้ แต่ถ้าชอบอยู่แล้ว คิดว่าโอเคครับ ฟัวกราส์ Cook ได้สุกกำลังดี ถึงอาจจะไม่ได้เป็นฟัวกราส์เกรดที่ดีที่สุด แต่ก็ทำออกมาได้ดีครับ

Calamari Tempura หมึกชุบแป้งทอด สไตล์อิตาเลียน

เป็นหมึกทอดทั่วๆ ไปครับ ทอดได้กรอบกำลังดี หมึกไม่ Overcooked ซอสก็เป็นหมึกดำ ผสมกับมาโย อร่อย แต่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นครับ

เมนูที่ผมว่าใครมาทานก็ต้องชอบ Fettucine Truffle Cream w Grilled U.S. Scallops

เมนูนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ เส้น Fettucine สุกเลย Al dente ไปหน่อยนึง ยังโอเคอยู่ บวกกับซอสครีมทรัฟเฟิลไป ใจละลายครับ ยังไม่หมดนะ มีหอยเชลล์ตัวบะเริ่มเทิ่ม ย่างแล้วเอาไป Smoke อีก ตายครับ แต่ทานเยอะแล้วเลี่ยนได้เลยนะครับ ฮ่าๆ เมนูนี้สำหรับผม ที่สองร่วมในหมวดของคาววันนี้ครับ

Capellini White Wine with Tiger Prawn

ตอนแรกกินจานนี้เข้าไป นึกว่าบะหมี่ไข่ครับ ไม่ได้นึกถึงคาเปลลินี่เลย ตอนแรกนึกว่าจานนี้เป็น East ทั้งหมดเลย แต่จริงๆ แล้วเป็น West แทบทั้งหมด ไวน์ขาว พาสต้า Italian Basil กระเทียม พริกแห้ง

กุ้งลายเสือ ย่างแล้วรมควัน สุก(ข)แบบ Perfect เลยครับ

จานนี้ผมว่ามันเหมือนขาดอะไรที่ Bind ระหว่างกุ้งกับเส้นไปหน่อย มันดูเหมือนผัดเส้นแล้วเอากุ้งมาวางเฉยๆ ครับ แต่อร่อยนะครับ ไม่ใช่ไม่อร่อย

BBQ Pork Rib

ดูหน้าตาแล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะครับ ซี่โครงหมูบาร์บีคิว เนื้อนุ่มมากๆ เอามีดเขี่ยๆ หลุดออกมาจากกระดูกเลยครับ รสชาติซอสเข้าไปในเนื้อเต็มๆ

"OCEAN" Tasting Sampler For One จานที่ 1 ในใจผมของวันนี้

ในจานนี้มีโปรตีนอยู่ 4 อย่างครับ ซึ่งโปรตีนแต่ละตัว ถูก Cook โดย Method ที่ต่างกันทั้งหมด

Lobster Tail - ถ้าจำไม่ผิด อบครับ

Scallop - grill แล้ว smoke เหมือนจาน Fettucine ข้างบนครับ

ปลาหิมะ - Poach กับเนยและเลม่อน

Salmon - Smoke

ที่ผมชอบจานนี้ที่สุดคือ ผมชอบทาน Seafood มากๆ อยู่แล้ว บวกกับเจอการ cook ที่ perfect ทุกชิ้นบนจานแบบนี้ เอาไปเลยครับ ที่ 1 ของมื้อนี้

Pumpkin Snack side dish - The Wow(est) ของวันนี้

จานนี้ เพิ่งเคยกินแบบนี้ครั้งแรกครับ ฟักทองจริงๆ เป็นวัตถุดิบบ้านเราที่หาง่าย และไม่แพง หากินได้บ่อยๆ แต่ไม่เคยเจอแบบนี้ครับ

ฟักทองในจานนี้มี 3 แบบ แบบแรกเป็นฟักทองทอดกรอบ

แบบที่สองเป็นฟักทองย่างเตาถ่าน

แบบที่สามเป็น Puree ฟักทองครับ

จานนี้มี Texture 3 แบบเลย ทั้งแข็ง นุ่ม แล้วก็เหลวข้นๆ

ฟักทองย่างกับ Puree หวานมากๆ แต่ไม่หวานเกินจริง เอา puree ตักใส่ฟักทองย่าง แล้วรองด้วยฟักทองทอด เอาเข้าปากไป งงครับ นี่หรือคือฟักทองแบบที่เราคุ้นเคย เมนูนี้เป็นการคิดแบบแตกต่างจริงๆครับ และเป็น Dish ฟักทองที่ผมชอบที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาเลย เรียนกันตามตรง เพราะปกติผมจะเจอแต่พวกฟักทองผัดไข่ (ขอโทษนะครับคุณแม่) ครับ ฮ่าๆๆ

เดี๋ยวมาต่อในคอมเม้นท์ครับ โควต้าจะเกินแล้ว ฮาาาา