สวัสดีเพื่อนๆ Pantip ทุกคนครับ
ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสนำมือถือ
Huawei Mate 30 Pro มาใช้เป็นเครื่องหลักประมาณ 2 สัปดาห์ โดย Huawei Thailand ได้ส่งเครื่องมาให้ทาง
AbZoLute Review ทดสอบใช้ถ่ายรูปอย่างจริงจังในหลายๆ เหตุการณ์ พาออกไปเที่ยวถ่ายรูปเก็บทุกบรรยากาศ เลยจะมาเล่าถึงความสามารถกล้องมือถือรุ่นนี้อย่างละเอียดครับ
สเปคกล้อง
กล้องหลัง : 4 ตัว
ระบบโฟกัส : PDAF (Phase Detection Auto Focus) + กันสั่นแบบ OIS
ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด : 2160p@30/60fps, 1080p@30/60/120fps, 1080p@960fps, 720p@7680fps, gyro-EIS
กล้องตัวที่ 1 กล้องหลัก
ความละเอียด : 40 ล้านพิกเซล, F1.6, ระยะ 27 mm, เซนเซอร์ Sony IMX600 Exmor RS, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.7 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน
กล้องตัวที่ 2 Telephoto ซูม 3 เท่า
ความละเอียด : 8 ล้านพิกเซล, F2.4, ระยะ 80 mm, ขนาดเซนเซอร์ 1/4 นิ้ว
กล้องตัวที่ 3 Ultra wide กว้างพิเศษ
ความละเอียด : 40 ล้านพิกเซล, F1.8, ระยะ 18 mm, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.54 นิ้ว
กล้องตัวที่ 4 วัดระยะ 3D TOF camera
ความละเอียด : 2 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า 1 ตัว แบบ Pop-up
ความละเอียด : 32 ล้านพิกเซล, F2.0
หน้าจอการถ่ายรูป
ในส่วนของ UI หลักๆ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนะครับ คล้ายๆ กับ Mi 9 และรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวช่วงปีนี้ มีโหมด 48 ล้านพิกเซลให้เลือกใช้งานง่าย โหมด Pro สามารถเลือกใช้ถ่ายได้ทั้ง 3 เลนส์ ลากสปีดชัตเตอร์ได้มากสุดถึง 32 วินาที ส่วนกล้อง Ultra wide และ Telephoto ทำได้มากสุด ½ วินาทีครับ
บททดสอบกล้อง ในแต่ละด้านทั้ง 6 ข้ออย่างละเอียด และเจาะลึกการถ่ายรูป มาให้ดูกันครับ
1. ภาพในที่มีแสงปกติ (กลางวัน) โหมด Auto
1.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
1.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
1.3 ถ่ายอาหาร =
1.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
1.5 ถ่ายย้อนแสง HDR =
2. ภายในที่มีแสงน้อย (กลางคืน) โหมด Auto
2.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
2.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
2.3 ถ่ายอาหาร =
2.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
2.5 ถ่ายกลางคืนด้วย Night mode =
2.6 ถ่ายด้วยโหมด Pro ใช้ขาตั้งกล้อง =
3. ภาพถ่ายบุคคล โหมด Auto และ Portrait =
4. กล้องหน้า ถ่าย Selfie =
4.1 ในที่มีแสงปกติ โหมด Auto และ Portrait ตามลำดับ
4.2 ในที่มีแสงน้อย โหมด Auto และ Portrait ตามลำดับ
5. การบันทึกวีดีโอ, กันสั่น, Time Lapse, Super slow motion
6. สรุปการใช้งานด้านกล้อง จุดเด่น / จุดสังเกต
โหมด Pro สามารถปรับค่าได้หลายอย่าง เช่น ISO (50 ถึง 409,600), ความเร็วชัตเตอร์ (1 / 4000s ถึง 30s), ชดเชยแสง (-4 ถึง + 4EV โดยเพิ่มทีละ 1/3 stop) และสมดุลแสงขาว และอุณหภูมิแสงเฉพาะนอกจากนี้ยังสามารถเลือกโหมดการวัดแสง (เมทริกซ์, น้ำหนักกลาง และเฉพาะจุด) และโหมดโฟกัส (แบบเดี่ยว, แบบต่อเนื่อง และแบบแมนนวล)
จุดเด่น
- ให้เซ็นเซอร์ความละเอียดสูง 40 ล้านพิกเซลถึง 2 ตัว (wide + ultra wide)
- มีขนาดเซ็นเซอร์รับภาพที่ใหญ่มาก ทั้ง wide และ ultra wide
- ได้ภาพออกมาที่ขนาด 3:2 ในขณะที่มือถือรุ่นอื่นจะเป็น 4:3
- Ultra wide รูรับแสงกว้างถึง F1.8 ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี
- กล้อง ToF ช่วยให้โฟกัสได้เร็วขึ้น และเพิ่มโบเก้ได้เนียนมากขึ้น
- AI ปรับปรุงการรับรู้มากถึง 1500 ฉาก ทำให้ฉลาดมากขึ้น
- Dynamic range ของกล้องสูง ทำให้เก็บข้อมูลค่าแสงสว่างสุด และมืดสุดได้มาก
จุดสังเกต
- ให้กล้อง telephoto เริ่มต้นที่ 3x บางสถานการณ์มันซูมมากไป ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเริ่มจาก 2x จะใช้งานสะดวกกว่า
- Ultra wide กว้างน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด
- UI ในการซูม 3x 5x 10x ค่อนข้างใช้ง่านยาก เพราะจัดวางไว้ได้ข้าง
- ส่วนตัวคิดว่าโทนสีดูเพี้ยนๆ เล็กน้อย อาจจะต้องรออัพเดตปรับปรุงอีกครั้ง
- HDR บ้างครั้งดูเยอะเกิน ทำให้ภาพดูแบนๆ ไม่มีมิติ
- แต่ละเลนส์ โทนสีจะออกมาต่างกันเล็กน้อย
สรุปการใช้งานภาพรวม
- จอสวย และหรูมากกกก กอ ไก่ ล้านตัว
- ไม่สามารถใช้ GMS (Google Mobile Service) จึงมีข้อจำกัดในการใช้งาน
- เสียงลำโพงดีสุดๆ ดีสุดตั้งแต่เคยใช้มือถือมา
*รูปในกระทู้ไม่มีการปรับแต่งสี และไม่เพิ่มความคมชัด หรือลด noise เพื่อให้เหมือนจากต้นฉบับหลังกล้องมากที่สุด
**รูปในกระทู้มีการเพิ่มความสว่างเล็กน้อย และ crop ภาพ เพื่อให้เห็นรายละเอียดภาพได้มากขึ้น ด้วยโปรแกรม Lightroom
ขอบคุณที่ติดตาม และช่วยกด "+" กระทู้ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค๊าบ
วิน
AbZoLute Review
https://www.facebook.com/AbzoluteReview/
[SR] รีวิวเจาะลึกการถ่ายรูป ด้วยกล้องมือถือ Huawei Mate 30 Pro กับเซนเซอร์คุณภาพสูง 40 ล้านพิกเซลถึง 2 ตัว!
สวัสดีเพื่อนๆ Pantip ทุกคนครับ
ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสนำมือถือ Huawei Mate 30 Pro มาใช้เป็นเครื่องหลักประมาณ 2 สัปดาห์ โดย Huawei Thailand ได้ส่งเครื่องมาให้ทาง AbZoLute Review ทดสอบใช้ถ่ายรูปอย่างจริงจังในหลายๆ เหตุการณ์ พาออกไปเที่ยวถ่ายรูปเก็บทุกบรรยากาศ เลยจะมาเล่าถึงความสามารถกล้องมือถือรุ่นนี้อย่างละเอียดครับ
สเปคกล้อง
กล้องหลัง : 4 ตัว
ระบบโฟกัส : PDAF (Phase Detection Auto Focus) + กันสั่นแบบ OIS
ถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด : 2160p@30/60fps, 1080p@30/60/120fps, 1080p@960fps, 720p@7680fps, gyro-EIS
กล้องตัวที่ 1 กล้องหลัก
ความละเอียด : 40 ล้านพิกเซล, F1.6, ระยะ 27 mm, เซนเซอร์ Sony IMX600 Exmor RS, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.7 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน
กล้องตัวที่ 2 Telephoto ซูม 3 เท่า
ความละเอียด : 8 ล้านพิกเซล, F2.4, ระยะ 80 mm, ขนาดเซนเซอร์ 1/4 นิ้ว
กล้องตัวที่ 3 Ultra wide กว้างพิเศษ
ความละเอียด : 40 ล้านพิกเซล, F1.8, ระยะ 18 mm, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.54 นิ้ว
กล้องตัวที่ 4 วัดระยะ 3D TOF camera
ความละเอียด : 2 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า 1 ตัว แบบ Pop-up
ความละเอียด : 32 ล้านพิกเซล, F2.0
หน้าจอการถ่ายรูป
ในส่วนของ UI หลักๆ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนะครับ คล้ายๆ กับ Mi 9 และรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวช่วงปีนี้ มีโหมด 48 ล้านพิกเซลให้เลือกใช้งานง่าย โหมด Pro สามารถเลือกใช้ถ่ายได้ทั้ง 3 เลนส์ ลากสปีดชัตเตอร์ได้มากสุดถึง 32 วินาที ส่วนกล้อง Ultra wide และ Telephoto ทำได้มากสุด ½ วินาทีครับ
บททดสอบกล้อง ในแต่ละด้านทั้ง 6 ข้ออย่างละเอียด และเจาะลึกการถ่ายรูป มาให้ดูกันครับ
1. ภาพในที่มีแสงปกติ (กลางวัน) โหมด Auto
1.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
1.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
1.3 ถ่ายอาหาร =
1.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
1.5 ถ่ายย้อนแสง HDR =
2. ภายในที่มีแสงน้อย (กลางคืน) โหมด Auto
2.1 ถ่ายวิวธรรมชาติ ใบไม้ ดอกไม้ =
2.2 ถ่ายตึกอาคาร ถนน ท้องฟ้า =
2.3 ถ่ายอาหาร =
2.4 ถ่ายหลายระยะ (มุมกว้าง, ปกติ, ซูมไกล) =
2.5 ถ่ายกลางคืนด้วย Night mode =
2.6 ถ่ายด้วยโหมด Pro ใช้ขาตั้งกล้อง =
3. ภาพถ่ายบุคคล โหมด Auto และ Portrait =
4. กล้องหน้า ถ่าย Selfie =
4.1 ในที่มีแสงปกติ โหมด Auto และ Portrait ตามลำดับ
4.2 ในที่มีแสงน้อย โหมด Auto และ Portrait ตามลำดับ
5. การบันทึกวีดีโอ, กันสั่น, Time Lapse, Super slow motion
6. สรุปการใช้งานด้านกล้อง จุดเด่น / จุดสังเกต
โหมด Pro สามารถปรับค่าได้หลายอย่าง เช่น ISO (50 ถึง 409,600), ความเร็วชัตเตอร์ (1 / 4000s ถึง 30s), ชดเชยแสง (-4 ถึง + 4EV โดยเพิ่มทีละ 1/3 stop) และสมดุลแสงขาว และอุณหภูมิแสงเฉพาะนอกจากนี้ยังสามารถเลือกโหมดการวัดแสง (เมทริกซ์, น้ำหนักกลาง และเฉพาะจุด) และโหมดโฟกัส (แบบเดี่ยว, แบบต่อเนื่อง และแบบแมนนวล)
จุดเด่น
- ให้เซ็นเซอร์ความละเอียดสูง 40 ล้านพิกเซลถึง 2 ตัว (wide + ultra wide)
- มีขนาดเซ็นเซอร์รับภาพที่ใหญ่มาก ทั้ง wide และ ultra wide
- ได้ภาพออกมาที่ขนาด 3:2 ในขณะที่มือถือรุ่นอื่นจะเป็น 4:3
- Ultra wide รูรับแสงกว้างถึง F1.8 ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี
- กล้อง ToF ช่วยให้โฟกัสได้เร็วขึ้น และเพิ่มโบเก้ได้เนียนมากขึ้น
- AI ปรับปรุงการรับรู้มากถึง 1500 ฉาก ทำให้ฉลาดมากขึ้น
- Dynamic range ของกล้องสูง ทำให้เก็บข้อมูลค่าแสงสว่างสุด และมืดสุดได้มาก
จุดสังเกต
- ให้กล้อง telephoto เริ่มต้นที่ 3x บางสถานการณ์มันซูมมากไป ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเริ่มจาก 2x จะใช้งานสะดวกกว่า
- Ultra wide กว้างน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด
- UI ในการซูม 3x 5x 10x ค่อนข้างใช้ง่านยาก เพราะจัดวางไว้ได้ข้าง
- ส่วนตัวคิดว่าโทนสีดูเพี้ยนๆ เล็กน้อย อาจจะต้องรออัพเดตปรับปรุงอีกครั้ง
- HDR บ้างครั้งดูเยอะเกิน ทำให้ภาพดูแบนๆ ไม่มีมิติ
- แต่ละเลนส์ โทนสีจะออกมาต่างกันเล็กน้อย
สรุปการใช้งานภาพรวม
- จอสวย และหรูมากกกก กอ ไก่ ล้านตัว
- ไม่สามารถใช้ GMS (Google Mobile Service) จึงมีข้อจำกัดในการใช้งาน
- เสียงลำโพงดีสุดๆ ดีสุดตั้งแต่เคยใช้มือถือมา
*รูปในกระทู้ไม่มีการปรับแต่งสี และไม่เพิ่มความคมชัด หรือลด noise เพื่อให้เหมือนจากต้นฉบับหลังกล้องมากที่สุด
**รูปในกระทู้มีการเพิ่มความสว่างเล็กน้อย และ crop ภาพ เพื่อให้เห็นรายละเอียดภาพได้มากขึ้น ด้วยโปรแกรม Lightroom
ขอบคุณที่ติดตาม และช่วยกด "+" กระทู้ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค๊าบ
วิน
AbZoLute Review
https://www.facebook.com/AbzoluteReview/
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้