1. การออกแบบและความทนทาน

 Redmi Note 14 Pro Plus โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและเพรียวบาง เน้นความทนทาน หน้าจอ AMOLED แบบโค้งและแผงด้านหลัง พร้อมตัวเลือกหนังวีแกน ให้รูปลักษณ์และสัมผัสระดับพรีเมียม มาพร้อม IP68 เป็นข้อดีที่สำคัญ กันฝุ่นและน้ำจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ตัวเครื่องให้ความรู้สึกแข็งแรงและประกอบมาอย่างดี หน้าจอกระจก Gorilla Glass Victus 2 ที่ด้านหน้าและ Gorilla Glass 7 ที่ด้านหลังเพื่อการปกป้องที่ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ใข้งานที่ไม่ชินกับขอบโค้งอาจจับไม่ถนัดมือและมีแนวโน้มที่จะสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจได้ 
2. คุณภาพของหน้าจอ
หน้าจอ CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้วเป็นไฮไลท์ของ Redmi Note 14 Pro Plus ด้วยความละเอียด 1.5K และอัตราการรีเฟรช 120Hz มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใส และให้ความ smooth หน้าจอยังรองรับ Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อประสบการณ์การรับชมภาพยนต์หรือเกมส์ที่สมจริง ด้านความสว่างเพียงพอสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและให้มุมมองที่ดี 
3. ประสิทธิภาพและซอฟต์แวร์
Redmi Note 14 Pro Plus ใช้Snapdragon 7s Gen 3 ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพเกินพอสำหรับงานประจำวันและการเล่นเกมระดับปานกลาง ทั้งนี้สำหรับเกมเมอร์จัดๆ อาจมีปัญหาในการเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและในการตั้งค่าระกับสูง Note 14 Pro Plus ใช้ระบบ Android 14 พร้อม HyperOS 1.0 ของ Xiaomi 
3.1 Ai
Redmi Note 14 Pro Plus อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ เช่น ใช้ AI Notes เพื่อสรุปการประชุม ถอดเสียงไฟล์เสียง และแม้แต่แปลข้อความ AI Interpreter ช่วยทำลายกำแพงภาษาด้วยการแปลแบบเรียลไทม์สำหรับการสนทนา โทรศัพท์ และการประชุมออนไลน์ 
ในด้านการถ่ายภาพมีเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI เช่น AI Erase Pro และ AI Image Expansion  ฟังชั่น AI เหล่านี้รวมกับ Google Gemini และ Circle to Search ทำให้ Redmi Note 14 Pro Plus เป็นเพื่อนคู่ใจที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ ซึ่งในสถานะการณ์จริงสามารถใช้งานได้อย่างดีไม่วา่จะเป็นการลบบุคคลหรือสิ่งของต่างๆในภาพที่เราไม่ต้องการออกไป
 

 

ลองเดากันว่า 2 ภาพนี้ ผมลบตรงไหนออกไปบ้างด้วย Ai

4. ระบบกล้อง
Redmi Note 14 Pro Plus มาพร้อมกับระบบกล้องสามตัวที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพที่หลากหลาย  กล้องหลัก 200MP สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดได้ดีในสภาพแสงที่ดี แต่ประสิทธิภาพในที่แสงน้อยและความสามารถในการซูมยังไม่โดดเด่น
รายละเอียดกล้อง:
- Wide 200MP: Samsung ISOCELL HP3 พร้อม OIS, f/1.65 และขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่  
- Ultrawide 8MP: Sony IMX355 , f/2.2  
- Macro 2MP: OmniVision OV02B , f/2.4 
- กล้องหน้า 20MP: OmniVision OV20B40 , f/2.2  

การทดสอบกล้อง:
- ภาพถ่ายแบบไดนามิก: ฟีเจอร์ "ภาพถ่ายแบบไดนามิก" ช่วยให้คุณถ่ายภาพต่อเนื่องและเลือกภาพที่ดีที่สุดจากชุดภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพแอคชั่นหรือช่วงเวลาที่คาดเดาไม่ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของโทรศัพท์ในการหยุดการเคลื่อนไหวและจับภาพช่วงเวลาที่หายวับไป หลักการทำงานคล้ายกับ live photo ของ iPhone
- การตรวจจับฉาก AI ในโหมด Photo : ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์การตรวจจับฉาก AI เพื่อปรับแต่งการตั้งค่ากล้องให้เหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น ทิวทัศน์ บุคคล และอาหาร ซึ่งสามารถช่วยให้คุณถ่ายภาพที่ดีขึ้นได้อย่างง่ายดาย
- แสงกลางวัน: กล้องหลักทำงานได้ดีในเวลากลางวัน ถ่ายภาพที่มีรายละเอียดและสีสันสดใส อย่างไรก็ตาม กล้อง Ultrawide อาจมีปัญหาเรื่องช่วงไดนามิกและความแม่นยำของสี
- การถ่ายภาพกลางวันด้วย HDR: โดดเด่นในสภาพแสงกลางวัน และความสามารถ HDR สามารถปรับปรุงช่วงไดนามิกและจับภาพรายละเอียดทั้งในส่วนสว่างและเงาได้ดียิ่งขึ้น เน้นการถ่ายภาพทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม และภาพวิวทิวทัศน์บนท้องถนนที่สดใสด้วยกล้องหลัก
- Zoom: ประสิทธิภาพการซูมยอมรับได้ที่ 2x แต่ลดลงเมื่อซูมระดับสูงขึ้น รายละเอียดจะเบลอขึ้นและ noise จะเห็นได้ชัดเจนขึ้น
- ภาพระยะใกล้ด้วยการซูม 2x: ให้คุณภาพของภาพที่ดีและช่วยให้คุณถ่ายภาพระยะใกล้ที่มีรายละเอียดโดยไม่สูญเสียรายละเอียดมากนัก 
 
วิดีโอ: การบันทึกวิดีโอโดยรวมถือว่าดี ภาพมีความเสถียรและคุณภาพของภาพดี
 

ภาพบุคคลพร้อมโบเก้: โหมดถ่ายภาพบุคคลของโทรศัพท์สามารถสร้างเอฟเฟกต์โบเก้ที่สวยงาม เบลอพื้นหลังและทำให้ตัวแบบโดดเด่น ทดลองการตั้งค่ารูรับแสงต่างๆ เพื่อให้ได้ระดับความเบลอของพื้นหลังตามที่ต้องการ
 

สร้าง Bokeh เพื่อเพิ่มมิติของภาพขึ้นมา

- การถ่ายภาพขาวดำ: ในขณะที่ประสิทธิภาพในที่แสงน้อยของโทรศัพท์อาจไม่ใช่จุดแข็งที่สุด การใช้โหมดขาวดำสามารถช่วยลด noise และสร้างความรู้สึกที่เป็นศิลปะและอารมณ์มากขึ้น ทดลองใช้ฟิลเตอร์ขาวดำต่างๆ เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ตามที่ต้องการ
 
 
เราจะมาลองเน้นการถายภาพที่ท้าทายมากขึ้น ในที่แสงน้อยและมีความหลากหลายของแสง ใน Space & Time Cube Museum
 
 
ระยะ Ultra wide
 
ระยะ wide


 
 
 
 
 
Redmi Note 14 Pro Plus เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่แข็งแกร่งที่คุ้มค่าคุ้มราคา เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์แบบพรีเมี่ยม พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานในชีวิตประจำวันที่น่าประทับใจทั้งการประมวลผล ระยะเวลาใช้งาน และการชาร์จ หน้าจอ CrystalRes AMOLED สีสันสดใส และประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ทำให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในระดับราคานี้ ยิ่งไปกว่านั้น การมาพร้อมกับมาตรฐาน IP68 ที่กันน้ำกันฝุ่น และกระจก Gorilla Glass Victus 2 ยิ่งเพิ่มความทนทานให้มากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ใช้บางรายอาจยังพบปัญหาซอฟต์แวร์ขัดข้องและทำงานไม่สม่ำเสมอ (Bloatware) อยู่บ้าง  

ด้านการถ่ายภาพ ระบบกล้อง 3 ตัว กล้องหลัก 200MP สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดได้ดีในสภาพแสงที่เหมาะสมอย่างสบายๆ กระนั้นคุณภาพของภาพในสภาวะแสงน้อยและประสิทธิภาพการซูม (ไม่เกิน 2X)อาจต้องใช้ปรับการถ่ายให้เหมาะสมเองแทนการใช้โหมดปกติ เลนส์ Ultrawide และ Macro ดีพอใช้ไม่โดดเด่นมาก เนื่องจากภาพอาจดู soft เมื่อเทียบกับเลนส์ wide
รวมๆแล้ว Redmi Note 14 Pro Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจตัวหนึง มาพร้อมกับกล้อง AI ความละเอียดสูงถึง 200MP และฟีเจอร์ AI ที่หลากหลาย ช่วยยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพให้ใช้งานได้ง่าย สะดวก และสนุกยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่ได้กล้องคุณภาพดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพ  

หมายเหตุ* AI Erase Pro และ AI Image Expansion: ฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยในการแต่งภาพ สามารถใช้ได้แล้ว