สวัสดีครับ พอดีอยากเล่าประสบการณ์ ครับ น้องหมาเรา พันธุ์ปอม อายุ 3 เดือน
น้ำหนัก 0.68 กิโลกรัม
น้องมีชื่อว่า โพนี่
เป็นโรคลำไส้อักเสบหรือโรคพาร์โรไวรัส
เราซื้อหมามาจากจุตจักร
ได้3วัน น้องมีอาการป่วย เพราะน้องซึม ไม่ร่าเริง ไม่ยอมกินข้าวและน้ำ เราคิดว่าน้องเบื่ออาหารเพราะวันก่อนน้องร่าเริงวิ่งเล่นตามปกติ เราเลยหาอาหารเปลี่ยนให้น้องแต่น้องก็ไม่กิน ตกเย็นเราจึงพาน้องไปหาหมอคิดว่าไม่สบายเฉยๆ (น้องอึเหลวแต่ยังไม่มีกลิ่นคาว) พอเราไปถึงคลีนิก เราก็รอเข้าห้องตรวจ หมอบอกว่าน้องมีโอกาศเป็นโรคลำไส้อักเสบ ตอนหมอตรวจ ต้องรอผลตรวจประมาณ 10 นาที
เรายืนดูผลตรวจแบบลุ้นมากกลัวว่าน้องจะเป็น ผ่านไปไม่นานผลตรวจออก น้องเป็นโรคลำไส้อักเสบ เราตกใจมากไม่อยากให้น้องเป็นโรคนี้ เพราะโอกาสรอดมีน้อยมาก อีกอย่างน้องยังอายุน้อย หมอเลยฉีดยาฆ่าเชื้อ,น้ำเกลือ,และยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน แต่ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันกับฉีดไม่ได้ เพราะน้องตัวเล็ก หาเส้นเลือดได้ยาก(อาจทำให้เส้นเลือดแตกได้ง่าย) หมอเลยเเนะนำให้ไปแอดมิด เลยไม่ได้ฉีดให้เพราะกลัวไปแอดมิดและไม่มีเส้นเลือดให้ฉีด(และทำใบส่งตัวให้)
แต่เราไม่อยากแอดมิด เพราะ
1 เรื่องค่าใช้จ่ายที่ราคาแพง
2 กลัวน้องติดโรคแทรกซ้อน
คุณหมอแนะนำ
เวลาน้องถ่ายไว้ตรงไหนให้เอา(ไฮเตอซักผ้าขาว ซักผ้าขาวเท่านั้น ผสมน้ำเปล่าใส่ฟ็อกกี้) ฟ็อกกี้ฉีดใส่ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วเอาน้ำเปล่าล้างและเช็ดออก
เปิดเจอจากในเน็ต
เรื่องอาหารเขาบอกว่าให้ใช้โยเกิร์ต,ฟ้าทลายโจรป้อน เรารีบไป 7-11 ซื้อโยเกิร์ต เราป้อนโยเกิร์ตน้อง ทุกครึ่งชม. ครั้งละ 2cc จนเราหลับไป
วันต่อมา
เราเอาฟ้าทลายโจรป้อนน้องครึ่งเม็ด น้องอาการดีขึ้นมาก วิ่งเล่นได้ ร่าเริง เราเลยพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในนครปฐม เพื่อจะขอฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน พอเราไปถึง เรากรอกประวัติ เพราะไม่เคยรักษาที่นี่ หมอดูใบส่งตัวและมองน้อง หมอบอกอายุเท่านี้เองเป็นโรคนี้ ไม่น่ารอด พูดมาแบบนี้ เราเสียความรู้สึกมาก พอเข้าห้องตรวจ หมอบอกต้องแอดมิด เราเลยบอกถ้าผมไม่อยากแอดมิดแต่มาฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกันเฉยๆได้ไหม
หมอบอกไม่ได้ยังไงก็ไม่รอดต้องแอดมิด เราเลยตัดสินใจว่างั้นเอาน้องกลับบ้าน ( คุณหมอพูดจาใช้อารมณ์มาก ใช้สีหน้าเหมือนไม่อยากรักษา เหมือนรังเกลียดน้อง เราเลยเอาน้องกลับบ้าน หมอพูดเสียงดังขึ้นมาว่าไม่รักษาได้แต่ต้องจ่ายเงินค่าผ้าปูรองน้อง เราก็ตอบตกลง ก่อนออกจากห้องเราก็ขอบคุณหมอ พอเราเดินออกจากห้อง หมอก็ปิดประตูเสียงดังใส่เหมือนโมโห ) เรากลับมาบ้านเราก็ เอาน้องป้อนโยเกิร์ตตามเคย ทุกครึ่ง ชม ครั้งละ 2cc
วันต่อมา
น้องดูร่าเริงขึ้นมาก เราก็ป้อนโยเกิร์ตตามปกติ แต่น้องถ่ายเหลว พอตกเย็นเราก็กลับไปหาหมอคนเก่าที่ครั้งแรกเราไป วันนี้น้องโดนฉีดยา กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ขาหน้า,ย่าฆ่าเชื้อ หมอแนะนำให้เริ่มกินอาหารแบบเหลวได้แล้ว เพราะน้องดูอาการดีขึ้นกว่าตอนมาครั้งแรกเยอะ
กลับมาบ้านเราเริ่มให้น้องกินอาหารเหลว 3cc แต่น้อง อ้วกออกมาประมาณ 3 รอบ ถ่ายเหลวมีกลิ่นคาว เรารีบโทรหาหมอเราตกใจมาก กลัวน้องเป็นไร หมอบอกว่าบางทีเราให้อาหารเยอะไป เพราะปกติน้องกินโยเกิร์ตกระเพาะเลยไม่ได้ทำงานหนัก เราเลยโล่งใจขึ้นมา เราเลยงดอาหารน้อง ให้กินเป็น กลูโคส,เกลือแร่ แทน
วันต่อมา
น้องอาการดีขึ้นมากปลุกเราแต่เช้าเลย
เราดีใจมาก น้องอยู่ในช่วงดูแลอย่างไกล้ชิด วันนี้เราเริ่มให้อาหารแบบเหลว ให้ทุก ชม. ครั้งละ 0.5cc-1cc ตามด้วยกลูโคส,เกลือแร่
ตกเย็นเราพาน้องไปฉีด ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่ 2 (เราลืมบอก ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันต้องฉีดทุกวัน จนครบ3วัน)
วันนี้ หมอฉีด ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน,ยาฆ่าเชื้อ,ยาลดอาเจียน,น้ำเกลือใต้ผิวหนัง
เพราะเมื่อคืนน้องอ้วกวันนี้เลยต้องให้ยาลดอาเจียน
พอถึงบ้านเราป้อนอาหารเหลวน้องเพิ่มขึ้นเป็น 1.5cc ให้กระเพาะน้องค่อยๆปรับตัว น้องขอกินเพิ่มแต่เรากลัวน้องอ้วกอีกเลยให้เป็นกลูโคส,เกลือแร่ แทน น้องอาการดีขึ้นมามากเลยครับ
วันต่อมา
น้องเริ่มกินอาหารเหลวไม่อ้วกออกมาแล้วครับ วันนี้จะให้อาหารน้องทุก ชม ให้น้อยๆแต่ให้บ่อยๆครับ วันนี้น้องดูร่าเริงผิดหูผิดตามากครับ เย็นนี้เป็นเข็มสุดท้ายของการฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกันของน้อง(เข็มที่3) น้องอาการดีขึ้นมากวันต่อไปคงไม่ต้องไปหาหมอแล้ว หลังจากพาน้องไปฉีดยาเข็มที่ 3 วันนี้ หมอชั่งน้ำหนักตอนเริ่มเป็นโรคนี้น้ำหนัก 0.68 กิโลกร้ม
วันนี้ชั่งน้องได้ 0.62 กิโลกรัม ถือว่าน้องอาการดีขึ้นมาก วันนี้เลยฉีดยา กระตุ้นภูมิคุ้มกัน (เข็มที่3),ยาฆ่าเชื้อ,ยาลดอาเจียน ให้ยากินมา4เม็ด กินวันละเม็ด 4 วัน คบ4วัน ให้น้องพักฟื้น อีก 1 อาทิตย์และมาตรวจโรคลำไส้อักเสบอีกครั้ง หลังจากฉีดยามา น้องไม่ซึม เหมือนวันแรกๆ กินอาหารเก่ง ร่าเริงขึ้น อีกไม่นานน้องคงหายสักที หมอแนะนำให้น้องเริ่มทานอาหารเปียกได้แล้วแต่ครั้งละน้อยๆ ให้ลำไส้เริ่มปรับตัวและแข็งแรงอีกครั้ง ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับฟัง ตั้งกระทู้นี้ครั้งแรก อ่านอาจจะงงๆหน่อยๆ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีน้องๆเป็นโรคนี้ให้หาย กำลังใจของน้องหมาอยู่ที่เรา น้องหมาจะมีแรงสู้ต่อโรคนี้ได้ก็คงต้องได้รับกำลังใจและการดูแลเอาใจใส่จากเรา
น้องหมากับโรคลำไส้อักเสบ
น้ำหนัก 0.68 กิโลกรัม
น้องมีชื่อว่า โพนี่
เป็นโรคลำไส้อักเสบหรือโรคพาร์โรไวรัส
เราซื้อหมามาจากจุตจักร
ได้3วัน น้องมีอาการป่วย เพราะน้องซึม ไม่ร่าเริง ไม่ยอมกินข้าวและน้ำ เราคิดว่าน้องเบื่ออาหารเพราะวันก่อนน้องร่าเริงวิ่งเล่นตามปกติ เราเลยหาอาหารเปลี่ยนให้น้องแต่น้องก็ไม่กิน ตกเย็นเราจึงพาน้องไปหาหมอคิดว่าไม่สบายเฉยๆ (น้องอึเหลวแต่ยังไม่มีกลิ่นคาว) พอเราไปถึงคลีนิก เราก็รอเข้าห้องตรวจ หมอบอกว่าน้องมีโอกาศเป็นโรคลำไส้อักเสบ ตอนหมอตรวจ ต้องรอผลตรวจประมาณ 10 นาที
เรายืนดูผลตรวจแบบลุ้นมากกลัวว่าน้องจะเป็น ผ่านไปไม่นานผลตรวจออก น้องเป็นโรคลำไส้อักเสบ เราตกใจมากไม่อยากให้น้องเป็นโรคนี้ เพราะโอกาสรอดมีน้อยมาก อีกอย่างน้องยังอายุน้อย หมอเลยฉีดยาฆ่าเชื้อ,น้ำเกลือ,และยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน แต่ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันกับฉีดไม่ได้ เพราะน้องตัวเล็ก หาเส้นเลือดได้ยาก(อาจทำให้เส้นเลือดแตกได้ง่าย) หมอเลยเเนะนำให้ไปแอดมิด เลยไม่ได้ฉีดให้เพราะกลัวไปแอดมิดและไม่มีเส้นเลือดให้ฉีด(และทำใบส่งตัวให้)
แต่เราไม่อยากแอดมิด เพราะ
1 เรื่องค่าใช้จ่ายที่ราคาแพง
2 กลัวน้องติดโรคแทรกซ้อน
คุณหมอแนะนำ
เวลาน้องถ่ายไว้ตรงไหนให้เอา(ไฮเตอซักผ้าขาว ซักผ้าขาวเท่านั้น ผสมน้ำเปล่าใส่ฟ็อกกี้) ฟ็อกกี้ฉีดใส่ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วเอาน้ำเปล่าล้างและเช็ดออก
เปิดเจอจากในเน็ต
เรื่องอาหารเขาบอกว่าให้ใช้โยเกิร์ต,ฟ้าทลายโจรป้อน เรารีบไป 7-11 ซื้อโยเกิร์ต เราป้อนโยเกิร์ตน้อง ทุกครึ่งชม. ครั้งละ 2cc จนเราหลับไป
วันต่อมา
เราเอาฟ้าทลายโจรป้อนน้องครึ่งเม็ด น้องอาการดีขึ้นมาก วิ่งเล่นได้ ร่าเริง เราเลยพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในนครปฐม เพื่อจะขอฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน พอเราไปถึง เรากรอกประวัติ เพราะไม่เคยรักษาที่นี่ หมอดูใบส่งตัวและมองน้อง หมอบอกอายุเท่านี้เองเป็นโรคนี้ ไม่น่ารอด พูดมาแบบนี้ เราเสียความรู้สึกมาก พอเข้าห้องตรวจ หมอบอกต้องแอดมิด เราเลยบอกถ้าผมไม่อยากแอดมิดแต่มาฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกันเฉยๆได้ไหม
หมอบอกไม่ได้ยังไงก็ไม่รอดต้องแอดมิด เราเลยตัดสินใจว่างั้นเอาน้องกลับบ้าน ( คุณหมอพูดจาใช้อารมณ์มาก ใช้สีหน้าเหมือนไม่อยากรักษา เหมือนรังเกลียดน้อง เราเลยเอาน้องกลับบ้าน หมอพูดเสียงดังขึ้นมาว่าไม่รักษาได้แต่ต้องจ่ายเงินค่าผ้าปูรองน้อง เราก็ตอบตกลง ก่อนออกจากห้องเราก็ขอบคุณหมอ พอเราเดินออกจากห้อง หมอก็ปิดประตูเสียงดังใส่เหมือนโมโห ) เรากลับมาบ้านเราก็ เอาน้องป้อนโยเกิร์ตตามเคย ทุกครึ่ง ชม ครั้งละ 2cc
วันต่อมา
น้องดูร่าเริงขึ้นมาก เราก็ป้อนโยเกิร์ตตามปกติ แต่น้องถ่ายเหลว พอตกเย็นเราก็กลับไปหาหมอคนเก่าที่ครั้งแรกเราไป วันนี้น้องโดนฉีดยา กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ขาหน้า,ย่าฆ่าเชื้อ หมอแนะนำให้เริ่มกินอาหารแบบเหลวได้แล้ว เพราะน้องดูอาการดีขึ้นกว่าตอนมาครั้งแรกเยอะ
กลับมาบ้านเราเริ่มให้น้องกินอาหารเหลว 3cc แต่น้อง อ้วกออกมาประมาณ 3 รอบ ถ่ายเหลวมีกลิ่นคาว เรารีบโทรหาหมอเราตกใจมาก กลัวน้องเป็นไร หมอบอกว่าบางทีเราให้อาหารเยอะไป เพราะปกติน้องกินโยเกิร์ตกระเพาะเลยไม่ได้ทำงานหนัก เราเลยโล่งใจขึ้นมา เราเลยงดอาหารน้อง ให้กินเป็น กลูโคส,เกลือแร่ แทน
วันต่อมา
น้องอาการดีขึ้นมากปลุกเราแต่เช้าเลย
เราดีใจมาก น้องอยู่ในช่วงดูแลอย่างไกล้ชิด วันนี้เราเริ่มให้อาหารแบบเหลว ให้ทุก ชม. ครั้งละ 0.5cc-1cc ตามด้วยกลูโคส,เกลือแร่
ตกเย็นเราพาน้องไปฉีด ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่ 2 (เราลืมบอก ยากระตุ้นภูมิคุ้มกันต้องฉีดทุกวัน จนครบ3วัน)
วันนี้ หมอฉีด ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน,ยาฆ่าเชื้อ,ยาลดอาเจียน,น้ำเกลือใต้ผิวหนัง
เพราะเมื่อคืนน้องอ้วกวันนี้เลยต้องให้ยาลดอาเจียน
พอถึงบ้านเราป้อนอาหารเหลวน้องเพิ่มขึ้นเป็น 1.5cc ให้กระเพาะน้องค่อยๆปรับตัว น้องขอกินเพิ่มแต่เรากลัวน้องอ้วกอีกเลยให้เป็นกลูโคส,เกลือแร่ แทน น้องอาการดีขึ้นมามากเลยครับ
วันต่อมา
น้องเริ่มกินอาหารเหลวไม่อ้วกออกมาแล้วครับ วันนี้จะให้อาหารน้องทุก ชม ให้น้อยๆแต่ให้บ่อยๆครับ วันนี้น้องดูร่าเริงผิดหูผิดตามากครับ เย็นนี้เป็นเข็มสุดท้ายของการฉีดยากระตุ้นภูมิคุ้มกันของน้อง(เข็มที่3) น้องอาการดีขึ้นมากวันต่อไปคงไม่ต้องไปหาหมอแล้ว หลังจากพาน้องไปฉีดยาเข็มที่ 3 วันนี้ หมอชั่งน้ำหนักตอนเริ่มเป็นโรคนี้น้ำหนัก 0.68 กิโลกร้ม
วันนี้ชั่งน้องได้ 0.62 กิโลกรัม ถือว่าน้องอาการดีขึ้นมาก วันนี้เลยฉีดยา กระตุ้นภูมิคุ้มกัน (เข็มที่3),ยาฆ่าเชื้อ,ยาลดอาเจียน ให้ยากินมา4เม็ด กินวันละเม็ด 4 วัน คบ4วัน ให้น้องพักฟื้น อีก 1 อาทิตย์และมาตรวจโรคลำไส้อักเสบอีกครั้ง หลังจากฉีดยามา น้องไม่ซึม เหมือนวันแรกๆ กินอาหารเก่ง ร่าเริงขึ้น อีกไม่นานน้องคงหายสักที หมอแนะนำให้น้องเริ่มทานอาหารเปียกได้แล้วแต่ครั้งละน้อยๆ ให้ลำไส้เริ่มปรับตัวและแข็งแรงอีกครั้ง ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับฟัง ตั้งกระทู้นี้ครั้งแรก อ่านอาจจะงงๆหน่อยๆ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีน้องๆเป็นโรคนี้ให้หาย กำลังใจของน้องหมาอยู่ที่เรา น้องหมาจะมีแรงสู้ต่อโรคนี้ได้ก็คงต้องได้รับกำลังใจและการดูแลเอาใจใส่จากเรา