จริงหรือมั่วที่ว่าเงินเดือนข้าราชการนั้นน้อยกว่าเอกชน
คหสต คิดว่า ระบบการจ้างงานแบบ ขรก ของไทย เป็นระบบการจ้างงานที่งดงามที่สุด เพราะว่าเงินเดือน ขรก ที่บ่นกันว่าน้อยนั้น แท้จริงไม่น้อยอย่างที่เข้าใจกันมาแบบผิดๆ เลยนะเพราะ
1. รัฐฯต้องจ่ายเงินเดือน ขรก ตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงานจนถึงวันที่จากโลกนี้เลยด้วยเงินบำนาญตลอดชีพที่สูงถึง 50% ของเงินเดือนเดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ดังนั้น ขรก จึงมั่นใจได้ว่าแก่ตัวไปมีกินมีใช้ตลอดอายุไขแน่นอน ต่างจาก พนง บริษัทเอกชนที่ต้องมีเงินเดือนที่สูงกว่า ขรก ก็เพราะต้องดิ้นรนหาเงินก้อนหนึ่งเก็บไว้เป็นเงินต้นเพื่อเก็บกินดอกเบี้ยในยามชราภาพ เพราะแค่เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน หรือ ปกส 3,000 บาทต่อเดือนนั้น คงอดตายแน่นอน การจ้างงานแบบข้าราชการนี้จึงเหมือนการจ้างงานแบบพ่อกับลูก ซึ่งรัฐฯต้องใช้งบจำนวนมากในภาระการจ่ายเงินบำนาญที่สูงมาก หากเทียบเงินที่ ขรก ได้จากรัฐฯทั้งหมดตลอดชีพ มาหารด้วยอายุการทำงาน ระหว่าง ขรก กับ พนง บ.เอกชน นั้น ขรก ได้เงินเดือนเฉลี่ยแล้วมากกว่า พนง บ.เอกชน ถึง 31.25% กันเลยทีเดียว (สมมุติว่า X = เงินเดือน ดังนั้น ขรก จะได้เงินทั้งหมดรวมบำนาญถึงอายุ 85 ปี = (12*40)X + (12÷2*25)X = 630X หารอายุทำงาน 40 ปี = 15.75X ส่วน พนง เอกชนจะได้เงินทั้งหมด = (12*40)X หารอายุทำงาน 40 ปี จะได้ = 12 X ดังนั้น ขรก ได้เงินทั้งหมดมากกว่า = (15.75-12)X/X*100 = 31.25%)
2.รัฐฯดูแลไปถึงความเจ็บป่วยของพ่อแม่ไปจนถึงสามีภรรยาและบุตรของ ขรก ผู้นั้นในระหว่างที่ยังทำงานรับราชการอยู่ ซึ่ง พนง บ.เอกชน มีแค่ ปกส สำหรับตัวเองเท่านั้น
3.รัฐฯให้เกียรติยศเครื่องราชฯต่างๆเป็นที่เชิดชูแก่วงศ์ตระกูล ซึ่ง พนง บ.เอกชนไม่มี
4. ให้สวัสดิการและการฝึกอบรมต่างๆเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆซึ่ง พนง บ.เอกชน ส่วนใหญ่ไม่มี
การที่รัฐฯเลี้ยงดู ขรก อย่างดี ก็เพื่อให้ ขรก ไม่ต้องกัลวลกับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ จะได้ให้เวลาเต็มที่ในการคิดพัฒนาระบบต่างๆให้ดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ในระหว่างรับราชการนั่นเอง แต่!!!!!!.. ขรก กลับคิดว่าตัวเองได้รับเงินเดือนน้อยกว่า พนง บ.เอกชน อยู่ตลอดเวลา จึงอาศัยความมั่นคงที่รัฐฯมอบให้นี้ไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองในเวลาราชการแทนอย่างน่าสลดใจ บางคนก็เข้ามาแฝงตัวมาเป็น ขรก เพื่อเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานคนอื่นโดยทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ทำให้ระบบราชการของไทยตอนนี้ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะ
1. มี ขรก ที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แฝงตัวอยู่
2. ขรก ที่ดีต้องทำงานหนักเกินไปจนไม่มีประสิทธิภาพ
ทางแก้ไขจึงต้องพยายามกำจัด 1 ออกไป เพราะมิเช่นนั้นจะทำให้ 2 หมดกำลังใจและรวมตัวกลายเป็น 1 ทั้งหมดนั่นเอง
ดังนั้นหากรัฐฯไม่สามารถจูงใจให้ ขรก ทำงานให้แก่ประชาชนและประเทศชาติได้อย่างเต็มที่ สมดังเจตนารมณ์ของพ่อหลวงที่ต้องการจ้างข้าราชการด้วยระบบพ่อกับลูกแล้ว รัฐบาลอาจต้องปรับเปลี่ยนนโยบายในการจ้างงานจากระบบราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ มาเป็นระบบเอกชนที่ต่อสัญญาทุก 4 ปีแทน จะได้ให้โอกาสคนอื่นมาสับเปลี่ยนรับใช้ประเทศบ้าง ขรก จะได้ไม่ต้องอยู่กันยาวเกินไป โดยยกเลิกระบบบำนาญไปเสียและนำงบบำนาญนั้นมาจ่ายในเงินเดือนปัจจุบันเพื่อเพิ่มแรงจูงใจและประสิทธิภาพในการทำงานของ ขรก ให้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติแทนจะดีกว่าหรือไม่?
จริงหรือมั่วที่ว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย
คหสต คิดว่า ระบบการจ้างงานแบบ ขรก ของไทย เป็นระบบการจ้างงานที่งดงามที่สุด เพราะว่าเงินเดือน ขรก ที่บ่นกันว่าน้อยนั้น แท้จริงไม่น้อยอย่างที่เข้าใจกันมาแบบผิดๆ เลยนะเพราะ
1. รัฐฯต้องจ่ายเงินเดือน ขรก ตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงานจนถึงวันที่จากโลกนี้เลยด้วยเงินบำนาญตลอดชีพที่สูงถึง 50% ของเงินเดือนเดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ดังนั้น ขรก จึงมั่นใจได้ว่าแก่ตัวไปมีกินมีใช้ตลอดอายุไขแน่นอน ต่างจาก พนง บริษัทเอกชนที่ต้องมีเงินเดือนที่สูงกว่า ขรก ก็เพราะต้องดิ้นรนหาเงินก้อนหนึ่งเก็บไว้เป็นเงินต้นเพื่อเก็บกินดอกเบี้ยในยามชราภาพ เพราะแค่เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน หรือ ปกส 3,000 บาทต่อเดือนนั้น คงอดตายแน่นอน การจ้างงานแบบข้าราชการนี้จึงเหมือนการจ้างงานแบบพ่อกับลูก ซึ่งรัฐฯต้องใช้งบจำนวนมากในภาระการจ่ายเงินบำนาญที่สูงมาก หากเทียบเงินที่ ขรก ได้จากรัฐฯทั้งหมดตลอดชีพ มาหารด้วยอายุการทำงาน ระหว่าง ขรก กับ พนง บ.เอกชน นั้น ขรก ได้เงินเดือนเฉลี่ยแล้วมากกว่า พนง บ.เอกชน ถึง 31.25% กันเลยทีเดียว (สมมุติว่า X = เงินเดือน ดังนั้น ขรก จะได้เงินทั้งหมดรวมบำนาญถึงอายุ 85 ปี = (12*40)X + (12÷2*25)X = 630X หารอายุทำงาน 40 ปี = 15.75X ส่วน พนง เอกชนจะได้เงินทั้งหมด = (12*40)X หารอายุทำงาน 40 ปี จะได้ = 12 X ดังนั้น ขรก ได้เงินทั้งหมดมากกว่า = (15.75-12)X/X*100 = 31.25%)
2.รัฐฯดูแลไปถึงความเจ็บป่วยของพ่อแม่ไปจนถึงสามีภรรยาและบุตรของ ขรก ผู้นั้นในระหว่างที่ยังทำงานรับราชการอยู่ ซึ่ง พนง บ.เอกชน มีแค่ ปกส สำหรับตัวเองเท่านั้น
3.รัฐฯให้เกียรติยศเครื่องราชฯต่างๆเป็นที่เชิดชูแก่วงศ์ตระกูล ซึ่ง พนง บ.เอกชนไม่มี
4. ให้สวัสดิการและการฝึกอบรมต่างๆเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆซึ่ง พนง บ.เอกชน ส่วนใหญ่ไม่มี
การที่รัฐฯเลี้ยงดู ขรก อย่างดี ก็เพื่อให้ ขรก ไม่ต้องกัลวลกับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ จะได้ให้เวลาเต็มที่ในการคิดพัฒนาระบบต่างๆให้ดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ในระหว่างรับราชการนั่นเอง แต่!!!!!!.. ขรก กลับคิดว่าตัวเองได้รับเงินเดือนน้อยกว่า พนง บ.เอกชน อยู่ตลอดเวลา จึงอาศัยความมั่นคงที่รัฐฯมอบให้นี้ไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองในเวลาราชการแทนอย่างน่าสลดใจ บางคนก็เข้ามาแฝงตัวมาเป็น ขรก เพื่อเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานคนอื่นโดยทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ทำให้ระบบราชการของไทยตอนนี้ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะ
1. มี ขรก ที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แฝงตัวอยู่
2. ขรก ที่ดีต้องทำงานหนักเกินไปจนไม่มีประสิทธิภาพ
ทางแก้ไขจึงต้องพยายามกำจัด 1 ออกไป เพราะมิเช่นนั้นจะทำให้ 2 หมดกำลังใจและรวมตัวกลายเป็น 1 ทั้งหมดนั่นเอง
ดังนั้นหากรัฐฯไม่สามารถจูงใจให้ ขรก ทำงานให้แก่ประชาชนและประเทศชาติได้อย่างเต็มที่ สมดังเจตนารมณ์ของพ่อหลวงที่ต้องการจ้างข้าราชการด้วยระบบพ่อกับลูกแล้ว รัฐบาลอาจต้องปรับเปลี่ยนนโยบายในการจ้างงานจากระบบราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ มาเป็นระบบเอกชนที่ต่อสัญญาทุก 4 ปีแทน จะได้ให้โอกาสคนอื่นมาสับเปลี่ยนรับใช้ประเทศบ้าง ขรก จะได้ไม่ต้องอยู่กันยาวเกินไป โดยยกเลิกระบบบำนาญไปเสียและนำงบบำนาญนั้นมาจ่ายในเงินเดือนปัจจุบันเพื่อเพิ่มแรงจูงใจและประสิทธิภาพในการทำงานของ ขรก ให้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติแทนจะดีกว่าหรือไม่?