บวชเป็นพระ 1 เดือน

จขกท. มีความประสงค์อยากบวช ตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากติดภารกิจ จึงทำให้ไม่ได้บวช พออายุครบ 25 ฤกษ์งามยามดี เลยมีโอกาสได้บวชเพื่อทดแทนพระคุณมารดาและบิดา เราเป็นคนขอพวกท่านบวชเอง พวกท่านดีใจมากที่เราตั้งใจบวช

บทที่ 1 ซ้อมขานนาค
ระหว่างที่เราทำงานอยู่นั้นเรามาติดต่อที่วัดเพื่อบวช ในอีก 2 เดือนข้างหน้า หลังจากออกพรรษา โดยระบุไว้ในใบสมัครบวชว่าจะบวชเป็นพระ 1 เดือน
ทางวัดจะให้ใบสำหรับซ้อมท่องมา วัดที่เราบวชเป็นนิกายธรรมยุต จะท่อง เอสาหัง ภันเต ..... แล้วนัดวันซ้อมก่อนอุปสมบททั้งหมด 3 ครั้ง แล้วซ้อมเดี่ยวก่อนบวชอีก 1 ครั้ง เราก็ไปตามที่หลวงพ่อนัดทุกครั้ง โดยมีคนที่มาบวชพร้อมเรา อีก 3 คนรวมเราด้วยเป็น 4 คน 

บทที่ 2 วันบวช
เราเดินทางมาถึงวันตั้งแต่เช้า เพราะ กลัวไม่มีที่จอดรถ วัดที่เราบวชจะมีตารางเวลากำหนดการชัดเจน ช่วงเช้าเราก็ตอนรับแขกที่มาในงานเรา เตรียมตัวให้พร้อมเรื่องบทสวด พอถึงเวลา 9 โมง เริ่มขลิบผมนาค เรายิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีก เพราะใกล้พิธีบวชเข้าไปเต็มที พอขลิบผมเสร็จก็ให้พระพี้เลี้ยงปลงผมให้ใส่ชุดนาค(สไบเชียงสีขาว) ติดป้ายชื่อพระ เตรียมเข้าโบสถ์เพื่ออุปสมบท บทที่ท่องเพื่อบวชช่วงแรกจะท่องพร้อมกันทั้งหมด แล้วก็จะแบ่งเข้าไปขาน ทีละ 3 คนตามระดับอาวุโส แล้วสุดท้ายก็ต้องขานเดี่ยว ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จนออกมาจากโบสถ์เป็นพระแล้ว เกือบ 2 ทุ่ม แล้วเข้าไปนั่งฟังโอวาท+ทำวัตรค่ำกว่าจะเสร็จกิจกรรมตรงนี้ เกือบๆ 4 ทุ่ม ง่วงนอนมาก กลับกุฎินึกว่าจะได้จำวัดเลย ยัง!!! พระพี่เลี้ยงสอนห่มผ้าอีก ครึ่งชั่วโมง กว่าจะสรงน้ำเสร็จ เกือบเที่ยงคืน หัวถึงหมอนหลับเป็นตาย

บทที่ 3 เพศบรรพชิต
กิจวัตรของพระสงฆ์ก็คือ เช้าบิณฑบาตร ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น แต่เราเป็นพระบวชใหม่ จึงมีให้ศึกษาพระธรรมวินัย เป็นเวลา 2 อาทิตย์ เราไม่รู้วัดที่อื่นจะต้องมีศึกษาพระธรรมวินัยไหม แต่วัดที่เราบวชมี วันๆผ่านไปเร็วมาก เพราะ กิจกรรมต่างๆเป็นเวลาที่ชัดเจน 05.00 ฟังเทศน์นั่งกรรมฐาน 06.00 เดินบิณฑบาตร 07.00 ฉันท์เช้า 08.00 ทำวัตรเช้า 09.00-10.30 เรียนรอบเช้า 11.00 ฉันท์เพล 14.00-16.00 เรียนรอบบ่าย 18.00 ฟังเทศน์นั่งกรรมฐาน 20.00 ทำวัตรค่ำ จบ 1 วัน กรณีเปันวันพระ ก็จะมีกิจกรรมพิเศษอีกแล้วแต่กรณี ใครบอกบวชพระสบายนั่งๆนอนๆ คิดเสียใหม่นะครับ 

บทที่ 4 กัลยาณมิตร
บวช 1 เดือน เรามีพระที่จำวัดกุฎิเดียวกัน 3 รูป นอนห้องละ 2 รูป ช่วงแรกๆเราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่เพราะเหนื่อจากเรียนกลางวันว่าง 2 ชั่วโมงก็จะหลับกลางวัน พอเรียนจบ กรณีคนลงบวชไว้ 15 วัน จะมีวันว่างก่อนสึก 3 วัน ช่วงนั้นจะว่างมากต้องหาอะไรทำ เรา 4 คนคุยกันทั้งวันถามเรื่องของงานแต่ละคนแล้วพยายามเตือนกันอย่าทำอาบัติ เช่น หิวเวลากลางคืน จะตบยุงที่มากัด หลังจาก 2 คนสึกออกไป เราอยู่กับพระรุ่นน้อง กัน 2 คน ทำให้สนิทกันมากไปไหนมาไหนด้วยกัน 15 วันหลังที่เราอยู่ จะไม่มีตารางเรียนแล้วเวลาว่างในแต่ละวันก็จะเยอะขึ้น เราต้องหากิจกรรมทำในแต่ละวัน จนครบ 1 เดือน เพื่อนที่สึกไปก็กลับมาถวายเพลเรา นั่งสนทนากัน บางครั้งมานอนที่กุฎิด้วย

บทที่ 5 กลับไปใช้ชีวิต ปกติ
วันสึกก็จะมีบทสำหรับลาสิกขา แต่จะไม่ยาวมากเหมือนตอนบวช สำหรับบางคนที่ดูฤกษ์สึก ส่วนตัวเราคิดว่าไม่จำเป็น ฤกษ์ที่ดีที่สุดก็คือที่เราสะดวกครับ
พอเสร็จพิธีที่วัดแบบเรียบง่ายเราก็เดินทางกลับบ้านใช้ชีวิตปกติ แต่เราจะติดไม่กินข้าวเย็น กินข้าวเช้าตอน 07.00 กับทางกลางวัน ก่อนเที่ยง ก่อนบวชเรานำ้หนัก 85 หลังสึกออกมาน้ำหนักเหลือ 77 (ผลพลอยได้จากการบวช)

ปล. เราเขียนจากประสบการ์ตรงและภาษาของเราเอง หากผิดพลาดหรือสื่ออกไปไม่เข้าใจขออภัยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่