เรื่องทุกอย่างที่ผมพูดมาไม่มีการปรุงเเต่งเเต่อย่างใด เเละผมค่อนข้างมั่นใจว่า ผู้เช่าก่อนหน้านี้หลายๆ รายคงโดนเเบบผม รวมถึงเพื่อนข้างๆบ้านก็คงโดนไม่น้อย ข้อนี้ผมรับประกันครับ ผมทำธุรกิจอาหาร เเล้วได้มีโอกาศมาเช่า กับผู้เช่า ชื่อป้า นอ (นามสมมุติ)
ครั้งเเรกเราคุยกันดิบดีว่า ค่าเช่าอยู่ที่ 8000 บาทถ้วน เราก็โอเคกับราคานะ จากนั้น เวลาผ่านไปสักพักประมาณ1 ชั่วโมง ป้านอโทรกลับมาหาผม บอกว่าขอขึ้นค่าเช่าเป็น 9000 บาท นะ พอดีป้าบอกราคาผิดพลาด ผมได้ยอนเเบบนี้ก็ตกใจสิ่!! เพราะว่า กลับคำพูดได้ไงอ่ะ เราจึงตอบปฏิเสธ ที่จะเช่า เเล้วก็วางสาย จบบทสนธนา
จากนั่นอีกไม่นานป้าโทรมาบอกว่า ลดให้เหลือ 8500 ถ้วน ผมจึงตอบตกลงไป เพราะอยากได้ที่ตรงนั้นด้วย หลังจากนั้นเราก็เริ่มทำสัญญากัน ในเดือนมกราคม โดยผมจะพูดถึงข้อที่มีปัญหากันในภายหลังนะครับ
สัญญา มีอยู่ว่า 1. ผู้เช่าสามารถเข้าตรวจทรัพย์สินได้ทุกเมื่อ (เขาบอกว่าเขามีกุญเเจสำรอง เเล้วบอกว่าเผื่อเกิดไปใหม้หรือเหตุไม่คลาดฝันจะได้ช่วยๆกันดู)
2. หากมีการเจาะผนัง จะคิด รูล่ะ 500 บาท (ซึ่งตรงนี้ผมระวังตัวโดยการถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่ารูเหล่านี้เป็นรูเก่าที่เกิดขึ้นก่อนผมมาอยู่)
3. หากมีรอยขีดเขียนผนัง จะเก็บเเผลล่ะ 500 บาท
4.หากผู้เช่าทำของหายจะต้องชดใช้
(ผมวางเงินประกันที่20000 บาทนะครับ)
ซึ่งสัญญาเหล่านี้ผมเข้าใจดีเพราะว่าของใครใครก็รัก อซึ่งผมก็ยินดีเซ็นสัญญากับป้านอ ( เเต่ในใจก็คิดว่าโหดไปนะครับ55+) เเต่ก็ช่างเถอะ เพราะผมก็อยากจะทำมาหากินเเล้ว ไม่ได้คิดอะไรมาก
ต่อไปผมจะเล่าจึงตลอดระยะเวลา 1 ปี ผมเจออะไรมาบ้างเเละความเยอะของ ป้านอ ที่เคยมีคนเช่าก่อนหน้ามาเตือนผมก่อนเข้าไปอยู่ว่า ยัยป้านี่สุดๆเเล้ว ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย ซึ่งบอกตรงๆว่าผมไม่สนใจ เพราะตั้งใจจะทำมาหากินจริงๆ
เริ่มเเรกหลังจากที่เข้ามาอยู่ไม่ถึงเดือน ป้านอ เดินเข้าบ้านผมชิ่งตรงไปหลังครัวโดยไม่ขออณุญาติ พุ่งตรงไปที่ซิ่งน้ำ เพื่อดูความเรียบร้อยเเละบอกว่าผมต้องรักษาความสะอาดให้มากกว่านี้ ซึ่งตอนนั้นโชคดีไม่มีลูกค้าอยู่ ผมก็ยังเข้าใจว่าเขาคงเข้ามาเพราะว่ากันเศษไปอุดตันที่ซิ้งน้ำ
ต่อมายายป้าก็เดินเข้ามาในร้านอยู่เรื่อยๆเรียกว่าเป็นบ้านหลังที่สองของเขาก็ว่าได้ บางทีเยอะเกินจนผมเริ่มรำคาญในความเยอะของเขา อ้างนู่นอ้างนี่ให้ผมเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ทำเเบบนี้เรียกได้ว่าทุกๆ2เดือนก็ว่าได้
ผมจะเล่าในความพีคสุดๆของยัยป้านี่ ซึ่งผมเชื่อว่าผู้ให้เช่ารายนี้ต้องหากินกับเงินประกันชัวๆ
เพราะว่า ผมจะหมดสัญญาอีกประมาณ2 เดือน เรียกได้ว่าป้านี่เดินเข้า-ออกบ้านผมเป็นว่าเล่น
เเบบบางทีผมนอนอยู่ ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าบ้าน ซึ่งบางทีผมอยากจะเเจ้งตำรวจนะเเต่ด้วยความที่คิดว่าไม่อยากมีปัญหาเพราะเรื่องงานก็เหนื่อยเเล้ว เลยปล่อยให้เขาลอยนวลต่อไป (เเต่ของผมก็ไม่หายหรอกครับเพียงเเต่เขามาก้าวก่ายผมเกินไป)
ซึ่งจุดประสงค์ของป้าผมรู้ดี คือต้องการหาสิ่งที่เสียหายหรือของเก่าๆ เพื่อให้ผมเปลี่ยนมันโดย ไม่ให้ไปยุ่งกับเงินประกันที่เขาจะหักต่อหลังหมดสัญญา
ผมคิดว่าผมคงพอเเค่นี้จะออกเเล้วเข็ดมากกับผู้ให้เช่ารายนี้ เเต่เรื่องยังไม่จบนะ มีต่อ......
เรื่องดำเนินมาถึงตอนก่อนหมดสัญญาประมาณ15วัน
ผมคุยเรื่องเงินประกัน 20000 บาท ป้าเขาบอกมาประโยคนึงว่ารูเยอะขนาดนี้คงเกิน 20000บาทเเน่เอาเป็นว่าป้าจะหักเเค่20000 บาทพอ (สรุปง่ายๆคือป้านอไม่คืนเงินผม)
ซึ่งผมเคยถ่ายรูปเก็บไว้ว่ารูเก่าๆเหล่านี้ผมไม่ได้เป็นคนเจาะ ซึ่งหลักฐานชัดเจนจนทำให้ป้าไม่สามารถเล่นงานผมตรงนี้ได้ ป้าเลยบอกว่าผมทำผนังขีดข่วนเขานับเป็นจุดซึ่งผมยอมรับว่าจริงเพราะ มันเป็นเรื่องปกติที่มีบ้างซึ่งผมก็ยินดีจะชดใช้โดยการทาสีพร้อมโป๊ะรอยให้เหมือนผนังใหม่เพราะไม่อยากเสียเงินตรงนี้ซึ่งมันดูหนักมาสำหรับรอยเท่า ขี้มด
หลังจากผมทำเสร็จป้าเขาก็จะหาเรื่องต่างๆนาๆมาหักผม เช่นกระเบื่องมีรอย /คิ้วเเถวบรรไดมีรอย/ผนังมีรู/ ฝาครอบไฟหาย/ ประตูมีรอยขอบบอกว่ารอยเล็กมากๆ/เเละอื่นๆอีกมาก นับว่ามากจริงๆที่เขาคิดได้ เขาหักผมไป 10000 บาท เเต่บอกว่าจะคืนหลังหมดสัญญาจริงๆ ซึ่งผมต้องรออีก 15 วัน (ผมไม่รู้จะได้คืนจริงไหมนะเพราะผมเขียนก่อนที่จะได้รับเงิน)
เรื่องนี้ทำให้ผมได้ประสบการณ์มากๆครับ ฝากถึงคนจะเช่าต่อนะครับอยุ่เเถว ต. บ้านคลอง ตรงข้ามหมู่บ้านหรรษนัน 5 พอเล้วๆ หลังไมค์ดีกว่า 555+++
ระวังผู้ให้เช่าหัวหมอ !! ผมจะจำไว้เป็นบทเรียน เเละเเชร์เรื่องราวนี้ให้คนที่จะเช่าบ้าน เเถวสี่ เเยกวุ่นวาย จ. พิษณุโลก
ครั้งเเรกเราคุยกันดิบดีว่า ค่าเช่าอยู่ที่ 8000 บาทถ้วน เราก็โอเคกับราคานะ จากนั้น เวลาผ่านไปสักพักประมาณ1 ชั่วโมง ป้านอโทรกลับมาหาผม บอกว่าขอขึ้นค่าเช่าเป็น 9000 บาท นะ พอดีป้าบอกราคาผิดพลาด ผมได้ยอนเเบบนี้ก็ตกใจสิ่!! เพราะว่า กลับคำพูดได้ไงอ่ะ เราจึงตอบปฏิเสธ ที่จะเช่า เเล้วก็วางสาย จบบทสนธนา
จากนั่นอีกไม่นานป้าโทรมาบอกว่า ลดให้เหลือ 8500 ถ้วน ผมจึงตอบตกลงไป เพราะอยากได้ที่ตรงนั้นด้วย หลังจากนั้นเราก็เริ่มทำสัญญากัน ในเดือนมกราคม โดยผมจะพูดถึงข้อที่มีปัญหากันในภายหลังนะครับ
สัญญา มีอยู่ว่า 1. ผู้เช่าสามารถเข้าตรวจทรัพย์สินได้ทุกเมื่อ (เขาบอกว่าเขามีกุญเเจสำรอง เเล้วบอกว่าเผื่อเกิดไปใหม้หรือเหตุไม่คลาดฝันจะได้ช่วยๆกันดู)
2. หากมีการเจาะผนัง จะคิด รูล่ะ 500 บาท (ซึ่งตรงนี้ผมระวังตัวโดยการถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่ารูเหล่านี้เป็นรูเก่าที่เกิดขึ้นก่อนผมมาอยู่)
3. หากมีรอยขีดเขียนผนัง จะเก็บเเผลล่ะ 500 บาท
4.หากผู้เช่าทำของหายจะต้องชดใช้
(ผมวางเงินประกันที่20000 บาทนะครับ)
ซึ่งสัญญาเหล่านี้ผมเข้าใจดีเพราะว่าของใครใครก็รัก อซึ่งผมก็ยินดีเซ็นสัญญากับป้านอ ( เเต่ในใจก็คิดว่าโหดไปนะครับ55+) เเต่ก็ช่างเถอะ เพราะผมก็อยากจะทำมาหากินเเล้ว ไม่ได้คิดอะไรมาก
ต่อไปผมจะเล่าจึงตลอดระยะเวลา 1 ปี ผมเจออะไรมาบ้างเเละความเยอะของ ป้านอ ที่เคยมีคนเช่าก่อนหน้ามาเตือนผมก่อนเข้าไปอยู่ว่า ยัยป้านี่สุดๆเเล้ว ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย ซึ่งบอกตรงๆว่าผมไม่สนใจ เพราะตั้งใจจะทำมาหากินจริงๆ
เริ่มเเรกหลังจากที่เข้ามาอยู่ไม่ถึงเดือน ป้านอ เดินเข้าบ้านผมชิ่งตรงไปหลังครัวโดยไม่ขออณุญาติ พุ่งตรงไปที่ซิ่งน้ำ เพื่อดูความเรียบร้อยเเละบอกว่าผมต้องรักษาความสะอาดให้มากกว่านี้ ซึ่งตอนนั้นโชคดีไม่มีลูกค้าอยู่ ผมก็ยังเข้าใจว่าเขาคงเข้ามาเพราะว่ากันเศษไปอุดตันที่ซิ้งน้ำ
ต่อมายายป้าก็เดินเข้ามาในร้านอยู่เรื่อยๆเรียกว่าเป็นบ้านหลังที่สองของเขาก็ว่าได้ บางทีเยอะเกินจนผมเริ่มรำคาญในความเยอะของเขา อ้างนู่นอ้างนี่ให้ผมเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ทำเเบบนี้เรียกได้ว่าทุกๆ2เดือนก็ว่าได้
ผมจะเล่าในความพีคสุดๆของยัยป้านี่ ซึ่งผมเชื่อว่าผู้ให้เช่ารายนี้ต้องหากินกับเงินประกันชัวๆ
เพราะว่า ผมจะหมดสัญญาอีกประมาณ2 เดือน เรียกได้ว่าป้านี่เดินเข้า-ออกบ้านผมเป็นว่าเล่น
เเบบบางทีผมนอนอยู่ ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าบ้าน ซึ่งบางทีผมอยากจะเเจ้งตำรวจนะเเต่ด้วยความที่คิดว่าไม่อยากมีปัญหาเพราะเรื่องงานก็เหนื่อยเเล้ว เลยปล่อยให้เขาลอยนวลต่อไป (เเต่ของผมก็ไม่หายหรอกครับเพียงเเต่เขามาก้าวก่ายผมเกินไป)
ซึ่งจุดประสงค์ของป้าผมรู้ดี คือต้องการหาสิ่งที่เสียหายหรือของเก่าๆ เพื่อให้ผมเปลี่ยนมันโดย ไม่ให้ไปยุ่งกับเงินประกันที่เขาจะหักต่อหลังหมดสัญญา
ผมคิดว่าผมคงพอเเค่นี้จะออกเเล้วเข็ดมากกับผู้ให้เช่ารายนี้ เเต่เรื่องยังไม่จบนะ มีต่อ......
เรื่องดำเนินมาถึงตอนก่อนหมดสัญญาประมาณ15วัน
ผมคุยเรื่องเงินประกัน 20000 บาท ป้าเขาบอกมาประโยคนึงว่ารูเยอะขนาดนี้คงเกิน 20000บาทเเน่เอาเป็นว่าป้าจะหักเเค่20000 บาทพอ (สรุปง่ายๆคือป้านอไม่คืนเงินผม)
ซึ่งผมเคยถ่ายรูปเก็บไว้ว่ารูเก่าๆเหล่านี้ผมไม่ได้เป็นคนเจาะ ซึ่งหลักฐานชัดเจนจนทำให้ป้าไม่สามารถเล่นงานผมตรงนี้ได้ ป้าเลยบอกว่าผมทำผนังขีดข่วนเขานับเป็นจุดซึ่งผมยอมรับว่าจริงเพราะ มันเป็นเรื่องปกติที่มีบ้างซึ่งผมก็ยินดีจะชดใช้โดยการทาสีพร้อมโป๊ะรอยให้เหมือนผนังใหม่เพราะไม่อยากเสียเงินตรงนี้ซึ่งมันดูหนักมาสำหรับรอยเท่า ขี้มด
หลังจากผมทำเสร็จป้าเขาก็จะหาเรื่องต่างๆนาๆมาหักผม เช่นกระเบื่องมีรอย /คิ้วเเถวบรรไดมีรอย/ผนังมีรู/ ฝาครอบไฟหาย/ ประตูมีรอยขอบบอกว่ารอยเล็กมากๆ/เเละอื่นๆอีกมาก นับว่ามากจริงๆที่เขาคิดได้ เขาหักผมไป 10000 บาท เเต่บอกว่าจะคืนหลังหมดสัญญาจริงๆ ซึ่งผมต้องรออีก 15 วัน (ผมไม่รู้จะได้คืนจริงไหมนะเพราะผมเขียนก่อนที่จะได้รับเงิน)
เรื่องนี้ทำให้ผมได้ประสบการณ์มากๆครับ ฝากถึงคนจะเช่าต่อนะครับอยุ่เเถว ต. บ้านคลอง ตรงข้ามหมู่บ้านหรรษนัน 5 พอเล้วๆ หลังไมค์ดีกว่า 555+++