ค่อยๆไต่ระดับเทียบชั้น แมนยูไนเต็ด รีล มาดริด บาร์เซโลน่า ยูเวนตุส เปเอชเช แบบเต็มตัว ( ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ตามมาติดๆ )
มองในแง่ธุรกิจเป็นการลงทุนที่แสนจะคุ้มค่า มูลค่าทีมก็เพิ่มมากขึ้น หลักแหลม นักเตะเล่นไม่ได้+สอดแทรกไม่ได้ ยังไงคนญี่ปุ่น+เอเชียก็ซื้อเสื้อ ได้การตลาดอีกซีกโลก....เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย ดองไว้ในทีมยังไงก็มีแต่ได้ ส่วนการลุ้นแชมป์ลีคที่ได้เปรียบทุกทีม หากจับผลัดจับผลูคว้าสำเร็จขึ้นมา
คงเป็น "จุดเริ่มต้น" ของความสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอัน นับ 1 กับพรีเมียร์ลีคเทียบเท่าแบล็คเบิร์น เลสเตอร์ ได้ หยุดการรอคอยของแฟนๆได้สักที
และหลักใหญ่ใจความคือทวีปเอเชียจะรู้จักลิเวอร์พูลมากขึ้น การเดินหมากของบอร์ดบริหารหงส์แดงยุคนี้ น่าจับตามองเหลือเกิน
ทั้งๆที่เว้นว่างการจับแชมป์ลีคมา 30 ปี เกือบครึ่งชีวิตของอายุขัยมนุษย์
การเริ่มซื้อนักเตะเอเชียของ ลิเวอร์พูล เท่ากับเป็นการเขยิบตัวขึ้นมาเป็น "ทีมยักษ์ใหญ่ในตลาดโลก"
มองในแง่ธุรกิจเป็นการลงทุนที่แสนจะคุ้มค่า มูลค่าทีมก็เพิ่มมากขึ้น หลักแหลม นักเตะเล่นไม่ได้+สอดแทรกไม่ได้ ยังไงคนญี่ปุ่น+เอเชียก็ซื้อเสื้อ ได้การตลาดอีกซีกโลก....เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย ดองไว้ในทีมยังไงก็มีแต่ได้ ส่วนการลุ้นแชมป์ลีคที่ได้เปรียบทุกทีม หากจับผลัดจับผลูคว้าสำเร็จขึ้นมา
คงเป็น "จุดเริ่มต้น" ของความสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอัน นับ 1 กับพรีเมียร์ลีคเทียบเท่าแบล็คเบิร์น เลสเตอร์ ได้ หยุดการรอคอยของแฟนๆได้สักที
และหลักใหญ่ใจความคือทวีปเอเชียจะรู้จักลิเวอร์พูลมากขึ้น การเดินหมากของบอร์ดบริหารหงส์แดงยุคนี้ น่าจับตามองเหลือเกิน
ทั้งๆที่เว้นว่างการจับแชมป์ลีคมา 30 ปี เกือบครึ่งชีวิตของอายุขัยมนุษย์