มีหลายคนงงว่าทำไหม คนที่ศึกษา Elliott Wave จึงนับคลื่นไม่เหมือนกัน เรียกชื่อก็ไม่เหมือนกัน
.
.
.
บางคนบอกว่านับคลื่นไม่แม่นเลย เป็นเรื่องหลอกเด็ก ผมเองก็ศึกษามา6 - 7 ปี ในหนังสือ Mastering elliott wave by glenn neely หน้าแรกได้อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า Elliott Wave ใช้ในการทำนายรูปแบบราคาที่เกิดจากจิตวิทยามวลชน โดยใช้วัดออกมาเชิงปริมาณ ควรนำทฤษฎีนี้ไปใช้กับสินค้าที่มีผู้เล่นจำนวนมาก เพื่อให้เป็นไปตามพฤติกรรมจิตวิทยามวลชน ซึ่งก็เป็นพื้นฐานของทฤษฎีนี้ เช่น นับดัชนี Set Set50 Future Dow jones Community หรือ ตัวหุ้นก็ต้องมีผู้เล่นเยอะๆมีกองทุนมาเล่นด้วย ส่วนใหญ่อยู่ใน Set50 จึง จะแม่นยำเป็นไปตามทฤษฎี การนำไปใช้กับหุ้นตัวเล็กๆ อาจมีความเสี่ยงเนื่องจากมีผู้เล่นจำนวนน้อย สามารถทำราคาโดยใช้เงินไม่มาก
.
.
**************************************************************
.
.
ในช่วงต้นทศวรรษ 1930 Ralph Nelson Elliott เริ่มศึกษาข้อมูลตลาดหุ้นอย่างเป็นระบบโดยการวิจัยจาก Chart ราคาที่เพิ่มขึ้น หรือ ที่ลดลง ในเดือนสิงหาคมปี 1938 ผลการศึกษาของเขาโดยการตีพิมพ์หนังสือเล่มที่สามของเขามีชื่อว่า The Wave Principle เอลเลียตระบุว่าในขณะที่ราคาในตลาดหุ้น อาจปรากฏแบบสุ่มและคาดเดาไม่ได้ แต่พวกเขาทำตามกฎที่คาดการณ์ได้จริงและสามารถวัดและพยากรณ์โดยใช้ หมายเลขฟีโบนันชี หลังจากการตีพิมพ์ The Wave Principle R.N. Elliott ได้นำเอาความรู้ของเค้าไปลงหนังสือพิมพิ The Financial World ครั้งแรกเมื่อปี 1939 นิตยสาร การเงินโลก
ได้มอบหมายให้เอลเลียตเขียนบทความสิบสองเล่ม (Elliott Wave Theory) อธิบายวิธีการใหม่ของการพยากรณ์ตลาด หลังจากนั้นก็มีคนมาพัฒนาการศึกษา Elliott Wave Theory ที่โด่งดังมีอยู่ 2 ค่าย โดยนำหลักการเดิมของ Ralph Nelson Elliott และมีส่วนที่ได้ ศึกษาเพิ่มเติม พัฒนาเป็นเทคนิคของแต่ละแห่งด้วย
ค่ายที่1 Neo Wave Institute ก่อตั้งโดย Glen Neely หนังสือคือ Mastering Elliott Wave ทฤษฎีค่อนข้างจะโมเดิร์นสมัยใหม่มากกว่า เพราะเนื้อหาบ้างส่วนเป็นการทำ research วิจัยพัฒนาจากทฤษฎีเก่า เพื่อนำมาใช้กับตลาดปัจจุบันได้ดีกว่าทฤษฎีที่ล้าหลังไปแล้ว เพราะทฤษฎีของ R.N. Elliott
เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1930 ต้นๆ มันก็ 80 กว่าปีแล้วตลาดสมัยนี้ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ทฤษฎีของ Glen Neely พัฒนากฏ และ สัดส่วนตัวเลขที่ชัดเจนกว่าหลักการเดิมมาก อธิบายถึงรูปแบบราคาต่างๆความสัมพันธ์ของสัดส่วนราคา Fibonacci Price Relation และเท่าที่ผมอ่านมาไม่ได้มีการพูดถึงการใช้ Indicator เลยสักกะบทเดียว
.
.
.
ค่ายที่2 Elliott Wave International ของ Robert Prechter เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา หนังสือคือ Elliott Wave Principle ยึดหลักการของต้นฉบับดั้งเดิมของ Ralph Nelson Elliott และเมื่อไม่นานมานี่ก็มีมาตรฐาน รับรองความรู้ Elliott Wave ของผู้ที่จะเป็น Elliott Wave Analyst ของฉบับ Elliott Wave International เรียกว่า CEWA - Certified Elliott Wave Analyst เพื่อให้นักวิเคราะห์คลื่น ที่ทำบทวิเคราะห์ออกมา มีการนับคลื่น ที่มีมาตรฐานเดียวกันในแบบของค่ายนี้
คนที่ศึกษา Elliott Wave จึงนับคลื่นไม่เหมือนกัน เรียกชื่อก็ไม่เหมือนกัน
.
.
.
บางคนบอกว่านับคลื่นไม่แม่นเลย เป็นเรื่องหลอกเด็ก ผมเองก็ศึกษามา6 - 7 ปี ในหนังสือ Mastering elliott wave by glenn neely หน้าแรกได้อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า Elliott Wave ใช้ในการทำนายรูปแบบราคาที่เกิดจากจิตวิทยามวลชน โดยใช้วัดออกมาเชิงปริมาณ ควรนำทฤษฎีนี้ไปใช้กับสินค้าที่มีผู้เล่นจำนวนมาก เพื่อให้เป็นไปตามพฤติกรรมจิตวิทยามวลชน ซึ่งก็เป็นพื้นฐานของทฤษฎีนี้ เช่น นับดัชนี Set Set50 Future Dow jones Community หรือ ตัวหุ้นก็ต้องมีผู้เล่นเยอะๆมีกองทุนมาเล่นด้วย ส่วนใหญ่อยู่ใน Set50 จึง จะแม่นยำเป็นไปตามทฤษฎี การนำไปใช้กับหุ้นตัวเล็กๆ อาจมีความเสี่ยงเนื่องจากมีผู้เล่นจำนวนน้อย สามารถทำราคาโดยใช้เงินไม่มาก
.
.
**************************************************************
.
.
ในช่วงต้นทศวรรษ 1930 Ralph Nelson Elliott เริ่มศึกษาข้อมูลตลาดหุ้นอย่างเป็นระบบโดยการวิจัยจาก Chart ราคาที่เพิ่มขึ้น หรือ ที่ลดลง ในเดือนสิงหาคมปี 1938 ผลการศึกษาของเขาโดยการตีพิมพ์หนังสือเล่มที่สามของเขามีชื่อว่า The Wave Principle เอลเลียตระบุว่าในขณะที่ราคาในตลาดหุ้น อาจปรากฏแบบสุ่มและคาดเดาไม่ได้ แต่พวกเขาทำตามกฎที่คาดการณ์ได้จริงและสามารถวัดและพยากรณ์โดยใช้ หมายเลขฟีโบนันชี หลังจากการตีพิมพ์ The Wave Principle R.N. Elliott ได้นำเอาความรู้ของเค้าไปลงหนังสือพิมพิ The Financial World ครั้งแรกเมื่อปี 1939 นิตยสาร การเงินโลก
ได้มอบหมายให้เอลเลียตเขียนบทความสิบสองเล่ม (Elliott Wave Theory) อธิบายวิธีการใหม่ของการพยากรณ์ตลาด หลังจากนั้นก็มีคนมาพัฒนาการศึกษา Elliott Wave Theory ที่โด่งดังมีอยู่ 2 ค่าย โดยนำหลักการเดิมของ Ralph Nelson Elliott และมีส่วนที่ได้ ศึกษาเพิ่มเติม พัฒนาเป็นเทคนิคของแต่ละแห่งด้วย
ค่ายที่1 Neo Wave Institute ก่อตั้งโดย Glen Neely หนังสือคือ Mastering Elliott Wave ทฤษฎีค่อนข้างจะโมเดิร์นสมัยใหม่มากกว่า เพราะเนื้อหาบ้างส่วนเป็นการทำ research วิจัยพัฒนาจากทฤษฎีเก่า เพื่อนำมาใช้กับตลาดปัจจุบันได้ดีกว่าทฤษฎีที่ล้าหลังไปแล้ว เพราะทฤษฎีของ R.N. Elliott
เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1930 ต้นๆ มันก็ 80 กว่าปีแล้วตลาดสมัยนี้ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ทฤษฎีของ Glen Neely พัฒนากฏ และ สัดส่วนตัวเลขที่ชัดเจนกว่าหลักการเดิมมาก อธิบายถึงรูปแบบราคาต่างๆความสัมพันธ์ของสัดส่วนราคา Fibonacci Price Relation และเท่าที่ผมอ่านมาไม่ได้มีการพูดถึงการใช้ Indicator เลยสักกะบทเดียว
.
.
.
ค่ายที่2 Elliott Wave International ของ Robert Prechter เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา หนังสือคือ Elliott Wave Principle ยึดหลักการของต้นฉบับดั้งเดิมของ Ralph Nelson Elliott และเมื่อไม่นานมานี่ก็มีมาตรฐาน รับรองความรู้ Elliott Wave ของผู้ที่จะเป็น Elliott Wave Analyst ของฉบับ Elliott Wave International เรียกว่า CEWA - Certified Elliott Wave Analyst เพื่อให้นักวิเคราะห์คลื่น ที่ทำบทวิเคราะห์ออกมา มีการนับคลื่น ที่มีมาตรฐานเดียวกันในแบบของค่ายนี้