คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
1. สมัยเป็นมือใหม่ใช้ indicator หลายตัวมาก แต่พอเริ่มมีประสบการณ์ จะลดเหลือเฉพาะ indicator พื้นฐานแค่ 1-2 ตัว เพื่อสังเกต divergence/convergence ดูแท่งเทียน+volume หารูปแบบ price pattern และใช้ Elliott wave ในการวัดระยะเป้าหมาย
ไม่ได้ใช้ technical เพื่อทำนายตลาด แต่ใช้หา zone ที่ได้เปรียบในการซื้อหรือขายตามช่วงเวลานั้น
สมัยเป็นมือใหม่ด้วยประสบการณ์ที่น้อย เลยเข้าใจว่ามันใช้ทำนายตลาดได้ เพราะกราฟเมื่อนำมาวิเคราะห์กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมันจริงเสมอ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ตัดขึ้นจะเป็นขาขึ้น ตัดลงจะเป็นขาลง
แต่การเทรด ณ เวลาจริง มันไม่ง่ายแบบที่เราคิด มันอาจจะตัดขึ้นตัดลงหลายรอบใน timeframe ที่เราสนใจ จนทำให้ขาดทุน พูดง่าย ๆ คือ ณ เวลาจริงมันดิ้นได้ ไม่เหมือนกับการดูข้อมูลในอดีต
2. ลงทุนมาราว 10 ปี 1-3 ปีแรกขาดทุนหนัก ปีที่ 3-5 แก้ไขขาดทุนเริ่มมีกำไรเล็กน้อย ปีที่ 6 ขึ้นไป พอร์ทเริ่มโตขึ้นเฉลี่ย 10-20% ต่อปี ปัจจุบันแค่พออยู่ได้
3. พยายามศึกษาจากทุกช่องทางที่หาได้ หนังสือ E-book Youtube webpage โดยศึกษาด้วยตัวเองเท่านั้น เน้นการเก็บประสบการณ์จริงในตลาด
4. ต้องรอดให้ได้ ก่อนคิดจะรวย ถ้าเข้าตลาดมาคาดหวังแต่กำไร โดยไม่ประเมินความเสี่ยงที่ต้องเจอเลย ผมคิดว่าโอกาสที่จะจบหลักสูตรก่อนได้เป็นมืออาชีพมีสูง
ตลาดไม่ใช่ที่แจกเงิน จะรอดได้ต้องมีวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ และต้องมีวิธีคิดที่ทำให้เป็นคนส่วนน้อยของตลาด
สิ่งสำคัญอีกอย่างในการเป็นมืออาชีพคือ เงินทุน ที่ต้องมีมากพอในการสร้างผลตอบแทนให้สามารถเลี้ยงตนเองได้ ซึ่งแปรผันตามภาระค่าใช้จ่าย และความสามารถในการทำกำไรของแต่ละคน
ถ้ามีเงินทุนน้อย การเป็น trader อาชีพก็จะยิ่งทำได้ยาก เพราะจะถูกกดดันให้ต้องเล่นในเกมที่มีความเสี่ยงสูง แลกกับผลตอบแทนที่มากเพื่อให้เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่าย
ไม่ได้ใช้ technical เพื่อทำนายตลาด แต่ใช้หา zone ที่ได้เปรียบในการซื้อหรือขายตามช่วงเวลานั้น
สมัยเป็นมือใหม่ด้วยประสบการณ์ที่น้อย เลยเข้าใจว่ามันใช้ทำนายตลาดได้ เพราะกราฟเมื่อนำมาวิเคราะห์กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมันจริงเสมอ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ตัดขึ้นจะเป็นขาขึ้น ตัดลงจะเป็นขาลง
แต่การเทรด ณ เวลาจริง มันไม่ง่ายแบบที่เราคิด มันอาจจะตัดขึ้นตัดลงหลายรอบใน timeframe ที่เราสนใจ จนทำให้ขาดทุน พูดง่าย ๆ คือ ณ เวลาจริงมันดิ้นได้ ไม่เหมือนกับการดูข้อมูลในอดีต
2. ลงทุนมาราว 10 ปี 1-3 ปีแรกขาดทุนหนัก ปีที่ 3-5 แก้ไขขาดทุนเริ่มมีกำไรเล็กน้อย ปีที่ 6 ขึ้นไป พอร์ทเริ่มโตขึ้นเฉลี่ย 10-20% ต่อปี ปัจจุบันแค่พออยู่ได้
3. พยายามศึกษาจากทุกช่องทางที่หาได้ หนังสือ E-book Youtube webpage โดยศึกษาด้วยตัวเองเท่านั้น เน้นการเก็บประสบการณ์จริงในตลาด
4. ต้องรอดให้ได้ ก่อนคิดจะรวย ถ้าเข้าตลาดมาคาดหวังแต่กำไร โดยไม่ประเมินความเสี่ยงที่ต้องเจอเลย ผมคิดว่าโอกาสที่จะจบหลักสูตรก่อนได้เป็นมืออาชีพมีสูง
ตลาดไม่ใช่ที่แจกเงิน จะรอดได้ต้องมีวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ และต้องมีวิธีคิดที่ทำให้เป็นคนส่วนน้อยของตลาด
สิ่งสำคัญอีกอย่างในการเป็นมืออาชีพคือ เงินทุน ที่ต้องมีมากพอในการสร้างผลตอบแทนให้สามารถเลี้ยงตนเองได้ ซึ่งแปรผันตามภาระค่าใช้จ่าย และความสามารถในการทำกำไรของแต่ละคน
ถ้ามีเงินทุนน้อย การเป็น trader อาชีพก็จะยิ่งทำได้ยาก เพราะจะถูกกดดันให้ต้องเล่นในเกมที่มีความเสี่ยงสูง แลกกับผลตอบแทนที่มากเพื่อให้เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่าย
แสดงความคิดเห็น
ขอสอบถาม Trader อาชีพหน่อยครับ
2. ใช้เวลาฝึกฝนนานเเค่ไหน ถึงสามารถหารายได้เเบบพออยู่ ไปจนถึง มั่งคั่งรํ่ารวย
3. ศึกษาจากไหนบ้าง Youtube, Twitter, หรือ ลงเรียนคอร์สเทรด
4. มองว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้การเทรดพัฒนาจนเป็นเทรดเดอร์อาชีพได้
***คอมเม้นไม่จำเป็นต้องเป็น Trader อาชีพก็ได้นะครับ อยากทราบไอเดียของเเต่ละท่าน***