สวัสดีก้าบบ พบกับ BB-Knight TV หลังจากห่างหายจากการรีวิวไปเกือบๆ ปี ก็ได้เวลาปลุกไฟให้กับตัวเองซักทีกับทริปนี้ ซึ่งเป็นทริป Backpack ไปคนเดียวเที่ยวคนเดียว นอน Hostel ทุกวัน เป็นครั้งแรกที่ออก ตปท คนเดียว ที่จริงไม่ได้ตั้งใจนะ แต่เพื่อนๆ ดันเทหมด ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกเพราะเราลุยเดี่ยวได้อยู่แล้ว
แต่เอาจริงๆ ไม่ค่อยอยากนับเท่าไหร่ว่าเป็นทริป ตปท ครั้งแรก เพราะลาวถือเป็นประเทศที่ง่ายที่สุดแล้ว เหมือนกับเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่ปาน เพราะคนลาวเหนือเขาก็พูดไทยได้ เนื่องจากเขาก็ดู TV ช่องไทยอะเนอะ ต่างจากไทยแค่ป้ายต่างๆ ในประเทศเขาเป็นภาษาลาวที่คนไทยอย่างเรา อ่านออกบ้างไม่ออกบ้าง นอกนั้นก็เหมือนเที่ยวต่างจังหวัดในไทยเด๊ะๆ เลย
เอาล่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่า ประเทศนี้รีวิวหาอ่านได้เยอะแยะอยู่แล้วเนอะ แต่เราจะเขียนไปในเชิงไดอารี่ซะมากกว่า ดังนั้นเราจะเขียนแพลนย่อก่อนว่าแต่ละวันเราทำอะไรบ้างเหมือนสารบัญของรีวิวจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งไล่หาอ่านตรงจุดที่ต้องการ และที่สำคัญมีสรุปค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดยิบไว้ที่ตอนท้าย เผื่อใครอยากรู้ว่าแต่ละที่ใช้งบเท่าไหร่บ้าง ก็ใช้ค่าใช้จ่ายเรานี่แหละเป็นดัชนีในการตัดสินใจ ซึ่งในช่วงที่เราไปคือวันที่ 5-10 Dec 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวมว๊ากกก อุณหภูมิในตอนเช้านี้เลขตัวเดียวทุกวันเลย ใครจะไปช่วงนี้เตรียมชุดกันหนาวหนาๆ มาด้วยเน่ออออ
เรื่องย่อของทริปลาว(วังเวียง-หลวงพระบาง)
5 Dec (วังเวียง) ***เดินทาง 4Dec กลางคืน
21.00 – 7.00 ออกเดินทางจาก กทม โดยรถทัวร์หมอชิตไปลงยัง บขส หนองคาย
7.00 – 14.30 หารถต่อไปเองยังเวียงจันทร์-วังเวียง นอนที่ Hostel Real Vang Vieng (นอน3คืน 5-7Dec)
14.30 – 24.00 เช่ามอไซด์จากหน้า Hostel จะไปน้ำตกตาดแก่งยุ้ย แต่ไปไม่ถึงทางแย่มาก เลยกลับมาเดินตลาดคนเดินและต่อซากุระบาร์
6 Dec (วังเวียง)
7.00 – 12.15 แว๊นมอไซด์ไปขึ้นผาเงินเดินขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 9 โมง ถึงยอดจุดที่ 2 และ 3 ประมาณ 10 โมงนิดๆ (ใช้เวลาเดินขึ้น 1.10Hour) และเดินลงมาถึงข้างล่างเวลา 11.30น.
12.15 - 13.20 แว๊นมอไซด์ไปต่อยังผาหนามไซ เดินขึ้นประมาณ 20 นาที
13.20 - 15.15 แว๊นไปต่อบลูลากูน 3 ถึงเวลา 14.15 (ใช้เวลา 1 ชั่วโมงนิดๆ กับระยะทาง เกือบ 10 โล ทางเน่ามากๆๆๆๆ) อยู่ถึงประมาณบ่าย 3 นิดๆ ก็กลับ
15.15 - 17.20 แว๊นกลับมายังบลูลากูน 1 ถึงประมาณ 16.20 ซึ่งเป็นทางผ่านอยู่ใกล้ๆ ผาหนามไซ จากนั้นแว๊นกลับที่พัก ซึ่งทางผ่านจะมีบอลลูนด้วยนะ
17.20 – 24.00 ต่อถนนคนเดิน และซากุระบาร์เหมือนเดิม
7 Dec (วังเวียง)
9.00 – 17.00 ซึ้อ Day Trip พายเรือคายัก จากตอนบนของแม่น้ำสองลงมายังเมืองวังเวียง ระหว่างทางแวะลอยห่วงยางเข้าถ้ำนางฟ้า และพายต่อมากินข้าวเที่ยงที่ริมแม่น้ำตรงในเมือง จากนั้นไปบลูลากูน 2 ไปเล่น Zipline และก็เล่นน้ำประมาณเกือบชั่วโมงก็กลับมายังที่พัก
17.00 – 23.00 กลับมาปวดตัวมากก็ไปนวดลาวร้านตรงข้าม Viva Pub จากนั้นก็ได้เพื่อนใหม่จาก Day Trip ไปหารค่าหมูกระทะ และก็ไปช็อปปิ้งที่ตลาดคนเดิน ต่อซากุระบาร์เช่นเคย
8 Dec (หลวงพระบาง)
7.20 – 9.00 เดินจากที่พักไปสะพานส้ม และก็ถ้ำจัง
9.00 – 14.00 เดินทางโดยรถตู้จากวังเวียงถึงหลวงพระบาง ใช้เวลาประมาณเกือบ 5 ชั่วโมง
14.00 – 21.00 เดินเล่น Slow Life ในเมือง จากนั้นเย็นๆ ก็ไปตลาดมืดที่หลวงพระบาง
9 Dec (หลวงพระบาง)
7.00 – 10.00 เช่ามอไซด์ตอนเช้าไปขึ้นพระธาตุภูศรีประมาณ 8 โมง จากนั้นลงมาต่อพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง
10.00 – 15.00 แว๊นไปยังน้ำตกกว่างสี และก็แวะสวนผีเสื้อระหว่างทางตอนกลับ
15.00 – 24.00 เดินเล่นสโลไลฟ์ริมแม่น้ำโขง และก็เดินเก็บเข้าวัดแถวๆ นั้น ตกเย็นไปเดินเล่นตลาดมืด และเดินไปต่อยังดาวฟ้าบาร์ประมาณ 3 โล (มีทั้งโซนนั่งชิลและโซนแดนซ์)
10 Dec (วันเดินทางกลับต่อ จ.น่าน)
7.00 – 16.30 ออกเดินทางจากหลวงพระบางโดยรถ บขส. ไทย หลวงพระบาง-น่าน ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง (รถออก บขส. ออก 8.30น แต่รถมารับไปที่พักตอน 7.00น ไปยังขนส่งสายใต้หลวงพระบาง)
16.30 – 21.00 เดินเล่นจาก บขส น่าน ไปยังสนามบินน่าน เดินเที่ยวชิลๆ ตามวัดในน่านนิดหน่อยจากนั้นบินกลับ กทม. เป็นอันจบทริป
ข้อแนะนำสำหรับทริป
อันนี้ขอพูดเป็นข้อแนะนำจากความผิดพลาด และข้อควรรู้ ข้อมูลทั่วไปที่เราไปเจอในทริปจะดีกว่า เพราะอย่างที่บอกตอนต้นว่าเที่ยวลาวก็คล้ายๆ เที่ยวต่างจังหวัดแหละ ถ้าเตรียมตัวไม่ดีก็เฟลได้ไม่ต่างจากคนไทยเที่ยวไทย
1. การเดินทางมายังวังเวียง ควรมาโดย บขส (ตอนเราไปซื้อหน้างานตั๋วเต็ม) โดยสามารถจอง Online ได้ ซึ่งรอบรถที่ออกมาจาก บขส อุดร คือ 7 โมง มีรอบเดียวต่อวัน แต่ถ้าไม่ทันหรือไม่รู้จริงๆ แบบเรา สเตปการเดินทางก็คือให้ไปยัง บขส หนองคาย > ต่อสกายแลป 80 บาท ไปยังสะพานไทยลาว > นั่งรถเมล์จากด่านข้ามสะพาน 20 บาท ไปลงฝั่งลาว > ต่อรถเมล์คล้ายๆ รถ ปอ. บ้านเรา ไปลงยังตลาดเช้าบอกจุดลงกับกระเป๋ารถเมล์ได้ 8,000กีบ > นั่งรถสาย 08 ไปยังขนส่งสายเหนือ > นั่งรถจากสายเหนือไปยังวังเวียง
2. การแลกเงินลาว แนะนำให้แลกจากไทยไปก่อนเลย ไม่แน่ใจที่ไหนมีบ้าง แต่ที่ Super rich ตรงข้าม CTW มีแน่นอน และจะได้เรทดีกว่าแลกที่ด่านด้วย ซึ่งถ้าไม่รู้แลกไปเท่าไหร่ ก็แลกไปมาตรฐาน 5,000 บาทก่อน ถ้าไม่พอที่หลวงพระบางตรงตลาดมืดมีที่แลกอยู่หลายร้านเลย ซึ่งเรทที่เราจะใช้ตลอดรีวิวนี้คือ 1 BAHT=300KIB ง่ายๆ คือของราคากีบ ให้หาร 300 ทุกอย่างก็เป็นเงินไทยละ และที่สำคัญพยายามจ่ายทุกอย่างเป็นกีบ เพราะช่วงนี้เงินบาทแข็ง เราใช้เงินที่แลกมาจะได้มูลค่าที่มากกว่า ตัวอย่างจริงที่เจอคือเสื้อในลาวตัวละ 100 บาท ซื้อกีบ 25,000 กีบ หรือหมูไม้ละ 40 บาท จ่ายกีบได้ 10,000 กีบเป็นต้น
3. อย่าไปกับพวกรถรับจ้างที่ดักตามตลาด ด่านหรือขนส่งในลาว เพราะพวกนี้คิดเหมาแพง และขี้โกงด้วย อย่างเราโดนรถตู้จากเวียงจันทร์ไปวังเวียง โดนไป 350 บาท คนเดียว แต่คนอื่นได้ราคา 250 บาท
4. จะซื้อ Day Trip หรือตั๋วรถไปตามเมืองต่างๆ ให้ซื้อข้างนอกตามร้าน Agent และให้ถามราคาเทียบหลายๆ ร้าน ห้ามซื้อกับที่พัก เพราะมันจะบวกชาร์ทไปเยอะมาก อย่างเราได้ตั๋ววังเวียง-หลวงพระบาง 70k แต่พวกที่ซื้อกับที่พักโดนไป 110k
5. ถ้าคุณไปถึงวังเวียงในวันแรกและอยากรีบเก็บที่เที่ยว ควรรีบเดินหรือเช่ามอไซด์ไปสะพานส้ม+ถ้ำจังก่อน เพราะที่นี่ปิด บ่าย 4 ซึ่งถ้าเดินทางแบบข้อ 1 ก็น่าจะถึงประมาณ บ่าย 2 นิดๆ
6. ในทริปนี้ที่วังเวียงเรามีไปน้ำตกตาดแก่งยุ้ยกับบลูลากูน 3 ซึ่งจะบอกว่าทั้ง 2 ที่ทาง เชรี่ยมากๆ ถนนเน่าตลอดเส้นทาง อย่าเห็นว่า 6 โล 9 โล ระยะมันสั้นๆ นะ ถ้าไม่ใช้ Buggy (รถ4ล้อวิบาก) นี่จะใช้เวลานานมากๆ เพราะถนนเป็นดินลูกรังรถวิ่งทีฝุ่นฟุ้งเลย แนะนำหาผ้าปิดปาก+จมูกหนาๆ ด้วยในการเที่ยวในวังเวียง
7. ปลั๊กของที่ลาวก็เหมือนของไทยนี่แหละ เป็นแบบ 2 ขาแบน
8. สะพานไม้ข้ามแม่น้ำสองในวังเวียง ข้ามฟรีได้ แต่ต้องรอเนียนเป็นคนพื้นที่ไปกับพวกมอไซด์คนลาว
9. ของที่เห็นติดราคาส่วนมากเป็นราคานักท่องเที่ยว ถ้าอยากได้ถูกกว่านั้นแนะนำว่าอย่าให้เขารู้ว่าเราเป็นคนไทย หรือผูกมิตรกับคนลาวให้เขาพาเราไปเที่ยว อย่างเฝอชามละ 20k แต่คนท้องถิ่นซื้อไม่ถึง 10k ด้วยซ้ำ
10. ถ้าจะซื้อ Day Trip ที่วังเวียงที่มีพายเรือคายัก ควรพกแว่นกันแดด เสื้อแขนยาว ครีมกันแดดไปด้วย
11. Zipline ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตอนแรกเราก็กะจะตัดออกเพราะไม่เคยเล่น แต่เอาจริงๆ มันสนุกมว๊ากก
12. ซากุระบาร์(ผับขึ้นชื่อในวังเวียง) จะมีความเป็น Local และส่วนมากจะมีคนเกาหลีเข้าไปเยอะมากๆ ปิดเพลงประมาณเกือบเที่ยงคืน ส่วน Viva Pub ปิดประมาณตี 3 แต่ลักษณะจะเป็นสไตล์ผับฝรั่งมากกว่า
13. ชีวิตกลางคืนในหลวงพระบางนอกจากตลาดมืดแล้ว สำหรับสายดื่ม ที่ๆ คนไปกันเยอะๆ เลยคือ Full Moon (โซนแอร์) กับดาวฟ้า ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน มีทั้งนั่งชิลและก็ผับเต้นเลย และตรงซุปเปอร์ ใกล้กับดาวฟ้าจะมีร้านลับ คาราโอเกะสำหรับผู้ใหญ่อยู่ด้วย
14. ร้านนวดที่ลาวจะมีการนวดหัวด้วย ซึ่งที่ไทยไม่มี แนะนำเลยไปลาวเข้าร้านนวด และถ้าอยากฟินสุดๆ ให้เลือกนวดหัว+ไหล่หรือหลัง
15. ถ้าปลายทางที่เที่ยวคือหลวงพระบาง และเลือกวิธีกลับ กทม โดยการนั่งเครื่องบินหรือรถทัวร์จากจังหวัดไหนซักแห่งในไทย แนะนำให้นั่งรถทัวร์จากหลวงพระบางมาที่เลย เพราะถนนดี ใกล้ที่สุด และได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วย อย่าเลือกมาน่านแบบเรา เพราะถนนสายใหม่ตอนนี้ยังไม่เสร็จ ใช้เวลา 8 ชม. เท่าเดิม
ปล. รูปในกระทู้นี้ถ่ายจากกล้อง Sony RX100M3 ทั้งหมด
[CR] ลุยเดี่ยวลาว วังเวียง-หลวงพระบาง แอดเวนเจอร์แอนด์สโลว์ไลฟ์ครบรสชาติ ใน 6 วัน 5 คืน
แต่เอาจริงๆ ไม่ค่อยอยากนับเท่าไหร่ว่าเป็นทริป ตปท ครั้งแรก เพราะลาวถือเป็นประเทศที่ง่ายที่สุดแล้ว เหมือนกับเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่ปาน เพราะคนลาวเหนือเขาก็พูดไทยได้ เนื่องจากเขาก็ดู TV ช่องไทยอะเนอะ ต่างจากไทยแค่ป้ายต่างๆ ในประเทศเขาเป็นภาษาลาวที่คนไทยอย่างเรา อ่านออกบ้างไม่ออกบ้าง นอกนั้นก็เหมือนเที่ยวต่างจังหวัดในไทยเด๊ะๆ เลย
เอาล่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่า ประเทศนี้รีวิวหาอ่านได้เยอะแยะอยู่แล้วเนอะ แต่เราจะเขียนไปในเชิงไดอารี่ซะมากกว่า ดังนั้นเราจะเขียนแพลนย่อก่อนว่าแต่ละวันเราทำอะไรบ้างเหมือนสารบัญของรีวิวจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งไล่หาอ่านตรงจุดที่ต้องการ และที่สำคัญมีสรุปค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดยิบไว้ที่ตอนท้าย เผื่อใครอยากรู้ว่าแต่ละที่ใช้งบเท่าไหร่บ้าง ก็ใช้ค่าใช้จ่ายเรานี่แหละเป็นดัชนีในการตัดสินใจ ซึ่งในช่วงที่เราไปคือวันที่ 5-10 Dec 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวมว๊ากกก อุณหภูมิในตอนเช้านี้เลขตัวเดียวทุกวันเลย ใครจะไปช่วงนี้เตรียมชุดกันหนาวหนาๆ มาด้วยเน่ออออ
เรื่องย่อของทริปลาว(วังเวียง-หลวงพระบาง)
5 Dec (วังเวียง) ***เดินทาง 4Dec กลางคืน
21.00 – 7.00 ออกเดินทางจาก กทม โดยรถทัวร์หมอชิตไปลงยัง บขส หนองคาย
7.00 – 14.30 หารถต่อไปเองยังเวียงจันทร์-วังเวียง นอนที่ Hostel Real Vang Vieng (นอน3คืน 5-7Dec)
14.30 – 24.00 เช่ามอไซด์จากหน้า Hostel จะไปน้ำตกตาดแก่งยุ้ย แต่ไปไม่ถึงทางแย่มาก เลยกลับมาเดินตลาดคนเดินและต่อซากุระบาร์
6 Dec (วังเวียง)
7.00 – 12.15 แว๊นมอไซด์ไปขึ้นผาเงินเดินขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 9 โมง ถึงยอดจุดที่ 2 และ 3 ประมาณ 10 โมงนิดๆ (ใช้เวลาเดินขึ้น 1.10Hour) และเดินลงมาถึงข้างล่างเวลา 11.30น.
12.15 - 13.20 แว๊นมอไซด์ไปต่อยังผาหนามไซ เดินขึ้นประมาณ 20 นาที
13.20 - 15.15 แว๊นไปต่อบลูลากูน 3 ถึงเวลา 14.15 (ใช้เวลา 1 ชั่วโมงนิดๆ กับระยะทาง เกือบ 10 โล ทางเน่ามากๆๆๆๆ) อยู่ถึงประมาณบ่าย 3 นิดๆ ก็กลับ
15.15 - 17.20 แว๊นกลับมายังบลูลากูน 1 ถึงประมาณ 16.20 ซึ่งเป็นทางผ่านอยู่ใกล้ๆ ผาหนามไซ จากนั้นแว๊นกลับที่พัก ซึ่งทางผ่านจะมีบอลลูนด้วยนะ
17.20 – 24.00 ต่อถนนคนเดิน และซากุระบาร์เหมือนเดิม
7 Dec (วังเวียง)
9.00 – 17.00 ซึ้อ Day Trip พายเรือคายัก จากตอนบนของแม่น้ำสองลงมายังเมืองวังเวียง ระหว่างทางแวะลอยห่วงยางเข้าถ้ำนางฟ้า และพายต่อมากินข้าวเที่ยงที่ริมแม่น้ำตรงในเมือง จากนั้นไปบลูลากูน 2 ไปเล่น Zipline และก็เล่นน้ำประมาณเกือบชั่วโมงก็กลับมายังที่พัก
17.00 – 23.00 กลับมาปวดตัวมากก็ไปนวดลาวร้านตรงข้าม Viva Pub จากนั้นก็ได้เพื่อนใหม่จาก Day Trip ไปหารค่าหมูกระทะ และก็ไปช็อปปิ้งที่ตลาดคนเดิน ต่อซากุระบาร์เช่นเคย
8 Dec (หลวงพระบาง)
7.20 – 9.00 เดินจากที่พักไปสะพานส้ม และก็ถ้ำจัง
9.00 – 14.00 เดินทางโดยรถตู้จากวังเวียงถึงหลวงพระบาง ใช้เวลาประมาณเกือบ 5 ชั่วโมง
14.00 – 21.00 เดินเล่น Slow Life ในเมือง จากนั้นเย็นๆ ก็ไปตลาดมืดที่หลวงพระบาง
9 Dec (หลวงพระบาง)
7.00 – 10.00 เช่ามอไซด์ตอนเช้าไปขึ้นพระธาตุภูศรีประมาณ 8 โมง จากนั้นลงมาต่อพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง
10.00 – 15.00 แว๊นไปยังน้ำตกกว่างสี และก็แวะสวนผีเสื้อระหว่างทางตอนกลับ
15.00 – 24.00 เดินเล่นสโลไลฟ์ริมแม่น้ำโขง และก็เดินเก็บเข้าวัดแถวๆ นั้น ตกเย็นไปเดินเล่นตลาดมืด และเดินไปต่อยังดาวฟ้าบาร์ประมาณ 3 โล (มีทั้งโซนนั่งชิลและโซนแดนซ์)
10 Dec (วันเดินทางกลับต่อ จ.น่าน)
7.00 – 16.30 ออกเดินทางจากหลวงพระบางโดยรถ บขส. ไทย หลวงพระบาง-น่าน ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง (รถออก บขส. ออก 8.30น แต่รถมารับไปที่พักตอน 7.00น ไปยังขนส่งสายใต้หลวงพระบาง)
16.30 – 21.00 เดินเล่นจาก บขส น่าน ไปยังสนามบินน่าน เดินเที่ยวชิลๆ ตามวัดในน่านนิดหน่อยจากนั้นบินกลับ กทม. เป็นอันจบทริป
ข้อแนะนำสำหรับทริป
อันนี้ขอพูดเป็นข้อแนะนำจากความผิดพลาด และข้อควรรู้ ข้อมูลทั่วไปที่เราไปเจอในทริปจะดีกว่า เพราะอย่างที่บอกตอนต้นว่าเที่ยวลาวก็คล้ายๆ เที่ยวต่างจังหวัดแหละ ถ้าเตรียมตัวไม่ดีก็เฟลได้ไม่ต่างจากคนไทยเที่ยวไทย
1. การเดินทางมายังวังเวียง ควรมาโดย บขส (ตอนเราไปซื้อหน้างานตั๋วเต็ม) โดยสามารถจอง Online ได้ ซึ่งรอบรถที่ออกมาจาก บขส อุดร คือ 7 โมง มีรอบเดียวต่อวัน แต่ถ้าไม่ทันหรือไม่รู้จริงๆ แบบเรา สเตปการเดินทางก็คือให้ไปยัง บขส หนองคาย > ต่อสกายแลป 80 บาท ไปยังสะพานไทยลาว > นั่งรถเมล์จากด่านข้ามสะพาน 20 บาท ไปลงฝั่งลาว > ต่อรถเมล์คล้ายๆ รถ ปอ. บ้านเรา ไปลงยังตลาดเช้าบอกจุดลงกับกระเป๋ารถเมล์ได้ 8,000กีบ > นั่งรถสาย 08 ไปยังขนส่งสายเหนือ > นั่งรถจากสายเหนือไปยังวังเวียง
2. การแลกเงินลาว แนะนำให้แลกจากไทยไปก่อนเลย ไม่แน่ใจที่ไหนมีบ้าง แต่ที่ Super rich ตรงข้าม CTW มีแน่นอน และจะได้เรทดีกว่าแลกที่ด่านด้วย ซึ่งถ้าไม่รู้แลกไปเท่าไหร่ ก็แลกไปมาตรฐาน 5,000 บาทก่อน ถ้าไม่พอที่หลวงพระบางตรงตลาดมืดมีที่แลกอยู่หลายร้านเลย ซึ่งเรทที่เราจะใช้ตลอดรีวิวนี้คือ 1 BAHT=300KIB ง่ายๆ คือของราคากีบ ให้หาร 300 ทุกอย่างก็เป็นเงินไทยละ และที่สำคัญพยายามจ่ายทุกอย่างเป็นกีบ เพราะช่วงนี้เงินบาทแข็ง เราใช้เงินที่แลกมาจะได้มูลค่าที่มากกว่า ตัวอย่างจริงที่เจอคือเสื้อในลาวตัวละ 100 บาท ซื้อกีบ 25,000 กีบ หรือหมูไม้ละ 40 บาท จ่ายกีบได้ 10,000 กีบเป็นต้น
3. อย่าไปกับพวกรถรับจ้างที่ดักตามตลาด ด่านหรือขนส่งในลาว เพราะพวกนี้คิดเหมาแพง และขี้โกงด้วย อย่างเราโดนรถตู้จากเวียงจันทร์ไปวังเวียง โดนไป 350 บาท คนเดียว แต่คนอื่นได้ราคา 250 บาท
4. จะซื้อ Day Trip หรือตั๋วรถไปตามเมืองต่างๆ ให้ซื้อข้างนอกตามร้าน Agent และให้ถามราคาเทียบหลายๆ ร้าน ห้ามซื้อกับที่พัก เพราะมันจะบวกชาร์ทไปเยอะมาก อย่างเราได้ตั๋ววังเวียง-หลวงพระบาง 70k แต่พวกที่ซื้อกับที่พักโดนไป 110k
5. ถ้าคุณไปถึงวังเวียงในวันแรกและอยากรีบเก็บที่เที่ยว ควรรีบเดินหรือเช่ามอไซด์ไปสะพานส้ม+ถ้ำจังก่อน เพราะที่นี่ปิด บ่าย 4 ซึ่งถ้าเดินทางแบบข้อ 1 ก็น่าจะถึงประมาณ บ่าย 2 นิดๆ
6. ในทริปนี้ที่วังเวียงเรามีไปน้ำตกตาดแก่งยุ้ยกับบลูลากูน 3 ซึ่งจะบอกว่าทั้ง 2 ที่ทาง เชรี่ยมากๆ ถนนเน่าตลอดเส้นทาง อย่าเห็นว่า 6 โล 9 โล ระยะมันสั้นๆ นะ ถ้าไม่ใช้ Buggy (รถ4ล้อวิบาก) นี่จะใช้เวลานานมากๆ เพราะถนนเป็นดินลูกรังรถวิ่งทีฝุ่นฟุ้งเลย แนะนำหาผ้าปิดปาก+จมูกหนาๆ ด้วยในการเที่ยวในวังเวียง
7. ปลั๊กของที่ลาวก็เหมือนของไทยนี่แหละ เป็นแบบ 2 ขาแบน
8. สะพานไม้ข้ามแม่น้ำสองในวังเวียง ข้ามฟรีได้ แต่ต้องรอเนียนเป็นคนพื้นที่ไปกับพวกมอไซด์คนลาว
9. ของที่เห็นติดราคาส่วนมากเป็นราคานักท่องเที่ยว ถ้าอยากได้ถูกกว่านั้นแนะนำว่าอย่าให้เขารู้ว่าเราเป็นคนไทย หรือผูกมิตรกับคนลาวให้เขาพาเราไปเที่ยว อย่างเฝอชามละ 20k แต่คนท้องถิ่นซื้อไม่ถึง 10k ด้วยซ้ำ
10. ถ้าจะซื้อ Day Trip ที่วังเวียงที่มีพายเรือคายัก ควรพกแว่นกันแดด เสื้อแขนยาว ครีมกันแดดไปด้วย
11. Zipline ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตอนแรกเราก็กะจะตัดออกเพราะไม่เคยเล่น แต่เอาจริงๆ มันสนุกมว๊ากก
12. ซากุระบาร์(ผับขึ้นชื่อในวังเวียง) จะมีความเป็น Local และส่วนมากจะมีคนเกาหลีเข้าไปเยอะมากๆ ปิดเพลงประมาณเกือบเที่ยงคืน ส่วน Viva Pub ปิดประมาณตี 3 แต่ลักษณะจะเป็นสไตล์ผับฝรั่งมากกว่า
13. ชีวิตกลางคืนในหลวงพระบางนอกจากตลาดมืดแล้ว สำหรับสายดื่ม ที่ๆ คนไปกันเยอะๆ เลยคือ Full Moon (โซนแอร์) กับดาวฟ้า ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน มีทั้งนั่งชิลและก็ผับเต้นเลย และตรงซุปเปอร์ ใกล้กับดาวฟ้าจะมีร้านลับ คาราโอเกะสำหรับผู้ใหญ่อยู่ด้วย
14. ร้านนวดที่ลาวจะมีการนวดหัวด้วย ซึ่งที่ไทยไม่มี แนะนำเลยไปลาวเข้าร้านนวด และถ้าอยากฟินสุดๆ ให้เลือกนวดหัว+ไหล่หรือหลัง
15. ถ้าปลายทางที่เที่ยวคือหลวงพระบาง และเลือกวิธีกลับ กทม โดยการนั่งเครื่องบินหรือรถทัวร์จากจังหวัดไหนซักแห่งในไทย แนะนำให้นั่งรถทัวร์จากหลวงพระบางมาที่เลย เพราะถนนดี ใกล้ที่สุด และได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วย อย่าเลือกมาน่านแบบเรา เพราะถนนสายใหม่ตอนนี้ยังไม่เสร็จ ใช้เวลา 8 ชม. เท่าเดิม
ปล. รูปในกระทู้นี้ถ่ายจากกล้อง Sony RX100M3 ทั้งหมด
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้