กาลครั้งหนึ่ง​ปีที่แล้ว

กระทู้สนทนา
เริ่มพิมพ์แล้วน่าจะยาว​ ละนะ​ เอาวะ
กาลครั่งหนึ่ง​ ได้พบใครคนนึงทำให้ฉันสุขใจ​ ขอหยิบท่อนนึงของเพลงมา

การพานพบอันน่าจะเรียกได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ​ กับใครคนนึงซึ่งไม่เคยได้พบ​ ท่ามกลางเรื่องราวอันไม่ปกติธรรมดานัก

คนคนนึงที่ทำให้รู้สึกว่า​ เฮ้ยคนนี้แหละน่าจะใช่

คนนี้แหละที่อยากได้​ คนนี้แหละ

แต่​ พอใจเรามันตั้งต้นไว้อย่างนี้​ มันทำให้ทุกอย่างที่ควรจะเป็น​อย่างที่หวังไม่เกิดขึ้น

ความรู้สึก​ เราปล่อยให้มันเกิดขึ้นมากเกินพอดี

ความคิด​ ก็คิดอะไรมากเกินพอดี

การแสดงออก​ ก็ปล่อยให้มันออกไปมากเกินพอดี

แต่สติและการไต่ตรอง​ กลับ​น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ใช่แล้ว
สุดท้ายเราเองที่เป็นคนทำให้เธอต้องจากไป

เราไม่ได้เข้ามาในนี้มากนักหลังจากวันนั้น​เพราะเข้ามาแล้วมันทำให้คืดถึงเธออยู่เสมอ​

แต่หลังๆเข้ามาเจอคนกล่าวคำว่า​ Move​ on กันเยอะ​
เราเข้าใจคำนี้ดี​ ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก​ เพราะทุกความผิดพลาดหรือความเสียใจของทุกคนต้องการการมูฟออนทั้งนั้น

และเราก็มีชีวิตกับความผิดพลาดและมูฟออนมานับไม่ถ้วน​

เรื่องของเธอ​เราสามารถลืมหรือไม่ใยดีก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก

แต่เราก็เลือกที่จะเก็บเอาไว้​ เลือกที่จะมีความหวัง​แม้จะเป็นความหวังลมๆแล้งๆ

เพราะคำพูดที่เราบอกเธอว่าให้เธอมีความหวังมันผูกมัดเราอยู่

ถ้าเราหมดหวังก็เหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง​
อีกครั้ง

การกระทำของเราที่ทำให้คำพูดของเรามันไร้ความหมายไปคำนึงแล้ว​ คือความไว้ใจ

เราไม่ต้องการให้คำว่า​ ความหวัง​ มันเสียไปจากใจของเธออีกคำนึงแม้ถึงเธอจะไม่รู้ก็ตาม

เราหวังว่าเธอจะไม่หมดหวังในอะไรก็ตามที่เธอต้องการ​และมีความสุขกับมัน

เรายังหวังว่าเธอจะมีความสุข​ ถึงแม้ความสุขนั่นจะไม่มีสักเสี้ยวนึงของเราเลยก็ได้

และเราก็ยังหวังว่าจะได้พบเธออีกครั้ง

หวังว่าจะพบเธอที่​ Move​ on ได้แล้วเช่นกัน

การมีความหวังของเรา​ มันจึงไม่ใช่ว่าเราไม่มูฟออน
ความจริงเรามูฟออนจากความรู้สึกผิด​ หรือเสียใจจากการกระทำของตัวเองไปนานแล้ว

เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้

แต่เสี้ยวนึงในใจที่บอกว่า​ คนนี้แหละใช่
มันไม่หายไปสักที

เรามีชีวิตที่มีความสุขดี
แต่ในเสี้ยวนึงของความสุข​ทุกครั้งมันยังติดอยู่นิดนึงว่า

"เธอจะเป็นยังไงบ้างนะตอนนี้"

อยากรู้จริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่