ทริปหน้าหนาวนี้ เราไปกันที่เมืองน่าน จังหวัดที่เล็ก มีความมินิมอลน่ารัก ผู้คนอัธยาศัยดี
โดยทริปนี้ไปกัน4คน เป็นเวลา3วัน2คืน เริ่มจากตัวเมืองไปดอยเสมอดาวไปปัวไปบ่อเกลือและกลับมาตัวเมืองน่าน
เวลาในทริปถึงจะน้อยแต่เราใช้เวลาได้คุ้มจริงๆ ตามไปดูแพลนเที่ยวของเราเลยจ้าา
Day 1
-แวะทานข้าวซอยต้นน้ำ
-วัดภูมินทร์+ซุ้มลีลาวดี+พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน
-ร้านกาแฟสุดกองดี
-วัดพระธาตุแช่แห้ง
-ดอยเสมอดาว
Day 2 จากดอยเสมอดาวไปปัว
-วัดพระธาตุเขาน้อย
-ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
-ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
-ร้านลำดวนผ้าทอ
-วัดภูเก็ต
-จุดชมวิวสูงสุดดอยภูคา
-ที่พัก มีสะปัน อ.บ่อเกลือ
Day3
-น้ำตกสะปัน
-บ่อเกลือโบราณ
-ร้านกาแฟ ‘29 base’
-เฮือนฮอม
-ร้านกาแฟ ‘Agape’
-ขนมหวานป้านิ่ม
-เดินทางกลับ
มาเริ่มทริปของเรากันเลยจ้า ทริปของเราเดินทางโดยสายการบินAir asia เวลา07.30 ถึง8.50
พอมาถึงสนามบินน่าน เริ่มสัมผัสได้ถึงอากาศหนาวแล้ว ฟินมากกกก~~~
อันดับแรกเราก็ต้องไปกินมื้อเช้าก่อน เริ่มกันที่ข้าวซอยต้นน้ำเลยละกัน
กินอิ่มแล้วเราก็เดินต่อไปที่วัดภูมินทร์ไปไหว้ปู่ม่าน ย่าม่าน กันต่อเลย
จากนั้นก็เดินข้ามไปถ่ายรูปที่ซุ้มลีลาวดี แบบไม่มีดอกก็สวยไปอีกแบบนะ
แวะถ่ายกับพิพิธภัณฑ์สถานขุนน่านสักหน่อย แต่ละที่มันใกล้ๆกัน เดินไปได้สบายๆเลย
สายกาแฟแบบเราก็ต้องหาร้านคาเฟ่สุดฮิตสักหน่อย ไปต่อกันที่ร้านกาแฟสุดกองดี กาแฟอร่อย มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ ในร้านมีจัดรูปนิทรรศการอีกด้วย
ไปต่อที่วัดพระธาตุแช่แห้ง
จากนั้นขับตรงยาวไปที่ดอยเสมอดาวเลยจ้า ค่าเข้าคนละ20บาท รถ30บาท
วันนี้เรามาพักกันที่ไร่ภูสายหมอก
ที่พักของเราด้านหลังติดกับของทางอุทยานเลย สามารถเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและชมวิวข้างหลังได้ ส่วนเย็นวันนี้เราดูพระอาทิตย์ตกจากฝั่งที่พักเราก่อน สวยมากๆๆ
หลังจากมื้อเย็นเราเสร็จเราก็มานั่งด้านล่างกับชาวบ้านขอเขาชาร์ทแบตสักหน่อย ไฟฟ้าที่นี่ใช้ได้ตั้งแต่หกโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม ระหว่างนั่งรอชาร์ทแบต อุณหภูมิตอนนั้นประมาณ8องศา หนาวมือแข็ง เจ้าของที่พักให้เตาถ่านกะมันม่วงมากินระหว่างรอ มันร้อนๆกับอากาศหนาวๆคิดดูจะฟินขนาดไหน>< ขอบคุณเจ้าของที่พักมาก ใจดีมาก ประทับใจเลยค่า❤️
Day 2
ตื่นมาตอน6.30พร้อมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นฝั่งอุทยาน กับอากาศ 8องศา! ท้องฟ้าแดงส้มกับข้างล่างเป็นทะเลหมอก ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้แล้วจ่ะแม่ ><
จากนั้นเราเริ่มออกเดินทางไปปัวต่อ ต้องผ่านตัวเมืองเราเลยแวะที่วัดพระธาตุเขาน้อยตัวเมืองน่านเป็นทางผ่าน สวยมากๆ
ต่อไปมุ่งหน้าจากตัวเมืองน่าน ไปปัวกันต่อ ที่แรกที่เราจะแวะคือ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ร้านอาหารบรรยากาศดี กับอาหารเมนูเห็ด ‘พิซซ่าเห็ดเมนูฮิต’
นอกจากจะขายอาหาร กาแฟแล้วที่นี่ยังมีร้านขายของฝากน่ารักๆอีกด้วย นี่เจ้าของกระทู้โดนไปหลายตัวแล้ววว ก็มันน่ารักจิงๆนิ ☺️
กินข้าวเสร็จเราก็ต้องต่อด้วยกาแฟอีกตามเคย ไปต่อกันที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ สำหรับเรากาแฟเราเฉยๆนะ แต่ร้านวิวสวยเหมาะกะถ่ายรูปอีกแล้ว5555
ด้านหน้าร้านยังมีร้านขายผ้า ชื่อ ลำดวน ผ้าทอ เป็นร้านขายส่ง ขายปลีก ชุดพื้นเมือง บอกเลยถูกมาก ถูกกว่าเชียงใหม่อี๊กกก เสียหายหลายแสนอีกแล้ว5555
ไปๆๆๆ ไปเที่ยวต่อเถอะ นี่ช้อปเยอะไปละ
ต่อมาไปวัดภูเก็ตกัน อยู่ใกล้ๆร้านกาแฟนี่แหละ
วิวมองจากวัดลงไปเป็นร้านขายของotop โอ้ยอคือน่ารักอีกแล้วง่ะเมืองนี้
คืนนี้เราจะไปพักที่สะปันอำเภอบ่อเกลือกัน แต่ระหว่างทางจากปัวไปบ่อเกลือก็แวะไปดอยภูคาถ่ายรูปสักหน่อย ด้านบนเป็นจุดชมวิวและชาวบ้านเอาของกินมาขาย เช่น ข้าวโพดปิ้ง งาขี้ม่อน หนอนรถด่วนสดก็มีจิงๆอยากซื้อมากๆ แต่ไม่กล้าทอดเอง==
นี่ก็คือหนอนรถด่วนแบบเป็นๆ ทั้งกระบอกเนี่ย150บาท คือถูกนะ แต่ไม่กล้าทอดง่ะ 🤣
ไปที่พักกันเถอะ
คืนนี้เรามาพักกันที่ มีสะปัน
ที่พักเราติดลำธาร ราคาเต๊นท์ละ1200บาท นอนได้สองคน รวมอาหารเช้า ห้องน้ำรวมที่สำคัญมีน้ำอุ่น(คืนนี้เราจะได้อาบน้ำกันแล้ว😂)
ที่พักก็คือดีต่อใจอีกแล้ว เต๊นท์ด้านในมีเตียงหมอนผ้าห่มให้พร้อม
กลางคืนอากาศประมาณ9องศา ได้ยินเสียงลำธาร ฟินไปอีกแบบ ☺️
กลางคืนเรากินข้าวที่พักแหละ มีอาหารตามสั่ง มีเบียร์ขาย พร้อมมาก!
เช้าแล้วววว เวลามาเที่ยวจะตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะเราตั้งใจตื่นมาดูหมอกเลย เราเดินจากที่พักำปน้ำตกสะปัน ไปดูหมอกตรงสะพานข้ามแม่น้ำ อากาศดีมาก แหล่งโอโซนชั้นดีเลยแหละ เด็กๆนักเรียนที่เราเดินผ่านสวัสดีเราทุกคน คือที่โรงเรียนสอนมาดีมาก ประทับใจ❤️
‘สะปัน เหมือนเมืองในฝัน’ เลย
จากสะปันเราจะไปต่อที่บ่อเกลือโบราณสินเธาว์
ที่นี่เป็นแหล่งขายเกลือ ขายผ้า เกลือสปาขัดผิว และเราก็ได้ไปเห็นบ่อเกลือจริงๆ
(เกลือสปาเอาขึ้นเครื่องบินไม่ได้นะจ๊ะ) ไม่งั้นต้องโหลดกระเป๋า เพราะเขาบอกเกลือมันจะละลายเป็นน้ำห้ามเอาขึ้น
ปล โดนมาแล้วเอามาเตือนได้5555
จากบ่อเกลือเราจะกลับตัวเมืองน่านโดยใช้เส้นบ่อเกลือ-สันติสุข จะผ่านถนนลอยฟ้าด้วย
ระหว่างทางกลับแวะกินกาแฟร้าน ‘29base’ เป็นร้านเล็กๆ วิวหลักล้าน ราคาหลักสิบ มีกาแฟให้ดริปเองเจ้าของร้านอัธยาศัยดี คุยเก่งมาก สุดท้ายแกจะชวนไปเที่ยวบ้าน5555 เลยเบรคไว้ก่อน พวกหนูต้องกลับวันนี้ค่ะลุง😂
ตรงเข้าตัวเมือง ไปเก็บร้านที่เหลือที่ยังไม่ได้ไป
แล้วเราก็มาทานมื้อเที่ยงๆบ่ายๆที่เฮือนฮอมอาหารเมือง รสชาติอร่อย กินอิ่มแล้วไปแวะร้านเครื่องเงินที่ชมพูภูคา ที่นี่เป็นแหล่งขายเงินที่ขึ้นชื่อ ใครหลงไหลเครื่องเงินต้องมาที่น่าน มาที่แหล่ง ราคาถูกกว่ากรุงเทพเยอะ แถมได้ของดีไปด้วย
เหลือเวลาอีกนิดหน่อย เลยนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินของหวานเลย เราจึงไปกินร้านขนมหวานป้านิ่ม ที่นี่เป็นร้านรวมขนมหวาน อร่อยๆแทบทุกอย่าง แต่ที่เด็ดๆน่าจะเป็นบัวลอยไข่หวาน
กินจนพุงแตก ช้อปจนกระเป๋าแตก สูดอากาศเต็มปอดแล้ว ก็ต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว
น่านเป็นเมืองเล็กๆที่ยังไม่วุ่นวาย ราคาไม่เวอร์วัง ผู้คนเป็นกันเอง ไม่ค่อยเห็นตึกสูงๆเท่าไหร่ เป็นอีกเมืองที่ชอบสุดตั้งแต่เที่ยวเหนือมา
อยากให้ทุกคนมาสัมผัสบรรยากาศ วัฒนธรรมที่เมืองนี้ก่อนที่ความวุ่นวายจะเข้ามา🙂
หนีความวุ่นวายมาสโลไลฟ์ที่ ‘น่าน’
ทริปหน้าหนาวนี้ เราไปกันที่เมืองน่าน จังหวัดที่เล็ก มีความมินิมอลน่ารัก ผู้คนอัธยาศัยดี
โดยทริปนี้ไปกัน4คน เป็นเวลา3วัน2คืน เริ่มจากตัวเมืองไปดอยเสมอดาวไปปัวไปบ่อเกลือและกลับมาตัวเมืองน่าน
เวลาในทริปถึงจะน้อยแต่เราใช้เวลาได้คุ้มจริงๆ ตามไปดูแพลนเที่ยวของเราเลยจ้าา
Day 1
-แวะทานข้าวซอยต้นน้ำ
-วัดภูมินทร์+ซุ้มลีลาวดี+พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน
-ร้านกาแฟสุดกองดี
-วัดพระธาตุแช่แห้ง
-ดอยเสมอดาว
Day 2 จากดอยเสมอดาวไปปัว
-วัดพระธาตุเขาน้อย
-ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
-ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ
-ร้านลำดวนผ้าทอ
-วัดภูเก็ต
-จุดชมวิวสูงสุดดอยภูคา
-ที่พัก มีสะปัน อ.บ่อเกลือ
Day3
-น้ำตกสะปัน
-บ่อเกลือโบราณ
-ร้านกาแฟ ‘29 base’
-เฮือนฮอม
-ร้านกาแฟ ‘Agape’
-ขนมหวานป้านิ่ม
-เดินทางกลับ
มาเริ่มทริปของเรากันเลยจ้า ทริปของเราเดินทางโดยสายการบินAir asia เวลา07.30 ถึง8.50
พอมาถึงสนามบินน่าน เริ่มสัมผัสได้ถึงอากาศหนาวแล้ว ฟินมากกกก~~~
อันดับแรกเราก็ต้องไปกินมื้อเช้าก่อน เริ่มกันที่ข้าวซอยต้นน้ำเลยละกัน
กินอิ่มแล้วเราก็เดินต่อไปที่วัดภูมินทร์ไปไหว้ปู่ม่าน ย่าม่าน กันต่อเลย
จากนั้นก็เดินข้ามไปถ่ายรูปที่ซุ้มลีลาวดี แบบไม่มีดอกก็สวยไปอีกแบบนะ
แวะถ่ายกับพิพิธภัณฑ์สถานขุนน่านสักหน่อย แต่ละที่มันใกล้ๆกัน เดินไปได้สบายๆเลย
สายกาแฟแบบเราก็ต้องหาร้านคาเฟ่สุดฮิตสักหน่อย ไปต่อกันที่ร้านกาแฟสุดกองดี กาแฟอร่อย มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ ในร้านมีจัดรูปนิทรรศการอีกด้วย
ไปต่อที่วัดพระธาตุแช่แห้ง
จากนั้นขับตรงยาวไปที่ดอยเสมอดาวเลยจ้า ค่าเข้าคนละ20บาท รถ30บาท
วันนี้เรามาพักกันที่ไร่ภูสายหมอก
ที่พักของเราด้านหลังติดกับของทางอุทยานเลย สามารถเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและชมวิวข้างหลังได้ ส่วนเย็นวันนี้เราดูพระอาทิตย์ตกจากฝั่งที่พักเราก่อน สวยมากๆๆ
หลังจากมื้อเย็นเราเสร็จเราก็มานั่งด้านล่างกับชาวบ้านขอเขาชาร์ทแบตสักหน่อย ไฟฟ้าที่นี่ใช้ได้ตั้งแต่หกโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม ระหว่างนั่งรอชาร์ทแบต อุณหภูมิตอนนั้นประมาณ8องศา หนาวมือแข็ง เจ้าของที่พักให้เตาถ่านกะมันม่วงมากินระหว่างรอ มันร้อนๆกับอากาศหนาวๆคิดดูจะฟินขนาดไหน>< ขอบคุณเจ้าของที่พักมาก ใจดีมาก ประทับใจเลยค่า❤️
Day 2
ตื่นมาตอน6.30พร้อมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นฝั่งอุทยาน กับอากาศ 8องศา! ท้องฟ้าแดงส้มกับข้างล่างเป็นทะเลหมอก ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้แล้วจ่ะแม่ ><
จากนั้นเราเริ่มออกเดินทางไปปัวต่อ ต้องผ่านตัวเมืองเราเลยแวะที่วัดพระธาตุเขาน้อยตัวเมืองน่านเป็นทางผ่าน สวยมากๆ
ต่อไปมุ่งหน้าจากตัวเมืองน่าน ไปปัวกันต่อ ที่แรกที่เราจะแวะคือ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ร้านอาหารบรรยากาศดี กับอาหารเมนูเห็ด ‘พิซซ่าเห็ดเมนูฮิต’
นอกจากจะขายอาหาร กาแฟแล้วที่นี่ยังมีร้านขายของฝากน่ารักๆอีกด้วย นี่เจ้าของกระทู้โดนไปหลายตัวแล้ววว ก็มันน่ารักจิงๆนิ ☺️
กินข้าวเสร็จเราก็ต้องต่อด้วยกาแฟอีกตามเคย ไปต่อกันที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ สำหรับเรากาแฟเราเฉยๆนะ แต่ร้านวิวสวยเหมาะกะถ่ายรูปอีกแล้ว5555
ด้านหน้าร้านยังมีร้านขายผ้า ชื่อ ลำดวน ผ้าทอ เป็นร้านขายส่ง ขายปลีก ชุดพื้นเมือง บอกเลยถูกมาก ถูกกว่าเชียงใหม่อี๊กกก เสียหายหลายแสนอีกแล้ว5555
ไปๆๆๆ ไปเที่ยวต่อเถอะ นี่ช้อปเยอะไปละ
ต่อมาไปวัดภูเก็ตกัน อยู่ใกล้ๆร้านกาแฟนี่แหละ
วิวมองจากวัดลงไปเป็นร้านขายของotop โอ้ยอคือน่ารักอีกแล้วง่ะเมืองนี้
คืนนี้เราจะไปพักที่สะปันอำเภอบ่อเกลือกัน แต่ระหว่างทางจากปัวไปบ่อเกลือก็แวะไปดอยภูคาถ่ายรูปสักหน่อย ด้านบนเป็นจุดชมวิวและชาวบ้านเอาของกินมาขาย เช่น ข้าวโพดปิ้ง งาขี้ม่อน หนอนรถด่วนสดก็มีจิงๆอยากซื้อมากๆ แต่ไม่กล้าทอดเอง==
นี่ก็คือหนอนรถด่วนแบบเป็นๆ ทั้งกระบอกเนี่ย150บาท คือถูกนะ แต่ไม่กล้าทอดง่ะ 🤣
ไปที่พักกันเถอะ
คืนนี้เรามาพักกันที่ มีสะปัน
ที่พักเราติดลำธาร ราคาเต๊นท์ละ1200บาท นอนได้สองคน รวมอาหารเช้า ห้องน้ำรวมที่สำคัญมีน้ำอุ่น(คืนนี้เราจะได้อาบน้ำกันแล้ว😂)
ที่พักก็คือดีต่อใจอีกแล้ว เต๊นท์ด้านในมีเตียงหมอนผ้าห่มให้พร้อม
กลางคืนอากาศประมาณ9องศา ได้ยินเสียงลำธาร ฟินไปอีกแบบ ☺️
กลางคืนเรากินข้าวที่พักแหละ มีอาหารตามสั่ง มีเบียร์ขาย พร้อมมาก!
เช้าแล้วววว เวลามาเที่ยวจะตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะเราตั้งใจตื่นมาดูหมอกเลย เราเดินจากที่พักำปน้ำตกสะปัน ไปดูหมอกตรงสะพานข้ามแม่น้ำ อากาศดีมาก แหล่งโอโซนชั้นดีเลยแหละ เด็กๆนักเรียนที่เราเดินผ่านสวัสดีเราทุกคน คือที่โรงเรียนสอนมาดีมาก ประทับใจ❤️
‘สะปัน เหมือนเมืองในฝัน’ เลย
จากสะปันเราจะไปต่อที่บ่อเกลือโบราณสินเธาว์
ที่นี่เป็นแหล่งขายเกลือ ขายผ้า เกลือสปาขัดผิว และเราก็ได้ไปเห็นบ่อเกลือจริงๆ
(เกลือสปาเอาขึ้นเครื่องบินไม่ได้นะจ๊ะ) ไม่งั้นต้องโหลดกระเป๋า เพราะเขาบอกเกลือมันจะละลายเป็นน้ำห้ามเอาขึ้น
ปล โดนมาแล้วเอามาเตือนได้5555
จากบ่อเกลือเราจะกลับตัวเมืองน่านโดยใช้เส้นบ่อเกลือ-สันติสุข จะผ่านถนนลอยฟ้าด้วย
ระหว่างทางกลับแวะกินกาแฟร้าน ‘29base’ เป็นร้านเล็กๆ วิวหลักล้าน ราคาหลักสิบ มีกาแฟให้ดริปเองเจ้าของร้านอัธยาศัยดี คุยเก่งมาก สุดท้ายแกจะชวนไปเที่ยวบ้าน5555 เลยเบรคไว้ก่อน พวกหนูต้องกลับวันนี้ค่ะลุง😂
ตรงเข้าตัวเมือง ไปเก็บร้านที่เหลือที่ยังไม่ได้ไป
แล้วเราก็มาทานมื้อเที่ยงๆบ่ายๆที่เฮือนฮอมอาหารเมือง รสชาติอร่อย กินอิ่มแล้วไปแวะร้านเครื่องเงินที่ชมพูภูคา ที่นี่เป็นแหล่งขายเงินที่ขึ้นชื่อ ใครหลงไหลเครื่องเงินต้องมาที่น่าน มาที่แหล่ง ราคาถูกกว่ากรุงเทพเยอะ แถมได้ของดีไปด้วย
เหลือเวลาอีกนิดหน่อย เลยนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินของหวานเลย เราจึงไปกินร้านขนมหวานป้านิ่ม ที่นี่เป็นร้านรวมขนมหวาน อร่อยๆแทบทุกอย่าง แต่ที่เด็ดๆน่าจะเป็นบัวลอยไข่หวาน
กินจนพุงแตก ช้อปจนกระเป๋าแตก สูดอากาศเต็มปอดแล้ว ก็ต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว
น่านเป็นเมืองเล็กๆที่ยังไม่วุ่นวาย ราคาไม่เวอร์วัง ผู้คนเป็นกันเอง ไม่ค่อยเห็นตึกสูงๆเท่าไหร่ เป็นอีกเมืองที่ชอบสุดตั้งแต่เที่ยวเหนือมา
อยากให้ทุกคนมาสัมผัสบรรยากาศ วัฒนธรรมที่เมืองนี้ก่อนที่ความวุ่นวายจะเข้ามา🙂