ลูกสาวอยากเรียนหมอ คนเป็นพ่อแม่ควรเตรียมตัวอย่างไรให้ลูกได้สมใจ

ลูกสาวอยู่ ม.3 อยากเรียนหมอมาตั้งแต่เด็กๆ 

เกรดการเรียนก็ค่อนข้างดี ถึงม.3 เทอมแรก เกรดเฉลี่ย 3.6
เป็นลูกคนเดียว เริ่ม ม.1 ก็เริ่มจัดการเรื่องเรียนเองได้แล้ว
พ่อแม่ไม่ต้องช่วยติวหมือนตอนประถมแล้ว

เรียนพิเศษเสริมก็ไม่มีนะ เน้นเล่นกีฬา ซ้อมเทนนิสเป็นประจำ
ลงแข่งบ่ออยู่ แต่ผลยังไม่ค่อยดี ส่วนใหญ่ใจจะไม่ค่อยนิ่งพอ

อยากถามพ่อแม่ที่มีประสบการณ์ หรือน้องๆที่เรียนหมออยู่
ที่อยากแนะนำให้พ่อแม่ของน้องๆที่สนใจ ควรทำอย่างไรบ้าง
เพื่อเตรียมตัวให้ฝันของน้องเป็นจริง

อีกใจนึงก็กลัวว่าลูกจะเครียดกับการเรียนหมอ และกลัวลูกจะไปไม่ถึงด้วย
เลยอยากให้ลองดูวิชาอื่นๆที่ใกล้เคียง อย่างเภสัช ทันต หรือเทคนิคการแพทย์แทน

รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะครับ เพื่อเป็นการเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้าน่ะครับ
 ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ตอนนี้ลูกเรียนเเพทย์ที่จีน​  โดยครูพี่เอเเนะนำไปเรียน​ เพราะ​ครูพี่เอเป็นกรรมการมหาวิทยาลัยที่ไทยเเละ มีคอนเนคชั่นกับทางจีนด้วย
เลยเเนะนำลูกสาวให้ไป​ ตอนเเรกเเม่ก็กลัวว่าจบมาจะสอบใบประกอบไม่ได้​  เเต่พอมาคุยกับครูพี่เอเเล้วเลยมั่นใจ​ว่าครูอยู่ในระบบสอนเด็กเป็นหมอได้จริง​  อยากมาเเนะนำค่ะ​  ครูพี่เอมีทุนของเเพทย์ต่างประเทศเเบบเต็มจำนวนด้วย​ ที่​ ม.ซีอาน​ อันดับโลกดีกว่าของไทยนะคะ​  ลูกสาวเรียนที่นั่นเเล้วชอบมาก​  เก่งเเละเเกร่งขึ้น​ ลองไปคุยดูนะคะ​ สำหรับเด็กๆที่อยากเป็นหมอ​ หมอฟัน
ความคิดเห็นที่ 11
อยากแนะนำคุณพ่อคุณแม่ให้ลองพาน้องไปเข้าค่ายพวกของหมอค่ะ เช่น ค่ายเตรียมแพทย์ ค่ายปั้นหมอ ค่ายหมออาสา จะเป็นแนวทางให้น้องได้ค่ะ ส่วนตัวเคยพาลูกไปของ ปั้นหมอ Academy - ศูนย์แนะแนวเด็กเตรียมแพทย์ ที่นี่ค่ะ จะเปิดประสบการณ์ และปูแนวทางให้กับน้องได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ถ้าน้องชอบที่จะเป็นหมอจริงๆ ละเขาก็มีโรงเรียนเตรียมแพทย์ของเขาเอง เลยมีอาจารย์หมอเก่งๆ มีอุปกรณ์การแพทย์ มีห้องแล็บแพทย์ น้องจะสามารถวางแผนตัวเองได้ค่ะ ว่าจะต้องทำยังไง เรียนด้านไหน เตรียมตัวอย่างไรบ้างค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
ผมให้ลูกเรียนเตรียมความพร้อมตั้งแต่ ม.5 เรียนพิเศษที่สถาบันmath-science ที่นี่เค้าเด่นเรื่องติวสอบแพทย์โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้หลานผมก็เรียนที่นี่ สอบติดหมอไปแล้วคนนึง เลยเลือกให้ลูกเรียนที่นี่เพราะน่าเชื่อถือ อาจารย์แต่ละคนก็ระดับประเทศ ราคาเข้าโครงการตลอดไปจนถึงค่าเรียนต่อเดือนก็ราคาไม่แรง ตอนที่ผมเข้าไปปรึกษาเรื่องคอร์สเรียนที่สถาบัน ครูเค้าก็มีช่วยการวางแผนตารางเรียนให้ ว่าลูกเราควรเรียนอะไร หรือเน้นวิชาไหน เทอม.นี้เรียนวิชาไรบ้าง ปีหน้าจะต้องลงคอร์สไหน ทำให้เราเห็นภาพว่าเค้าจะช่วยติว ช่วยสอนลูกเราไปในทางไหน อย่างผมตอนไปปรึกษาคอร์สเรียน พาลูกไปด้วย เค้าก็จะได้รู้ว่าตัวเองจะต้องเรียนอะไรบ้าง และหนักเกินไปไหมสำหรับเค้า

ช่วงที่ลูกจะสอบเข้าแพทย์ ไม่ใช่แค่ลูกที่เหนื่อยครับ คนเป็นพ่อแม่แบบเรา พอเห็นลูกเหนื่อยหรือท้อ ก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย แต่ลูกผมเค้าบอกว่า เหนื่อยแต่ไหว เพราะอย่างน้อยก็อ่านหนังสือเข้าใจดี ไม่มึนหรืองงจนหาทางออกไม่เจอ ที่เรียนพิเศษก็ช่วยเยอะ พอเค้าเจอปัญหา มีที่ปรึกษาให้เค้า อะไรๆมันก็ผ่านไปได้ง่ายขึ้นครับ จนปีที่แล้ว ลูกผมก็สอบติดแพทย์ คนเป็นพ่ออย่างเราก็ภูมิใจไปด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่