สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ผมกลับมาอีกแล้วครับหลังจากที่คราวก่อนมาทำธุระแถวบางกรวยแล้วได้พบกับศูนย์การเรียนรู้สำนักงานกลาง กฟผ. แต่ยังไม่ได้เข้าไปชมแบบเต็มสูบ ตามที่ได้เขียนไว้ในกระทู้นี้เลยครับ
https://ppantip.com/topic/39472575 เมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมาผมก็เลยตัดสินใจไปงาน Music at the Museum ที่วันนั้นน้องพนักงานแนะนำมา วันนี้ก็เลยจะมารีวิวให้อ่านกันครับ
ด้วยความที่งาน Music at the Museum ตามโปสเตอร์ที่เห็นมาเริ่มงานประมาณ 4 โมงครึ่ง ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะไปดูบรรยากาศตั้งแต่แรก ๆ ซะหน่อย ถ้าเผื่อว่าไม่น่าสนใจอาจจะกลับ555 หลังจากฝ่าการจราจรมาบนรถเมล์สาย 50 มาถึงเกือบ ๆ 5 โมงครึ่ง ผมก็เดินต่อมาอีกนิดเพื่อไปยังศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลางครับ (แอบตกใจนิดหน่อย เหมือนเห็นหิมะตกในงาน แต่ในแถบนนทบุรีนี่ไม่น่ามี555)
พอเข้ามาจากประตูใหญ่ก็จะต้องผ่านจุดตรวจค้นครับ แล้วเราก็จะได้รับสติ๊กเกอร์แปะเพื่อเข้าร่วมงาน แถมมีการแจกช้อนสแตนเลสให้ฟรี ๆ ด้วยครับคนละคัน ด้วยความสงสัยก็เลยถามน้องเจ้าหน้าที่ ได้ความว่าเพื่อให้เข้ากับธีมรักษ์โลกครับ ก็คืองดช้อนพลาสติก งดแก้วน้ำพลาสติกนั่นเอง (จริง ๆ ถ้าแจกแก้วน่าจะดีนะ555)
พอเข้ามาก็จะพบกับวงดนตรีของทาง กฟผ. อยู่หน้าบ้านเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ที่เรียกว่าบ้านรักษ์พลังงาน แล้วก็จะมี Backdrop มีป้ายปีใหม่สวย ๆ มีเป็นเหมือนอุโมงค์ไฟด้วยครับ แต่ผมกะว่าจะรอมืด ๆ ก่อนแล้วค่อยถ่าย เพราะถ่ายตอนมีแสงไม่น่าจะสวยมาก
และไฮไลท์สำคัญที่โดดเด่นเป็นสง่าและเห็นได้ตั้งแต่เดินเข้าประตูใหญ่ก็คือ...ต้นคริสต์มาสยักษ์!!! สวยงามมาก ใหญ่สมใจเลยทีเดียว
ซึ่งพอประมาณห้าโมงครึ่งก็มีพิธีเปิดงานโดยผู้บริหารจาก กฟผ. ครับ ซึ่งพอเปิดปุ๊บเขาก็มีการปล่อยฟองหิมะออกมาด้วยครับแถมปล่อยตลอดงานเลยด้วย (หิมะที่ผมเห็นตอนแรกก็น่าจะมาจากตอนเขาซ้อม) เลยทำให้บรรยากาศมีความขาวโพลน สวยเข้าไปใหญ่ เหมือนอยู่ในเมืองหนาว (ซึ่งวันที่ผมไปอากาศมันอุ่นขึ้นมาหน่อย ทำให้ไม่ถึงกับหนาวมาก แต่ก็มีลมพัดโกรกพอให้เย็นสบายตลอด งั้นผมจะตีขลุมว่าผมอยู่เมืองหนาวละกันครับ555)
บรรยากาศที่ศูฯย์การเรียนรู้ตอนเริ่มมืด
อุโมงค์ไฟ ๆ สี ๆ สวย ๆ
ต้นคริสต์มาสแบบมีหิมะตก ดูหนาว555
ถ่ายรูปไปพอประมาณผมก็เริ่มอยากหาอะไรกิน ก็เลยเดินไปในโซนที่เป็น Food Truck ซึ่งมีร้านค้าให้เลือกน่าจะเกือบ 20 ร้านเลยทีเดียว จะคาวหวาน น้ำเนิ้มอะไรมีหมดเลยครับ สามารถเดินกินเพลิน ๆ หรือจะซื้อไปนั่งกินตามโต๊ะที่ตั้งไว้ในงานก็ได้ครับ (แต่ค่อนข้างมีความแย่งชิงกัน ลุกทีก็คือเสียม้าแน่นอน555)
สำหรับ Food Truck ที่มาในงานนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังนะครับ เพราะราคาโอเค รสชาติอร่อย ร้านที่มามีเยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว มีร้าน อิ่มหมี, Mafia Burger, หมาล่าเนื้อ, ไก่ทอดนายทร, Ton-Tor Homemade Ice Cream, แมวหิว และอีกมากมายครับ (ร้านที่ลิสต์มาก็คือร้านที่มีโอกาสได้กินนั่นเองครับ ประทับใจจนจำได้555)
คนเยอะอยู่นะ
พอกินเสร็จก็เริ่มมืด ๆ แล้วครับ ก็เลยเดินถ่ายรูปไปเรื่อยพักหนึ่ง
และแน่นอนว่าที่จะขาดไปไม่ได้ ความตั้งใจดั้งเดิมของผมก็คือการเข้าชมนิทรรศการในศูนย์การเรียนรู้ครับ ดังนั้น ไปกันเลย!
ขั้นแรกก็ลงทะเบียน รับ Passport ซึ่งเอาไว้ชิงโชคได้ในตอนท้ายครับ (ซึ่งตรงนี้จะนับเป็นจุดแรก ไม่ใช่โซนที่ 1 ตามปกตินะครับ เพราะเราจะไม่ได้สร้าง avatar กับไม่ได้รับสายรัดข้อมืออัจฉริยะ) จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปชั้น 2 ครับ
โดยทีมงานจะจัดให้เราเข้ามาที่โซนที่สอง "จากแสงแรกสู่แสงนิรันดร์" เป็นห้องภาพยนตร์ 4D เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นสนุก ๆ บอกเล่าที่มาของพลังงานไฟฟ้า แสงสว่าง แบบมิวสิคัลหน่อย ๆ คือนอกจากการ์ตูนจะสวยแล้ว เพลงยังเพราะติดหูมากด้วย (แสงแรกกก~~~ สู่แสงนิรันดร์~)
นึกถึงเรื่อง Wall-E เลยครับ
จอใหญ่ ภาพสวย เพลงเพราะ
จากนั้นก็ไปต่อที่โซนที่สาม "คืนสู่สมดุล" หลัก ๆ จะเน้นไปทางเล่นเกมเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานอะไรทำนองนี้
ผมชอบอันนี้มาก เหมือนได้เตือนสติตัวเอง
อันนี้อยู่ในโซนที่ 3 เช่นกัน เป็นต้นไม้ที่ปลูกด้วยแสงไฟ LED ครับ ปกติมีแต่ภาพช่วงกลางวัน อันนี้กลางคืนคือไฟสวยมาก
โซนที่สี่ "สายน้ำแห่งความภูมิใจ" เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา การอนุรักษ์น้ำ ผ่านงานศิลปะครับ เป็นคล้าย ๆ ภาพวาด แล้วก็จะมีเสียงบรรยายเรื่องราวไปตามภาพ
โซนที่ห้า "นวัตกรรมเพื่อชีวิต" เป็นเหมือนทางเดินอัจฉริยะ เพราะไม่ว่าเราจะแตะตรงไหนของกำแพง ก็จะมีกราฟิกมีลูกเล่นมีคำบรรยายให้ทั้งหมดเลย ซึ่งผมก็ไม่ได้ลองแตะทุกจุด แต่ว่าว้าวมาก ๆ ครับกับโซนนี้
โซนที่หก "โลกที่ยั่งยืน" จะมีเกมให้เล่นหลาย ๆ รูปแบบครับ แต่เหมือนบางอันก็จะไม่ได้เปิด
โซนที่เจ็ด โซนสุดท้าย "แสงนิรันดร์" เหมือนจะปิดนะครับ ทั้งนี้เพราะนิทรรศการวันนี้ไม่ได้ใช้สายรัดข้อมืออัจฉริยะด้วยครับ ก็เลยไม่มีอะไรให้เล่น
งานนี้ที่ผมเข้ามาดูนิทรรศการที่ศูนย์การเรียนรู้จะต่างจากการเข้าชมแบบปกตินิดหนึ่งครับ เพราะมีบางส่วนที่ไม่ได้เปิดใช้งาน ไม่มีสายรัดอัจฉริยะมา แต่หลัก ๆ แล้วก็ครบถ้วนน่าสนใจมากครับ เป็นการนำความรู้กับเทคนิคใหม่ ๆ มาผสมผสานไม่ให้เกิดความจำเจ ถ้ามีโอกาสผมก็อยากมาอีกเหมือนกัน
เมื่อจบนิทรรศการทั้ง 7 โซน ก็จะมีนิทรรศการสุดท้ายซึ่งเป็นนิทรรศการพิเศษ นั่นคือ Wonder Lights ที่เป็นการนำหลอดไฟนีออนต่าง ๆ มาตกแต่งให้สวยงามครับ
หลังจากปั๊มแสตมป์อันสุดท้ายเรียบร้อยก็หย่อนลงกล่องรอลุ้นของรางวัลครับ แต่ว่าพอผมออกมาก็พบว่าประตูทางออกใกล้ ๆ นั้นจะพาเราออกมาตรงโซนที่เป็นเวทีมินิคอนเสิร์ตทันทีเลยครับ แน่นอนว่าที่นั่งถูกจับจองเต็มหมดแล้ว = = ผมบอกแล้วว่าคนเยอะจริง ๆ
ตอนที่ผมออกมาก็เป็นช่วงเกือบ ๆ 1 ทุ่มแล้วครับ บนเวทีเป็นการแสดงของ วงหมอนข้าง ซึ่งเป็นวงของพนักงาน กฟผ. เองครับ แต่ความพีคคือ ร้อง เพราะ มากกก (ก.ไก่ห้าสิบล้านตัว) ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นวงของพนักงาน กฟผ. ผมนี่นึกว่า เดอะ สตาร์ มาเอง
แล้ววงหมอนข้างก็ลาไปในช่วงประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆ ครับ เพื่อเตรียมรอต้อนรับศิลปินของงานวันนี้ คือพี่ตู่ ภพธร นั่นเอง (ไม่ใช่ตู่อื่นนะจ๊ะ555) ซึ่งผมก็ตัดสินใจนั่งมันอยู่ตรงข้างหลังใกล้ประตูที่ต่อมาจากนิทรรศการ Wonder Lights นั่นแหละครับ ไม่ต้องเบียด และเห็นชัดพอสมควร
หลังจากนั่งรอประมาณ 20 นาที สิ่งที่รอคอยก็มาถึงครับ พี่ตู่ ภพธร ของเรานั่นเอง และพี่ตู่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักจากเพลงสุดไพเราะที่เป็น signature ของพี่ตู่ ไม่ว่าจะเป็น โปรดอย่ามาสงสาร (โปรดอย่ามาสงสารรร~ อย่าให้ความหวังฉันนน~ โปรดเถอะอย่าเห็นใจจจ~ หากไม่ต้องการกันนน~) แต่อย่าคิดถึง (แต่ยังคิดถึงเธอได้ไหม~ ถ้าฉันไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจ~) และเพลงใหม่ล่าสุด ยิ่งไกลยิ่งชัด (ยิ่งไกลยิ่งชัด ชัดเจนว่าฉันนั้นคิดถึงเธอจนทนไม่ไหว~ เพลงนี้ผมดำน้ำมากบอกเลย555)
พี่ตู่มีเสน่ห์มาก ๆ เพลงก็เพราะ
และที่ทำให้คึกคักกันเป็นพิเศษคือความเป็นกันเองของพี่ตู่ที่ลงมาเล่นกับคนดูบ่อยมาก เสียดายเลยที่ไม่ได้ที่นั่งข้างหน้า แต่พี่ป้าน้าอาแถวหน้าน่าจะเปรมกันไปแถบ ๆ
โดยรวมก็คือไม่เสียดายเลยครับที่เสร็จงานแล้วตัดสินใจมาเดินงาน Music at the Museum 2019 ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง งานยังมีอีกในวันที่ 13 และ 14 ธ.ค.นี้ครับ อย่าลังเลเลยครับ ผมว่างานดีและน่าสนใจ ศิลปินอีก 2 วันที่จะมาก็คือ วงวัชราวลี กับเอิ๊ต ภัทรวี ครับ มากันเยอะ ๆ นะครับ รับรองว่าครบทั้งอาหารอร่อย ๆ เพลงเพราะ ๆ สาระความรู้ดี ๆ ในนิทรรศการ ถ้าพลาดปีนี้อาจจะต้องรออีกทีปีหน้าเลยนะครับ
ลากันไปด้วยหลักฐานว่านนทบุรีมีหิมะครับ555
หิมะตกที่บางกรวย...Music at the Museum 2019 ปังกว่าที่คิด!!!
ด้วยความที่งาน Music at the Museum ตามโปสเตอร์ที่เห็นมาเริ่มงานประมาณ 4 โมงครึ่ง ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะไปดูบรรยากาศตั้งแต่แรก ๆ ซะหน่อย ถ้าเผื่อว่าไม่น่าสนใจอาจจะกลับ555 หลังจากฝ่าการจราจรมาบนรถเมล์สาย 50 มาถึงเกือบ ๆ 5 โมงครึ่ง ผมก็เดินต่อมาอีกนิดเพื่อไปยังศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลางครับ (แอบตกใจนิดหน่อย เหมือนเห็นหิมะตกในงาน แต่ในแถบนนทบุรีนี่ไม่น่ามี555)
พอเข้ามาจากประตูใหญ่ก็จะต้องผ่านจุดตรวจค้นครับ แล้วเราก็จะได้รับสติ๊กเกอร์แปะเพื่อเข้าร่วมงาน แถมมีการแจกช้อนสแตนเลสให้ฟรี ๆ ด้วยครับคนละคัน ด้วยความสงสัยก็เลยถามน้องเจ้าหน้าที่ ได้ความว่าเพื่อให้เข้ากับธีมรักษ์โลกครับ ก็คืองดช้อนพลาสติก งดแก้วน้ำพลาสติกนั่นเอง (จริง ๆ ถ้าแจกแก้วน่าจะดีนะ555)
พอเข้ามาก็จะพบกับวงดนตรีของทาง กฟผ. อยู่หน้าบ้านเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ที่เรียกว่าบ้านรักษ์พลังงาน แล้วก็จะมี Backdrop มีป้ายปีใหม่สวย ๆ มีเป็นเหมือนอุโมงค์ไฟด้วยครับ แต่ผมกะว่าจะรอมืด ๆ ก่อนแล้วค่อยถ่าย เพราะถ่ายตอนมีแสงไม่น่าจะสวยมาก
และไฮไลท์สำคัญที่โดดเด่นเป็นสง่าและเห็นได้ตั้งแต่เดินเข้าประตูใหญ่ก็คือ...ต้นคริสต์มาสยักษ์!!! สวยงามมาก ใหญ่สมใจเลยทีเดียว
ซึ่งพอประมาณห้าโมงครึ่งก็มีพิธีเปิดงานโดยผู้บริหารจาก กฟผ. ครับ ซึ่งพอเปิดปุ๊บเขาก็มีการปล่อยฟองหิมะออกมาด้วยครับแถมปล่อยตลอดงานเลยด้วย (หิมะที่ผมเห็นตอนแรกก็น่าจะมาจากตอนเขาซ้อม) เลยทำให้บรรยากาศมีความขาวโพลน สวยเข้าไปใหญ่ เหมือนอยู่ในเมืองหนาว (ซึ่งวันที่ผมไปอากาศมันอุ่นขึ้นมาหน่อย ทำให้ไม่ถึงกับหนาวมาก แต่ก็มีลมพัดโกรกพอให้เย็นสบายตลอด งั้นผมจะตีขลุมว่าผมอยู่เมืองหนาวละกันครับ555)
สำหรับ Food Truck ที่มาในงานนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังนะครับ เพราะราคาโอเค รสชาติอร่อย ร้านที่มามีเยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว มีร้าน อิ่มหมี, Mafia Burger, หมาล่าเนื้อ, ไก่ทอดนายทร, Ton-Tor Homemade Ice Cream, แมวหิว และอีกมากมายครับ (ร้านที่ลิสต์มาก็คือร้านที่มีโอกาสได้กินนั่นเองครับ ประทับใจจนจำได้555)
และแน่นอนว่าที่จะขาดไปไม่ได้ ความตั้งใจดั้งเดิมของผมก็คือการเข้าชมนิทรรศการในศูนย์การเรียนรู้ครับ ดังนั้น ไปกันเลย!
ขั้นแรกก็ลงทะเบียน รับ Passport ซึ่งเอาไว้ชิงโชคได้ในตอนท้ายครับ (ซึ่งตรงนี้จะนับเป็นจุดแรก ไม่ใช่โซนที่ 1 ตามปกตินะครับ เพราะเราจะไม่ได้สร้าง avatar กับไม่ได้รับสายรัดข้อมืออัจฉริยะ) จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปชั้น 2 ครับ
โดยทีมงานจะจัดให้เราเข้ามาที่โซนที่สอง "จากแสงแรกสู่แสงนิรันดร์" เป็นห้องภาพยนตร์ 4D เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นสนุก ๆ บอกเล่าที่มาของพลังงานไฟฟ้า แสงสว่าง แบบมิวสิคัลหน่อย ๆ คือนอกจากการ์ตูนจะสวยแล้ว เพลงยังเพราะติดหูมากด้วย (แสงแรกกก~~~ สู่แสงนิรันดร์~)
โซนที่สี่ "สายน้ำแห่งความภูมิใจ" เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา การอนุรักษ์น้ำ ผ่านงานศิลปะครับ เป็นคล้าย ๆ ภาพวาด แล้วก็จะมีเสียงบรรยายเรื่องราวไปตามภาพ
โซนที่ห้า "นวัตกรรมเพื่อชีวิต" เป็นเหมือนทางเดินอัจฉริยะ เพราะไม่ว่าเราจะแตะตรงไหนของกำแพง ก็จะมีกราฟิกมีลูกเล่นมีคำบรรยายให้ทั้งหมดเลย ซึ่งผมก็ไม่ได้ลองแตะทุกจุด แต่ว่าว้าวมาก ๆ ครับกับโซนนี้
โซนที่หก "โลกที่ยั่งยืน" จะมีเกมให้เล่นหลาย ๆ รูปแบบครับ แต่เหมือนบางอันก็จะไม่ได้เปิด
งานนี้ที่ผมเข้ามาดูนิทรรศการที่ศูนย์การเรียนรู้จะต่างจากการเข้าชมแบบปกตินิดหนึ่งครับ เพราะมีบางส่วนที่ไม่ได้เปิดใช้งาน ไม่มีสายรัดอัจฉริยะมา แต่หลัก ๆ แล้วก็ครบถ้วนน่าสนใจมากครับ เป็นการนำความรู้กับเทคนิคใหม่ ๆ มาผสมผสานไม่ให้เกิดความจำเจ ถ้ามีโอกาสผมก็อยากมาอีกเหมือนกัน
เมื่อจบนิทรรศการทั้ง 7 โซน ก็จะมีนิทรรศการสุดท้ายซึ่งเป็นนิทรรศการพิเศษ นั่นคือ Wonder Lights ที่เป็นการนำหลอดไฟนีออนต่าง ๆ มาตกแต่งให้สวยงามครับ
หลังจากปั๊มแสตมป์อันสุดท้ายเรียบร้อยก็หย่อนลงกล่องรอลุ้นของรางวัลครับ แต่ว่าพอผมออกมาก็พบว่าประตูทางออกใกล้ ๆ นั้นจะพาเราออกมาตรงโซนที่เป็นเวทีมินิคอนเสิร์ตทันทีเลยครับ แน่นอนว่าที่นั่งถูกจับจองเต็มหมดแล้ว = = ผมบอกแล้วว่าคนเยอะจริง ๆ
ตอนที่ผมออกมาก็เป็นช่วงเกือบ ๆ 1 ทุ่มแล้วครับ บนเวทีเป็นการแสดงของ วงหมอนข้าง ซึ่งเป็นวงของพนักงาน กฟผ. เองครับ แต่ความพีคคือ ร้อง เพราะ มากกก (ก.ไก่ห้าสิบล้านตัว) ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นวงของพนักงาน กฟผ. ผมนี่นึกว่า เดอะ สตาร์ มาเอง
แล้ววงหมอนข้างก็ลาไปในช่วงประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆ ครับ เพื่อเตรียมรอต้อนรับศิลปินของงานวันนี้ คือพี่ตู่ ภพธร นั่นเอง (ไม่ใช่ตู่อื่นนะจ๊ะ555) ซึ่งผมก็ตัดสินใจนั่งมันอยู่ตรงข้างหลังใกล้ประตูที่ต่อมาจากนิทรรศการ Wonder Lights นั่นแหละครับ ไม่ต้องเบียด และเห็นชัดพอสมควร
หลังจากนั่งรอประมาณ 20 นาที สิ่งที่รอคอยก็มาถึงครับ พี่ตู่ ภพธร ของเรานั่นเอง และพี่ตู่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักจากเพลงสุดไพเราะที่เป็น signature ของพี่ตู่ ไม่ว่าจะเป็น โปรดอย่ามาสงสาร (โปรดอย่ามาสงสารรร~ อย่าให้ความหวังฉันนน~ โปรดเถอะอย่าเห็นใจจจ~ หากไม่ต้องการกันนน~) แต่อย่าคิดถึง (แต่ยังคิดถึงเธอได้ไหม~ ถ้าฉันไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจ~) และเพลงใหม่ล่าสุด ยิ่งไกลยิ่งชัด (ยิ่งไกลยิ่งชัด ชัดเจนว่าฉันนั้นคิดถึงเธอจนทนไม่ไหว~ เพลงนี้ผมดำน้ำมากบอกเลย555)
โดยรวมก็คือไม่เสียดายเลยครับที่เสร็จงานแล้วตัดสินใจมาเดินงาน Music at the Museum 2019 ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง งานยังมีอีกในวันที่ 13 และ 14 ธ.ค.นี้ครับ อย่าลังเลเลยครับ ผมว่างานดีและน่าสนใจ ศิลปินอีก 2 วันที่จะมาก็คือ วงวัชราวลี กับเอิ๊ต ภัทรวี ครับ มากันเยอะ ๆ นะครับ รับรองว่าครบทั้งอาหารอร่อย ๆ เพลงเพราะ ๆ สาระความรู้ดี ๆ ในนิทรรศการ ถ้าพลาดปีนี้อาจจะต้องรออีกทีปีหน้าเลยนะครับ