Before arriving to study Master degree in the University of Lincoln.
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ น้องๆ ที่สนใจอยากจะศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ สาเหตุที่มาเขียนกระทู้นี้ก็เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ และทุกคนที่สนใจอยากจะศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษและอยากจะช่วยโปรโมทเมือง Lincoln และมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า เรามีความฝันที่อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะบ้านอยู่ใกล้สนามบิน จึงชอบมองเครื่องบินและจินตนาการไปว่า วันหนึ่ง ฉันจะต้องออกเดินทางไปเห็นโลกกว้างให้ได้เลย ดังนั้น ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เราจึงทำงานเก็บเงินเอง และฝึกฝนภาษาอังกฤษของตัวเองจนสอบ IELTS ผ่านเกณฑ์และเคลียร์ภาระทุกอย่างเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ก็เลยอยากจะฝากถึงทุกคนที่มีความฝันที่อยากจะเรียนต่อต่างประเทศว่า “ไม่มีใครแก่เกินเรียนนะคะ ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจและความพยายามของตนเองว่าจะมุ่งมั่นและยังมีไฟอยากที่จะทำตามความฝันของตัวเองอยู่หรือไม่?” ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ เอาละเรามาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ
เราสนใจเรียนทางด้าน Tourism Management ซึ่งตอนนั้นก็ส่งใบสมัครไปหลายมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากเราตั้งใจจะไปเรียนช่วงต้นเดือน ม.ค. หรือ ก.พ. ปี 2019 ซึ่งไม่ค่อยมีมหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาในช่วงนี้ (ส่วนใหญ่การศึกษาอังกฤษจะเปิดเรียนเดือน ก.ย.) ดังนั้น จึงมีมหาวิทยาลัยที่ส่ง offer letter ตอบกลับมาอยู่ 3 ที่ด้วยกันคือ
1. Sheffield Hallam University
2. Bournemouth University
3. University of Lincoln
The reasons why I chose University of Lincoln, UK and scholarships for Thai students
เราได้ทุนการศึกษาทั้ง 3 มหาวิทยาลัยค่ะ แต่ตัดสินใจเลือกเรียนที่ University of Lincoln ด้วยข้อเสนอที่ลงตัวมากกว่าที่อื่น ๆ คือ
1. ให้เรียน pre-sessional course free 5 weeks (เฉพาะ นศ. ที่สมัครรอบ February )
2. เวลาที่ต้องการไปเรียนนั้นลงตัวกับงานที่หมดสัญญาพอดี, และ
3. ได้รับทุนการศึกษา £5,000
เหตุผลที่เลือกมาเมืองนี้เพราะที่นี่เป็นเมืองขนาดเล็ก สามารถเดินถึงกันได้หมดทุกที่ ซึ่งมีค่าครองชีพต่ำกว่าเมืองใหญ่ในแถบตอนใต้ของสหราชอาณาจักรค่ะ หากใครที่สนใจอยากจะมาอยู่เมืองเล็ก ๆ และต้องการความสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย แนะนำว่า Lincoln ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ ด้านล่างนี้เป็นรูป Lincoln Cathedral, Lincoln Castle, และย่าน High Street ใจกลางเมือง Lincoln นะคะ
รูปแรกคือ มหาวิหารลินคอร์น หรือ Lincoln Cathedral นักศึกษาที่เรียนจบจาก University of Lincoln จะเข้าพิธีรับปริญญาบัตรกันที่นี่ค่ะ
อันนี้ถ่ายที่งาน Lincoln Christmas Market เมื่อวันที่ 5-8 Dec 2019 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ คนเลยจะดูคึกคักเป็นพิเศษ
ส่วนรูปนี้คือ Lincoln Castle ซึ่งอยู่ตรงข้าวกับ Lincoln Cathedral เลย
2 รูปนี้ เรียนกว่า Steep hill นะคะ เป็นทางขึ้น-ลง เวลาที่จะขึ้นมาที่ Lincoln Cathedral หรือลงไปยัง ถนน Hight street ถ้าใครมารับรองเลยว่า ฝึกกำลังขาสมชื่อ Steep Hill เลยค่ะ
รูปนี้เป็นทางขึ้นไป Lincoln Cathedral , และ Lincoln Castle ค่ะ
ส่วน 4 รูปนี้เป็นถนน Hith Street ค่ะ ถ้าเราเดินลงมาจาก Steep Hill เรื่อยๆ ก็จะลงมาเจอถนนเส้นนี้พอดีค่ะ
ถนน high street เป็นย่านช้อปปิ้งใจกลางเมือง Lincoln ที่บริเวณนี้ ถ้าเสาร์ – อาทิตย์ไหนอากาศดี ๆ ก็จะมีนักดนตรีอิสระหรือศิลปินมาโชว์เปิดหมวกให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาชม ในรูปเป็นกลุ่มคนใส่ชุดทหารแล้วยืนตัวแข็งทื่ออยู่เป็นเวลานาน บางทีก็จะทำท่าเคลื่อนไหวให้เราตกใจสักทีหนึ่ง และถ้าเราถูกใจก็ไปหย่อนเงินให้เขาเป็นกำลังใจค่ะ
ส่วนที่เห็นเป็นตึกเก่าแก่นี้เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ ตึกนี้เป็นที่ตั้งของร้านคาเฟ่ชื่อดังของเมือง Lincoln นั่นคือ Stoke Tea & Coffee ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1902 เลยทีเดียว หากใครได้มาที่นี่ขอแนะนำให้สั่ง Cream Tea นะคะ รับรองไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ
กลับมาเข้าเรื่องวีซ่าต่อ เพราะรู้สึกว่าจะนอกเรื่องไปไกลเลยเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
ขั้นตอนการตรวจปอดที่ IOM ก่อนการยื่นวีซ่า Before visa submission / IOM
พอทราบผลว่าได้รับทุนและได้ offer letter จากทางมหาวิทยาลัยแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อไปก็คือ เราต้องไปตรวจปอดเพื่อค้นหาวัณโรคค่ะ หรือ ที่เรียกกันว่า IOM ค่ะ ค่าธรรมเนียมราคา 3,800 บาท (ข้อมูลปี 2018) น้อง ๆ ควรเผื่อเวลาตรวจและผลการตรวจปอดไว้ด้วย สมมติในกรณีที่ถ้าเอกซเรย์แล้วเจอจุดดำ ๆ ที่ปอดก็ต้องเอกซเรย์ใหม่จนกว่าจะผ่านนะคะ ไม่งั้นจะไม่สามารถนำผลการตรวจไปยื่นทำวีซ่าได้ค่ะ เพราะฉะนั้น เราต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้ ฮึ่บ ๆ จะได้ตรวจทีเดียวผ่านฉลุย อันนี้เป็นลิงค์เว็บไซต์ของ Thailand IOM นะคะ
https://thailand.iom.int/health-services
On the way to University of Lincoln, UK
หลังจากเตรียมเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาบินลัดฟ้าไปประเทศอังกฤษแล้วจ้า
จำได้ว่าบินช่วงปีใหม่พอดี เครื่อง Delay ที่สนามบินสุวรรณภูมิไปครึ่งชั่วโมงแน่ะ วิ่งไปต่อไฟลท์แทบไม่ทันเลย อ่อ ลืมบอกไปว่า ทางมหาวิทยาลัย มีบริการ airport pickup ด้วยนะคะ แต่ต้องจองตั๋วเครื่องบินให้ไปลงในวันและเวลาก่อนที่จะถึงวันนั้นค่ะ ปกติแล้วทางมหาวิทยาลัยจะไปรับที่ Heathrow airport ในวันเสาร์ก่อนที่เราจะต้องลงทะเบียนเรียนค่ะ รถจะไปถึงและรอรับนักเรียนทั้งหมดตั้งแต่เวลา 8.00 – 14.00 แต่เราหาตั๋วไปวันนั้นไม่ได้เลยจำเป็นต้องไปลงที่ Manchester ก่อนแล้วค่อยนั่งรถไฟต่อไปที่มหาลัยเอง ในวันนั้นจะมีตัวแทนนักเรียนไทยไปรับด้วยนะคะ ไปถึงจะเจอ student ambassadors แต่ละชาติยืนถือป้าย University of Lincoln กันแบบนี้เลยค่ะ
ก่อนจบกระทู้แรกก็ขอฝาก Tips เล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นการเตรียมตัวเผื่อใครที่กำลังจัดกระเป๋าเดินทางอยู่นะคะ
Tips and Things to prepare before departure to Lincoln, UK
1. Adapter ค่ะ หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป แนะนำว่าให้ซื้อแบบหัวปลั๊กทั่วโลกดีกว่าเผื่อเอาไปเที่ยวยุโรปได้ด้วย และควรซื้อมาเผื่อสัก 2 อัน spare ไว้อันนึง เผื่ออันนึงเสียจะได้มีอีกอันสำรองไว้ค่ะ
ปลั๊กที่ UK จะมี 3 ขาตามรูปแบบนี้นะคะ
2. ปลั๊กพ่วง บางคนอาจคิดว่าไม่สำคัญแต่เราแนะนำเพราะว่าจะได้เสียบอะไรได้หลายอย่างและสายก็ยาวดีด้วยค่ะ
3. เครื่องเขียนต่าง ๆ (ปากกาหลากสี, ดินสอ, ไส้ดินสอ, ลิควิด ฯลฯ) และแฟ้มใส่เอกสาร ถ้ามีก็แนะนำให้เอามาด้วยค่ะ หรือถ้าไม่ได้เอามาก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน Wilko, Poundland, Tesco ค่ะ ซึ่งร้านที่บอกมาทั้งหมดนี้อยู่ใกล้กับแคมปัส สามารถเดินได้ประมาณ 10 นาทีถึงค่ะ
4. รองเท้าแตะ (ถ้าไม่ได้เอามาจะมาซื้อที่นี่ก็แนะนำให้ไปซื้อที่ร้าน Primark ได้) ร้าน Primark ตั้งอยู่ที่ Hight street ค่ะ
5. ของกินไทย ๆ สำหรับทำกับข้าว เช่น น้ำปลา, ขนม, น้ำพริกต่าง ๆ (สำหรับคนที่ทานเผ็ด และเบื่ออาหารฝรั่ง), บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ผงโลโบเอาไว้ทำกับข้าว(อันนี้มันช่วยได้มากจริง ๆ สำหรับคนที่ทำกับข้าวไม่เป็นอย่างเรา 555) ,โจ๊กซอง เรานี่เอามาเยอะเลยเพราะเรื่องกินเรื่องใหญ่มากกก สำหรับเครื่องครัว เช่น น้ำปลา, น้ำมันหอย แนะนำว่าไม่ต้องขนมานะคะเพราะมีร้านเอเชียของคนจีนชื่อร้านMorning Sun ตั้งอยู่ที่ high street ราคาก็ไม่แพงมากด้วยค่ะ
ร้าน Morning Sun Supermarket Asia อยู่ตรง ถนน high street
ข้าวหอมมะลิ(อร่อยและนุ่มมาก ๆ) ราคาอยู่ที่ £16.5 for 5 kilogramms
น้ำปลา น้ำจิ้มไก่ มีหมดเลยจ้า รับรองมาแล้วไม่อดแน่นอน
แต่ถ้าอยากทานอาหารไทยจริง ๆ ที่นี่ก็มีร้านอาหารไทยใหญ่ ๆ ทั้งหมด อยู่ 4 ที่ คือ
1. Thai Marina อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมากที่สุดตรง Brayford Pool ค่ะ
2. Thai Corner Restaurant ร้านนี้อยู่ตรงข้ามกับ Lincoln Castle ร้านต้องเดินเข้าไปในซอยอยู่ตรงหัวมุมเลยมีชื่อว่า Thai Corner นั่นเอง
3. Thailand No. 1 restaurant ร้านนี้อยู่ตรงถนน Bailgate เดินเลย Lincoln Cathedral ไปหน่อยนึงค่ะ
4. Chef Pong ร้านนี้เป็นร้าน takeaway ราคากันเองเป็นที่นิยมมากในหมู่นักศึกษาเอเชียโดยเฉพาะ นักเรียนเวียดนาม, ไทย, หรือจีน ค่ะ ร้านนี้อยู่เส้น high street เหมือนกันแต่อยู่ตรงหัวมุมถนนตามภาพเลยค่ะ แต่ถ้าอยากสั่งแล้วทานเลยเขาก็มีโต๊ะให้นั่งอยู่นิดหน่อยนะคะ
แนะนำร้านอาหารกันไปทั้งหมดแล้ว เรามาดูข้อต่อไปเลยดีกว่าเนอะ
5. ภาชนะสำหรับใส่อาหารแบบง่าย ๆ ช้อนส้อม, และกล่องข้าวเอาไว้ใส่ข้าวไปทานที่มหาวิทยาลัย (สำหรับคนชอบทำกับข้าวนะคะ)
6. Winter clothes แนะนำว่าเตรียมมาไม่ต้องเยอะ เพราะมาซื้อที่นี่เอาก็ได้ค่ะราคาไม่แพงและคุณภาพดีกว่าโดยเฉพาะตอน sale อิ ๆ ที่ Lincoln ก็มีหลายแบรนด์เช่น H&M, Top Shop, Next, New Look ฯลฯ อยู่ในห้าง Waterside Shopping Centre
7. ถุงเท้านี่แนะนำว่าให้เอามาหลายๆคู่เลยเพราะใส่ตลอดทุกวัน กลางคืนก็ต้องใส่
8. ร่ม อันนี้ขาดไม่ได้เพราะอังกฤษฝนตกตลอดเวลา แนะนำว่าให้ซื้อแบบที่ก้านร่มแข็งแรงหน่อยเพราะที่นี่ลมแรงค่ะ เรานี่ลืมเอามาเลยจำเป็นต้องซื้อที่นี่แล้วก็พังไปแล้วเพราะแรงลม 5555
9. เอกสารทางการศึกษาของเราทั้งหมดแนะนำว่าให้เอาตัวจริงติดมาด้วยนะคะเผื่อว่าวันที่ลงทะเบียนเรียน เจ้าหน้าที่เขาจะขอดูค่ะ ถ้าใครเปลี่ยนชื่อ – นามสกุลมาก็ให้เอาใบแปลติดมาด้วยนะคะ
10. เตรียมใจให้พร้อมเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ดีเพราะเวลามันผ่านไปเร็วมากจริง ๆ ค่ะ
ไว้กระทู้หน้าจะมาเล่าถึงประสบการณ์การเรียน Pre-sessional course อย่างเจาะลึกอีกทีค่ะ ถ้าใครมีคำถามอะไรก็โพสต์ถามไว้ได้นะคะ แล้วจะเข้ามาตอบบ่อย ๆ ค่ะ หรือถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูคลิป testimonial ของมหาวิทยาลัยที่นี่ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=HD-BXsu88dQ&list=PL23BqVEMhpmkylZE-NmaBskCwkTeKMuFp&index=8
Bye Bye
เล่าประสบการณ์การเรียนต่อปริญญาโทที่ University of Lincoln, 2019
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ น้องๆ ที่สนใจอยากจะศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ สาเหตุที่มาเขียนกระทู้นี้ก็เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ และทุกคนที่สนใจอยากจะศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษและอยากจะช่วยโปรโมทเมือง Lincoln และมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า เรามีความฝันที่อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะบ้านอยู่ใกล้สนามบิน จึงชอบมองเครื่องบินและจินตนาการไปว่า วันหนึ่ง ฉันจะต้องออกเดินทางไปเห็นโลกกว้างให้ได้เลย ดังนั้น ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เราจึงทำงานเก็บเงินเอง และฝึกฝนภาษาอังกฤษของตัวเองจนสอบ IELTS ผ่านเกณฑ์และเคลียร์ภาระทุกอย่างเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ก็เลยอยากจะฝากถึงทุกคนที่มีความฝันที่อยากจะเรียนต่อต่างประเทศว่า “ไม่มีใครแก่เกินเรียนนะคะ ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจและความพยายามของตนเองว่าจะมุ่งมั่นและยังมีไฟอยากที่จะทำตามความฝันของตัวเองอยู่หรือไม่?” ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ เอาละเรามาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ
เราสนใจเรียนทางด้าน Tourism Management ซึ่งตอนนั้นก็ส่งใบสมัครไปหลายมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากเราตั้งใจจะไปเรียนช่วงต้นเดือน ม.ค. หรือ ก.พ. ปี 2019 ซึ่งไม่ค่อยมีมหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาในช่วงนี้ (ส่วนใหญ่การศึกษาอังกฤษจะเปิดเรียนเดือน ก.ย.) ดังนั้น จึงมีมหาวิทยาลัยที่ส่ง offer letter ตอบกลับมาอยู่ 3 ที่ด้วยกันคือ
1. Sheffield Hallam University
2. Bournemouth University
3. University of Lincoln
The reasons why I chose University of Lincoln, UK and scholarships for Thai students
เราได้ทุนการศึกษาทั้ง 3 มหาวิทยาลัยค่ะ แต่ตัดสินใจเลือกเรียนที่ University of Lincoln ด้วยข้อเสนอที่ลงตัวมากกว่าที่อื่น ๆ คือ
1. ให้เรียน pre-sessional course free 5 weeks (เฉพาะ นศ. ที่สมัครรอบ February )
2. เวลาที่ต้องการไปเรียนนั้นลงตัวกับงานที่หมดสัญญาพอดี, และ
3. ได้รับทุนการศึกษา £5,000
เหตุผลที่เลือกมาเมืองนี้เพราะที่นี่เป็นเมืองขนาดเล็ก สามารถเดินถึงกันได้หมดทุกที่ ซึ่งมีค่าครองชีพต่ำกว่าเมืองใหญ่ในแถบตอนใต้ของสหราชอาณาจักรค่ะ หากใครที่สนใจอยากจะมาอยู่เมืองเล็ก ๆ และต้องการความสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย แนะนำว่า Lincoln ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ ด้านล่างนี้เป็นรูป Lincoln Cathedral, Lincoln Castle, และย่าน High Street ใจกลางเมือง Lincoln นะคะ
รูปแรกคือ มหาวิหารลินคอร์น หรือ Lincoln Cathedral นักศึกษาที่เรียนจบจาก University of Lincoln จะเข้าพิธีรับปริญญาบัตรกันที่นี่ค่ะ
อันนี้ถ่ายที่งาน Lincoln Christmas Market เมื่อวันที่ 5-8 Dec 2019 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ คนเลยจะดูคึกคักเป็นพิเศษ
ส่วนรูปนี้คือ Lincoln Castle ซึ่งอยู่ตรงข้าวกับ Lincoln Cathedral เลย
2 รูปนี้ เรียนกว่า Steep hill นะคะ เป็นทางขึ้น-ลง เวลาที่จะขึ้นมาที่ Lincoln Cathedral หรือลงไปยัง ถนน Hight street ถ้าใครมารับรองเลยว่า ฝึกกำลังขาสมชื่อ Steep Hill เลยค่ะ
รูปนี้เป็นทางขึ้นไป Lincoln Cathedral , และ Lincoln Castle ค่ะ
ส่วน 4 รูปนี้เป็นถนน Hith Street ค่ะ ถ้าเราเดินลงมาจาก Steep Hill เรื่อยๆ ก็จะลงมาเจอถนนเส้นนี้พอดีค่ะ
ถนน high street เป็นย่านช้อปปิ้งใจกลางเมือง Lincoln ที่บริเวณนี้ ถ้าเสาร์ – อาทิตย์ไหนอากาศดี ๆ ก็จะมีนักดนตรีอิสระหรือศิลปินมาโชว์เปิดหมวกให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาชม ในรูปเป็นกลุ่มคนใส่ชุดทหารแล้วยืนตัวแข็งทื่ออยู่เป็นเวลานาน บางทีก็จะทำท่าเคลื่อนไหวให้เราตกใจสักทีหนึ่ง และถ้าเราถูกใจก็ไปหย่อนเงินให้เขาเป็นกำลังใจค่ะ
ส่วนที่เห็นเป็นตึกเก่าแก่นี้เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ ตึกนี้เป็นที่ตั้งของร้านคาเฟ่ชื่อดังของเมือง Lincoln นั่นคือ Stoke Tea & Coffee ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1902 เลยทีเดียว หากใครได้มาที่นี่ขอแนะนำให้สั่ง Cream Tea นะคะ รับรองไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ
กลับมาเข้าเรื่องวีซ่าต่อ เพราะรู้สึกว่าจะนอกเรื่องไปไกลเลยเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
ขั้นตอนการตรวจปอดที่ IOM ก่อนการยื่นวีซ่า Before visa submission / IOM
พอทราบผลว่าได้รับทุนและได้ offer letter จากทางมหาวิทยาลัยแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อไปก็คือ เราต้องไปตรวจปอดเพื่อค้นหาวัณโรคค่ะ หรือ ที่เรียกกันว่า IOM ค่ะ ค่าธรรมเนียมราคา 3,800 บาท (ข้อมูลปี 2018) น้อง ๆ ควรเผื่อเวลาตรวจและผลการตรวจปอดไว้ด้วย สมมติในกรณีที่ถ้าเอกซเรย์แล้วเจอจุดดำ ๆ ที่ปอดก็ต้องเอกซเรย์ใหม่จนกว่าจะผ่านนะคะ ไม่งั้นจะไม่สามารถนำผลการตรวจไปยื่นทำวีซ่าได้ค่ะ เพราะฉะนั้น เราต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้ ฮึ่บ ๆ จะได้ตรวจทีเดียวผ่านฉลุย อันนี้เป็นลิงค์เว็บไซต์ของ Thailand IOM นะคะ https://thailand.iom.int/health-services
On the way to University of Lincoln, UK
หลังจากเตรียมเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาบินลัดฟ้าไปประเทศอังกฤษแล้วจ้า
จำได้ว่าบินช่วงปีใหม่พอดี เครื่อง Delay ที่สนามบินสุวรรณภูมิไปครึ่งชั่วโมงแน่ะ วิ่งไปต่อไฟลท์แทบไม่ทันเลย อ่อ ลืมบอกไปว่า ทางมหาวิทยาลัย มีบริการ airport pickup ด้วยนะคะ แต่ต้องจองตั๋วเครื่องบินให้ไปลงในวันและเวลาก่อนที่จะถึงวันนั้นค่ะ ปกติแล้วทางมหาวิทยาลัยจะไปรับที่ Heathrow airport ในวันเสาร์ก่อนที่เราจะต้องลงทะเบียนเรียนค่ะ รถจะไปถึงและรอรับนักเรียนทั้งหมดตั้งแต่เวลา 8.00 – 14.00 แต่เราหาตั๋วไปวันนั้นไม่ได้เลยจำเป็นต้องไปลงที่ Manchester ก่อนแล้วค่อยนั่งรถไฟต่อไปที่มหาลัยเอง ในวันนั้นจะมีตัวแทนนักเรียนไทยไปรับด้วยนะคะ ไปถึงจะเจอ student ambassadors แต่ละชาติยืนถือป้าย University of Lincoln กันแบบนี้เลยค่ะ
ก่อนจบกระทู้แรกก็ขอฝาก Tips เล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นการเตรียมตัวเผื่อใครที่กำลังจัดกระเป๋าเดินทางอยู่นะคะ
Tips and Things to prepare before departure to Lincoln, UK
1. Adapter ค่ะ หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป แนะนำว่าให้ซื้อแบบหัวปลั๊กทั่วโลกดีกว่าเผื่อเอาไปเที่ยวยุโรปได้ด้วย และควรซื้อมาเผื่อสัก 2 อัน spare ไว้อันนึง เผื่ออันนึงเสียจะได้มีอีกอันสำรองไว้ค่ะ
ปลั๊กที่ UK จะมี 3 ขาตามรูปแบบนี้นะคะ
2. ปลั๊กพ่วง บางคนอาจคิดว่าไม่สำคัญแต่เราแนะนำเพราะว่าจะได้เสียบอะไรได้หลายอย่างและสายก็ยาวดีด้วยค่ะ
3. เครื่องเขียนต่าง ๆ (ปากกาหลากสี, ดินสอ, ไส้ดินสอ, ลิควิด ฯลฯ) และแฟ้มใส่เอกสาร ถ้ามีก็แนะนำให้เอามาด้วยค่ะ หรือถ้าไม่ได้เอามาก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน Wilko, Poundland, Tesco ค่ะ ซึ่งร้านที่บอกมาทั้งหมดนี้อยู่ใกล้กับแคมปัส สามารถเดินได้ประมาณ 10 นาทีถึงค่ะ
4. รองเท้าแตะ (ถ้าไม่ได้เอามาจะมาซื้อที่นี่ก็แนะนำให้ไปซื้อที่ร้าน Primark ได้) ร้าน Primark ตั้งอยู่ที่ Hight street ค่ะ
5. ของกินไทย ๆ สำหรับทำกับข้าว เช่น น้ำปลา, ขนม, น้ำพริกต่าง ๆ (สำหรับคนที่ทานเผ็ด และเบื่ออาหารฝรั่ง), บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ผงโลโบเอาไว้ทำกับข้าว(อันนี้มันช่วยได้มากจริง ๆ สำหรับคนที่ทำกับข้าวไม่เป็นอย่างเรา 555) ,โจ๊กซอง เรานี่เอามาเยอะเลยเพราะเรื่องกินเรื่องใหญ่มากกก สำหรับเครื่องครัว เช่น น้ำปลา, น้ำมันหอย แนะนำว่าไม่ต้องขนมานะคะเพราะมีร้านเอเชียของคนจีนชื่อร้านMorning Sun ตั้งอยู่ที่ high street ราคาก็ไม่แพงมากด้วยค่ะ
ร้าน Morning Sun Supermarket Asia อยู่ตรง ถนน high street
ข้าวหอมมะลิ(อร่อยและนุ่มมาก ๆ) ราคาอยู่ที่ £16.5 for 5 kilogramms
น้ำปลา น้ำจิ้มไก่ มีหมดเลยจ้า รับรองมาแล้วไม่อดแน่นอน
แต่ถ้าอยากทานอาหารไทยจริง ๆ ที่นี่ก็มีร้านอาหารไทยใหญ่ ๆ ทั้งหมด อยู่ 4 ที่ คือ
1. Thai Marina อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมากที่สุดตรง Brayford Pool ค่ะ
2. Thai Corner Restaurant ร้านนี้อยู่ตรงข้ามกับ Lincoln Castle ร้านต้องเดินเข้าไปในซอยอยู่ตรงหัวมุมเลยมีชื่อว่า Thai Corner นั่นเอง
3. Thailand No. 1 restaurant ร้านนี้อยู่ตรงถนน Bailgate เดินเลย Lincoln Cathedral ไปหน่อยนึงค่ะ
4. Chef Pong ร้านนี้เป็นร้าน takeaway ราคากันเองเป็นที่นิยมมากในหมู่นักศึกษาเอเชียโดยเฉพาะ นักเรียนเวียดนาม, ไทย, หรือจีน ค่ะ ร้านนี้อยู่เส้น high street เหมือนกันแต่อยู่ตรงหัวมุมถนนตามภาพเลยค่ะ แต่ถ้าอยากสั่งแล้วทานเลยเขาก็มีโต๊ะให้นั่งอยู่นิดหน่อยนะคะ
แนะนำร้านอาหารกันไปทั้งหมดแล้ว เรามาดูข้อต่อไปเลยดีกว่าเนอะ
5. ภาชนะสำหรับใส่อาหารแบบง่าย ๆ ช้อนส้อม, และกล่องข้าวเอาไว้ใส่ข้าวไปทานที่มหาวิทยาลัย (สำหรับคนชอบทำกับข้าวนะคะ)
6. Winter clothes แนะนำว่าเตรียมมาไม่ต้องเยอะ เพราะมาซื้อที่นี่เอาก็ได้ค่ะราคาไม่แพงและคุณภาพดีกว่าโดยเฉพาะตอน sale อิ ๆ ที่ Lincoln ก็มีหลายแบรนด์เช่น H&M, Top Shop, Next, New Look ฯลฯ อยู่ในห้าง Waterside Shopping Centre
7. ถุงเท้านี่แนะนำว่าให้เอามาหลายๆคู่เลยเพราะใส่ตลอดทุกวัน กลางคืนก็ต้องใส่
8. ร่ม อันนี้ขาดไม่ได้เพราะอังกฤษฝนตกตลอดเวลา แนะนำว่าให้ซื้อแบบที่ก้านร่มแข็งแรงหน่อยเพราะที่นี่ลมแรงค่ะ เรานี่ลืมเอามาเลยจำเป็นต้องซื้อที่นี่แล้วก็พังไปแล้วเพราะแรงลม 5555
9. เอกสารทางการศึกษาของเราทั้งหมดแนะนำว่าให้เอาตัวจริงติดมาด้วยนะคะเผื่อว่าวันที่ลงทะเบียนเรียน เจ้าหน้าที่เขาจะขอดูค่ะ ถ้าใครเปลี่ยนชื่อ – นามสกุลมาก็ให้เอาใบแปลติดมาด้วยนะคะ
10. เตรียมใจให้พร้อมเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ดีเพราะเวลามันผ่านไปเร็วมากจริง ๆ ค่ะ
ไว้กระทู้หน้าจะมาเล่าถึงประสบการณ์การเรียน Pre-sessional course อย่างเจาะลึกอีกทีค่ะ ถ้าใครมีคำถามอะไรก็โพสต์ถามไว้ได้นะคะ แล้วจะเข้ามาตอบบ่อย ๆ ค่ะ หรือถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูคลิป testimonial ของมหาวิทยาลัยที่นี่ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=HD-BXsu88dQ&list=PL23BqVEMhpmkylZE-NmaBskCwkTeKMuFp&index=8
Bye Bye