หลักที่ทำให้เป็น "พระสงฆ์" โดยสมบูรณ์
๑. พระสงฆ์ คือ ผู้ศึกษาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้ซึ้งประจักษ์แจ้งแล้ว เข้าใจถึงธรรมแล้ว ลุล่วงในธรรมนี้ (ปฏิบัติให้ตนได้)
๒. เมื่อเราได้ปฏิบัติธรรม เข้าใจแล้ว รู้ซึ้งประจักษ์แล้ว จึงนำหลักธรรม และประโยชน์ที่ได้จากการปฏิบัติไปช่วยเหลือคนอื่น (นำความรู้ไปเผยแผ่)
๓. จูงนำพาผู้คน มีการอบรม บ่มเพาะ สั่งสอน จูง นำ พา เอื้อ-เกื้อ-กัน ส่งประชาชนให้ถึงฝั่งแห่งพระธรรม (บ่มเพาะนำพา) อาจจะเป็นกลุ่ม ฯลฯ
๔. เป็นครูตรวจสอบ ผู้เป็นแบบมาตรฐานในการตรวจสอบ ผู้เรียน ว่าสิ่งที่เรียนรู้และปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ถูกต้องของสังคม ทำได้กี่เปอร์เซ็นต์
๕. เป็นครูตัวอย่าง เป็นสรณะให้คนข้างหลังได้ตามมา ปฏิบัติได้ครบถ้วน เช่น พระมหาโมคคัลลานะ เก่งทางอิทธิฤทธิ์ พระภิกษุสามเณร ก็ได้เรียนรู้ตามแบบของท่าน
ถ้าทำได้ครบทั้ง ๕ ข้อ จึงจะเป็นพระสงฆ์ได้สมบูรณ์
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
หลักที่ทำให้เป็น "พระสงฆ์" โดยสมบูรณ์
๑. พระสงฆ์ คือ ผู้ศึกษาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้ซึ้งประจักษ์แจ้งแล้ว เข้าใจถึงธรรมแล้ว ลุล่วงในธรรมนี้ (ปฏิบัติให้ตนได้)
๒. เมื่อเราได้ปฏิบัติธรรม เข้าใจแล้ว รู้ซึ้งประจักษ์แล้ว จึงนำหลักธรรม และประโยชน์ที่ได้จากการปฏิบัติไปช่วยเหลือคนอื่น (นำความรู้ไปเผยแผ่)
๓. จูงนำพาผู้คน มีการอบรม บ่มเพาะ สั่งสอน จูง นำ พา เอื้อ-เกื้อ-กัน ส่งประชาชนให้ถึงฝั่งแห่งพระธรรม (บ่มเพาะนำพา) อาจจะเป็นกลุ่ม ฯลฯ
๔. เป็นครูตรวจสอบ ผู้เป็นแบบมาตรฐานในการตรวจสอบ ผู้เรียน ว่าสิ่งที่เรียนรู้และปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ถูกต้องของสังคม ทำได้กี่เปอร์เซ็นต์
๕. เป็นครูตัวอย่าง เป็นสรณะให้คนข้างหลังได้ตามมา ปฏิบัติได้ครบถ้วน เช่น พระมหาโมคคัลลานะ เก่งทางอิทธิฤทธิ์ พระภิกษุสามเณร ก็ได้เรียนรู้ตามแบบของท่าน
ถ้าทำได้ครบทั้ง ๕ ข้อ จึงจะเป็นพระสงฆ์ได้สมบูรณ์
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต