▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
นักท่องเที่ยว
ประเทศมาเลเซีย
[CR] คาเมรอลไฮแลนด์ หน้าไหนก็หนาวแล้วไปสวยๆฮิปๆต่อกันที่อิโปห์ - EP2 Ipoh
ความเดิมต่อจาก EP 1 ทริปนี้เราใช้เวลา 3 วัน สองคืน และ คืนแรกเราไปนอนฟินๆ เอาความเย็นๆที่ คาเมรอล ไฮแลนด์
อ่านก่อนได้ที่ https://ppantip.com/topic/39477216
ในที่สุดเราก็มาถึง อิโปห์ การเดินทางจากคาเมรอลมายัง อิโปห์ขับรถมาใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งหมด ประมาณ 90 กิโล
อิโปห์ คืออะไร อิโปห์ อิไหร๋ (ภาษาใต้) อยู่ตรงไหน
อิโปห์ (Ipoh) เป็นเมืองหลวงของรัฐ เปรัก (Perak หมายถึง สีเงินที่มาจากแร่ดีบุก) ประเทศมาเลเซีย อิโปห์เป็นเมืองที่เจริญในปี 1880 สมัยแร่ดีบุก อาคารบ้านเรือนเป็นสไตล์โคโลเนียล ผสมจีน
ถึงอิโปห์จะเป็นเมืองสอง เมืองรองของมาเลเซีย แต่ความสวยนั้นไม่เป็นสองรองใครแน่นอล สภาพอากาศจะคล้ายๆภูเก็ต อาจด้วยเป็นเมืองเหมืองแร่เก่า
ก่อนจะจอดรถในที่สาธารณะ (เค้าว่าเสาร์-อาทิตย์จอดฟรี)
จะต้องซื้อบัตรจอดรถไว้ด้วยนะคะ สามารถซื้อได้ที่ร้านขายของฝาก เรามาซื้อที่ร้านนี้ เลย เวลาจอดจะต้องจอดให้ตรงกับเส้นที่เค้ากั้นไว้สำหรับรถยนต์ ถ้าไม่จอดในเส้นก็ไม่ได้ เดียวต้องมาจ่ายค่าปงค่าปรับอีก
หน้าตาบัตรจอดเป็นแบบนี้ ค่าจอดรถ ประมาณ ใบละ 0.6 เหรียญ เค้าจะขายเป็นเล่ม หนึ่งใบใช้ได้หนึ่งชั่วโมง ได้มาก็เอาเหรียญขูดวันที่และเวลาไว้เราทิ้งไว้สองใบ คิดว่าจะจอดจาก 3 โมง – 4 โมง
มาอิโปห์ก็ต้องมาลองกินข้าวมันไก่ กับผัดถัวงอกอ้วนๆ กรอบๆ
มี 2 ร้านอยู่ตรงข้ามกันเราเลือกร้านเก่าแก่แล้วกัน
เมนูอ่านค่อนข้างยาก เรามากันสามคนสั่งไก่ครึ่งตัวละกัน บอกว่า chicken half half 55ก็กินได้ละ
รวมๆถือว่าอร่อย ถือว่าได้มาลองอาหารพื้นเมือง
เข้าไปที่พักก่อนละกัน ที่พักของเราคืนนี้คือที่ Manhattan Hotel Ipoh เราจองไปสองห้อง แบบ Connecting Room ในราคา 2,365 (นอนคนเดียว ฟินๆ ถ้าเอาสี่หาร ไม่ถึง 600 บาท) บางโรงแรมก็เก็บค่ามัดจำ บางที่ก็ไม่เก็บ แต่ที่นี้เก็บ 50 เหรียญ ใครแลกเงินไปก็คำนวณเงินเผื่อต้องทิ้งค่ามัดจำไว้ด้วยนะคะ และภาษี 10 เหรียญทุกโรงแรมจ่ายเท่ากันต่อคืน
ร้อน ๆไปเล่นน้ำค่าเวลาดีกว่า แอบมาที่นี้คะ ลอสต์ เวิลด์ ออฟ ตัมบุน Lost World of Tambun
เราซื้อบัตรจากเว็บ Klook ในราคา 321 บาท ค่อนข้างถูกไปเล่นค่าเวลาได้ ใครซื้อทางเว็บให้ปริ้นเป็นกระดาษไปนะคะ (ย้ำว่าปริ้นเป็นกระดาษ) แล้วเอาไปแลกที่เคาเตอร์ จะได้บัตรเป็นเส้นๆแบบในรูปสำหรับสแกนเข้าสวนน้ำ ถือไปให้ยามตรงประตูทำให้คะ (งดขนของกินเข้าไปนะคะ เค้าจะมีการตรวจกระเป๋าแล้วก็พวกตีนกบไรงี้ เค้าไม่อนุญาตให้เอาเข้าไปด้วยคะ)
ตู้ล็อกเกอร์ใส่ของค่อนข้างเยอะ
ดูน่าเล่นดีนะ ตามความรู้สึก มันก็ไม่ได้กว้างมากเท่าไหร่หรือเพราะคนเยอะ กว่าเราจะไปถึงเครื่องเล่นประมาณ เกือบๆ 5 โมง (เค้าปิดจร้า คือเครื่องเล่นปิด 5 โมง กำ ไม่ได้เล่นสักอัน) รวมไปถึงคลองที่ล่องน้ำก็ปิด
หลังจากห้าโมงจะเปิดเฉพาะโซนด้านหน้า โซนเด็ก โครตอยากเล่นอะ แต่ติดเกรงใจเด็กแถวนั่น (แค่ไปนั่งจะเซลฟี่ตรงปากกบ มันยังปีนจากตูดกบมาเข้ากล้องด้วย!)
โซนทะเลเล่นได้ แต่คนเยอะเกินจนแบบไม่อยากลงไปเท่าไหรอะ
พวกโซนน้ำอุ่น บ่อน้ำอุ่นก็มียังไม่ปิด
โซนของกินมี 3 โซน ขากลับมีของที่ระลึกพวกตุ๊กตา แก้ว ของขายบางอย่างก็แพง บางอย่างก็ไม่แพง ลองเลือกดูนะคะ
* ถึงเราจะซื้อบัตรสวนน้ำแล้วยังมีค่าจอดรถ 1 ริงกิตนะจ๊ะ
วิถีคนขี้ร้อน ขอไปเดินเล่นในเมืองตอนกลางคืนละกัน
ที่เรากำลังเดินอยู่นี้เป็นเขตเมืองเก่า ซึ่งอิโปห์จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ โซนเมืองเก่า และข้ามสะพานแม่น้ำคินตาไป เป็นโซนเมืองใหม่
สถาปัตกรรมเป็นแบบโคโลเนียล ทางเดินด้านหน้าห้องเป็นแถวเรียงเป็นระนาบเดียวกัน หรือลอดผ่านกันหมด
พยายามเดินหาพวกภาพวาด บางภาพก็แอบอยู่ในซอย ค่อนข้างหน้ากลัว (เค้าไม่มีแผนผังภาพลายแทงแจกอะ ต้องมาตามหาเอาเอง หรือเราหาไม่เจอเอง ใครสายฮิปก็มาเดินช่วงกลางวันน่าจะได้หลายรูปอยู่ สายขี้ร้อนแบบเราเดินพึ่งแสงไฟกลางคืนดีกว่า)
สายไหนก็เก๋าได้ รูปแบบถูกใจพ่อก็มีจร้า
ตัดภาพมาที่ร้านเกมส์ เดินมั่วๆ เจอร้านเกมส์คิตตี้ น่ารักมากคะ
ใครหาร้านนั่งกินง่ายๆ Plan B เป็นตัวเลือกนึง มีห้องแอร์ นั่งสบายๆ ถ่ายรูปฮิปๆสวยๆเป็นอีกที่ที่คนมาเยอะ
พยายามขับรถวน ถนนส่วนใหญ่วันเวย์เยอะ วนจนจำได้แล้ว อยากไปถ่ายรูปกับ Street Art (Mural Art’s Lane, Ipoh Mural – Old Town Relieves Nostalgia) บางจุดไม่มีไฟ หาไปหามามาเจอมัสยิดสีฟ้า สวยดี ชื่อ Masjid Panglima Kinta เปิดไฟสว่างสดใส
Ipoh River Front เป็นร้านอาหารในสวนสาธารณะ ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศถือว่าดีเลย เนื้อย่าง ไก่ย่างน่าอร่อย เราแวะเข้าไปแต่ไม่ได้กิน เพราะจะหาเบียร์กินที่นี่ไม่ขายแฮลกฮอล นะ สาย L ก็จะหาร้านยากหน่อย
สุดท้ายมาได้ที่ร้านนี้ Thean Chun เป็นร้านอยู่ริมคลอง มีจอบอลจอใหญ่ให้ดูด้วย และมีเบียร์ขาย เราสั่งเมนูปลาแบบในรูปมา รสชาติเปรี้ยวๆ อร่อยดีอะ และไก่ทอดพร้อมเบียร์โปรโมชั่น ราคา 54 เหรียญ
Day 3
เช้านี้เรารีบมาที่นี่ก่อนเลย ปราสาทเคลลี Kellie’s Castle เปิด 9 โมง - ุ6 โมงเย็น ปราสาทแห่งนี้เป็นบ้านพักของวิลเลียม เคลลี สมิธ เจ้าของไร่ชาวสกอต
ต่อมาเค้าเสียชีวิตลง ปราสาทแห่งนี้สร้างไม่ทันเสร็จ ภรรยาและลูกจึงขายปราสาทแห่งนี้และกลับประเทศไป
ปราสาทแห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องของความลี้ลับ บางคนก็เรียกว่า ปราสาทผีสิง เพราะเคยมีช่างภาพมาถ่ายภาพแล้วก็เห็นรูปมิสเตอร์วิลเลี่ยมติดมาในภาพด้วย
เราว่าที่นี่มีเสน่ห์มากเลยคะ
ห้องนั่งเล่นจำลอง
อาคารสีเหลืองด้านหลังเรานี้ สร้างเลียนแบบพระราชวัง ต่อมาถูกไฟไหม้เหลือเท่าที่เราเห็น
ชั้นบนเป็นดาดฟ้า มองลงมาเห็นวิวรอบปราสาท โครตหวิวอะบอกเลย ไม่ได้มีอะไรกั้นมากมาย มีแค่เชือกขึง
ชั้นกลางเป็นทางเดินออกไปชมวิวได้เหมือนกัน ด้านบนมีห้องลับด้วย ตอนแรกเดินลงมั่วๆปรากฏว่าออกมาด้านข้างปราสาทเฉยเลย บันไดลับนี้อยู่ในห้องน้ำไว้สำหรับภรรยาและลูกหลบภัย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้