รบกวนสอบถามค่ะ
เคยมีน้องหมาของสมาชิกท่านไหนเป็น TVT และรักษาด้วยคีโมจนหายแล้ว กลับมาพบว่ามีติดเชื้อในลูกตาอีกไหมคะ (คุณหมอต้องส่องกล้องเข้าไปในลูกตาถึงจะเห็นก้อนเนื้อ เจ้าของมองตาเปล่าไม่เห็นก้อนเนื้อค่ะ)
เรื่องมีอยู่ว่า น้องหมาของเจ้าของอายุประมาณ 2 ขวบ ตรวจพบเจอ TVT หลังทำหมันไปแล้ว 2 เดือน จึงรักษาด้วยคีโมจนหาย (8เข็ม) คือก้อนที่อวัยวะเพศยุบหมดแล้ว เช็คผลซ้ำด้วยการแปะเซลล์บริเวณที่เคยเป็นไปย้อมสีตรวจอีกครั้งนึงแล้วก็ไม่พบเซลล์ TVT อีกหมอจึงลงความเห็นว่าหายแล้ว
แต่ถัดมาอีกเดือนกว่า น้องมีปัญหาที่ตาซ้าย จนไปพบคุณหมอเฉพาะทางประมาณ 3 ครั้งแล้ว
ครั้งแรกสันนิฐานว่าอาจจะเกิดอาการอักเสบจากโรคพยาธิเม็ดเลือด และลักษณะลูกตาผิดรูป มีอาการยึดของเนื้อในลูกตา ม่านตาไม่หด/ขยายแล้ว ไม่สามารถรักษากลับมาให้เหมือนปกติ100%ได้ ทำได้แค่รักษาเพื่อพยุงไม่ให้เป็นต้อหิน และสียตานี้ไป (น้องยังมองเห็นแต่ไม่ 100%)
แล้วก็รับยา ด๊อกซี่,ยาเคลือบกระเพาะ,ยาแก้อักเสบ เสตียลอยด์, ยาบำรุงตับมาทาน และยาขยายม่านตา กับ ยาแก้อักเสบมาหยอดตา
ทานยา/หยอดยาตา ได้ประมาณ 4-5 วัน ก่อนคุณหมอนัดติดตามอาการสัปดาห์ถัดไป น้องมีอาการชัก จึงเข้าฉุกเฉิน รพส.แถวบ้าน(ใกล้ที่สุด) คุณหมอวินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจาก ฮีทสโตก และให้ยาหยุดชัก, ยาในกลุ่มรักษาฮีทสโตรกกับน้ำเกลือ แต่อุณหภูมิน้องแค่ 102.9 F เองค่ะ
ผลเลือดออกมา
-เกร็ดเลือด 16x,xxx
-ความเข้มข้นเม็ดเลือดแดง 6x%,
-ค่าตับสูง 7xx ,น้ำตาลในเลือดสูง
คุณหมอให้ยาบำรุงตับกลับบ้านมาทานต่อ (ส่วนตัวเจ้าของสงสัยว่าน้องโดนสารพิษ เพราะก่อนชักสักครู่ แอบเห็นเค้าอาเจียนออกมาเป็นอาหารแบบที้เราไม่ได้ให้)
เช้าวันพรุ่งขึ้นไปเช็คค่าเลือดที่ รพส.ใกล้บ้านที่เดิมเพื่อดูผลหลังให้ยา ค่าตับลงมาแล้วแต่ยังสูงกว่าปกติอยู่ เจ้าของกังวลเรื่องยาด๊อกซี่ที่ต้องกินว่าจะทำให้ตับยิ่งแย่ เลยให้คุณหมอช่วยเทสต์ชุดตรวจพยาธิเม็ดเลือดไปเลย ปรากฏว่าผล nagative คือน้องไม่ได้เป็นพยาธิเม็ดเลือด เจ้าของเลยยังไม่ได้ให้ด๊อกซี่เพิ่ม
รุ่งขึ้นไปพบคุณหมอเฉพาะทางตามนัดตรวจ(เป็นคุณหมอคนละท่านกับครั้งที่แล้ว)ตาค่าความดันตาดีขึ้นเล็กน้อย (จาก 5 มาเป็น 7) ค่าตับดีขึ้นแต่ยังสูงปกติโดยเฉพาะตัวที่ชี้บ่งเอนไซน์น้ำดี เลยได้ยา เพิ่มการไหลเวียนของน้ำดีมาอีก 1 ส่วนยาที่เหลือยังได้เหมือนเดิม เจ้าของอธิบายเหตุการณ์เรื่องน้องชัก คุณหมอกังวลเกี่ยวกับระบบประสาทเลยให้บันทึกติดตามอาการชักของน้องมาด้วย
ระหว่างนัดสัปดาห์ถัดไป น้องไม่มีสัญญาณอาการชักใดๆ
นัดติดตามครั้งที่ 3 ผลตรวจค่าเลือด
- เกร็ดเลือด 17x,xxx
- ความเข้มข้นเม็ดเลือดแดง 4x%
- ค่าตับกลับมาปกติ
- ค่าเอนไซส์ชี้บ่งเกี่ยวกับน้ำดี ลดลงครึ่งนึงแต่ยังไม่ถึงจุดปกติ
แต่ครั้งนี้คุณหมอเฉพาะตาตรวจแล้วค่ารวามดันลดลง (จาก 7 เหลือ 4) และบอกว่าส่องมองเห็นก้อนแปลกๆในเนื้อลูกตา ซักถามต่อว่าเคยเป็น TVT หรือเปล่า คุณหมอสงสัยว่าเชื้อ TVT จะลามเข้าลูกตา เพราะน้องอายุยังน้อยไม่น่าเกิดจากความเสื่อมของลูกตาหรือโรคที่มาตามอายุ
เลยอธิบายละเอียดประวัติการรักษาให้หมอฟัง คุณหมอเลยบอกว่าทำไมไม่เห็นแจ้งเลย เจ้าของเลยบอกแจ้งไปเมื่อครั้งที่แล้วค่ะ (ในใจคิด : ตรวจครั้งแรกคุณหมอไม่เห็นได้ซักถามเลย)
คุณหมอแนะนำว่าถ้าต้องการตรวจตามข้อสงสัยนี้ ควรควักตาที่มีปัญหาออกแล้วเอาเนื้อในตาไปตรวจว่าเป็นจริงหรือเปล่า เพราะถ้าปล่อยไว้จะลามเข้าตาอีกข้างได้ (มีโอกาส โปรเกรส)
ที่นี้เจ้าของเลยเครียดมากเลยค่ะ มีคำถามมากมาย
> เป็นเนื้องอกจาก TVT จริงเหรอ?
> มีโอกาสมาแค่ไหน?
> รักษาแล้วหายแล้ว ทำไมลามมาในลูกตา?
> คีโมที่รักษาไปครั้งแล้ว ไม่สามารถยับยั้งได้?
> น้องควรต้องเสียตาไปทั้งๆที่ยังมองเห็นเหรอ? (เจ้าของทำใจไม่ค่อยได้)
> แล้วถ้าไม่ใช่ TVT ลาม น้องต้องเสียตาฟรีๆ? ไม่มีวิธีอื่นที่สามารถเอาเนิ้อเยื่อไปตรวจได้โดยไม่ต้องควักตาออกเหรอคะ?
> แล้วถ้าเป็นจริงๆ มีโอกาสในการรักษายังไงต่อ เพราะครั้งที่แล้วคีโมตั้ง8เข็มแล้ว
รบกวนสมาชิกท่านใดที่มีความรู้/มีประสบการณ์ หรือมีทางออกแนะนำ ช่วยแบ่งปันหน่อยนะคะ
ตอนนี้เจ้าของนอนไม่หลับหลายวันแล้ว ร้องไห้ทุกคืน 😭😭 ห่วงน้อง เห้นตาขวาเค้าเริ่มอาการม่านตาที่3เปิดไม่ค่อยสนิทมา2วันแล้วค่ะ
ขอบพระคุณมากนะคะ
ปล.น้องยังร่าเริงปกติ เจ้าของคอยมองตา สังเกตุอาการที่ตาเค้าเอาค่ะ
สุนัขติดเชื้อ TVT คีโมหายแล้วแต่ลามเข้าในลูกตา??
เคยมีน้องหมาของสมาชิกท่านไหนเป็น TVT และรักษาด้วยคีโมจนหายแล้ว กลับมาพบว่ามีติดเชื้อในลูกตาอีกไหมคะ (คุณหมอต้องส่องกล้องเข้าไปในลูกตาถึงจะเห็นก้อนเนื้อ เจ้าของมองตาเปล่าไม่เห็นก้อนเนื้อค่ะ)
เรื่องมีอยู่ว่า น้องหมาของเจ้าของอายุประมาณ 2 ขวบ ตรวจพบเจอ TVT หลังทำหมันไปแล้ว 2 เดือน จึงรักษาด้วยคีโมจนหาย (8เข็ม) คือก้อนที่อวัยวะเพศยุบหมดแล้ว เช็คผลซ้ำด้วยการแปะเซลล์บริเวณที่เคยเป็นไปย้อมสีตรวจอีกครั้งนึงแล้วก็ไม่พบเซลล์ TVT อีกหมอจึงลงความเห็นว่าหายแล้ว
แต่ถัดมาอีกเดือนกว่า น้องมีปัญหาที่ตาซ้าย จนไปพบคุณหมอเฉพาะทางประมาณ 3 ครั้งแล้ว
ครั้งแรกสันนิฐานว่าอาจจะเกิดอาการอักเสบจากโรคพยาธิเม็ดเลือด และลักษณะลูกตาผิดรูป มีอาการยึดของเนื้อในลูกตา ม่านตาไม่หด/ขยายแล้ว ไม่สามารถรักษากลับมาให้เหมือนปกติ100%ได้ ทำได้แค่รักษาเพื่อพยุงไม่ให้เป็นต้อหิน และสียตานี้ไป (น้องยังมองเห็นแต่ไม่ 100%)
แล้วก็รับยา ด๊อกซี่,ยาเคลือบกระเพาะ,ยาแก้อักเสบ เสตียลอยด์, ยาบำรุงตับมาทาน และยาขยายม่านตา กับ ยาแก้อักเสบมาหยอดตา
ทานยา/หยอดยาตา ได้ประมาณ 4-5 วัน ก่อนคุณหมอนัดติดตามอาการสัปดาห์ถัดไป น้องมีอาการชัก จึงเข้าฉุกเฉิน รพส.แถวบ้าน(ใกล้ที่สุด) คุณหมอวินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจาก ฮีทสโตก และให้ยาหยุดชัก, ยาในกลุ่มรักษาฮีทสโตรกกับน้ำเกลือ แต่อุณหภูมิน้องแค่ 102.9 F เองค่ะ
ผลเลือดออกมา
-เกร็ดเลือด 16x,xxx
-ความเข้มข้นเม็ดเลือดแดง 6x%,
-ค่าตับสูง 7xx ,น้ำตาลในเลือดสูง
คุณหมอให้ยาบำรุงตับกลับบ้านมาทานต่อ (ส่วนตัวเจ้าของสงสัยว่าน้องโดนสารพิษ เพราะก่อนชักสักครู่ แอบเห็นเค้าอาเจียนออกมาเป็นอาหารแบบที้เราไม่ได้ให้)
เช้าวันพรุ่งขึ้นไปเช็คค่าเลือดที่ รพส.ใกล้บ้านที่เดิมเพื่อดูผลหลังให้ยา ค่าตับลงมาแล้วแต่ยังสูงกว่าปกติอยู่ เจ้าของกังวลเรื่องยาด๊อกซี่ที่ต้องกินว่าจะทำให้ตับยิ่งแย่ เลยให้คุณหมอช่วยเทสต์ชุดตรวจพยาธิเม็ดเลือดไปเลย ปรากฏว่าผล nagative คือน้องไม่ได้เป็นพยาธิเม็ดเลือด เจ้าของเลยยังไม่ได้ให้ด๊อกซี่เพิ่ม
รุ่งขึ้นไปพบคุณหมอเฉพาะทางตามนัดตรวจ(เป็นคุณหมอคนละท่านกับครั้งที่แล้ว)ตาค่าความดันตาดีขึ้นเล็กน้อย (จาก 5 มาเป็น 7) ค่าตับดีขึ้นแต่ยังสูงปกติโดยเฉพาะตัวที่ชี้บ่งเอนไซน์น้ำดี เลยได้ยา เพิ่มการไหลเวียนของน้ำดีมาอีก 1 ส่วนยาที่เหลือยังได้เหมือนเดิม เจ้าของอธิบายเหตุการณ์เรื่องน้องชัก คุณหมอกังวลเกี่ยวกับระบบประสาทเลยให้บันทึกติดตามอาการชักของน้องมาด้วย
ระหว่างนัดสัปดาห์ถัดไป น้องไม่มีสัญญาณอาการชักใดๆ
นัดติดตามครั้งที่ 3 ผลตรวจค่าเลือด
- เกร็ดเลือด 17x,xxx
- ความเข้มข้นเม็ดเลือดแดง 4x%
- ค่าตับกลับมาปกติ
- ค่าเอนไซส์ชี้บ่งเกี่ยวกับน้ำดี ลดลงครึ่งนึงแต่ยังไม่ถึงจุดปกติ
แต่ครั้งนี้คุณหมอเฉพาะตาตรวจแล้วค่ารวามดันลดลง (จาก 7 เหลือ 4) และบอกว่าส่องมองเห็นก้อนแปลกๆในเนื้อลูกตา ซักถามต่อว่าเคยเป็น TVT หรือเปล่า คุณหมอสงสัยว่าเชื้อ TVT จะลามเข้าลูกตา เพราะน้องอายุยังน้อยไม่น่าเกิดจากความเสื่อมของลูกตาหรือโรคที่มาตามอายุ
เลยอธิบายละเอียดประวัติการรักษาให้หมอฟัง คุณหมอเลยบอกว่าทำไมไม่เห็นแจ้งเลย เจ้าของเลยบอกแจ้งไปเมื่อครั้งที่แล้วค่ะ (ในใจคิด : ตรวจครั้งแรกคุณหมอไม่เห็นได้ซักถามเลย)
คุณหมอแนะนำว่าถ้าต้องการตรวจตามข้อสงสัยนี้ ควรควักตาที่มีปัญหาออกแล้วเอาเนื้อในตาไปตรวจว่าเป็นจริงหรือเปล่า เพราะถ้าปล่อยไว้จะลามเข้าตาอีกข้างได้ (มีโอกาส โปรเกรส)
ที่นี้เจ้าของเลยเครียดมากเลยค่ะ มีคำถามมากมาย
> เป็นเนื้องอกจาก TVT จริงเหรอ?
> มีโอกาสมาแค่ไหน?
> รักษาแล้วหายแล้ว ทำไมลามมาในลูกตา?
> คีโมที่รักษาไปครั้งแล้ว ไม่สามารถยับยั้งได้?
> น้องควรต้องเสียตาไปทั้งๆที่ยังมองเห็นเหรอ? (เจ้าของทำใจไม่ค่อยได้)
> แล้วถ้าไม่ใช่ TVT ลาม น้องต้องเสียตาฟรีๆ? ไม่มีวิธีอื่นที่สามารถเอาเนิ้อเยื่อไปตรวจได้โดยไม่ต้องควักตาออกเหรอคะ?
> แล้วถ้าเป็นจริงๆ มีโอกาสในการรักษายังไงต่อ เพราะครั้งที่แล้วคีโมตั้ง8เข็มแล้ว
รบกวนสมาชิกท่านใดที่มีความรู้/มีประสบการณ์ หรือมีทางออกแนะนำ ช่วยแบ่งปันหน่อยนะคะ
ตอนนี้เจ้าของนอนไม่หลับหลายวันแล้ว ร้องไห้ทุกคืน 😭😭 ห่วงน้อง เห้นตาขวาเค้าเริ่มอาการม่านตาที่3เปิดไม่ค่อยสนิทมา2วันแล้วค่ะ
ขอบพระคุณมากนะคะ
ปล.น้องยังร่าเริงปกติ เจ้าของคอยมองตา สังเกตุอาการที่ตาเค้าเอาค่ะ