ทาสแมวเร่เข้ามา เราขอนำเสนอสิ่งประดิษฐ์เอาใจเจ้านายของพวกเราให้ฟินนนนนไปกับการพักผ่อน ด้วยการต่อเปลสำหรับเจ้าแมวเหมียวนั่นเอง 
          แต่ภาพความฟินของเจ้านายที่เห็นนั้นยังเป็นผลงานที่ไม่เสร็จสมบูรณ์นะคะ มันมีขั้นตอน อุปสรรค และสิ่งที่ได้เรียนรู้สำหรับช่างมือใหม่อย่างเราเพราะเป็นครั้งแรกที่ลองประกอบงานไม้เองค่ะ ทั้งที่ถนัดเย็บผ้ามากกว่า ....จะโม้ทำไมเล่าขั้นตอนสักทีเถอะ (- . -‘)

          เริ่มจากวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ค่ะ หลัก ๆ คือ ไม้กับผ้า  ไม้ที่ใช้พอดีว่าเราไปเก็บไม้โครงที่เค้าใช้ต่อป้ายหาเสียงแล้วทิ้งไว้ข้างทางมาค่ะ (ไม่ลงทุนเล้ยยยย 55) ไม่รู้ว่ามันคือไม้อะไรแต่เก็บมาไว้ก่อนเผื่อที่บ้านจะใช้ประโยชน์  (ที่บ้านทำเกษตรค่ะ เก็บไม้ไว้กวนน้ำปุ๋ยหมัก) ส่วนผ้าเรามีอยู่แล้วค่ะ ชอบเย็บขอบกระจุกกระจิกเล่น ๆ นอกนั้นก็เป็นอุปกรณ์ทั่วไป อย่างกระดาษทราย ค้อน ตะปู สีย้อมไม้ ใยโพลีเอสเตอร์ จักรเย็บผ้า ถ้าไม่มีจักรเย็บมือได้ค่ะ การเย็บไม่ซับซ้อน 
          ขั้นตอนแรกเราตัดไม้เป็นท่อน ๆ เตรียมไว้ก่อนค่ะ เราใช้ขนาดยาว 15 นิ้ว จำนวน 12 ท่อน ยาว 10 นิ้ว 4 ท่อน และ 7 นิ้ว อีก 4 ท่อนค่ะ ตั้งใจว่าให้มันออกมาเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ส่วนความหนาตามไม้โครงเดิมเลยค่ะ  แต่ถ้าใครใช้ไม้สนดี ๆ สวย ๆ คงดูดีและแข็งแรงกว่ามากเลยนะคะ 
          พอตัดได้ขนาดที่ต้องการก็ขัดด้วยกระดาษทรายค่ะ  ลองเปรียบกันแล้วออกมาดูดีขึ้นหน่อย
          จากนั้นนำไม้ขนาด 15 นิ้ว ต่อประกอบเป็นเฟรมสี่เหลี่ยมแบบนี้ 2 เฟรมค่ะ
          และต่ออีก 2 เฟรมด้วยไม้ขนาด 15 นิ้ว และไม้ 10 นิ้ว ได้เป็น 4 เฟรม แล้วประกอบเข้าด้วยกันแบบนี้ค่ะ
          ระหว่างที่เราตอกตะปูโป๊ก ๆ แม่เรามาดูด้วยความสงสัยว่าทำอะไร แล้วบอกเราว่า “ทำแบบนี้ไม้แตกหมด” เราถึงมาเห็นว่าไม้แตกจริง ๆ เหตุเพราะเราใช้ตะปูใหญ่เกินไป ไม้โครงพวกนี้ส่วนใหญ่เขาใช้ปีนยิงตะปูดอกเล็ก ๆ กันค่ะ เราก็เพิ่งถึงบางอ้อ ไม่คิดว่าจะบอบบางขนาดนี้ แหะ ๆ  

          แม่เราแนะนำว่าให้ไปหาไม้ไผ่ หรือไปเอาไม้ประดู่เจาะสว่านจะได้แข็งแรง โอ้โห ถ้าแบบนั้นงานใหญ่เลยค่ะ ยากเกินไปสำหรับเราและไม่อยากกวนน้า ๆ หาไม้มาให้  แม่เลยให้ไปคุ้ยหาตะปูดอกที่เล็กที่สุดที่มีในบ้านมาใช้แทน ซึ่งดีกว่ามากจริง ๆ แต่เราตอกแล้วงอตลอด เสียไปเยอะเลยค่ะ 555 แต่สุดท้ายก็พอได้อยู่ค่ะ เราอยากให้ผลงานออกมาดีเลยปิดรอยแตกด้วยขี้เลื่อยที่ขัดไม้ตอนแรกมาผสมกาวลาเท็กซ์ปิดรอยแตกเยิน ๆ เอาไว้ 
          จากนั้นเราหันมาเย็บเปลค่ะ เรียกว่าเปลได้ไหมนะ คล้ายว่าจะเป็นเบาะนุ่ม ๆ ให้น้องแมวนอนเล่น เราเอาผ้ามาตัดขนาดพอ ๆ กับโครงไม้ค่ะ แบ่งเป็นชิ้นยาว ๆ กว้างสักสองนิ้วไว้เป็นเชือกผูกอีก 4 ชิ้นค่ะ 
          กลับด้านผ้า เย็บตามริมผ้า ผืนใหญ่เย็บสามด้านก่อนนะคะจะได้ใส่ใยโพลีเอสเตอร์ได้ง่าย ๆ แล้วค่อยเย็บปิด  ส่วนเชือกผูกพับริมเย็บเป็นยาวๆ ที่บ้านเรียกว่าเย็บไส้ไก่ค่ะ เย็บปิดด้านหนึ่งแล้วใช้ตะเกียบช่วยกลับด้านแบบนี้ค่ะ 
              นำใยโพลีเอสเตอร์มาแผ่ให้แบน ๆ แล้วใส่เข้าในเปล เกลี่ย ๆ ให้เสมอกันแล้วเย็บปิดอีกด้าน และเย็บเชือกผูกทั้งสี่ด้าน
             ยังไม่ทันเสร็จดี ตื่นเต้นจัดเลยผูกเปลกับโครงไปลองเทสกับเจ้านายก่อนเลยค่ะ  ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด นางดม ๆ ๆ ถู ๆ ไถ ๆ สักพัก เราก็ลองอุ้มนอนเปล ปรากฏว่านอนเล่นพักใหญ่เลยค่ะ ทาสเลยเก็บภาพได้หลายชอต แอบปลื้มมมมม
          แต่แล้วเจ้านายก็กลายเป็นเจ้ากรรม ! ด้วยความที่นางหนักถึง 7 กิโลกรัม  นอกจากเปลจะดูเล็กไปถนัดตา โครงยังเริ่มโอนเอนไม่มั่นคง เราเลยเอามาปรับใหม่ ยึดตะปูให้มากกว่าเดิมและใช้ไม้ 7 นิ้วยึดโครงให้แน่นหนาขึ้นหน่อย ทาสียอมไม้ให้ดูดีขึ้น (แต่ก็ยังทาสีไม่เก่งสีไม่เสมอกันเลยอ่า) และเย็บเปลใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ 
          เสร็จแล้วค่าาาาา
          นอกจากด้านแนวนอน เราเอาเปลเดิมมาผูกมุมแนวตั้งอีกด้านหนึ่ง เผื่อพลิกมุมให้เจ้าเหมียวตัวน้อยอีกตัวมานอนเล่นบ้าง
 
          แต่!! คราวนี้เจ้านายออกแนวสะบัดบ๊อบ คงเป็นเพราะเราเห่อเกินสีเพิ่งจะแห้งก็เอามาประเคนนาง กลิ่นสียังคละคลุ้งไม่สบอารมณ์เจ้านาย ไม่ยอมนอนเหมือนครั้งแรกเลยค่ะทีนี้ 555 ทาสเลยขออวดมุมต่าง ๆ ของเปลตัวแรกไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ
          แง๊ พออุ้มนอนก็ถ่ายไม่ทัน เบลอมากค่ะ หวังว่าวันหน้าเจ้านายจะชอบเปลที่ทาสทำให้นะเจ้าคะ (อันนี้สงสัยต้องลุ้นอีกทีค่ะ 555) 
          ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ เป็นทาสแมวเหมือนกันหรือเปล่าเอ่ย มีของอะไรเอาใจเจ้านายบ้างคะ แนะนำเค้าด้วยน้า หรือถ้าใครทำตามแล้วน้องแมวนอนเล่นดี๊ดีมาอวดด้วยนะคะ เราจะดีใจมากเลย

          จบกระทู้คนอวดแมวแล้วค่า ขอบคุณค่า  เมี้ยวววววว >^^<