"นกเทพ" แห่งภูสวนทราย

สวัสดีชาวบุลูแพลเนททุกท่านอีกครั้งครับ วันนี้งัดเอาเรื่องราวที่บันทึกไว้จากความทรงจำเก่าๆในการตามถ่ายภาพนกของตัวเองมาฝากกันอีกสักเรื่อง...วันนี้จะพาไปย้อนอดีตกันถึงจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศลาวโน่น ตามผมไป "เลย" ครับ...

...เมื่อเอ่ยถึง "อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย" เชื่อได้เหลือเกินว่าสำหรับนักดูนกและถ่ายภาพนกทุกท่านที่เคยไปเยือน หรือกำลังมองหาโอกาสในการไปเยือนอุทยานฯแห่งนี้คงตั้งเป้าหมายไว้กับนก 2 ชนิดที่(เคย)หาชมได้ยากติดระดับท็อปเทนของเมืองไทยอย่างนกมุ่นรกคอแดง (Rufous-throated Fulvetta) และนกปากนกแก้วหางสั้น (Short-tailed Parrotbill) เป็นแน่แท้
แต่ในขณะเดียวกันก็เชื่อแน่ว่าเกือบทุกท่านคงตั้งความหวังกับการพบเจอ รวมไปถึงการได้โอกาสบันทึกภาพของนกอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งตามข้อมูลที่ผมมีอยู่ในมือ นกชนิดนี้มีรายงานการพบเจอนับได้ไม่น่าเกินสิบครั้ง โดยข้อมูลการพบทั้งหมดเกิดขึ้นในเขตอุทยานฯแห่งนี้เพียงที่เดียวในประเทศไทย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือยังไม่เคยมีการบันทึกภาพได้อย่างเป็นทางการ นั่นยิ่งทำให้นกชนิดนี้เป็นที่หมายปองของนักถ่ายภาพนกเป็นอย่างยิ่ง
เอ่ยมาถึงบรรทัดนี้ คาดว่าทุกท่านคงเข้าใจถูกนะครับว่าผมกำลังเอ่ยถึงนาม "นกแต้วแล้วใหญ่ท้ายทอยสีฟ้า" (Blue-napped Pitta) นกระดับที่หายากไปจนถึงยากที่สุดชนิดหนึ่งของเมืองไทยนั่นเอง...นกแต้วแล้วชนิดนี้มีรายงานการพบเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อราวต้นเดือนมีนาคมของปี พศ.2552 ที่อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายแห่งนี้หล่ะ และหลังจากนั้นผมก็ได้รับทราบข่าวการพบนกชนิดนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวว่ามีการพบเห็นด้วยตาเปล่าหรือการได้ยินเสียงนกร้องออกมาจากบริเวณใกล้เคียงสถานที่ๆมีการพบในครั้งแรกเท่านั้น ยังไม่เคยมีใครถ่ายภาพมายืนยันได้แบบเป็นทางการ
ผมเองมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายแห่งนี้มาหลายครั้ง ไม่ว่าจะด้วยเป้าหมายกับการพาครอบครัวไปพักผ่อนหรือมีความตั้งใจไปดูและถ่ายภาพนกโดยตรง และทุกครั้งเองผมก็อดตั้งความคาดหวังกับนกชนิดนี้ไว้กับเขาไม่ได้เหมือนกัน (ถึงรู้ว่าโอกาสคงริบหรี่) แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยมีโอกาสแม้แต่จะได้ยินแม้เสียงร้องเพียงสักครั้ง จนบางครั้งยังเคยอดคิดไปเองไม่ได้ว่าข้อมูลทั้งหมดที่เคยมีรายงานการพบมาอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นเรื่องหลอกหลวงทั้งเพ...

จนเมื่อราวปลายเดือนมีนาคม พศ.2559...ข่าวคราวที่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการนกของเมืองไทยข่าวหนึ่งในรอบปีนั้นได้เกิดขึ้น คือรายงานข่าวการบันทึกภาพนกแต้วแล้วใหญ่ท้ายทอยสีฟ้าได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดยนักดูนกชาวต่างชาติท่านหนึ่งได้ถูกเปิดเผยขึ้น
ทันทีที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกไปทั้งโดยการบอกเล่าแบบปากต่อปาก และที่ดูมีอิทธิพลสูงสุดในปัจจุบันนี้คือความรวดเร็วของช่องทางสื่อสารในโซเชียลเน็ทเวิร์คต่างๆ นั่นจึงทำให้ถนนเกือบทุกสายสำหรับนักดูนกและช่างภาพนกมีเป้าหมายหลักมุ่งตรงไปที่ "นาแห้ว" ทันที
ด้วยเหตุที่ว่านกชนิดนี้เป็นนกหายากระดับต้นๆของเมืองไทย ใครๆก็คงอยากมีภาพถ่ายที่บันทึกด้วยมือของตนเองไว้เป็นหลักฐานที่สามารถยืนยันกับเพื่อนฝูงได้ว่า...ครั้งหนึ่ง "ฉันเคยเห็นมาแล้ว"
และด้วยปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ จึงทำให้การเดินทางไปติดตามชมนกชนิดนี้ที่อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายจึงต้องถูกกำหนดกฏเกณฑ์ขึ้นมาควบคุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกันเกี่ยวกับการจัดคิวเข้าชม
ส่วนใครไปแล้วสมหวัง เดินทางไปแล้วกลับบ้านมาด้วยความสุขสมพร้อมภาพถ่ายยืนยันมาแสดงก็ถือว่าโชคดี แต่หลายท่านไปแล้วกลับมาด้วยความผิดหวังด้วยหลากหลายเหตุผลต่างๆกันไป อันนี้ก็คงต้องโทษว่าดวงใครดวงมันละกันนะครับ 555
แต่สำหรับตัวผมเอง ด้วยความที่มีเหตุผลส่วนตัวหลายๆอย่าง จึงทำให้ผมหลีกเลี่ยงการวางแผนไปถ่ายภาพนกชนิดนี้ แม้ว่าใจลึกๆยังมีความต้องการอยากมีภาพถ่ายบันทึกไว้เป็นความทรงจำส่วนตัวกับเค้าบ้างก็ตาม
แต่ยังไงก็ยังอดไม่ได้ที่จะลองสอบถามไปทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการต่อคิวเข้าชมกับเขาบ้าง แต่ข้อมูลที่ได้รับกลับมาคือคิวเต็มแบบต่อเนื่องจนถึงกับวางคิวจองกันยาวแบบข้ามเดือนเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ก็สามารถเข้าใจได้สำหรับนกชนิดที่มีดีกรีความหายากระดับนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่